ฉันเคยได้ยินมาว่าคนญี่ปุ่นชอบกินปลาดิบ ปลาดิบหรือ ฟังแล้วก็นึกไม่ออกว่าจะกินเข้าไปได้อย่างไร ฉันไม่ค่อยสันทัดกับอาหารดิบดิบสักเท่าไหร่ จำได้รางราง ว่าอ่านหนังสือเรื่องเฒ่าผจญทะเลของ เออเนสต์ เฮ็มมิงเวย์ ตัวเอกของเรื่องออกไปหาปลาในทะเลแล้วอาหารที่เค๊ากินก็คือปลาที่เขาจับได้ กัดปลาที่จับได้กินสดสดอ่า... ตอนนั้นฉันอ่านไปนึกภาพตาม มันกินได้เหรือ คำถามนี้ผุดขึ้นมาในความคิด จนกระทั่งฉันได้พบกับเพื่อนคนญี่ปุ่นคนนึง เขาให้ฉันลองกินชิมปลาหมึกสดสดในครั้งแรก ตอนแรกก็ไม่คิดอยากจะลองนะแต่ว่าด้วยความที่ตัวเองเป็นคนขี้เกรงใจ เห็นเพื่อนฉันตั้งใจ อยากให้ชิมนักชิมหนา เอาละว้า ฉันตัดสินใจใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาหมึกผ่าเป็นริ้วริ้วเส้นสีขาวนั่น จิ้มกับซีอิ๊วญี่ปุ่นใส่วาซาบิสีเขียว ด้วยความที่เราไม่เคยกินมาก่อน ความฉุนของวาซาบิ ขึ้นจี๊ดผ่านจมูกสู่ตาอย่างรวดเร็ว ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตายหายใจไม่ออก น้ำตาไหลพราก นั่นเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้ชิมปลาหมึกดิบ ถึงแม้จะรู้สึกฉุนในครั้งแรก ครั้งต่อมาฉันเพิ่มสติในการกินใส่วาซาบิโดยใส่วาซาบิให้มันน้อยลง ไม่นานนักฉันก็ทั้งหลงไหลในรสชาติของวาซาบิ และปลาดิบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลายคนคงรุ้จักชูชิกันแล้ว ซูชิเป็นข้าวสวยที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู ปั้นเป็นก้อนกลมกลมรีรี ข้างบนจะวางด้วยปลาสด เนื้อดิบ หอย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คนปรุงจะประดิษฐ์หรือคิดรูปแบบขึ้นมา เท่าที่เคยเห็นก็จะมีอย่างเช่น ซูชิปลาแซลม่อน ปลาทูน่า หน้าไข่หอยเม่น เป็นต้น ร้านซูชิมีอยู่มากมายเต็มไปหมดเรียกได้ว่ามีแทบจะทุกซอยก็ว่าได้ สมัยก่อนร้านชุชิในญี่ปุ่นก็จะเป็นลักษณะที่ ลูกค้าเข้ามานั่งล้อมรอบคนปรุง แล้วก็สั่งซูชิชนิดที่ตัวเองอยากกิน คนทำซูชิ ก็จะจัดการทำให้ตามที่ลูกค้าต้องการ แต่โดยธรรมชาติของคนญี่ปุ่นก็จะขี้เกรงใจมาก เลยมีคนคิดจะนำสายพานมา มาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า ลูกค้าสามารถหยิบอาหารที่ต้องการจะกินได้จากสายพานที่ลำเลียงจานซูชิหลากรูปแบบ ราคาก็แยกไปตามสีของจาน และสามารถเลือกหยิบทานได้ตามใจ และสะดวก ร้านซูชิแบบนี้เลยเป็นที่นิยมมากจนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน ตอนนี้ฉันเข้ามาอยู่ที่ร้านซูชิหมุนแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กเล็กที่ฉันอาศัยอยู่ พอเข้ามาพนักงานนำผ้าอุ่นอุ่นมาวางไว้ให้ คนใกล้ตัวฉันหยิบแก้วน้ำชามาจัดการใส่ผงชาเขียวลงไป กดน้ำร้อนผสมลงไปผสม รสชาติของชาเขียว ขมเฝื่อนฝาด นิดหน่อยแต่ สร้างความอบอุ่นทั้งใจและทั้งกาย เขาสั่งซูชิที่มีอยู่ในเมนูให้กับทุกคน แต่ฉันพอใจที่จะเลือกกินจากสายพานที่หมุนเบื้องหน้านั่นมากกว่า ฉันว่ามันตื่นเต้นดีนะที่จะคอยนั่งมองว่าจะซูชิแบบไหนออกมาบ้าง ฉันกินซูชิพร้อมคีบขิงดองในขวดโหลที่เจ้าหน้าที่ตั้งเตรียมไว้ให้พี่โต๊ะพร้อมสรรพ คนญี่ปุ่นเชื่อว่ากินขิงดองสุขภาพจะดี ฉันหยิบโหลแก้วขิงดองส่งให้คนกับทุกคน ฉันถ่ายรูปไปเรื่อยเรื่อย คนทำซูชิ หันมามองฉัน คงสงสัยว่าฉันจะถ่ายรูปมากมายนั่นไปเพื่ออะไร ฉันแอบถ่ายรูปพวกเขามาหลายใบ ฉันว่าเขามีเสน่ห์ ผู้ชายทำอาหารเก่งเก่งนี่น่าหลงไหลจะตายว่ามั๊ย ทานซูชิจนอิ่มจนพุงกาง แต่ฉันก็ยังไม่หยุด เริ่มมองหาอาหารหวาน มีสัปปะรด เยลลี่ ขนมเค้ก ฉันหยิบเยลลี่นุ่มนุ่มลื่นลื่นให้คนที่ฉันรัก ท่าทางเขาจะดีใจมาก กินจนเกลี้ยงถ้วย วันนี้อิ่มจนเดินแทบไม่ไหวแถมไม่ต้องจ่ายตังค์เลยสักนิดขอบคุณคนใจดีที่เลี้ยงค่ะ แล้วพบกันใหม่บล๊อกหน้านะค๊ะ... เขียนวันที่ 24 ตุลาคม 2552 Oct 2009 |