Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
Penang # Day 3

21 / 11 / 2005

วันนี้เหมือนโดนปล่อยเกาะ (จริงๆ ก็อยู่ที่เกาะอยู่แล้วนี่นา) วันนี้วันจันทร์ สมาชิกแก็งค์ 3 ช่าไปทำงานหมด ยกเว้นเรา เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเที่ยวปีนังเองคนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว (อยากให้เค้ามาเกี่ยว ใจจะขาด) ในใจก็คิดว่าจะไหวไหม เพราะกลัวไปสื่อสารกับเค้าไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เอาไงเอากัน ลุยๆ หน่อยเรา กางแผนที่ตั้งแต่เมื่อคืน วางแผนว่าจะไป Kok Lok Si Temple กับ Penang Hill ขอ 2 ที่ก่อน แต่ใจจริงอยากจะไปซัก 3-4 ที่นะ

ออกจากที่พักประมาณ 9.30 พร้อมกับเป้ใบใหญ่ๆ 1 ใบที่เต็มไปด้วยแผนที่ กล้อง หนังสืออ่านเล่น หมวก เช้านี้พี่เค้าปล่อยเราที่ B&J Complex แถวๆ Relau ส่วนที่พักเราก็อยู่แถว Relau เช่นกัน เป็นโซนที่ใกล้กับสนามบินปีนัง พี่บอกว่าให้เราหาอะไรทานแถวนี้ก่อน มองไปมองมาไม่ค่อยมีทำเลดีๆ มีแต่คนจีน กลัวไปจ้อแล้วไม่รู้เรื่อง ก็เลยอดทนไม่ทาน กะไปหาดาบหน้าแถวๆ Komtar จากนั้นเราก็มองหารถเมล์ที่ป้ายหน้ารถเขียนว่า Komtar ไม่นานนักรถสาย 29 ก็มาเทียบท่าอ่ะ สาเหตุที่เราจะไปที่ Komtar ก็เพราะที่นั่นเป็นตึกสูงๆ ทรงกลมๆ โดดเด่นและเป็นจุดต่อรถที่ใหญ่ที่สุดในปีนัง ใครอยากไปไหน อับดุลบอกได้ เอ้ย ไปที่ Komtar ได้ จะเจอรถเมล์ทุกสาย เข้าเมือง ออกเมือง มีหลายประเภททั้งรถแอร์ หรือไม่แอร์ รถเมล์ที่นี่ไม่ค่อยใหม่เท่าไร รถปอ. แถวกทม. ของเราที่สีส้มๆ ยังดูดีกว่าเยอะนะ



หลังจากขึ้นรถเมล์แล้ว ก็กางแผนที่หา Komtar เลยว่าอยู่แถวไหน มองไปอยู่แถว Magazine Jalan หรือ ถนนนิตยสาร อยู่คนละส่วนกับ Relau เลย โชคดีมีที่นั่งบนรถ ขับไปขับมาผู้โดยสารเต็มรถเลย กะว่าคนลงเยอะๆ เมื่อไรก็ Komtar เมื่อนั้น และสมมติฐานของเราก็เป็นจริง เมื่อคนบนรถแห่กันลง เราก็รู้เลยว่าใช่ Komtar แล้วก็กุลีกุจอลงจากรถ ทำเป็นเหมือนว่าฉันคนลงถูกที่นะ (เอ....เราก็ลงถูกที่นี่หว่า) จากนั้นก็เดินไปทั่วๆ มองหาจุดขึ้นรถ แต่เห็น 7-11 ก่อน ท้องเริ่มร้องจ๊อกๆ ก็เลยไปหาของทานก่อน ก็เลยเข้าไปซื้อน้ำ + นมถั่วเหลืองกล่องทาน ส่วนขนมแลดูไม่น่าทาน ก็เลยเดินออกมาแวะร้าน Bread ข้างๆ ทานแทน จำชื่อร้านไม่ค่อยได้นะ แต่ก็เห็นเปิดตามห้างหลายที่เหมือนกัน ได้ขนมปังไส้กรอกราดซอสมา 1 อัน พอประทังยามเช้าไปได้

เมื่อท้องอิ่มก็เริ่มเดินทางกันต่อ เราก็เล็งๆ สาย 101 เพราะผ่านวัด Kok Lok Si แต่ทำไปทำมา นั่งสาย 21 ซึ่งก็ผ่านวัดเหมือนกันแทน หลังจากจ่ายค่ารถไป 0.8 cent ก็เริ่มมองเส้นทางต่อ เล็งๆ อีกว่าถ้าคนลงเยอะก็วัด Kok Lok Si หละ แล้วมองจากแผนที่ก็มีวงเวียนก่อนถึงวัดนะ ไม่กล้าหลับเท่าไร มองวิวข้างทางไปเรื่อยๆ เหมือนเริ่มออกจากตัวเมือง แป๊บๆ ก็ถึงแถววัดแล้ว มองจากป้ายแล้วก็รีบลงจากรถ อากาศร้อนมากๆ เพราะเกือบจะเที่ยงแล้วหละ รีบหยิบหมวกออกมา หลังจากนั้นก็เดินๆ ไปตามทาง ต้องเข้าถนนเส้นเล็กๆ ก่อน แล้วก็เดินเลาะไปตามทาง ทางขึ้นไปวัดมีคนขายของเยอะมาก ดูแล้วไม่ค่อยน่าศรัทธาเท่าไร เหมือนคนขายของตามงานวัดแถวบ้านเรา แต่ที่นี่เค้าขายตามทางขึ้นบันได เดินไปพอเหนื่อยนิดหน่อย ก็เจอบ่อเต่าที่มีเต่าน่าจะมากกว่า 100 ตัวแออัดอยู่ในบ่อเล็กๆ มีคนขายผักบุ้งอีกเพื่อให้เราซื้อผักให้เต่ากิน ดูแล้วน่าสงสารเต่าเพราะมันแออัดมากจริงๆ หลังจากนั้นก็เริ่มมองเห็นตัววัดแล้วหละ คราวนี้เจอขอทานเต็มทางขึ้นเลย ดูเหมือนวัดจะไม่มีระบบจัดการที่ดีซักเท่าไร ดูแล้วไม่ค่อยน่าเจริญหูเจริญตานะ เพราะขอทานทุกคนไม่ได้พิการ แถมนั่งมองแบบว่าเราเป็นคนแปลกหน้า (หรือเราคิดมากไปนะ)

ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงตัววัด บรรยากาศเหมือนเราไปไหว้ศาลเจ้าจีนแถวๆ บ้านเรา เวลาเราไปกับแม่นะ มีองค์เจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์จีน พื้นที่ของวัดใหญ่พอสมควร เดินไปทำให้เราเหนื่อยได้ ด้านซ้านเป็นพระเจดีย์ทรงสูงหรือ Pagoda ด้านขวาเป็นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ เราตัดสินใจเดินไปด้านพระเจดีย์ก่อน เสียค่าเข้าด้วยหละ คนละ 2 RM ก็ต้องจ่ายหละนะ เพราะเราอยากดู เข้าไปเจออาคาร 1 อาคารที่มีรูปองค์พระโพธิสัตว์อวตารปางต่างๆ แล้วก็องค์พระอรหันต์ แล้วก็มีเจดีย์ทรงสูงที่เป็นสัญลักษณ์ของ Kok Lok Si จากนั้นเราไปทางด้านองค์เจ้าแม่กวนอิมต่อ เสียค่าขึ้นรถรางอีก 2RM หรือ 4RM นะ จำไม่ค่อยได้แล้วหละ ขึ้นไปด้านบน เค้ากำลังปรับปรุงรอบๆ องค์เจ้าแม่กวนอิม ก็เลยดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร เรากะว่าอีกประมาณ 1-2 ปี ที่นี่คงก่อสร้างเสร็จและสวยกว่านี้มากๆ อากาศด้านบนแดดร้อนมากๆ เช่นกัน ไม่ไหวๆ กินน้ำไปหลายอึกเลยทีเดียว จากนั้นเราก็เตรียมลงจากวัด หาอะไรทานเป็นมื้อกลางวันต่อ เนื่องจากกลัวเป็นลมไปแล้วไม่มีใครช่วย ว่าแล้วก็เดินๆ หาของทาน เจอร้านข้างทาง คนทานเยอะมาก เล็งๆ มาตั้งแต่ตอนขาลงจากรถแล้วหละ ว่าจะมาที่ร้านนี้ เข้าไปเราก็เดินดุ่ยๆ ไปหาโต๊ะที่กำลังว่างพอดี จากนั้นก็ภาษามือ 1 ชาม ส่วนน้ำก็สั่งเห็นมีน้ำอ้อยก็ sugarcane 1 ทำไปทำมาได้น้ำเต้าหู้เย็นมา 1 แก้วแทน สงสัยเจ๊ฟังผิด แปบๆ ก็ได้ก๋วยเตี๋ยวมา 1 ชาม หน้าตาแปลกๆ เราไม่รู้หรอกว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวอะไร แต่เส้นมันหยุ่นๆ เหมือนเส้นขนมปลากริมไข่เต่า ราดน้ำเหมือนน้ำยาขนมจีน มีซอสดำๆหวานๆ ราด โดยด้วยผัก จะกินไหมเรา พอตักเข้าปากคำแรก โอเค อร่อยๆ จากนั้นก็จ้วงๆ จนหมด เป็นมื้อแรกของเราตั้งแต่มามาเลเซีย ที่อาหารไม่เลี่ยน จะดีกว่านี้ถ้าได้น้ำอ้อยมานะ (หลังจากกลับถึงห้อง ถามพี่เค้า พี่บอกว่าก๋วยเตี๋ยวที่เรากิน เค้าเรียกว่า หลักซา)

บ่ายกว่าๆ แล้วหละ เราต้องไปปีนังฮิลล์ต่อ กางแผนที่แล้วอยู่ไม่ไกลจากวัด แต่มีรถสาย 8 ผ่านนี่นา อากาศร้อนๆ ไม่อยากเดินเลย รอรถดีกว่า แต่ทำไปทำไม เหมือนเราจะหลง ก็เลยถามทางอาซิ้มคนนึง ลุ้นๆ ว่าแกจะช่วยเราได้ไหม โอโห ประทับใจมาก อาซิ้มสามารถพูดภาษาอังกฤษกะเราได้ เย้ๆๆๆ เค้าบอกว่า It’s not too far. Go straight and turn left เราก็ถามต่อว่าเรารอรถสาย 8 ได้ไหม เค้าบอกว่า It’s very few. Please walk. เราก็เชื่อ walk ไปนึกถึงหน้าซิ้มไป เพราะร้อนมากๆ จริงก็ไม่ไกลหรอก แต่เราประมาณว่าน่าจะ 3 กม. ได้ ถึงปีนังฮิลล์หน้าขาวไปเลย



รีบไปซื้อตั๋วได้รอบ 15.00 ตั๋วขึ้น-ลงราคา 4RM ขนาดวันจันทร์คนก็ยังเยอะเหมือนกันนะเนี่ย เราได้ขึ้นจริงๆ ก็ประมาณ 15.15 รถแน่นมากๆ มีการเปลี่ยนรถรางด้วยที่จุดชมวิว จากนั้นก็ขึ้นรถรางอีกคันไปจุดสูงสุด รถรางค่อยๆ แล่น ช้ามากเหมือนกัน มองๆ ไปไม่คิดว่ามันจะสูงขนาดเนี่ย ขึ้นไปสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 700 เมตร พอๆ กับที่ลังกาวีเลย ทั้งๆที่มันไม่น่าจะสูงขนาดนี้นะ วิวข้างๆ ทางระหว่างขึ้นปีนังฮิลล์คนละสไตล์กับนั่ง cable car ที่ลังกาวีนะ เพราะที่ลังกาวีสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติได้มากกว่า

พอขึ้นถึงยอดเราก็รีบๆ เดิน เราเดินไม่ค่อยทั่ว เราก็รีบลงแล้วหละ เพราะกว่าจะลงก็อีกประมาณครึ่งชั่วโมง แถมต้องเดินไปขึ้นรถเมล์อีก กะว่าลงมาด้านล่างน่าจะประมาณ 17.00 กลัวมืดแล้วไปที่จุดนัดพบที่ B&J Complex แล้วมืด แปบๆ เราก็นั่งรถเมล์สายเดิม 21 มาที่ Komtar โชคดีมากๆ ที่เรามา Komtar ได้เร็วเพราะฝนตกหนักมากๆ หลังจากเรามาถึงแปบนึง จากนั้นก็หารถกลับไปที่ B&J Complex ขากลับรถเมล์ขับคนละทางกับขามา โอโห หลงแปบนึง น่ากลัวมากๆ เลย แต่ในที่สุดเราก็เจอพี่เค้าประมาณเกือบ 2 ทุ่มแนะ หิวมากๆ แล้วก็เหนื่อยมากๆ ด้วย พี่พามาทานอาหารเย็นที่ Tanger tent เป็นเต็นท์ที่มีของขายเยอะมากๆ พี่เค้าเลี้ยงอาหารไทย เป็นมื้อนึงที่อาหารถูกปาก อืมมมมม หรือว่าเราหิวมากเนี่ย เค้าบอกกันว่าความหิวสามารถทำให้อาหารอร่อยได้ จริงไหมเนี่ย หม่ำๆๆๆ ดีกว่า

คำศัพท์ประจำวันนี้
ก็ยังคงเป็น Tandas = ห้องน้ำ เพราะจำได้คำเดียวววววววว



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2548 0:02:01 น. 3 comments
Counter : 596 Pageviews.

 


โดย: 28 พฤศจิกายน 2548 IP: วันที่: 0:41:02 เวลา:202.5.82.172 น.  

 
อยากไปเที่ยวบ้างจังคับ

ปล. นอนหลับฝันดีนะคับ


โดย: ตี๋น้อยคับ วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:0:44:12 น.  

 
7 eleven ที่โน้นชวนให้ซื้อขนมจีบซาลาเปาป่ะ?
อยากดูรูปเยอะๆอ่ะ .... ลงอีกดิ แบบว่าไม่เคยไปอ่ะ
รูปหนุ่มๆไม่มีบ้างรึไงน๊า?? ของกินก้อยังดี ...

โชคดีนะเนี้ยที่เจออาซิ้มอินเตอร์ ถ้าเจออาซิ้มเมืองไทย
อาจจะหลงไปชายแดนเลยก้อได้ ฮาๆ

ป.ล. บ้านเราก้อเลี้ยงเต่านะ แวะมาให้อาหารมันบ้างดิ อิอิ


โดย: เหมือนจะไม่คิดถึง IP: 202.5.82.172 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:0:51:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หลังจอ
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผ่านมาเพื่อผ่านไป โลกยังกว้างทางยังไกล ครั้งหนึ่งใช่ไหมที่เรารู้จักกัน
Friends' blogs
[Add หลังจอ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.