ว่าด้วยเรื่องกระเพาะปลา -- จัดการวัสถุดิบก่อนปรุง

เกริ่นก่อน ด้วยเป็นคนที่ชอบทำอาหารรับประทานเอง และด้วยความที่เป็นลูกหลานชาวจีนแต้จิ๋ว ซึ่งได้คุ้นเคยกับการรับประทานอาหารแนวอาหารจีนทั่ว ๆ ไป ที่เราเห็นกันในท้องตลาดทั่วๆ ไป ก็ไม่คิดเลยว่าอาหารที่กินกันอยู่ทุกเมื่อ เชื่อวันนั้น ต้นกำเนิดมาจากอาหารแต้จิ้วทั้งนั้น จนมาได้อ่านหนังสือเล่มนี้ "สืบสานตำนาน อาหารแต้จิ้ว"

********
ด้วยเป็นคนที่ชอบกินกระเพาะปลามาตั้งแต่เด็ก จนคิดว่า ถ้าเราจะทำกินเองมันง่ายไม๊ .....
หนังสือเล่มนี้ ก็มีเรื่องของกระเพาะมาให้อ่านครับ
****************************************************
กระเพาะปลานั้น  คือส่วนที่เป็นถุงลมของปลาที่ทำหน้าที่ในการลอยตัวขึ้นผิวน้ำของปลา ซึ่งสามารถนำมาประกอบอาหารต่างๆได้หลากหลายรูปแบบ สำหรับราคานั้นไล่ราคากันตั้งแต่ไม่กี่ร้อยไปจนถึงระดับตัวเรา 6-7 หมื่นบาทก็มี
เท่าที่จำได้ ตอนเด็ก ๆ ที่บ้านจะมีแขวนไว้ 2-3 อัน ซึ่งคุณแม่เคยบอกไว้ พวกนี้เป็นแบบสุดยอดของกระเพาะปลาที่ใช้บำรุงร่างกาย และเข้าสำรับยาจีนอยู่ในกลุ่มของ "เมี่ยงฮื้อเผีย "
ซึ่งปัจจุบันขายกันระดับหมื่นบาทเนี่ย
เรามาพูดถึงกระเพาะปลาที่เราคุ้น ๆ กันดีกว่า กลุ่มนี้ ถ้าถือว่าแพงสุดก็จะเป็น กิมเล้งเผีย (Yellow Cloaker ) หรือปลามังกรทอง รองลงมาอีกที่อาจจะได้มีโอกาสรับประทานในภัตตราคารอาหรจีนหรู ก็น่าจะเป็น มั่วเผีย แต่ถ้าเป็นขนาดเล็กที่ขาย ๆ ทั่ว ๆ ไปในตลาดทั่ว ๆ ไป ที่เรา ๆ สามารถซื้อมาประกอบอาหารได้ก็จะเป็นกระเพาะปลาที่ทำจากปลากระพงมากกว่า
การเลือกซื้อนั้น ต้องการแบบไหน ราคาไหนสุดแท้แต่เรา แต่ที่แน่ ๆ ให้เลือกแบบที่ไม่อมน้ำมันมาก จะได้ไม่มีกลิ่นเหม็นหื่นน้ำมัน นอกจากนี้ก็ดูในเรื่องคุณลักษณะของกระเพาะปลาด้วย เมื่อหยิบมาเคาะ ถ้าเสียงเคาะโปร่ง ๆ เป็นอันใช้ได้ แสดงว่าทอดมาพองกำลังดี ซึ่งเวลาที่เราหักกลางมาดูเห็นรูพรุนทั่วไป แต่ถ้าเคาะแล้วเสียงทึบ ๆ ก็แสดงว่าข้างในยังเป็นแกนขาว ๆ แปลว่าทอดยังไม่ได้ที่ ซึ่งเวลาต้มแล้วเนื้อกระเพาะจะเละ ๆ ไม่อร่อย

ต่อไป ก็เป็นเรื่อง การต้มกระเพาะปลา สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับพ่อครัวแม่ครัวมากที่สุด ก็คือเรื่องการขจัดกลิ่นน้ำมันนี่แหละ ทำยังไงวิธีไหนก็ยังมีกลิ่นหลงเหลืออยู่ดี กลิ่นน้ำมันเหม็นหืนที่พบเจอในกระเพาะปลา มักจะติดแน่น ถ้าใครมามัวล้างด้วยน้ำเปล่าคงเหนื่อย เพราะล้างเท่าไรก็ล้างกลิ่นไม่ออกสักที

วิธีขจัดกลิ่นน้ำมันง่ายๆ เพียงแค่แช่กระเพาะปลาในน้ำจนนิ่ม จากนั้นล้างอีกทีในน้ำที่แช่นั้น แล้วเทน้ำทิ้ง บีบกระเพาะปลาให้สะเด็ดน้ำ หลังจากนั้น ตั้งน้ำในหม้อ พอน้ำเดือดใส่กระเพาะปลาลงไป ใส่ขิงแก่ที่หั่นเป็นแผ่นบางลงไป รวมถึงนำขิงบางส่วนมาทุบพอแตกลงไปในหม้อด้วย โดยอาจจะใส่ขิงในปริมาณที่มากหน่อย เพื่อช่วยดับกลิ่นน้ำมัน จากนั้นต้มต่อไปจนกระเพาะปลาพองตัวได้ที่ แล้วจึงยกหม้อลงเทใส่กระชอน ตามด้วยเทน้ำเย็นลงบนกระเพาะปลาสัก 2 ครั้ง แล้วบีบกระเพาะปลาให้สะเด็ดน้ำอีกที เท่านี้เราก็ได้กระเพาะปลาไร้กลิ่นน้ำมันที่เหนียวนุ่มน่ากินแล้ว พร้อมนำไปประกอบเป็นเมนูกระเพาะปลาแสนอร่อย




Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2557 21:33:51 น.
Counter : 1290 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทายาทวังหัวลำโพง
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ชายร่างอ้วนที่ชอบการเล่น Taichi เป็นชีวิตจิตใจ ไม่รับการนัดใคร ๆ วันศุกร์-อาทิตย์ ความเครียดไม่รู้จัก
วันอาทิตย์ก็ขอวาดลวดลายเป็นพ่อครัวสักวันเถอะ
*****************************************
กุมภาพันธ์ 2557

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28