Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 มิถุนายน 2549
 
All Blogs
 

คนในอดีต

“ฉันจะพูดคำว่ารัก สักร้อยสักพันครั้ง

ก็คงไม่อาจต่อเติมความรักของเราผลิดอกงอกงามไปกว่าวันนี้ได้

เพราะคนที่ยืนรับฟังคำว่ารักจากฉันอยู่นั้น

เขายังคงคอยได้ยินคำนี้ จากน้ำเสียงของคนอื่น

...ซึ่งไม่ใช่ฉัน”



ภาพความทรงจำในอดีต ความสุขสมและขมขื่น มีเธอคนเดียวเป็นผู้นำพาสองความรู้สึกนี้มาสู่ผมพร้อมกัน มาด้วยคำว่ารัก และจากด้วยคำบอกลา สองความรู้สึกผ่านเข้ามาในเวลาต่างกันไม่นานนักแล้วความรักของเราสองก็จบลงด้วยเวลาที่แสนสั้น ในคืนที่ท้องฟ้ามากหมู่ดาวพราวสาดแสง คืนสดใสที่แสนหม่นหมอง เธอปรารถนาที่จะให้ผมได้มีโอกาสพบกับใครสักคนที่รักผมจริง เธอจำใจจากผมไปเพราะคนเก่าของเธอกำลังจะกลับมา(ต่างหาก) คงกลับมาเป็นคนที่ดีของเธอและเขาทั้งสองคงรักกันหวานชื่นเหมือนเดิมอีกครั้ง?



เหตุการณ์ทำนองนี้ คงไม่ต่างจากใครๆอีกหลายคน ซึ่งคงเคยผ่านช่วงเวลาแห่งความปวดร้าวนั้นมาบ้าง เหมือนกับผมที่ได้ผ่านมาแล้ว และผ่านมาจนถึงวันนี้ ดูสิ ช่างไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเราเลยใช่ไหม



เวลา คือยาขนานเอกที่ใช้รักษาความผิดหวังในรักครั้งนั้นของผมให้ทุเลาและเบาบางลงไปได้

จะช้านานเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความผูกพันที่เคยมีแก่กัน



สิ่งที่ผมทำได้ในช่วงนั้นคือพยายามไม่กลับไปยืนหรือเดินผ่าน ณ จุดเดิมที่ๆมีรอยเท้าของสองเราจารึกทิ้งไว้ ผมพาตัวเองออกห่างจากร้านอาหารประทับใจ และ สถานที่ท่องเที่ยวที่เคยมีภาพของสองเราเคยอยู่ด้วยกันตรงจุดนั้น สักวันผมคงลืมเธอได้เอง ถ้าหากผมลบความทรงจำเหล่านี้ไปได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งดีกับสภาวะจิตใจของตัวเอง การปฏิบัติงานจะได้มีประสิทธิภาพดั่งเก่าก่อน และจะส่งเป็นผลดีทางอ้อมกับคนแวดล้อมอยู่รอบข้างด้วย ที่ไม่ต้องมาคอยรองรับอารมณ์อันแปรปรวนในช่วงเวลานั้น



แต่...พอเอาเข้าจริง มันก็ไม่สามารถลบออกไปจากใจได้ในเวลาอันสั้นอย่างที่ผมตั้งใจให้เป็น

ผมจึงพยายามอีกครั้งหาหนทางใหม่ที่จะไม่นึกถึงหรือผูกใจเจ็บปวดอยู่กับความหลัง ผมฝึกนั่งสมาธิและทำทุกอย่างเพื่อให้จิตใจสงบนิ่ง เวลาจะได้หมดไปพร้อมกับความว่างเปล่าที่ไม่ยึดติด

คิดเอาเสียว่านี่คือประสบการณ์ความรักแสนขมบทหนึ่ง ที่ผมจะไม่ก้าวเข้าไปอ่านความรักในบทนี้อีก



ผมหวังว่าวิธีนี้คงช่วยให้ผมลืมเธอได้เสียที ปล่อยวางเรื่องราวต่างๆทิ้งไว้ตรงจุดเดิม เก็บซ่อนภาพถ่ายใส่กล่องกระดาษ หยุดทุกอย่างเอาไว้ให้กลายเป็นเพียงอดีตเท่านั้น

หลังจากผ่านวันที่ปวดร้าวนั้นไปได้หนึ่งปีเศษ ผมก็ลืมเธอคนนั้นได้สำเร็จ ผมสามารถทำได้แล้ว

++++++



วันนี้ผมมีความรักครั้งใหม่และมีความสุขดี(ในระดับหนึ่ง)ในห้วงเวลานี้ คุณดีใจด้วยกับผมไหม? ผมรู้จักกับเจนได้เกือบสามปีแล้วแหละ แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า...



ตลอดเวลาที่เราคบหากัน ผมมีลางสังหรณ์อย่างบอกไม่ถูก ว่าวันหนึ่งผมจะต้องผิดหวังซ้ำครั้งใหม่ในเรื่องเดิมอีก ไม่รู้ผมคิดมากไปหรือเปล่า? แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ผมพยามยามจะไม่คิดอะไรมาก เพราะอย่างไรเสีย วันพรุ่งนี้ มันยังเดินทางมาไม่ถึงนี่นา



ความจริงที่ผมรับรู้และรู้สึกอยู่ในใจตนเองเสมอ เจนคนรักของผมเธอยังคงเฝ้าคอยอะไรบางอย่างและยังคงยึดติดอยู่กับความสุขความประทับใจที่แอบซ่อนอยู่ในความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีตกับคนๆเดิมของเธอ ซึ่งก็คงไม่ต่างกับผมตอนที่เคยผิดหวังในครั้งก่อนนี้ ผมยังเคยเฝ้ารอว่าสักวันหนึ่งเธอคนนั้นจะเข้าใจและเห็นใจผม จนต้องหวนคืนกลับมารักกันให้เหมือนเดิม แต่ยิ่งนานวันมันยิ่งทวีความเจ็บร้าวกับการรอคอยที่ไร้คำตอบ โชคดีที่ผมตัดใจได้ก่อนและไม่รอคอยอดีตให้หวนกลับมา ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ได้รู้จักกับเจน คนที่ผมรักในวันนี้



ผมไม่เคยถามเจนหรอกนะว่า ระหว่างเธอกับเค้าคนนั้นเลิกรากันไปเพราะเหตุใด? ผมไม่เคยคิดถามว่าเจนยังคงคิดถึงเค้าอยู่ใช่ไหม? ผมรู้ดีว่าคงไม่มีใครอยากพูดถึงความผิดหวังในอดีตของตัวเองให้ใครได้รับฟังเท่าใดนัก ผมเพียงแค่อยากให้เธอลบเขาออกไปจากใจให้ได้เหมือนอย่างที่ผมเคยทำ



ผมยอมรับได้นะว่าคนเราทุกคนต่างมีอดีตกันทั้งนั้น จะแตกต่างกันตรงสุขทุกข์ที่รับมาไม่เท่ากัน

ผมไม่รู้ว่าเจนได้รับสิ่งใดมาจากครั้งนั้นมากน้อยกว่ากัน เพราะผมรู้สึกว่าไม่เคยเลยสักวันที่เจนจะลืมเขาคนนั้นได้ แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานเท่าไรแล้วก็ตาม แต่ผมก็พอจะทำใจให้เข้าใจว่าเรื่องอย่างนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ถ้าเวลามันเนิ่นนานมากไปกว่านี้ ผมเองก็เหนื่อยใจที่จะก้าวเดินต่อไปพร้อมกับเธอแล้วเหมือนกัน



ผมอยากจะถามเจนหลายครั้งแล้วนะว่า เค้าคนนั้นมีสิ่งดีๆอะไรที่ผมยังขาดไปหรือเปล่า? ทำไมนะเธอยังคงรักเขาได้ยั่งยืนนานได้เพียงนี้ แต่ผมก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่กล้าหลุดปากเอ่ยถามออกไป

เพราะผมกลัวคำตอบจากเจนมากกว่ากลัวคำถามของผมไปกระทบจิตใจเธอ เพราะหากถ้าเธอตอบผมว่า สิ่งที่ผมไม่สามารถทำให้เธอได้นั้นคือ ความรักและความประทับใจครั้งแรก แล้วผมจะต้องทำอย่างไร???



ผมมักนึกถึงนิทานที่แม่เคยเล่ากล่อมนอนก่อนผมหลับ ว่าโลกใบนี้ยังมีนางฟ้าใจดีหนึ่งตนที่คอยโบยบินมาประทานพรวิเศษแด่มนุษย์ผู้ทุกข์ร้อนใจ เพื่อให้ผ่อนคลายหายจากความทุกข์นั้นๆ ด้วยคำถาม “หากเธอขอพรได้หนึ่งข้อเธออยากจะขออะไร?”



หากความศักดิ์สิทธิ์นั้นยังมี และนางฟ้าใจดีตนนั้นถามผมในเวลานี้ ผมจะตอบโดยทันทีว่า

ขอให้พาเจนกับผมกลับไปในอดีตของตัวเอง เพื่อกลับไปเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์บางอย่างไม่ให้เราต้องเจอะเจอคนในอดีตของวันนี้ ซึ่งจะทำให้เราต่างไม่ต้องรักใครมาก่อนจนต้องผิดหวังมาเหมือนกัน แต่นางฟ้าก็มีตัวตนเพียงแค่เรื่องเล่าในนิทานก่อนนอนที่แม่เคยเล่าเท่านั้น ไม่มีใครกลับไปในอดีตเพื่อแก้ไขสิ่งต่างๆให้เกิดผลได้จริง คงมีแต่ต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้อดีตที่ไม่พึงปรารถนานั้นมันหวนกลับมาหาเราอีกครั้ง



++++++

“เจนมองอะไรอยู่เหรอ” ผมถามเธอที่นั่งมองเหม่ออยู่ริมหน้าต่างข้างๆผมบนรถเมล์ปรับอากาศสายหนึ่งที่กำลังวิ่งมุ่งหน้าพาผมไปส่งเธอที่บ้าน

ผมเห็นเธอกำลังกวาดสายตามองหาอะไรบางสิ่งอย่างตั้งใจและดูเหมือนกำลังมองหาใครสักคนภายในรั้วอาณาบริเวณอันร่มรื่นของสถาบันอุดมศึกษาชื่อดังแห่งนั้น

“เปล่า เห็นต้นไม้สีเขียวดูร่มรื่นน่ามองดี” เธอเฉตอบผม เหมือนว่าเป็นปรกติดี

“อืมม... ในนั้นบรรยากาศคงดีนะ เค้าเรียกต้นก้ามปูมั้งถ้าพี่จำไม่ผิด” ผมแสร้งไม่รู้ไม่ชี้และฝืนพูดออกไปในทำนองเดียวกันกับที่เธอบอก แม้ผมจะรู้อยู่เต็มอกว่า เธอกำลังมองหาใครคนหนึ่งเผื่อเค้าจะบังเอิญผ่านมาในสถานศึกษาที่ๆเค้าเคยเรียนมาด้วยกัน แต่ถ้าพูดออกไปทำเป็นรู้มันก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆกับเราทั้งสองหรอก พลอยแต่จะทำให้บรรยากาศเสียไปเปล่าๆ



วันนั้นเป็นวันแรกที่เราได้ไปทำบุญที่วัดด้วยกัน หลังจากทำบุญไหว้พระคนเราก็น่าจะสดใสจิตใจเบิกบาน ด้วยความอิ่มบุญที่เขาว่า แต่ทำไมระหว่างนั่งอยู่บนรถ เธอจึงดูเหม่อลอยเหมือนคิดอะไรอยู่ในใจตลอดทาง ผมไม่กล้าถามอะไรเธอมาก เพราะกลัวเธอพูดความจริง แต่จุดเปลี่ยนของอารมณ์ของเธอในวันนั้นก็มาถึง

หลังจากมีโทรศัพท์โทรเข้ามาสายหนึ่งเธอพูดคุยกับเจ้าของสายด้วยน้ำเสียงเบาๆ เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีก็รีบวางสาย

ทีนี้ทำไมดูเธอหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นนะ

“ใครโทรมาหาเหรอ” ผมเรียบเคียงถามเธอ ผมเพียงอยากรู้ว่าใครกันนะที่ทำให้เธอดูยิ้มแย้มและสดชื่นขึ้นได้เพียงนี้

“เพื่อนเก่าสมัยเรียนน่ะ ไม่ได้เจอกันนานแล้วโทรมานัดไปกินข้าวด้วยกัน” เธอตอบแบบรวบรัดเหมือนไม่ต้องการให้ผมถามอะไรอีก

“แล้วจะไปหรือเปล่า? ไปวันไหน ให้ไปด้วยไหม?” ผมอาสา ใจจริงลึกๆก็คือผมอยากจะไปกับเจน

“ไม่เป็นไรหรอก คงนัดกันวันธรรมดา พี่ต้องทำงานไม่ใช่เหรอ” เธอรีบบอกปัด

เหมือนเข้าใจในหน้าที่ๆผมต้องทำ



ผมเองก็ไม่อยากคาดเดาอะไรทั้งนั้น ทั้งๆที่มีคำถามกับตัวเองอยู่เต็มหัวไปหมด แต่นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรกหรอกนะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเมื่อเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ผมต้องพยายามแทนความรู้สึกที่ผมเคยเป็นในช่วงเวลานั้น ว่าถ้าเป็นเราก็คงรู้สึกสะกิดใจบ้างหากเดินทับเส้นทางเดินในอดีตของตนเอง ผมรักเจนและมองเธออย่างเข้าใจ แต่ว่าผมต้องคิดอยู่อย่างนี้ต่อไป อีกนานสักเพียงใด



ผมกลัวเหลือเกินว่าความผิดหวังเดิมๆจะหวนกลับมาหาผมอีกครั้งในไม่ช้านี้ ในความเป็นจริงแล้วเราควรเว้นระยะห่างกับคนเก่าในอดีตไว้แค่ไหนดี จึงจะไม่กระทบต่อจิตใจระหว่างกันและกันในรักของเรา



สำหรับผม ผมพยายามรักษาและประคับประคองความรักของเราเอาไว้อย่างเข้าใจเรื่อยมา เพื่อให้ความรักนั้นยังคงอยู่กับเรา และเป็นปัจจุบันในทุกๆวันไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน เพราะผมเชื่อเสมอว่าหากวันนี้เราต่างรักกัน วันพรุ่งนี้ความรักของเราต้องมีทวีมากล้น จนกลายเป็นความสุขที่เต็มเปี่ยมด้วยความอบอุ่นละมุนด้วยสายใยแห่งรัก แล้วความรักก็จะพาเราก้าวเดินไปสู่จุดหมายทุกแห่งหน ที่เราสองคนต่างใฝ่ฝัน แต่คำว่าเรานี้สิ มันเกิดขึ้นระหว่างใครกับใครกันเล่าหนอ ???

++++++



.....ตลอดเวลา เหมือนเธอรออะไรบางอย่าง แต่ก็ยอม

เพราะหวังสักวัน ชนะหัวใจ ของเธอ

แล้ว สิ่งที่ฉันนั้นเคยหวาดกลัว ไม่ขอให้มันเป็นจริง

สิ่งที่ทำให้เธอไหวหวั่น เขา กลับเข้ามาให้เธอเห็นใจ

และขอให้เธออภัย แล้วฉันต้องทำอย่างไร...


*ขอบคุณดีเจคลื่นบริสุทธิ์ที่ช่างบังเอิญเปิดเพลงได้เข้ากับบรรยากาศให้ผมได้รับฟัง แต่ว่า...ผมใคร่ขอตัวลุกขึ้นไปเปลี่ยนคลื่นวิทยุสักหน่อยจะดีกว่านะครับ.




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2549
3 comments
Last Update : 8 มิถุนายน 2549 17:54:02 น.
Counter : 444 Pageviews.

 

น่าสงสารจัง อยากรุ้ตอนจบจะเป็นอย่างไร รีบบอกด้วยนะ

 

โดย: สุรีย์รัตน์ IP: 203.156.31.181 8 มิถุนายน 2549 20:54:03 น.  

 

แวะมาอ่านเรื่องราวที่ มันผ่านไป.... นานแล้วที่ไม่ได้รื้อบล็อกชาวบ้านวันนี้ คงเป้นอีกวันที่แวะเข้ามารื้องานเก่าๆ ออกมาอ่านค่ะ

 

โดย: กระจ้อน 19 กันยายน 2550 17:20:39 น.  

 

เหมือนกับเราเลยคับ

 

โดย: เด็ก ตรากระต่าย IP: 118.172.240.139 4 มิถุนายน 2551 11:01:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชลสิทธิ์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ชลสิทธิ์" และ "ชลสิทธิ์ วรสินธุ์"
เป็นนามปากกาในการเขียนของ"อนิรุจน์ มั่งคั่ง"
งานเขียนงานประพันธ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นทุกประเภท
ที่ปรากฏในเวบไซด์นี้ได้รับความคุ้มครองสิทธิ์
ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537(มาตรา15)




หากโลกไม่หยุดหมุน ...ฤาคุณจะหยุดฝัน? หยุดฝันก็ไปไม่ถึง
New Comments
Friends' blogs
[Add ชลสิทธิ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.