ขอวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปยังไงให้ปัง...ไม่ใช่พัง!




คนคงเคยไปเที่ยวประเทศแถวเอเชียบ้านเราอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี
หรือใกล้ๆ ไทยแบบเพลนแค่สถานที่เที่ยวกับเตรียมเงินเที่ยวก็จบแล้วใช่มั้ยคะ เที่ยวง่ายมาก!
แล้วถ้าอยากไปเที่ยวแถบยุโรปบ้างหละ มันต้องเตรียมตัวมากกว่านั้นนะ แต่ไม่ต้องกลัวเพราะมันไม่ยากเลย
เราจะมาเล่าวิธีการขอวีซ่าท่องเที่ยวแบบครบจบตอนให้ฟังกัน...

การจะไปเที่ยวแถบยุโรปเราต้องมีประเทศในใจก่อนว่าจะไปแถบไหน ถ้าไปอังกฤษ สก็อตแลนด์ ไอร์แลนด์ ต้องทำวีซ่า UK แต่ถ้าเป็นประเทศอื่นๆ ก็จะเป็นวีซ่าเชงเก้น ส่วนตุรกี รัสเซียไม่ต้องทำวีซ่าก็ไปเที่ยวได้เลยชิวๆ 30 วัน
สำหรับเราเองเคยทำวีซ่าทั้ง 2 แบบ แต่แบบ UK ไม่ได้ทำเองเลยจะไม่ได้อธิบายนะคะ คราวนี้ก็เลยจะมาบอกรายละเอียดของวีซ่าเชงเก้นแทน...ถ้ารู้แล้วว่าจะไปเที่ยวไหนเราก็จะรู้ว่าเราควรทำวีซ่าเชงเก้นของประเทศใด แต่ความยุ่งยากก็เข้ามาอีกเมื่อเราไปเที่ยวหลายประเทศจัด! ทำไมหละ?

“สมมติว่าอยากไปเที่ยวทริปสวิส อิตาลี ฝรั่งเศษ สัก 14 วัน แล้วเราควรทำวีซ่าของประเทศไหน?”

ให้เราไปทำของประเทศที่เราไปพักมากที่สุด หากไปเที่ยวอิตาลีเป็นประเทศแรก 4 วัน ถัดมาเป็นสวิส 4 วัน และฝรั่งเศษ 6 วัน ให้ไปขอวีซ่าฝรั่งเศษ
ถ้าไปเที่ยวอิตาลีเป็นประเทศแรก 5 วัน ถัดมาเป็นสวิส 5 วัน และฝรั่งเศษ 4 วัน ดันมีประเทศที่พักมากที่สุด 2 ประเทศ ให้เรายึดประเทศแรกที่เราไปถึง ดังนั้นกรณีต้องไปทำที่สถานฑูตอิตาลี
พอรู้แล้วว่าจะต้องไปขอวีซ่าของประเทศไหน ก็ Search เลยว่าสถานฑูตประเทศไหนใช้เอเจนซี่หรือตัวแทนขอวีซ่าใด ซึ่งสถานฑูตทั้งหลายจะไม่ค่อยรับทำวีซ่าโดยตรงต้องผ่านเอเจนซี่ โดยเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ก็ใช้บริการไปค่ะ สะดวก ไม่ต้องไปรอขอเอง เพราะวันหนึ่งสถานฑูตรับเอกสารโดยตรงไม่เยอะ เสียเวลาเปล่าๆ ต้องเสียเงินเท่านั้น ฮ่าๆ
เมื่อรู้แล้วที่เป็นเอเจนซี่ใดก็ทำการจองคิวนัดส่งเอกสารเลย วันนัดควรไปทุกคนนะคะ เผื่อมีเซ็นเอกสารเพิ่มเติม และสแกนลายนิ้วมือสำหรับคนที่ยังไม่เคยสแกนหรือสแกนครบ 5 ปีแล้ว
หลังจากแพลนคร่าวๆ รู้ว่าไปเที่ยวไหน ขอกับเอเจนซี่ใดก็มาเตรียมเอกสารการขอวีซ่าเชงเก้นว่าต้องใช้อะไรบ้าง โดยหลักๆ แล้วมีดังนี้
สิ่งที่ควรมีอย่างแรกคือพาสปอร์ต

  1. เล่มพาสปอร์ต
  2. รูปถ่าย(ตามสถานฑูตกำหนด)
  3. ใบรับรองการเรียน หรือ ใบรับรองการทำงาน ภาษาอังกฤษ
  4. ใบรับรองทางการเงิน (แสดงจำนวนเงินในบัญชีของเราเป็นสกุลเงินประเทศที่จะไป)
  5. ใบสมัครขอทำวีซ่า
  6. ใบยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน
  7. ใบยืนยันการจองโรงแรม
  8. เอกสารอธิบายการเดินทางตั้งแต่ต้นจนกลับไทย
  9. ประกันการเดินทาง
  10. สำเนาทั้งหลาย
ข้อ 1 ทุกคนต้องมีอยู่แล้ว และห้ามลืมเอาไปยื่นเอกสาร พาสปอร์ตนะคะ
ข้อ 2 รูปถ่าย เราก็ต้องไปถ่ายรูปขนาดและสีพื้นหลังตามที่สถานฑูตกำหนด โดยแต่ละสถานฑูตจะใช้ขนาดไม่เหมือนกัน ดูด้วยนะคะ
ข้อ 3 ใบรับรอง สามารถขอที่โรงเรียนหรือบริษัทที่ทำงานอยู่ได้เลยค่ะ ถ้าใครไม่ได้ทำงานบริษัทเป็นเจ้าของธุรกิจก็ต้องมีใบรับรองเป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วน ถ้าไม่มีงานทำเพิ่งจบ ถ้าจำไม่ผิดก็ต้องมีคนรับรองให้ เช่น ผู้ปกครองตัวเอง หรือไม่ได้ทำงานแต่ที่บ้านมีกิจการบริษัท ให้ที่บ้านรับรองว่าเราทำตำแหน่งพนักงานก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ยุ่งยากในการตรวจสอบ โดยเอกสารรับรองเป็นภาษาอังกฤษค่ะ
ข้อ 4 ใบรับรองทางการเงิน ข้อนี้สำคัญ เราควรมีเงินในบัญชีให้พอต่อการไปเที่ยวครั้งนี้ อย่างไรหล่ะ คิดแบบนี้....ถ้าเราจะไปเที่ยวฝรั่งเศษ 10 วัน คิดเผื่อไปเลยเราต้องมีเงินเที่ยววันละ 10,000 บาท 10 วัน 100,000 บาท ดังนั้นต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย 1 แสนบาท โดยที่เงินเที่ยวแต่ละวันอาจไม่ใช่ 1 หมื่น จะแล้วแต่เงื่อนไขสถานฑูตกำหนดนะ สำหรับเราไม่ควรจะมีพอดีเป๊ะๆ ที่เขากำหนดมา แต่ควรเกินไปเยอะๆ เลย เพราะทำให้เห็นว่าเรามีเงินพอไม่หนีเข้าเมืองเขาแน่นอน อย่างน้อย 2-3 แสน น่าจะโอเคกว่า ยิ่งเยอะยิ่งดี
ข้อ 5 ใบสมัครขอทำวีซ่า กรอกข้อมูลส่วนตัวและไปเดินทางตามช่อง หาตัวอย่างการกรอกตามกูเกิ้ลได้เลย
ข้อ 6 ใบยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน ใบแสดงการจองตั๋วเครื่องบินที่มี Status Confirm แล้ว ซึ่งปกติคือต้องจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว สำหรับซื้อตั๋วออนไลน์ อันนี้แล้วแต่ว่าเราหาซื้อตั๋วจากบริษัทไหน บางบริษัทซื้อแล้วซื้อเลยถ้าไม่ผ่านวีซ่าเสียตังค์ฟรี แต่บางที่ถ้าไม่ผ่านมีคืนเงิน ดูเงื่อนไขด้วยนะคะ
ข้อ 7 ใบยืนยันการจองโรงแรม ให้เราจองกับเว็บจองโรงแรมเช่น Agoda หรือ Booking จองเสร็จเราก็จะได้ใบจองมาทางอีเมล์ ใบนั้นหละค่ะ โดยในใบจองควรมีชื่อผู้เดินทางทุกคนที่ไปด้วยนะคะ(อย่างสถานฑูตสวิสจะไม่ให้ผ่าน ถ้าไม่มีชื่อผู้ขอวีซ่าในใบจองโรงแรม) หากจะต้องไปพัก 10 โรงแรมก็ต้องมีใบจองและชื่อผู้เข้าพักให้ครบทั้ง 10 ใบนะคะ เป็นภาษาอังกฤษ
ข้อ 8 เอกสารอธิบายการเดินทางตั้งแต่ต้นจนกลับไทย คืออะไรหว่าาา....เป็นเอกสารที่เราเขียนขึ้นมาเองเลยว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางไปเที่ยวจากไทย...ไป...กลับที่ประเทศ...ถึง ไทย เดินทางไปอยู่ในเขตเชงเก้นเป็นเวลากี่วัน ทำไมถึงอยากเดินทางไปเที่ยว ก็บอกไปว่าอยากเปิดประสบการณ์ อยากเที่ยว พักผ่อน เยี่ยมญาติ หรืออะไรก็ว่าไป อธิบายให้ดูว่าเราตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ อธิบายเสร็จเขียนเลยว่าแต่ละวันเราจะไปที่ประเทศไหนและพักที่ไหน เช่น
15 May 2017 Depart from Suvarnabhumi Int Airport, - arrive at Vienna Int Airport
16 May 2017 - stay at Best Western Plus Amedia Hotel Wien Vienna, Austria
.
.
เขียนใส่ Word หรือ Excel เป็นตารางแยกวัน ประเทศ เมือง ไปเลยก็ได้ สำหรับบางคนทำแพลนมาอย่างสวยงามอยากโชว์คนตรวจเอกสารก็เอาแพลนเราแนบไปด้วยอีกทีก็ได้ค่ะ เพราะเราทำทุกครั้ง ฮ่าๆ อุตส่าห์ทำมาแล้ว
ข้อ 9 เราต้องไปซื้อประกันเดินทางจากบริษัทที่ทางสถานฑูตกำหนด ก็เป็นบริษัทที่ได้มาตรฐานทั่วไปเลย ลองดูรายชื่อก่อนแล้วค่อยซื้อนะคะ ของเราปกติซื้อของ MSIG ดูวงเงินประกันด้วยอย่างต่ำต้อง 2 ล้านบาท ค่าประกันแบบถูกๆ ก็ 500 กว่าบาทตามเงื่อนไขประกันค่ะ
ข้อ 10 ตามที่สถานฑูตต้องการเลยค่ะ ถ้าใครเคยไปยุโรปมาก่อนแล้วสแกนนิ้วอายุไม่เกิน 5 ปี ก็ copy หน้าวีซ่าเชงเก้นเก่าที่มีตัวอักษร VIS มาด้วย จะได้ไม่ต้องรอสแกนอีกรอบ
ทุกอย่างให้ปริ๊นออกมาแล้วก็จัดเรียงให้เรียบร้อย สำหรับเอกสารอื่นๆ ก็ตามที่สถานฑูตขอเลยค่ะ ลิสต์ออกมาแล้วเช็คให้เรียบร้อยเตรียมยื่นตามเวลาที่นัดไว้กับเอเจนซี่
ปกติเขาจะบอกว่าผลออกภายใน 1 สัปดาห์ แต่ที่เคยทำมา 3-4 วันก็มี Message เข้ามือถือบอกจะส่งพาสปอร์ตกลับมาที่บ้านแล้ว เร็วมาก เมื่อได้วีซ่าแล้วก็รอเที่ยวได้เลยยยย!!

คราวหน้าจะมาเล่าวิธีเที่ยวในยุโรปที่ถูกต้อง ราคาถูกและสนุก ติดตามกันน้าา :)

สำหรับการติดตามเรื่องเที่ยว เราจะเล่าอะไรบ้าง เข้าไปที่



Create Date : 22 เมษายน 2560
Last Update : 24 สิงหาคม 2560 15:32:55 น.
Counter : 913 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

rachelangie
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ชอบเที่ยว
ชอบกิน
ชอบถ่ายรูป
ชอบเล่าเรื่อง
เมษายน 2560

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30