Bloggang.com : หลังจอ : วันที่สี่แล้วจ้า (ภาคบ่าย) --> ไป Nikko ชมวัดมรดกโลก

วันที่สี่แล้วจ้า (ภาคบ่าย) --> ไป Nikko ชมวัดมรดกโลก

26 Oct 2007 – Nikko ชมวัดมรดกโลก

เวลาอันกระชั้นชิดทำให้เราเที่ยวส่วนที่เป็นอุทยานของ Nikko ได้เพียงน้ำตก Kegon และ Ryuzu เท่านั้น แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเราได้ดื่มด่ำบรรยากาศใบไม้แดง เหลือง เขียวเลยหละ ถึงแม้ฟ้าฝนจะไม่เต็มใจก็ตาม แต่เราก็ไม่หวั่นกัน สู้ๆ ทาเคชิ

"วิวเขียวๆ"

"วิวแดงๆ"

หลังจากลงจากน้ำตกก็มาลุยส่วนของวัด พวกเราไปซื้อตั๋วมาเพิ่มในราคา 1,000 yen เพราะว่า Nikko Day Pass ไม่ได้รวมค่าเข้าในส่วนของวัดและ Shrine หรือศาลเจ้านั่นเอง เท่าที่เราสังเกตที่ญี่ปุ่นจะมี shrine มากกว่าวัดนะ

"ตั๋วจ้าตั๋ว"

โดยตั๋วที่เราสามารถเข้าชมส่วนวัดมรดกโลกได้ก็มี
- Toshogu Shrine
- Rinnogi Temple
- Futarasan Shrine

ตอนนี้เราก็มีตั๋วผ่านเข้าชมวัดในกำมือ แต่อย่าถามเราว่าเราจะไปที่ไหนกันก่อน เพราะเราเดินตามทางไปเรื่อยๆ แล้วก็ไม่มีไกด์ด้วย ที่แรกที่เราเข้าชมน่าจะเป็น Taiyuin Mausoleum นะ (ความจำสั้นจริงๆ ) โดยจากที่อ่านมาสุสานนี้สร้างเพื่อระลึกถึงโชกุนรุ่นที่ 3 อิเอะมิทซุ โทงุกาาวา (Iemitsu Tokugawa)

ตรงทางเข้าเป็น “Nioumon Gate” หรือ The Deva gate เราสองคนก็ขอถ่ายรูปกันหน่อย

"หน้า Nioumon Gate @Taiyuin Mausoleum"

"ถ่ายกันอีกหน้า Nioumon Gate @Taiyuin Mausoleum"

จากนั้นเข้ามาดูใกล้ๆ ก็เห็นมีรูปปั้นท่าทางขึงขังอยู่

"รูปปั้นหน้า Nioumon Gate"

แล้วก็ค่อยๆ เดินเข้าไปชมวิวท่ามกลางสายฝน มีศาลาน้ำ หรือ Omizuya (Water House) ด้วย พวกเราก็ไปวักน้ำล้างมือกันเพื่อความเป็นสิริมงคล

"Omizuya (Water House) จ้า"

แล้วก็เดินไป “Nitenmon Gate” กันต่อ โดยที่ประตูด้านหน้าก็มีรูปปั้นเทพเจ้าสององค์ (Nikokuten and Koumokuten) แต่ถ้าเดินไปประตูด้านหลังก็จะเห็นเทพเจ้าอีกสององค์เช่นกัน (Fujin and Raijin) “Nitenmon Gate” หรืออีกชื่อนึง เค้าก็เรียกกันว่า “Gate of Two Gods” เพราะคำว่า Niten ถ้าแปลความหมายตรงๆ ก็หมายถึงเทพเจ้าสององค์ นั่นเอง

"Nitenmon Gate"

"รูปปั้นหน้า Nitenmon Gate"

เดินไปเรื่อยๆ เราไม่เมื่อย เราไม่เหนื่อย มาถึง “Yashamon Gate” เค้าบอกว่าถ้าสังเกตดีๆ จะมี Shourou (Bell Tower) and Korou (Drum Tower) ตอนเราเดินผ่าน “Yashamon Gate” แต่เราไม่ได้สังเกตหรอก เพราะร่มบังทัศนียภาพทุกอย่างไปหมดเลย ฮือๆ สุดท้ายเราก็มาถึง Highlight หรือ “Yashamon Gate” เป็นประตูที่สวยที่สุดแต่ก็เล็กที่สุดด้วย เริ่มหมดแรงแล้ว หาทางออกกันใหญ่ ออกมาซื้อของฝากกันเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็เดินจ้ำหาวัดต่อไป

“Yashamon Gate”

เหมือนว่าเราจะมาโผล่กันที่ Futarasan Shrine กันอย่างไม่รู้ตัว

“Futarasan Shrine”

“มุมนึงที่ Futarasan Shrine ระหว่างรอหลบฝน”

เหอๆ เราไม่ได้เข้าไปเก็บรายละเอียดข้างในเท่าไร เหมือนเดินผ่านๆ กันมากกว่า เพราะว่าตอนนี้ก็ประมาณบ่ายสองแล้ว พวกเราต้องทำเวลากันอย่างสุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่ขอปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ ขอถ่ายรูปกันคนละใบสองใบสักหน่อย

“ถ่ายท่ามกลางสายฝนที่ Futarasan Shrine”

คราวนี้เรามาต่อกันที่ “Toshogu Shrine” ที่เค้าบอกว่าสถาปัตยกรรมที่สวยมาก สร้างไว้โดยโชกุนของตระกูล Ieyasu Tokugawa จริงๆ เราชอบที่นี่มากๆ คราวที่แล้วมาช่วงเดือนเมษายน เรา มากับ Hato Bus Tour คนยังไม่เยอะเท่าวันนี้เลย

“วิวระหว่างทางไป Toshogu Shrine”

“มองไม่เห็นวิวเลย เห็นแต่ร่ม”

วันนี้ที่ “Toshogu Shrine” ถึงแม้ว่าฝนจะตกหนัก แต่นักท่องเที่ยวทั้งคนญี่ปุ่นและคนต่างชาติเยอะมากๆ มองไปทางไหนก็มีแต่ร่ม เพราะฉะนั้นวิวของ “Toshogu Shrine” จึงมีแต่สายฝนและร่ม

“ต้องถ่ายมุมนี้ถึงไม่เห็นร่ม”

“รูปปั้นโชกุนที่ Toshogu Shrine”

“ลิงสามตัวที่เป็นจุดที่คนถ่ายรูปกันเยอะที่ Toshogu Shrine”

เก็บตก Nikko ของเราวันนี้เลยจบที่ “Toshogu Shrine” ท่ามกลางสายฝน ลมหนาวๆ และลิงสามตัว
.
.
.
.

ป.ล.- อ้อ ขากลับได้ถ่ายรูปสะพานมาด้วย แต่เราจำชื่อไม่ได้แล้ว ใครจำได้ชื่อได้บอกหน่อยนะ