Bloggang.com : หลังจอ : วันที่ 3 ภาคจบ

วันที่ 3 ภาคจบ - Namja Town @ Sunshine City

ก่อนอื่นต้องขอ Merry X’ Mas ทุกๆ คนนะ มีความสุขมากๆ ในวัน X' Mas จ้า

มาต่อวันที่สามของเราดีกว่า เล่ามาเพลินๆ ก็ปาเข้าไปหลายตอนแล้ว

วันที่ 3 (25 Oct 2007) ภาคจบ - Namja Town @ Sunshine City

หลังจากที่แผนของพวกเราผิดไป ก็อย่างที่บอกว่าต้องมา Namja Town @ Sunshine City แถวย่าน Ikebukuro แทน Sunshine City เป็นตึกย่านศูนย์การค้าที่มีเมือง Namja อยู่ เป้าหมายคือสถานี Ikebukuro เพราะฉะนั้นเราต้องไปตั้งหลักกันที่ Ueno เพื่อฝากกระเป๋ากันก่อน จากนั้นก็นั่ง Yamanote Line จาก Ueno ไป Ikebukuro กัน พวกเราต้องฝากกระเป๋ากันอีกแล้ว เพราะแบกไปเที่ยวด้วยไม่ไหวจริงๆ (มาเที่ยวรอบนี้เสียค่าฝากกระเป๋าไปหลายเลย)

ถึง สถานี Ikebukuro ก็แวะร้าน Sanrio กันก่อนเลย เพราะมันน่ารักและน่าดึงดูด เหอๆ

"มุมน่ารักๆ ในร้าน Sanrio shop"

"อีกมุมในบรรยากาศวัน Halloween"

เดินๆ shopๆ สมควรแก่เวลาก็รีบบึ่งไป Namja Town ก่อน เพราะว่าเริ่มดึกแล้วหละ เดินไปตามถนนที่ยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คน พวกเรามองหาตึก Sunshine City กัน จากนั้นก็เดินตามป้าย เข้าไปในตัวตึกก็รีบๆ หาทางกันใหญ่ ดูๆ ไปท่าทางจะถึง Namja Town เพราะว่าเราเห็นนาฬิการูปแมวที่เป็น mascot ของ Namja Town เรียงรายตามทางเดิม

"นาฬิกาก่อนถึง Namja"

เดินมาเรื่อยๆ ในที่สุดก็เจอทางเข้า Namja แล้ว เย้ๆๆ มีพนักงานหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ที่ counter ด้านหน้า

"ทางเข้า Namja Town จ้า"

"ตั๋วเข้า Namja"

หลังจากมาถึงหน้า Namja Town ก็รีบๆ ซื้อตั๋วกัน เป็นแค่ตั๋วเข้าไปเฉยๆ ส่วนอาหารการกินต้องซื้อต่างหาก เข้าไปแต่ข้างในก็เจอร้าน Souvenir shop กันก่อน เลยแวะเข้าไป เจอตุ๊กตาแมว Mascot ของ Namja town ขายด้วย ไม่กล้าซื้อกันหรอก เพราะราคาแพง แหะๆ

"หน้าตาตุ๊กตาแมวของ Namja"

หลังจากผ่าน Souvenir shop เราก็มองหาร้านต่างๆ ใน Namja Town จะแบ่งเป็นเมืองๆ หรือ zone ตามอาหารต่าง ที่เด่นๆ ก็มี เมืองเกี๊ยวซ่า เมืองขนมเค๊ก เมืองไอสกรีม เมืองแกงกะหรี่ พวกเราตัดสินใจไปเมืองเกี๊ยวซ่ากันก่อน

"ทางเข้าเมืองเกี๊ยวซ่า"

สาเหตุที่เข้าเมืองเกี๊ยวซ่ากันก่อน เพราะว่าพวกเราหิวกัน ก็เลยอยากไปหาของคาวกันก่อน เข้าไปแล้วมึนนิดหน่อย เพราะร้านเยอะมากๆ มีเกี๊ยวซ่าหลากหลายแบบมาก ไม่รู้จะเลือกแบบไหน เลยตัดสินใจเลือกร้านที่สาวหมวยหน้าตายิ้มแย้มคนนี้ขายกัน

"สาวหมวยที่เมืองเกี๊ยวซ่า"

เกี๊ยวซ่าที่พวกเราสั่งกันเป็นแบบเซี่ยวหลงเป่า อธิบายยังไงดีน้อ อืมมม…..เอาเป็นว่าเป็นเกี๊ยวซ่าแบบที่มีน้ำอยู่ข้างใน กัดไปจะมีน้ำออกมาล่ะกัน รสชาติก็โอเคแต่ยังไม่ประทับใจพวกเราซักเท่าไร เดินไปอีกหน่อยมีเกี๊ยวซ่าแบบพิซซ่าญี่ปุ่นด้วย ดูจากป้ายหน้าตาน่าทาน น่าเสียดายจริงๆ พวกเราไม่กล้ากินต่อ เพราะกลัวไม่มีท้องไปกินขนมมเค้ก

"เกี๊ยวซ่าแบบพิซซ่าญี่ปุ่น"

หลังจากนั้นพวกเราก็ไปเมืองขนมเค้กกันต่อ

"ทางเข้าเมืองขนมเค้ก"

มีร้านขายขนมเยอะมากๆ เลือกกันไม่ถูกเลยว่าจะทานร้านไหน ขอเดินๆ ถ่ายรูปกันก่อน เพราะว่ามันหน้าตาน่าทานไปหมดเลยหละ

"เค้กๆๆ น่ากินทั้งนั้นเลย"

เลือกร้านได้เหมาะๆ ก็สั่งเค้กมากันสองชิ้น หม่ำๆ กัน มีแถมลองแถมกิน pudding อีกหนึ่งถ้วยด้วย มาที่นี่เราพยายามลองหา pudding หลายๆ ร้านกิน เพราะว่าเราชอบทาน pudding มาก ที่เมืองไทยหายากมากๆ

"ตู้ไอสกรีมเป็นแถว"

อิ่มท้องจากเค้กก็ไปเมืองไอสกรีมต่อ ก็ตื่นตาตื่นใจเหมือนเคย

"ถ่ายกันแถวๆ เมืองไอสกรีม"

มีร้านไอสกรีมเยอะแยะเลยหละ มีตู้ไอสกรีมที่มีไอสกรีมรสชาติแปลกๆ เยอะมากเลย ไม่ว่าจะเป็นรสเนื้อ รสแกงกระหรี่ รสงู อีกหลายชนิด แต่ละอย่างไม่กล้ากินกันเลย เหอๆ

"ไอสกรีมรสแกงกะหรี่"

"ไอสกรีมรสงู"

"ไอสกรีมรสบะหมี่"

มาเดิน Namja town เนี่ยก็เหมือนเป็นตัวช่วยของพวกเราได้เลยหลังจากผิดหวังจากการอดไป Odaiba ถ้ามีโอกาสเราคงได้ไป Odaiba หละน้า

"ขอถ่ายรูปกันก่อนกลับ"

"ผลัดกันถ่าย"

เดินพอสมควร พวกเราก็ต้องขอจรลีจากเมือง Namja Town กัน เพราะต้องรีบกลับที่พักกัน พรุ่งนี้ก็ต้องรีบตื่นกันแต่เช้าอีก เพราะต้องไป Nikko กัน กะว่าจะไปดูดอกไม้แดงกันหน่อย

กลับมาถึงที่พักของเรา ที่เดิมก็คือ New Izu Hotel นั่นเอง วันนี้ได้นอนห้องแบบญี่ปุ่น ห้องก็ไม่ใหญ่ไม่เล็ก หน้าตาน่ารักดี สงสัยคงจะนอนสบาย

"ห้องน้อยกลอยใจ"

และแล้วก็ได้เวลาเปิดเบ็นโตะที่ซื้อมาจาก Hakone เหอๆ กะจะกินบนรถไฟ ผลสุดท้ายก็มาจบที่โรงแรม หน้าตาเป็นไง น่าทานไหม แต่พวกเราทานไม่ไหวแล้วหละ ขอนอนก่อนดีกว่า คร่อกๆ