ดวงใจในสายลม...ของ กีรตี ชนา จาก...นิตยสารศรีสยามปีที่ 1 ฉบับที่ 6 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2540 (หน้า 18-19) สัมภาษณ์พิเศษ ธันวา นราธรรม ดวงใจในสายลม...ของ กีรตี ชนา ( ในความรัก...ไม่มีคำอำลา ) อารมณ์ที่ละมุนยิ่งกว่าหญิง ละเมียดละไมบรรจงจัดดอกไม้ แต่งตัวอักษรให้พลิ้วไหวตามความคิดจินตนาการ และเหตุการณ์ที่พานพบ ผูกเรื่องราวที่สร้างความประทับใจให้กับใครหลาย ๆ คน ดวงใจในสายลม คือเรื่องหนึ่งที่ กีรตี ชนา เขียนให้กับ ศรีสยามหลังจากห่างหายการเขียนนวนิยายมาช่วงหนึ่ง ด้วยเหตุผลของเธอที่มุ่งเน้นการเขียนตำราจัดดอกไม้ และเป็นอาจารย์สอนจัดดอกไม้ตามที่ต่าง ๆ วันนี้เธอว่าพร้อมแล้วกับการเริ่มต้นเขียนนวนิยายอีกครั้ง เพราะอารมณ์และจินตนาการได้สั่งสมอย่างเต็มกำลัง ภายในปีนี้เธอจึงตั้งความหวังว่า พวกเราจะได้ติดตามอ่านนวนิยายของเธอดั่งที่เธอเองก็หวังไว้เช่นกัน สำหรับที่มาทางความคิดของเรื่องดวงใจในสายลมที่คุณกีรตีแต่งขึ้นมานั้น เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสถานที่และคนรักที่ต้องอยู่ไกลกัน ซึ่งเธอเล่าว่า ดิฉันเป็นคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ นะคะ เพราะฉะนั้นจึงอยากที่จะเขียนนิยายที่บอกเล่าถึงสถานที่ที่ไป ทั้งต่างถิ่นและที่ ๆ คุ้นเคย ในเรื่องดวงใจในสายลมจึงสร้างตัวละครขึ้นมาให้พระเอกเป็นฝ่ายเล่าถึงบรรยากาศของสถานที่ที่เขาต้องไปพบ โดยการเขียนเป็นจดหมายให้นางเอก เป็นเรื่องของความรัก ซึ่งดิฉันมักจะถนัดเขียนแบบนี้ ค่อนข้างโรแมนติก ความรักที่ถึงแม้จะอยู่ไกลกัน แต่ดิฉันเชื่อว่าความรักมีวิญญาณ เชื่อมั้ยคะไม่ใช่เพียงแค่ความเข้าใจ หรือความใกล้ชิดยังมีอะไรที่นอกเหนือจากนั้นอีก ดิฉันเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องเล่าของชาวต่างชาติ เขาพูดถึงผู้ชายคนหนึ่งที่พร้อมจะเสียสละหัวใจเมื่อเขาตายไป ให้กับคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่ต้องเป็นญาติพี่น้องของเขา ใครก็ได้ที่ไม่เคยมีความรัก เพราะเขาคิดว่าความรักมันยิ่งใหญ่สำหรับชีวิตมนุษย์มาก เป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนทางความรู้สึกอารมณ์ และทำให้คนอ่านเกิดศรัทธาในความรัก การเริ่มต้นเขียนนวนิยายสักเรื่อง นอกจากความพร้อมทางด้านข้อมูลแล้ว นักเขียนแต่ละท่านอาจมีหลักการเฉพาะตัวที่แยบยลไปด้วยความรู้สึก หากจะหยิบปากกาขึ้นมาเขียนให้ตัวอักษรได้โลดแล่น สำหรับตัวดิฉันเอง การเขียนนิยายขึ้นมาสักเรื่องต้องเริ่มจากประสบการณ์ของตัวเอง นอกจากนี้เราต้องศึกษาข้อมูลในเรื่องที่เราจะเขียนมีความพร้อมทางด้านอารมณ์ ดิฉันมักจะนั่งทำงานเวลาที่เงียบเท่านั้นนะคะ ถ้าเสียงดังจะทำไม่ได้เลย นักเขียนบางคนอาจจะชอบเปิดเพลงฟังเวลาทำงาน หาสถานที่ที่เหมาะมีบรรยากาศดี ๆ ในการเขียนหนังสือ มีเรื่องหลายเรื่องที่อยากจะเขียนให้อ่านกัน แต่ช่วงที่ผ่านมาดิฉันได้ใช้เวลาหมดไปกับการเขียนตำราจัดดอกไม้ หรือไม่ก็รับสอนจัดดอกไม้ ตั้งโครงการไว้ว่าในปีนี้จะเขียนหนังสือให้มากที่สุด พักเที่ยวสักเดือนแล้วก็กลับมาเขียนหนังสือต่อ นี่คือความตั้งใจในปีนี้ค่ะ เธอเล่าว่าเรื่องราวที่ถ่ายทอดผ่านเป็นตัวหนังสือ ส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์ทั้งของตนเอง เพื่อนและผู้อื่น แต่ขณะเดียวกันอารมณ์ของเธอเองก็เป็นส่วนสำคัญในการเขียนหนังสือ อารมณ์มีอิทธิพลต่องานเขียนแน่นอนค่ะ อย่างเรื่องของความรัก ถ้าสมหวังก็มีกำลังในการเขียน แต่ถ้าเป็นความรักที่ผิดหวัง นั่นก็ไม่ได้ทำให้ดิฉันต้องท้อแท้เลยนะคะ แต่กลับเป็นแรงในการทำงานมากกว่า ทำให้เราต้องเข้มแข็งสู้และจะต้องทำให้ได้ดีกว่าเดิมด้วย เพราะดิฉันมีความคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า คนที่เป็นนักเขียนที่ดีต้องผ่านเรื่องราวที่มีอารมณ์ทั้งผิดหวัง สมหวัง ดีใจ เสียใจ ร้องไห้ หัวเราะนักเขียนที่พบแต่เรื่องของความสมหวังเพียงอย่างเดียว ดิฉันคิดว่าไม่สามารถเป็นนักเขียนที่ดีได้นะคะ เพราะว่าเราจะต้องเป็นผู้ที่ถ่ายทอดความคิด อารมณ์ที่เข้าถึงได้ดีกว่าคนที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจในความเป็นจริง เมื่อเขียนนวนิยายจบเธอบอกว่า คงไม่ผิดนักหากเธอจะไม่ใส่ใจต่อคำติชมจากคนอ่าน เพราะนวนิยายคือจินตนาการ ดิฉันไม่ฟังคำติชมจากคนอ่านนิยายนะคะ แต่ถ้าเป็นการเขียนตำราการจัดดอกไม้ ดิฉันจะยอมรับฟังความคิดของท่าน เพราะอะไร ดิฉันมีเหตุผลว่าการเขียนนวนิยายเป็นเรื่องที่เราผูกขึ้นมาจากจินตนาการ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ต้องมาตรวจสอบกัน และถ้ามองถึงนักเขียนรุ่นใหม่ ๆ ที่กำลังเข้ามาแทนที่นักเขียนรุ่นอาวุโสเธอคิดว่า สำหรับนักเขียนรุ่นใหม่ ๆที่กำลังจะก้าวไปอีกขั้นหนึ่งเพื่อให้ถึงรุ่นอาวุโส ดิฉันคิดว่านักเขียนรุ่นใหม่ยังเปรียบเทียบกับรุ่นเก่าไม่ได้เลย และไม่สามารถขึ้นมาทาบได้ แต่จะเป็นการยอมรับอยู่ในรุ่นของเขานะคะ ดิฉันจะไม่ขอวิจารณ์งานของใครนะ แต่เท่าที่ผ่านตามาเรื่องของการใช้ภาษา เปรียบเทียบกับนักเขียนรุ่นเก่าไม่ได้ ความสละสลวยยังขาดหายไป อีกอย่างหนึ่งโอกาสของการเป็นนักเขียนในสมัยนี้ ดิฉันว่ามีน้อยนะถึงแม้ว่าจะมีหนังสือเกิดขึ้นมาเยอะ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้วย การยอมรับของผู้ลงทุนที่จะกล้าเปิดโอกาสให้กับนักเขียนหน้าใหม่ ๆ ยังมีน้อย เพราะว่าเขาก็ต้องนึกถึงคนอ่านที่ติดนามปากกา แต่ก็อยากให้นักเขียนรุ่นใหม่ ๆพยายามกันต่อไปนะคะ หากถามเรื่องความสมบูรณ์ในชีวิตของเธอ สิ่งที่ต้องการนอกเหนือไปจากการเขียนหนังสือจัดดอกไม้ ท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ แล้วเธอว่า ความสมบูรณ์ในชีวิตของดิฉันคือ การมีเพื่อนที่ดี ดิฉันไม่ใช่เป็นคนที่ชอบออกงานสังคมนะคะ สังเกตได้ว่าจะไม่มีข่าวออกงานสังคมเลย อยู่แต่ในบ้านอ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง เป็นชีวิตที่สมบูรณ์ของดิฉันแล้วค่ะ
และสิ่งหนึ่งที่ดิฉันไม่เคยคิดเลยค่ะ คือ เรื่องทิ้งการเขียนหนังสือ ดิฉันรู้สึกภูมิใจกับการเขียนหนังสือมาก หลายคนที่อิจฉาว่าการเป็นนักเขียนเป็นอาชีพที่มีความสุข ซึ่งดิฉันก็เห็นด้วยอย่างนั้นนะคะ แต่ที่ดิฉันหยุดเขียนนิยายไปนานถึง 14 ปี แล้วก็หันกลับมาเขียนใหม่อีกครั้งหนึ่งเพราะดิฉันมีแรงบันดาลใจในการเขียนด้วย
ท่านเป็นนักจัดดอกไม้ เป็นนักประพันธ์ และเป็นครูสอนจัดดอกไม้-สอนการประพันธ์ที่กล่าวได้ว่า 'ยอดฝีมือ' ชนิดที่หาตัวจับยาก
ขอน้อมคารวะในดวงใจแห่งความเป็นครูผู้ให้ของท่านค่ะ โดย: พ ชมภัค วันที่: 18 กันยายน 2556 เวลา:22:48:16 น.
เพิ่งเข้ามาเจอ ทางสายที่สาม แต่ติดขัดตรงที่ บทที่ 17, 19, 32, 33, 49, 50 และ 62 ไม่ทราบว่าจะไปหาอ่านได้ที่ไหน ส่วน Blog ของคุณชมภัค ก็ไม่ทราบว่าจะเข้ายังไง กด Link ไปก็ไม่มีอะไร รบกวนด้วยนะค่ะ หากใครมีบทดังกล่าว ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
โดย: นลิน IP: 125.24.108.190 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2556 เวลา:23:33:48 น.
ไม่ได้เข้าBlogเสียหลายวัน ขออภัยที่ตอบช้าค่ะ
ไม่ทราบว่าคุณนลินเป็นสมาชิกของพันทิปหรือเปล่าคะ ถ้าเป็นก็ส่งข้อความคุยกันหลังไมล์ได้ค่ะ โดย: พ ชมภัค วันที่: 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา:18:17:37 น.
|
พ ชมภัค
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] เป็นคน...ยาก ยากเป็น...คน คน...เป็นยาก โดยเฉพาะถ้าคิดจะบรรลุจุดมุ่งหมาย ...ยากยิ่งกว่ายาก หนทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม ล้วนจำเป็นต้องเสียสละ เสียสละ...และเสียสละ --------------------พระสนมเฉียนเฟย----------- ** ** ** ** ** อย่าได้คิดจะยอมแพ้และละทิ้งไปง่าย ๆ แบบนี้... ก็อย่างที่ฉันบอกนั่นแหละ ถ้าไขว่คว้าความฝันนี้ไม่ได้... ก็เปลี่ยนเป็นความฝันอื่นเสียก็สิ้นเรื่อง ยิ้มสักครั้งสิ ความสำเร็จ ชื่อเสียงไม่ใช่ปลายทาง ทำให้ตัวเองมีความสุขต่างหาก... ถึงจะเรียกว่าคุณค่าและความหมาย ....ไม่ต้องกลัวหัวใจจะแหลกสลาย.... ----------------โจว เจี๋ยหลุน (Jay Chou)------- Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
คุณกีรติ ชนา ได้ยินชื่อบ่อย
แต่ไม่เคยได้สนใจค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำสัมภาษณ์นะคะ
นิยายน่าอ่านด้วยค่ะ