วีรวัฒน์ กนกนุเคราะห์
จาก...นิตยสารศรีสยามปีที่ 1 ฉบับที่ 12

ประจำวันพฤหัสบดีที่ 27  กุมภาพันธ์  พ.ศ. 2540  (หน้า 18-19)


สัมภาษณ์พิเศษ         

                           อิสรีย์






วีรวัฒน์   กนกนุเคราะห์


เชื่อว่า--แต่ละคนย่อมมีเหตุผลในการเลือกทางเดินชีวิตของตนดังเช่นหลายคนที่ก้าวเข้าสู่อาชีพนักเขียนก็เพราะมิอาจต้านเสน่ห์เย้ายวนของตัวอักษรได้แต่ผู้ชายคนนี้ยืนยันว่า เขายังมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากนั้น

“ทุกวันนี้ผมเขียนหนังสือเพราะอยากดัง แต่ไม่ได้ส่งหนังสือประกวดซีไรต์เพราะอยากดัง ผมส่งหนังสือประกวดซีไรต์ แต่ไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องได้หรือไม่ได้ ผมจะส่งไปเรื่อย ๆ เพราะนี่คือความสะใจ

“ผมชอบเขียนนิยายวิทยาศาสตร์และมีจุดประสงค์ที่จะทำให้นิยายวิทยาศาสตร์บูมในประเทศไทย แล้วก็ดัง แล้วให้ผมดังตามนิยายไม่ได้พูดเล่นนะ”



นอกจากงานเขียนหนังสือแล้วปัจจุบันเขายังมีงานหลักคือเป็นอาจารย์ประจำอยู่ที่คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

“ผมสอนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์นักศึกษาไม่ค่อยชอบเรียนกันหรอก ผมต้องทำทุกทางเพื่อดึงดูดความสนใจเวลาสอนหนังสือก็เหมือนเล่นละคร ต้องมีลีลา มีการเล่าเรื่องให้น่าสนใจผมเป็นคนช่างพูดโดยนิสัยอยู่แล้ว

“ตอนเรียนผมเป็นคนชอบทำกิจกรรมเป็นนักพูด เป็นประธานชมรมปาฐกถา ซึ่งการทำกิจกรรมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดพล็อตเรื่องได้ บางทีเราคุยกับคนอื่นก็เกิดพล็อตเรื่อง

“การคิดพล็อตเรื่อง บางทีเป็นความฝัน คิดได้เอง และ ปิ๊ง คือมันแวบเข้ามาเลย มีสามประการ ผมเป็นคนจำความฝันได้แม่นยำ ตอนเช้าตื่นมาจำได้เลย บางคืนฝันสนุกเราจะเก็บไว้ในสมองมันจะมีอะไรบางอย่างวิ่งๆ ๆ วนอยู่ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

“ผมมีพล็อตค้างอยู่ในแฟ้มเป็นร้อยเรื่องที่มีแก่นเรื่องจะเขียนแต่ยังไม่มีเวลาเขียน”

การหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียนเรื่องนับเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญอันจะทำให้นวนิยายแต่ละเรื่องดำเนินไปอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดซึ่งนักเขียนแต่ละท่านก็มีวิธีหาข้อมูลต่างกันไป

“เวลาหาข้อมูลต้องปลอมตัว ต้องมีอะไรหลาย ๆอย่างประสานกัน สำหรับบางเรื่องที่เป็นความลับก็อาจจะต้องปลอมตัวกว่าจะหาข้อมูลได้ต้องใช้หลายวิธี หนึ่ง สอบถามจากผู้รู้ สอง ค้นคว้าจากตำรา

“แบบที่ตื่นเต้นคือ ต้องเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามหรือพื้นที่เฉพาะที่เข้าไม่ได้ ก็ต้องใช้กลยุทธทุกทางที่จะเข้าไปให้ได้ เช่น เรื่อง ‘คมสังหรณ์’ ที่ลงในขวัญเรือน เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเข้าไปในแหล่งยาเสพติด แหล่งโสเภณี ซึ่งผมได้เข้าไปดูมาแล้วที่ญี่ปุ่น

“ผมมีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่นเยอะ เขาพาเข้าไป เรื่องคมสังหรณ์นี่เข้าไปหาข้อมูลที่เมืองชิบะประเทศญี่ปุ่น เรื่องเกี่ยวกับโสเภณีไทย คนขายตัวมีอยู่สองแสนกว่าคนผมไปหาข้อมูลเรื่องเหล่านี้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้เขียนถึงแต่พยายามจะเขียนในอนาคตยังมีข้อมูลอยู่มาก

“ไม่ได้คิดว่าที่ทำไปคือการลงทุน เพราะเราสนุกไปกับมันการหาข้อมูลที่ตื่นเต้นก็คือเข้าไปในพื้นที่อันตราย มีการปลอมตัว หรือบางทีก็ไปดูโรงงานผลิตหุ่นยนต์ในอเมริกาในญี่ปุ่น เพื่อจะนำมาเขียน เขาให้เข้าได้เพราะผมมีเส้นมีสายมีอะไรบางอย่าง มีกรรมวิธี แต่เป็นความลับ ไม่บอก(หัวเราะ)”




แม้ชื่อ วีรวัฒน์ กนกนุเคราะห์จะเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักอ่านว่าเป็น นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ แต่ในความจริงแล้ว เขายังมีผลงานเขียนในรูปแบบอื่นๆ อีกด้วย

“ผมเขียนหนังสือมาหลายรูปแบบ มีทั้งนิยายวิทยาศาสตร์ นิยายธรรมดา นิยายวิทยาศาสตร์แนวโรมานซ์ก็มีบ้างนิดหน่อยแต่ไม่มาก เขียนมารวมทั้งหมดร้อยกว่าเรื่อง ตอนนี้พิมพ์มาแล้ว 53 เล่ม มีทุกสาขา เรื่องสั้น 8-9 เล่ม แนววิทยาศาสตร์ประมาณ 15 เรื่อง เรื่องในแนวอื่น ๆอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก นิยายนักศึกษาก็เคยเขียนชื่อเรื่อง ‘บันทึกที่เล็ดลอดจากรั้วสีม่วง’ เป็นเรื่องราวในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผมเคยเรียนที่นั่น เป็นเรื่องแบบเอาเพื่อนมานินทา แล้วได้ตังค์ด้วย (หัวเราะ)

“เขียนหนังสือแนววิชาการก็เขียนชื่อหนังสือ ‘มนุษย์กับสภาพแวดล้อม’ เป็นหนังสือเรียนในมหาวิทยาลัย ผมเขียนเอง ตอนนี้กำลังขอตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์

“แนวประวัติศาสตร์ก็เรื่อง ‘จันทร์ข้ามคืน’ ที่เขียนในศรีสยาม เป็นนิยายการเมือง เป็นเรื่องพฤษภาทมิฬ ปลุกผีพฤษภาทมิฬขึ้นมา เปิดเรื่องขึ้นมาก็ยิงปืนกันสนั่น เป็นเรื่องของการเมืองช่วงหนึ่งเป็นประวัติศาสตร์




“นิยายรักหวานก็เขียนได้ ผมเป็นคนอ่อนไหวมากนะ เรื่อง ‘ซากดอกไม้’น่ะ ตัวละครตายแล้ว ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็รู้ว่ามันจะต้องตาย ผมยังนั่งร้องไห้เลย ฮือ ๆ ตายไปแล้ว จบแล้ว ไม่ได้ตังค์แล้ว(หัวเราะ) เรื่องซากดอกไม้เป็นเรื่องจากชีวิตจริงของหมอคนหนึ่ง เขาเป็นเกย์

“นิยายหวานกุ๊กกิ๊กกำลังจะเขียน อาจจะลงในขวัญเรือนหรือศรีสยาม คือเรื่อง ‘ฝันดีเพราะมีเธอ’ เป็นฉากในประเทศออสเตรีย

“อีกเรื่องที่กำลังจะพิมพ์คือ ‘ในโลกนี้มีอะไรซุกซ่อนอยู่’ ชื่อยาวดีนะ เลียนแบบชื่อหนังจีนเป็นสารคดีวิทยาศาสตร์ ปกิณกะ

“ยังมีอะไรที่อยากเขียนอีกเยอะ ผมมีพล็อตเรื่องเก็บไว้เป็นแฟ้ม ๆ ยังมีพลังเหลือเฟือ”

พลังในการเขียนคงยังไม่หมดไปง่าย ๆเพราะเขามีสิ่งที่มุ่งหมายในอนาคต

“ผมพยายามจะเขียนนิยายวิทยาศาสตร์เยอะ ๆเพราะผมอยากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยตอนนี้ถ้านับจำนวนเล่มนิยายทั้งหมดที่ผมเขียนเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ประมาณ 12-13 เล่มอาจจะถึง 15 เรื่อง และถ้านับจำนวนนักเขียนที่เขียนผลงานนิยายวิทยาศาสตร์ในประเทศไทยนะ ผมอยู่ในอันดับต้น ๆ เลยละ เพราะไม่ค่อยมีใครเขียน

“ผมชอบเขียนหนังสือ คิดจะเขียนไปเรื่อย ๆจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ผมจะเขียนนิยายวิทยาศาสตร์มากๆ พยายามผลักดันให้มีคนอ่านมากขึ้น นั่นแหละ แล้วผมก็จะดัง (หัวเราะ) นี่เป็นเป้าหมายอย่างหนึ่งของผม”

และเขายังยืนยันเสมอว่า “ไฟแห่งการเขียนหนังสือจะไม่มีวันมอดไปจากตัวผม”







Create Date : 12 ตุลาคม 2556
Last Update : 12 ตุลาคม 2556 12:57:03 น.
Counter : 3099 Pageviews.

2 comments
  
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่องราวดีๆค่ะ
ไม่เคยอ่านงานของท่านเลยค่ะ

แต่ดูแล้วน่าสนใจอีกแล้ว อิอิ
โดย: lovereason วันที่: 14 ตุลาคม 2556 เวลา:0:37:52 น.
  
เราหลงเสน่ห์เรื่องวิทยาศาสตร์ของอาจารย์วีรวัฒน์ค่ะคุณนุ่น
นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ ส่วนนิยายธรรมดาก็สนุกไม่แพ้กัน

ขอบคุณค่ะ
โดย: พ ชมภัค วันที่: 14 ตุลาคม 2556 เวลา:19:04:04 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ ชมภัค
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



เป็นคน...ยาก
ยากเป็น...คน
คน...เป็นยาก

โดยเฉพาะถ้าคิดจะบรรลุจุดมุ่งหมาย
...ยากยิ่งกว่ายาก

หนทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม ล้วนจำเป็นต้องเสียสละ เสียสละ...และเสียสละ

--------------------พระสนมเฉียนเฟย-----------


** ** ** ** **

อย่าได้คิดจะยอมแพ้และละทิ้งไปง่าย ๆ แบบนี้...

ก็อย่างที่ฉันบอกนั่นแหละ

ถ้าไขว่คว้าความฝันนี้ไม่ได้...
ก็เปลี่ยนเป็นความฝันอื่นเสียก็สิ้นเรื่อง

ยิ้มสักครั้งสิ ความสำเร็จ ชื่อเสียงไม่ใช่ปลายทาง

ทำให้ตัวเองมีความสุขต่างหาก... ถึงจะเรียกว่าคุณค่าและความหมาย

....ไม่ต้องกลัวหัวใจจะแหลกสลาย....

----------------โจว เจี๋ยหลุน (Jay Chou)-------
ตุลาคม 2556

 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
MY VIP Friends