นักฝันผู้ชอบเขียนเล่าเรื่อง
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
2 มิถุนายน 2557
 
All Blogs
 
สิ่งที่พบเจอบนถนนผู้เล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือ : เริ่มอยากเล่าออกมาเป็นตัวหนังสือ

เมื่อเริ่มต้นอยากเล่า

ยุคสมัยที่ก้าวไกลแบบนี้ การถ่ายทอดผลงานให้ออกสู่สายตาคนอื่นหมู่มากคงไม่พ้นการถ่ายทอดผ่านอินเตอร์เนต จากที่เคยอ่านบทความของนักเขียนเก่งๆหลายคนเอ่ยถึงความแตกต่างของการนำเสนอผลงานในสมัยก่อนกับสมัยนี้แตกต่างกันสมัยนี้มันค่อนข้างง่าย และรวดเร็วกว่าสมัยก่อนเยอะมาก

(ไม่ขอพูดถึงการเปรียบเทียบแบบไหนดีแบบไหนไม่ดีนะคะ)

เอาล่ะ เข้าเรื่องต่อ เมื่อเราอยากเล่าเรื่องอะไรสักอย่าง เราก็ต้องหาผู้ฟัง(ผู้อ่านสินะ)

ดิฉันได้รู้จักเวบนิยายออนไลน์หนึ่งจากปกของหนังสือนิยายที่ชื่นชอบ จึงได้ลองเข้าไปดู และพบว่าที่แห่งนี้เป็นที่ที่นักเขียนสามารถลงผลงานของตัวเองโดยแบ่งเป็นหมวดๆของชนิดของผลงงานนั้นๆ

ตัดสินขอลงหลักปักฐานที่เวบนี้ล่ะ จึงกรอกใบสมัครผ่านเวบเพจ กรอกไปเรื่อยๆจนถึง 'นามปากกา'

เอาล่ะสิ นามปากกา จะใช้ชื่ออะไรดี แค่คิดว่าอยากเขียน แต่ไม่เคยคิดถึงนามปากกาเลย คิดไปคิดมา คิดหลายตลบ ไม่รู้คิดยังไงด้วย จึงได้นามปากกาเป็น

'Red Apple'

พอได้นามปากกาแบบไม่ค่อยมีที่มา ก็กรอกใบสมัครจนเสร็จและกดสมัคร ในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา มีการแจ้งกลับจากทางเวบว่า สามารถลงผลงานได้

ความรู้สึกดีก็เกิดขึ้น "นี่เรากำลังจะได้เขียน (เล่า)เรื่องความรักแล้วนะ"

ดิฉันบอกกับตัวเองแบบนั้น

เอาล่ะ เปิดโน๊ตบุค ดับเบิลคลิกไมโครซอฟท์เวิร์ด แล้วเริ่มต้นพิมพ์ตัวอักษรตัวแรก

ทีนี้ เริ่มยังไง พูดกันตามตรง เรื่องที่จะเล่ามันอยู่ในหัวมานาน และนานหลายปี

พล็อตเรื่องมันเกิดในหัวมาแล้ว ว่า ตัวเอกเป็นคนแบนี้ มีความสัมพันธ์กันแบบนี้ ตัวละครอื่นมีใครบ้าง มันจึงพิมพ์ได้ค่อนข้างไหลลื่น

แต่แน่นอนค่ะพล็อตเรื่องสำคัญมากเวลาที่จะแต่งนิยาย หรือไม่ว่าจะเขียนอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเรามี เป้าหมาย มีคอนเซปต์ ก็จะกำหนดรูปแบบงานเขียนได้

(แต่ในกรณของนิยายเรื่องแรกของดิฉันมันอยู่นหัวมานานแล้ว แต่เพิ่งได้ถูกเอาออกจากหัว)

เริ่มต้นพิมพ์ปฐมบท (ฮิตตามคนอื่นเขา) เป็นการเกริ่นเรื่อง เปิดฉาก เปิดม่าน หรืออะไรที่เราต้องการเล่าถึงที่มาของเรื่องราวค่ะ

ดิฉันเล่าที่มาของตัวเอกที่เป็นผู้หญิง (นิยายเรื่องแรกค่อนข้างเน้นความเป็นผู้หญิง) บอกให้คนอ่านรู้ว่าตัวเอกมีพื้นเพมาอย่างไร ครอบครัว นิสัย หน้าตาเป็นอย่างไร

การบรรยายตัวละครก็ใช้คำพูดง่ายๆค่ะ ตาโต ตากลม ตาดำ ตาสีนิล ผมยาว ผมดำ ใบหน้าเรียว หาคำที่ตัวเองพอจะหามาบรรยายให้เห็นภาพได้

(ขอออกตัวก่อนว่า หัดเขียนจริงๆ การสรรหาคำ การใช้คำไม่เก่งเลย

แต่ก็พยายามอ่านไปอ่านมา สมมุติว่าตัวเองเป็นคนอ่านแล้วเขาจะนึกภาพตัวละครออกไหม

แล้วจากนั้นเมื่อรู้จักตัวละครเอกของเราแล้ว ก็ทำให้มันเกิดปม (ใช้คำของนิยาย) ปมของดิฉันคือ จะทำอย่างไรให้ตัวละครหญิง และตัวละครชายมาเจอกันได้ ทีนี้ต้องหาสถานการณ์

(อีกครั้ง เรื่องรักของทั้งสองคนนี้อยู่ในหัวมานาน)

จึงผูกปม ให้พวกเขาต้องมาหมั้นกัน (รูปแบบพล๊อตนิยายหลายเรื่องที่มักใช้กันใช่ไหมคะ แต่เราต้องหาเหตุผลว่า เอ๋ ทั้งคู่ไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วมาหมั้นกันได้อย่างไร)

ปมต่อมา ก็คนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไหมจะทำยังให้เขามีความผูกพันกัน

ดิฉันวางไว้ให้พวกเขา "รู้สึกผูกพันกันตั้งแต่แรกสบตา"  จึงต้องทำเหตุการณ์ให้ดวงตาเขาทั้งสองมาสบกันให้ได้

แต่ความรักก็ต้องมีอุปสรรค อุปสรรคที่ว่าก็มีทั้งจากภายนอกและจากภายใน อุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับตัวทั้งสองโดยตรงกับโดยอ้อม มีตัวช่วย ตัวเดินเรื่องต่างๆเข้ามาหาทั้งคู่

ทีนี้เราก็ได้เรื่องราวบางส่วน (บางส่วนจริงๆ) เพราะในระหว่างที่ลงตอนแรกๆ พูดตามตรง ไม่เคยคิดถึงตอนต่อไป หรือตอนจบเลย มันคล้ายกับตัวเองเขียนบทละครซิทคอมที่เป็นตอนๆเท่านั้น

แต่ดิฉันยังไม่ได้เอามาเป็นประเด็นเท่าไหร่ เพราะยังดีใจอยู่กับการที่จะได้เล่าเรื่องราวความรักที่ดิฉันชอบ (ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ อาจตำหนิได้ค่ะ)

คำถามเมื่อเริ่มเขียน(เล่า)

การบรรยาย บรรยายอย่างไรให้ห็นภาพเพื่อผู้อ่านรู้สึกคล้อยตามเหมือนเข้าไปอยู่ในเรื่องราว สำหรับคนที่เพิ่งหัดเขียน เป็นเรื่องโลกแตกมากค่ะ รูปร่างหน้าตาของตัวละคร จะใช้คำไหนบ้าง สถานที่จะใช้คำไหนบ้าง แม้แต่คำที่อธิบายสี ก็เป็นคำถามได้สำหรับคนหัดเขียน

ทำไมถึงเป็นประเด็นนัก การเขียนสำหรับให้คนอ่านก็อยากได้ภาษาที่อ่านแล้วลื่น สละสลวย ไพเราะ และต้องเห็นภาพ กว่าจะออกมากเป็นประโยคได้ ไม่ใช่แค่ ประธาน กิริยา กรรม เพราะมันต้องมีคำคุณศัพท์ และคำวิเศษณ์ขยาย

ตรงคำคุณศัพท์ และคำวิเศษณ์นี่แหละ กว่าจะหามาได้แต่ละคำ ถ้าคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือมาอย่างโชกโชน และไม่รู้จักสังเกตการใช้คำ ก็ต้องไปหาหนังสือมาเปิด

(การอ่านคือฐานความรู้ในการเขียน)

นอกจากนี้ยังมี คำเชื่อม ที่ ซึ่ง อัน อีก บางครั้งพิมพ์ไป มาอ่านทวน เจอว่าตัวเองใช้คำเชื่อมซ้ำซ้อน เกินความจำเป็น ก็ต้องตัดออก แต่บางคนอาจเสียดายจำนวนคำ

(เหตุผลส่วนตัว เพราะกลัวว่าจำนวนคำจะไม่ถึงตามที่สำนักพิมพ์บางแห่งกำหนด ซึ่งเป็นเหตุผลที่บีบรัดสำหรับนักอยากเขียนที่ยังไม่ชำนาญเรื่องการใช้คำ)

บทสนทนา

นิยายไม่ได้เป็นการบรรยายอย่างเดียว แต่ต้องมีการสนทนาของตัวละครด้วย

การสนทนาเป็นสิ่งสำคัญที่จะอธิบายถึงสิ่งต่าง ๆ ความรู้สึกนึกคิด นิสัย การนำไปสู่เรื่องต่อจากนี้

ทีนี้เวลาที่เราพิมพ์บทสนทนา เราจะพิมพ์ในเครื่องหมายอัญประกาศใช่ไหมคะ แล้วสิ่งที่ตามมาสำหรับการอธิบายบทสนทนาล่ะ

"คุณคะ คุณทำกระเป๋าตก" เธอพูดตะโกน

"ขอบคุณครับ" เขาหันมาตอบ

"ไม่เป็นไรค่ะ" เธอพูด

"คุณใจดีจัง" เขาเอ่ย

ในตอนแรก ดิฉันก็เขียนคำอธิบายต่อท้ายว่า เธอพูด เขาเอ่ย เธอตอบ ทุกครั้ง แต่พอมาอ่านหลังพิมพ์ รู้สึกว่ามันขัด "ขัดอารมณ์ไม่ให้บทสนทนาของทั้งคู่ลื่นไหล

จึงลองค้นหาการต่อท้ายบทสนทนาในอินเทอเนต โชคดีที่ผู้มีความรู้ด้านงานเขียนหลายท่านได้เขียนบทความนี้ไว้ด้วย จึงทำให้รู้ว่า เราไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายต่อท้ายทุกครั้ง และไม่จำเป็นต้องใช้คำว่า เขาพูด เธอพูด เธอเอ่ย

แต่เราอาจใช้การอธิบายกิริยาให้บอกถึงอารมณ์ของผู้พูดได้

"คุณคะ คุณทำกระเป๋าตก" เธอตะโกนบอกเขาสุดเสียง

"ขอบคุณครับ" เขาหันมาทางเสียงเรียก

"ไม่เป็นไรค่ะ"

"คุณใจดีจัง" เขาเอ่ยชมความมีน้ำใจของเธอ

ถ้าลองเปรียบเทียบบทสนทนาที่แต่งขึ้นมาใหม่กับบทสนทนาบทบน ลองอ่านดูวนไปวนมา ก็เลือกเอาแบบที่เป็นธรรมชาติกว่า ซึ่งดิฉันเลือกบทหลัง(ความเห็นแตกต่างได้ค่ะ)

ตรง"ไม่เป็นไรค่ะ" ของเดิมดิฉันจะมีต่อท้าย แต่ของใหม่ไม่มี สมมุติว่าเราอยากเล่นกับอารมณ์ของคำพูด เกิดอยากให้ผู้หญิงคนนี้ปิ๊งปั๊งผู้ชาย

"ไม่เป็นไรค่ะ" เธอพูดเหมือนละเมอ สายตาเธอประสานกับสายตาเขา

ดิฉันลองเพิ่ม ว่า เธอพูดเหมือนละเมอ ก็จะเห็นว่าได้อารมณ์ขึ้นมาทันที

สุดท้ายนี้ อย่างที่บอกค่ะ นักเขียนหัดใหม่ ก็งงได้เหมือนกันกับคำต่อท้ายบทสนทนา ตอนนี้ดิฉันก็ยังมีปัญหากับคำต่อท้ายอยู่เลยนะคะ บางทีต่อไปก็เฟื่อยเกิน ถ้าไม่ต่อเลยก็อาจจะงง ว่าคำพูดนี้เป็นของใคร ถ้ามีคะ ครับ คุยกันแค่สองคนก็คงเดาไม่ยาก แต่ถ้าเพศเดียวกันคุยด้วยกัน หรือคุยกันมากกว่าสองคนล่ะก็เอาล่ะสิ จะมามีแค่ เขาพูด เธอเอ่ย คงได้งงกันล่ะ (ขำๆนะคะ แต่มันเป็นปัญหาในการเขียนจริงๆ)

บล็อกนี้ขอเล่าให้ฟังแค่นี้ก่อนค่ะ

ขอบคุณที่อ่านจนถึงตัวอักษรสุดท้าย

Red Apple




Create Date : 02 มิถุนายน 2557
Last Update : 25 มิถุนายน 2557 20:56:49 น. 1 comments
Counter : 361 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ ได้อะไรดีๆเยอะเลย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ถ้าสำหรัญมี๊เก๋ ^^ ติดตามๆ ค่ะ


โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:11:57:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชลบุรีมามี่คลับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




เป็นนัก(หัด)เขียนนิยายพาร์ทไทม์ เป็นคุณแม่ทำงานที่ชอบฝันกลางวันแบบฟูลไทม์ด้วย

บล็อกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เข้ามาค้นหาสิ่งที่อยากรู้ได้ตามสบาย


ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ
สำหรับนักอ่านที่ติดตามนิยายของ จขบ
สามารถอานได้ทั้งทางเวบ

Hongsamut : https://hongsamut.com/writerdetail.php?writerid=3992

และทางเว็บ Dek D ค่ะ
https://my.dek-d.com/redapplels/


เนื้อหา ภาพถ่าย ในบล็อกนี้
ได้รับความคุ้มครอง
ตามกฏหมายพ.ร.บ.
สิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้าม
นำไปใช้ คัดลอก ดัดแปลง
แก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใดโดย
เด็ดขาดนะจ๊ะ

คนดี...


New Comments
Friends' blogs
[Add ชลบุรีมามี่คลับ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.