การเรียนรู้การทำอีบุ๊คควบคู่ไปกับการสร้างเวทีให้เป็นที่รู้จักด้วยการโฆษณาเพจของ Facebook
การเรียนรู้การทำอีบุ๊คควบคู่ไปกับการสร้างเวทีให้เป็นที่รู้จักด้วยการโฆษณาเพจของFacebook
ดิฉันเปิดแฟนเพจนิยายไว้นานมาก เอาไว้เฉพาะอัพเดทนิยายตอนใหม่ ณขณะที่เขียนนิยายออนไลน์ลงในเวบมีชื่อแห่งหนึ่งแต่เวบนี้มีระบบการอัพเดทที่ดิฉันไม่นิยม นั่นคือใครที่อัพขึ้นระบบแม้จะไม่มีบรรทัดใหม่หรือตอนใหม่ก็สามารถดันเอาการอัพเดทของคนอื่นให้หลุดหายไปจากวงโคจรได้ แล้วดิฉันเองเป็นคนทำงานฟูลไทม์จะมีเวลาเขียนและอัพเดทตอนใหม่ก็แค่ช่วงกลางคืนก่อนนอนจะเอเวลาที่ไหนมาอัพเดทแบบหลอกๆ จึงได้ตั้งแฟนเพจขึ้นมาแฟนเพจก็เริ่มเข้ามากดไลค์ติดตามบ้างค่ะ แต่ก็นะ อัพเดทแต่เฉพาะตอนนิยายและไม่ได้ทำโปรโมทหรือโฆษณาเพจแต่อย่างใด พอนิยายตอนจบอัพเดทโดยสมบูรณ์เพจก็กลายเป็นเพจร้าง ไม่มีเนื้อหาอะไรให้แฟนเพจเลยแต่ก็แอบดีใจที่ยังมีแฟนเพจติดตามอยู่ ไม่เลิกไลค์กันไป และมั่นใจนิดๆ ว่ามีนักอ่านที่รออ่านงานเขียนของเรา แม้จะน้อยนิดก็ตาม เอาล่ะค่ะ ทีนี้ ถ้าเราอยากให้คนสนใจอ่านนิยายของเรากันมากขึ้นก็ต้องทำอะไรสักอย่าง ในคอร์สสัมนา Start Up บอกไว้ว่าเราต้องสร้างเวทีของตัวเอง เปลี่ยนจาก Anybody เป็น Someone ให้ได้หรือที่ในยุคนี้เรียกว่า Personal Branding เราต้องสร้างตัวตนของเราขึ้นมา ดึงเอกลักษณ์ของเราให้เป็นที่รู้จักแต่... เดี๋ยวนะ คุณคะ คุณเขียนนิยายนะคะ แล้วคุณจะสร้างแบรนด์ยังไง? เออ นั่นสิ ... นักเขียนจะเป็นที่รู้จักก็ต้องเอิ่ม... ใช้... นามปากกาใช่ไหม เอ แล้วนามปากกาที่ดีคืออะไร ต้องมีอักษรมงคลหรือเปล่า ก็คงไม่ต้องขนาดนั้นนามปากกาที่ดีก็ต้องสื่อถึงนักเขียนใช่ไหมคะ แต่นักเขียนต่างประเทศหลายคนก็ใช้ชื่อจริงเขียนก็มีนะเออเอาน่า ลองคิดนามปากกาดู ของเดิมดิฉันใช้ Red Apple เพราะชอบดิสนีย์และแอปเปิลสีแดงนี่ใครก็เห็นว่าน่ากินน่ากัดใช่ไหมคะ แต่ไม่แน่ใจนักว่าจะดีไหมหากเราใช้ชื่ออังกฤษ อีกหน่อย (ฝันเอา) งานเขียนเราเข้าสู่ช่วง AEC ประเทศเพื่อนบ้านก็จะพูดชื่อเราได้ง่ายไงเฮ้ย คิดไปไกลจัง เอาเถอะๆ ทุกคนมีสิทธ์ฝันนะแต่จะเป็นจริงมั้ยก็อยู่ที่มือเรานี่แหละ มาต่อเรื่องการสร้างเวที ดิฉันมีแฟนเพจและ ณ เดือนมิถุนายน 2016 มีผู้ติดตามอยู่86 คน แล้วเราจะทำยังไงให้เรามีผู้ติดตามเยอะขึ้นล่ะนิยายเขียนใหม่ก็ไม่มีนอกจากเรื่องสั้นที่เขียนในบล็อกแกงค์ จะโพสต์คอนเทนต์เกี่ยวกับความรักก็เกรงใจแฟนเพจที่อาจรำคาญจนเลิกไลค์ไปคิดหนักมาก จนในที่สุดตัดสินใจลองใช้โฆษณาบนเฟสบุ๊คดู เลือกการจัดการแบบใช้งบวันละ 50 บาท เวลา 1 เดือนซึ่งวิธีนี้เป็นการโฆษณาที่ควบคุมงบได้ จะตั้งงบให้ถูกให้แพง ต้องการฐานผู้ติดตามมากแค่ไหนก็ตั้งได้ค่ะขึ้นอยู่กับน้ำหนักเงิน และวิธีนี้ดิฉันของใช้เป็นตัวลองตลาดที่เรียกว่า Prototype ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เช้าวันที่ 8 มิถุนายน เวลาแปดโมงเช้าปีเดียวกัน มีผู้ติดตามขึ้นมา 3 คน และทั้งสามอาศัยอยู่ในประเทศลาว(เวลาเราเลือกจัดการโฆษณา เราสามารถเลือกประเทศที่จะให้โฆษณาแสดงได้ค่ะ และดิฉันตั้งเป้าว่าจะเป็นนักเขียนAEC จึงเลือกให้ครอบคลุม สป ลาว ด้วย นี่พูดจริงนะภาษาไทยของเราอาจเป็นหนึ่งในภาษาที่ประเทศเพื่อนบ้านเรียนกันอยู่ และละครของไทยก็นิยมในแถบนี้นิยายของเราก็น่าจะมีคนสนใจบ้างแหลน่า เนาะ) และ ณ ขณะที่เขียนบล็อกอยู่นี้ ยอดแฟนเพจเพิ่มขึ้นเป็น 116 คนแล้วค่ะแค่หนึ่งวันเนี่ยนะ แหมรู้งี้ทำไปนานแล้ว จะได้ป๊อปปูล่าร์ แต่นะ.... เราจะมาหลงกับตัวเลขพวกนี้ไม่ได้หรอกเป้าหมายของเราไม่ใช่ตัวเลขนะคะ แต่เราต้องการเป็นที่รู้จักและเปิดโอกาสให้ตัวเองได้แสดงผลงานสู่สายตานักอ่านให้มากขึ้น ถูกไหม ฉะนั้นการฝึกปรือการเขียนงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งยวด และเป็นหัวใจหลักที่ดึงนักอ่านไว้งานเขียนดีผู้คนพอใจแต่ถ้ารู้สักสร้างเวทีของตัวเองสร้างแบรนด์ของตัวก็ช่วยส่งเสริมให้เราใกล้เป้าหมายมากขึ้น เมื่อมีเวที มี Facebook ทำการตลาดให้ด้วยงบวันละ 50 บาท ต่อไปเราจะมาหัดทำอีบุ๊คกันค่ะเอิ่มก็มือใหม่นะคะ ลองๆ ด้วยกันไปนะ
Create Date : 08 มิถุนายน 2559 |
|
2 comments |
Last Update : 8 มิถุนายน 2559 22:56:01 น. |
Counter : 971 Pageviews. |
|
|
|
เดี๋ยวนี้อะไรๆก็start upกันทั้งนั้น..
Red appleหรอค่ะ...จะได้จำไว้..
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ..