ไม่รู้หมู่หรือจ่า
Group Blog
 
 
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
ตลุยลอนดอนต่อ

ล่องเรือชมวิว

วันนี้ตอนเที่ยงได้เวลาอาหาร ที่จริงจะต้องไปกินในร้านทีมีชื่อของที่นี่ แต่ต้องการเวลาไปเที่ยวต่อก็เลยหากินที่ร้านข้างทาง มันเป็นอาหารคนจนครับ ฟิชแอนชิป ก็คือปลาชุบแป้งทอดกับมันฝรั่งหั่นเป็นรูปเรือ ราดด้วยซอดมะเขือเทศ ซื้อมานั่งกิน แบ่งนกกินบ้างคนกินบ้าง ที่นี่มีนกนางนวลชอบมาแย่งอาหารนกพิราบ ผมโยนเนื้อปลาขึ้นฟ้า มันยังโฉบมารับได้เลยครับ



รอไกด์ซื้อตั๊วลงเรือก่อนครับ ลืมแนะนำตั้วไกด์ครับ ชื่อคุณวีระชัย อนุวรกาญจน์ เขาบอกว่าเคยทำสารคดีแนะนำบ่อน้ำร้อนของญี่ปุ่นให้ช่อง5 ทำให้คนแห่ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันยกใหญ่เลยครับ และเคยถ่ายภาพให้นิตยสารหลายฉบับ เผื่อใครจะเคยรู้จัก แต่ผมเพิ่งรู้จัท่านที่นี่เองครับ



ลงเรือลำนี่ครับ ลงได้ก็ขึ้นไปจองที่ชั้นสองครับจะได้ชมวิวชัดๆ มีไกด์ฝรั่งแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแต่ฟังไม่ออกสักคำ ได้แต่ถ่ายรูปครับ



วันนี่แดดแรงมากครับดูจากตาผมครับ ลืมแทบไม่ขึ้นเลยครับ อุณหภูมิวันนี่ 18 องศา เขาบอกว่าอุ่นที่สุดในรอบปี





รอดใต้สะพานหลายสะพานมากเลยครับ แต่สะพานนี่พรุ่งนี้จะได้เดินผ่านครับ











แคปซูนจะถูกถอดออกไปซ่อมบำรุง ทำความสอาด เดือนละลูกครับ ก็เลยเห็นว่ามันหายไปลูกหนึ่งตลอดทั้งปี


ไกด์เล่าว่าตอนติดตั้งลอนดอนอาย เขาประกอบกับพื้นแล้วใช้สลิงดึงให้ค่อยๆขึ้น ให้เวลาอยู่ 2 วัน 2 คืนครับ



ภาพพิพิธภัณฑ์ครับ



ได้ขึ้นลอนดอนอายตอนประมาณ 6โมงเย็นเห็นแสงไฟรอบลอนดอนเลยครับ



ภาพนี้ผมชอบ ถึงจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ไม่มีขาตั้งกล้องไปด้วยได้เท่านี้ก็ดีแล้ว



ไกด์บอกว่าลอนดอนอายเขาสร้างเพื่อฉลองปี 2000 แล้วก็จะรื้อลง แต่ทุกวันนี้ยังอยู่ สร้่่างรายได้จำนวนมากครับ ค่าขึ้นคนละ 16 ปอนด์ มีแคปซูน ทั้งหมด 32 ลูกๆหนึ่งจุคนได้ 20คน รอบหนึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาทีคิดดูครับว่าชั่วโมงหนึ่งเป็นเงินเท่าไหร่ ประมาณ 30,720ปอนด์ต่อชั่วโมง หรือเท่ากับ 1,536,000 บาทครับ ยังไม่รวมขายภาพ ที่ถ่ายจากกล้องที่ติดอยู่ที่เสาอีก รูปละ 5ปอนด์ ผมก็ซื้อมาครับ



วันนี้จบด้วยภาพเท่ๆ



Create Date : 22 มีนาคม 2555
Last Update : 23 มีนาคม 2555 13:35:01 น. 8 comments
Counter : 1109 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่


ฟ้าวันที่พี่ไป
สวยมากเลยนะครับ
ส่วนใหญ่จะเห็นแต่ภาพฟ้าหม่นๆ
เพราะมีแต่คนบอกว่าลอนดอนไม่ค่อยมีแดด มีแต่ฝนน่ะครับ










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:6:33:50 น.  

 
ครับ เมื่อวานตอนเย็นยังมีเมฆฝนเต็มฟ้าอยู่เลยครับมีฝนตกเล็กน้อย แต่พออีกวันอย่างที่เห็น ฟ้าใสกิกเลยครับ


โดย: จิรโรจน์ วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:13:33:18 น.  

 
ส่งกำลังใจให้นะครับพี่
หลายครั้งในชีวิต
ที่บางอย่างไม่เป็นไปอย่างใจ
ยังไงก็ขอให้สิ่งดีดีผ่านเข้ามาในเร็ววันนะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:15:52:01 น.  

 
คุณก๋าเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมหรือไม่
เชื่อเรื่องการฆ่าสัตว์เป็นบาป
แล้วจะได้รับผลกรรมตามสนองหรือไม่
แล้วคนที่บงการฆ่าจะได้รับผลกรรมเหมือนคนฆ่าหรือไม่
แล้วทำไม่เจ้าของบริษัทฆ่าไก่วันๆเป็นหมื่นเป็นแสนตัวกลับรวยเอาๆ

ผมเคยตั้งคำถามนี้กับหลายต่อหลายคน
ก็ตอบว่ากรรมมันยังตามมาไม่ทัน
นี่เขาก็อายุมากจนจะหมดอายุขัยไปเองแล้ว
กรรมยังมาไม่ถึงอีก คงจะทันในชาติหน้าหรือ
แล้วจะเชื่อได้อย่างไรว่ากรรมจะตามทัน
ชาติหน้าจะมีจริงหรือเปล่าเราก็ไม่รู้

ที่เขาบอกว่ากรรมส่วนกรรม บุญส่วนบุญ
ผมคิดว่ากรรมมันน่าจะตามทันนานแล้วนะ
เพราะไก่ก็ตายมาเป็นล้านๆตัวแล้ว




คำถามโดย : พี่จิรโรจน์
วันที่ : 22 มีนาคม 2555
เวลา : 18:44:04 น.




......................................




ผมเชื่อเรื่อง “กรรม” ครับพี่


กรรมที่แปลว่า การกระทำ
การกระทำอันเกิดมาจากความคิด
คิดซ้ำๆนำไปสู่การพูด
พูดซ้ำๆนำไปสู่การกระทำ
กระทำซ้ำๆนำไปสู่ความเคยชิน

เจ้า “ความเคยชิน” นี้เอง
ที่กลายมาเป็นสันดานหรือ “กรรม” ของตัวเรา

ความเคยชินนี้จะสร้าง “ตัวตน” ของเราขึ้นมา
ทำให้คนๆหนึ่งมีบุคลิก ลักษณะ วิธีคิด คำพูดคำจา
ท่าทาง ทัศนคติ อารมณ์ ฯลฯ
ที่แสดงออกมาแตกต่างกัน



.............................




ผมเชื่อเรื่อง “บาป” และ “บุญ” ครับพี่

“บาป” ในความหมายของผมคือสิ่งที่ทำแล้วทุกข์ใจ
หงุดหงิดใจ ขุ่นเคืองใจ ไม่เป็นไปตามที่ปรารถนา

“บุญ” คือ ความสุขใจ ความโล่งใจ สบายใจ อิ่มเอมใจ



สังเกตดูจากคำ
ทั้งบาปและบุญเกี่ยวข้องกับ “ใจ”

“ใจ” ในความหมายของผม
ไม่ได้แต่ว่าความรู้สึกหรือหัวใจ
แต่แปลว่า “จิต” หรือ “ความคิด”


ทั้งบาปและบุญเกิดจาก “ความคิด”
ความคิดเกิดจาก “กรรม”


เมื่อเราทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดลงไป
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี
ไม่ว่าจะเป็นบุญหรือบาป
สิ่งนั้นเกิดมาจากการกระทำ
การกระทำหรือกรรมเกิดมาจากความเคยชิน
ความเคยชินนี้เกิดจาก “ความคิด”


“ความคิด” เป็นตัวสั่งให้เราทำสิ่งต่างๆ
ไปตาม “ความเคยชิน”




..................................




เวลาเราทำสิ่งไม่ดี
จิตใจเราจะหดหู่ หมองมัว
ที่ชอบบอกว่าช่วงนี้ดวงตก
ผมไม่ได้มองเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ
แต่มองเป็นเรื่องปกติธรรมดา
เราทำอะไรไม่สำเร็จ ผิดพลาด ล้มเหลว
มันเกิดมาจากทัศนคติที่เรามีกับตัวเราเอง
พูดให้ง่ายเข้า ช่วงไหนที่จิตใจหดหู่หมองมัว
สิ่งที่เราอยากจะทำหรือปรารถนา
มันจะล้มเหลวตั้งแต่อยู่ใน “ความคิด” ของเราอยู่ก่อนแล้ว
พอลงมือทำ ก็ล้มเหลวทันทีตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น

“กรรมเก่า” หรือ “เจ้ากรรมนายเวร” สำหรับผม
คือสิ่งต่างๆที่เรากระทำไว้ทั้งกับตนเองและผู้อื่น
ตลอดจนสัตว์โลกทั้งหลาย


เมื่อเราได้ทำสิ่งนั้นลงไปไม่ว่าจะเป็นสิ่งดีหรือสิ่งเลว


สมองจะทำหน้าที่บันทึกความจำ
เก็บเอาไว้ใน “จิต” หรือ “ความคิด” ของเรา
สะสมไปเรื่อยๆ กระทำไปเรื่อย พูดไปเรื่อยๆ
ซ้ำๆ ย้ำๆ มันจะกลายเป็นความเคยชิน

เจ้าความเคยชินนี้เองที่วันหนึ่งวันใด
มันจะ “ส่งผล” ย้อนกลับมาหาเราในรูปแบบของ “กรรม”




......................................




ส่วนกรรมจะตอบสนองช้าหรือเร็ว
รุนแรงหรือบางเบานั้น

ผมมองเป็นเรื่องของเหตุและปัจจัย
มันไม่มีเรื่องของดวง โชคชะตา ปาฏิหาริย์
หรือพรหมลิขิตเข้ามาเกี่ยวข้องเลย

มีแต่เรื่องของ “เหตุ” และ “ปัจจัย” ล้วนๆ....


กรรมเก่า-กรรมใหม่
ก็เหมือนเราปลูกต้นไม้สองต้นพร้อมกัน
ในดินแปลงเดียวกัน ใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน
ดูแลเอาใจใส่เท่าๆกัน
แต่ทำไมต้นหนึ่งกลับโตเร็วและให้ดอกออกผลมากมาย
ขณะเดียวกันอีกต้นหนึ่งอาจเหี่ยวเฉาแคระแกรน
และตายไปในที่สุด



ดินดี แดดดี ปุ๋ยดี ดูแลดี
เป็นเพียงเหตุปัจจัย
แต่สิ่งที่จะตอบสนองเหตุและปัจจัยนั้น คือ “เมล็ดพันธุ์”

เมล็ดพันธุ์ที่ดูดีและเหมือนกัน
แต่ข้างในมันแตกต่างกัน

เปรียบเสมือนคนบางคน
ทำไมทำอาชีพที่ดูแล้วก่อให้เกิดกรรมมากมาย
อย่างเช่น ขายเหล้า ฆ่าสัตว์ ขายยาเสพติด
เป็นนักการเมืองที่โกงชาติโกงเมือง หรือค้าประเวณี
กลับได้ดี เจริญรุ่งเรือง รวยเอาๆโดยไม่มีท่าทีว่าจะตกต่ำดำดิ่งเลย



นั่นเป็นเพราะกรรมยังไม่ส่งผล


เปรียบเทียบง่ายๆนะครับพี่

ตัวเราเหมือนแอ่งน้ำ บ่อน้ำ แม่น้ำ และมหาสมุทร
กรรมที่เรากระทำเหมือนยาพิษ

ในขนาดยาพิษที่เท่าๆกัน
เราหยดลงในแอ่งน้ำ บ่อน้ำ แม่น้ำ และมหาสมุทร
ย่อมให้ผลที่ต่างกัน


คนบางคนในช่วงชีวิตนี้เหมือนกับมหาสมุทร
ไม่ว่าเขาทำกรรมร้ายเพียงใด
ก็ดูเหมือนจะยังได้ดีมีสุข
นั่นเป็นเพราะกรรมยังไม่ตามสนอง

แล้วกรรมจะตามสนองหรือไม่....


จิตใจของคนเรานั้นเหมือนกับทะเล
ที่ถูกแดดแผดเผาอยู่ทุกวันๆ
มหาสมุทรสุดหยั่งที่ถูกแดดเผาทุกวัน
น้ำย่อมเหือดระเหยไปทีละน้อยๆ
วันหนึ่งมหาสมุทรอาจจะกลายเป็นแอ่งน้ำได้
และเมื่อนั้นพิษหยดเดียวที่หยดลงไป
ก็จะทำให้เจ้าของกรรมนั้น
ต้องรับผลแห่งวิบากกรรมนั้นนั่นเอง....



......................................




สิ่งใดที่เราทำลงไป
สิ่งนั้นถูกบันทึกไว้ในจิตของเรา
จะโดยที่เรารู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม
จะโดยที่เราสำนึกได้หรือไม่รู้สำนึกก็ตาม

วันหนึ่ง --- สิ่งที่เราทำลงไป
มันจะแสดงผลออกมา

ถ้าเราทำดี เราย่อมได้รับผลตอบแทนที่ดี
ถ้าเราทำชั่ว กรรมชั่วนั้นย่อมตอบสนอง

ช้าหรือเร็ว เร็วหรือช้า
ไม่ใช่ประเด็น
เพราะสิ่งที่ถูกบันทึกเอาไว้แล้ว
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
และไม่ว่าใครก็หนีผลกรรมของตนเองไม่พ้น



.........................................





แรงกรรม แรงอาฆาตนั้นมีจริง
แต่มันเหมือนเรื่องของ “ยาพิษ” ที่ผมอธิบายไปแล้วข้างต้น
ต่อให้มีแรงกรรมเป็นล้าน
ถ้าเจ้าตัวเขายังมีฐานบุญเก่าที่ทำไว้สั่งสมไว้
แล้วมันมากมายมหาศาลราวมหาสมุทร
แรงอาฆาตและเวรกรรมเหล่านี้
ย่อมยังไม่ส่งผล
แต่ใช่ว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีแน่ครับ เพียงแต่เมื่อไหร่เท่านั้นเอง




......................................




ผมเคยชอบรังแกปลาช่อนแม่ลูกอ่อนตอนที่ผมเป็นเด็กๆ
ชอบใช้ก้อนดินปั้นเป็นกระสุนแล้วยิงด้วยหนังสติ๊กไม้
ปลาช่อนหลายตัวหัวแตกและตายไป
ผมหัวเราะชอบใจด้วยความสนุกสนานคึกคะนอง

วันหนึ่งผมเดินไปที่คลองหลังบ้าน
หยิบหนังสติ๊กคู่ใจออกมาเตรียมพร้อมที่จะยิง

หลังจากมองเห็นเจ้าปลาผู้โชคร้ายว่ายผ่านมาพร้อมกับฝูงลูกของมัน
ผมเงื้อมือขึ้นเตรียมยิง
แต่แล้วหนังสติ๊กก็หลุดมือ พุ่งเข้าชนริมฝีปากผมเต็มแรง
เลือดสดๆไหลทะลักเต็มปาก...

แม่รีบพาผมไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลในทันที
รอยแผลเป็นอยู่เหนือริมฝีปากของผมยาวนานหลายปี
เตือนใจให้ผมรู้ถึงเรื่องของกรรมเวร


เราทำสิ่งใดไว้
สิ่งนั้นจะกลับมาย้อนย้ำเสมอ
ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ตามที



....................................





ผมเชื่อเรื่อง “กรรม” ครับพี่


กรรมที่แปลว่า การกระทำ
การกระทำอันเกิดมาจากความคิด
คิดซ้ำๆนำไปสู่การพูด
พูดซ้ำๆนำไปสู่การกระทำ
กระทำซ้ำๆนำไปสู่ความเคยชิน

เจ้า “ความเคยชิน” นี้เอง
ที่กลายมาเป็นสันดานหรือ “กรรม” ของตัวเรา


“กรรมเก่า” หรือ “เจ้ากรรมนายเวร”
จึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วยการแก้กรรมทำพิธี
เราไม่อาจเปลี่ยนชะตาชีวิตด้วยการเปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนลายเซ็น
เราเปลี่ยนสิ่งที่เราเคยทำไว้ในอดีตไม่ได้

แต่เราแก้ไขปรับปรุงตัว ปรับเปลี่ยนความคิดที่มีในปัจจุบัน
เพื่อทำให้อนาคตของเราเป็นอนาคตที่ดีได้


เราสร้างกรรมดีขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพื่อชดเชยกรรมชั่วที่สร้างทำ

กรรมดีส่วนกรรมดี กรรมชั่วส่วนกรรมชั่ว
กรรมเก่า กรรมใหม่ เกิดขึ้นต่างกรรมต่างวาระ

ที่สุดแล้วให้เรากลับมาอยู่กับปัจจุบัน
อยู่กับความจริงที่เกิดขึ้น


เราแก้ไขอดีตไม่ได้ ต่อให้ล่วงรู้ กรรมเก่าก็ไม่มีประโยชน์
ขอเพียงเราสร้างกรรมดีในนาทีนี้ วันนี้ และเดี๋ยวนี้

เราจะเปลี่ยนชะตาชีวิตของเราได้
เราทำมันได้ และต้องทำด้วยตัวเราเอง


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:22:55:54 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2555 เวลา:6:24:03 น.  

 
โรงเรียนทางเลือกเองก็มีปัญหาครับพี่
เพียงแต่ที่ต้นกล้านี่
ปัญหาน้อยมากครับ

โดยรวมแล้วถือเป็น รร.ในฝันของผมเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2555 เวลา:11:07:30 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:6:29:24 น.  

 
สำหรับบางคน
เขามองว่าการฆ่าสัตว์คืออาชีพ
การค้ากามคืออาชีพ
การค้ายาเสพติดคืออาชีพ

อาชีพคือเงิน
เงินคือความสุข

เพราะฉะนั้นเมื่อเราเอาความรวยเป็นฐานที่ตั้งแห่งการงาน
จะบาปกรรมแค่ไหนเขาคงไม่สน

แต่ถึงเขาไม่สน
กรรมาเวรก็มีจริงแน่นอนครับพี่




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:21:04:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จิรโรจน์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ผมเป็นคนดีครับ
Friends' blogs
[Add จิรโรจน์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.