ปาย..วันฝนพรำ การตามรอยความ่ทรงจำ และความฝันที่ยังต้องค้นหาต่อไป
ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของปาย ทำให้หลายๆคนอาจเกิดอาการเบื่อหน่ายเมืองๆนี้ ยิ่งกว่านั้นบางท่านที่ผมเคยเห็นโพสให้ความเห็นในพันทิปถึงกับต่อต้านปายอย่างรุนแรง แม้แต่ตัวผมเองเวลามีเพื่อนๆ มาขอความเห็นเรื่องไปเที่ยวปาย ผมมักบอกว่าไปช้าไป 7 ปีแล้วหล่ะ ตอนนี้ปายเปลี่ยนไปแล้ว แต่จริงๆลึกๆแล้วผมไม่เคยลืมเมืองนี้ได้เลย วันนึงผมตัดสินใจเดินทางย้อนรอยความทรงจำไปปายอีกครั้ง หลังจากที่ได้ไปครั้งแรกเมื่อ 7 ปีก่อน ผมคิดว่านี่คงเป็นการไปปายเป็นครั้งสุดท้ายของผมแล้วครับผมเดินทางโดยเครื่องบิน ถึงสนามบิน เชียงใหม่ ตอนเช้า ประมาณ 9.00 น ปรากฏว่าเมื่อคีนก่อนไปมีฝนตกหนัก ทำให้เกิดมีหมอกอย่างในรูปครับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเชียงใหม่ร้อนมากๆบรรยากาศบริเวณลานบินตอนเช้าผมเช่ารถขับจากสนามบิน ไปทางแม่ริม เมื่อถึงทางแยกแม่มาลัยก็เลี้ยวซ้ายตามป้ายไปปายครับ นี่คือเส้นทางที่ผมเจอ ทางทอดยาวไปจนถึงภูเขาข้างหน้า ผมเริ่มรู้สึกถึงการเริ่มต้นเดินทางแล้วในตอนนี้รูปนี้ขอลงเอาไว้ เพราะเป็นร้านกาแฟร้านแรกที่เจอ และหลังจากได้แวะกินกาแฟมาหลายร้านตั้งแต่ริมทาง จนไปถึงที่ปาย ร้านเล็กๆที่ตกแต่งไม่สวยนี้หล่ะครับเป็นร้านที่ทำกาแฟได้อร่อยที่สุด นอกจากนั้นเค้กhomemade และกะหรี่ปั๊ปก็อร่อยมากด้านตรงข้ามของร้านเป็นทุ่งนาที่เริ่มออกรวงแล้วระหว่างทางไปปายผมต้องแปลกใจที่พบว่ามีหมอกอยู่มากทั้งๆที่สายแล้ว อากาศเย็นเหมือนหน้าหนาวครับ คงเป็นเพราะช่วงที่ไปมีมรสุมเข้าแถวภาคเหนือทำให้อากาศเย็นลงบางบริเวณหมอกหนาจนต้องขับช้ามากๆเลยครับต้นสนท่ามกลางหมอกขาวระหว่างทางใครที่เคยขับรถไปปายคงจะคุ้นกับเจ้าพวกนี้ดีนะครับหลังจากขับผ่านโค้งต่างๆมาเกือบพันโค้งมั๊ง สัญญาณแรกของปายที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตอนมาปายครั้งแรกคือ เมื่อลงจากโค้งบนเขามาแล้วก็จะพบกับภาพทุ่งนากับเขาด้านหลังเวลา 7 ปี เป็นเวลานานพอที่อะไรหลายๆอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป นานพอที่จะทำให้ความรักที่เคยสดใสจางหายจนหมดไป นานพอที่จะเปลี่ยนคนๆนึงไปได้อย่างสิ้นเชิง ผมสงสัยว่าผมจะเจอความเปลี่ยนแปลงอะไรรออยู่ที่ปายบ้างเมื่อขับมาอีกสักพัก ก็มาถึงสะพานประวัติศาสตร์ปายครับ เมื่อก่อนแถวนี้มีสะพานตั้งอยู่โดดเดี่ยว แต่ตอนนี้มีสิ่งปลูกสร้างหลายอย่างทั้งร้านกาแฟ บังกาโล และรีสอร์ทครับ รวมถึงบรรดาร้านที่นำของที่ระลึกเช่นเสื้อมาขาย หลายร้าน หรือว่านี่คือความเปลี่ยนแปลงแรกที่ผมได้เจอนะภาษาอังกฤษที่สะพานนี้เขียนว่า memorial bridge ครับ สะพานแห่งความทรงจำ สำหรับผมชื่อนี้อาจจะตรงกับความรู้สึกมากกว่า ผมยังเหลือความทรงจำเกี่ยวกับสะพานนี้อยู่พอควรร้านกาแฟนี้ครับ ที่อยู่บริเวณสะพาน ก็ดูน่ารักดีด้านหลังของที่นี่เป็นรีสอร์ท บุระลำปาย ครับ ห่างจากเมืองปาย 9 กิโล..ถ่ายจากบริเวณในร้านต่อจากนี้ไปไม่ไกล เราก็มาถึงที่นี่ครับ coffee in love ที่นี่เหมือนเป็น landmark ของปายไปซะแล้ว จุดเด่นคือตำแหน่งของร้านที่มองเห็นวิวได้กว้าง และการตกแต่งที่สวยดีสำหรับผมขออนุญาติบอกตามตรง ว่าผมไม่ได้ประทับใจอะไรกับที่นี่เท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะไม่ตรงกับความชอบของตัวเองหรือว่าที่นี่จะขาดสเน่ห์ของปายกันนะแต่เมื่อมาคิดดูแล้ว สิ่งที่ที่นี่ขาดคงเป็น ความทรงจำของผมล่ะมั๊งครับผมจึงต้องมาที่นี่ ในเมืองปาย สำหรับผมแล้วร้านกาแฟของปายต้องเป็นที่นี่เท่านั้นครับผมว่าที่นี่ยังดูเหมือนเดิมอยู่นะภายในร้านครับรูปภาพที่เด็กๆวาด เค้าเอามาโชว์อ่ะครับ วาดสวยกว่าเราอีกแฮะด้านบนครับออกไปเก็บภาพรอบๆกันบ้างครับผมมาสะดุดกับที่นี่ครับ ตอนแรกนึกว่าเป็นร้านกาแฟอีกร้านนึง แต่พอเดินไปถึงก็เป็นธนาคารครับอาจเป็นธนาคารที่สวยที่สุดในประเทศก็ได้ตอนบ่ายผมไปต่อที่วัดน้ำฮูครับที่วัดนี้ เป็นที่กล่าวถึงเพราะมีน้ำที่ออกมาเองจากเศียรของพระพุทธรูป ครับตอนเย็นผมไปที่ปายแคนยอนครับ ที่นี่ผมไม่เคยไปมาก่อนเพราะผมคิดว่าคงไม่ได้สวยอะไร 1 คือ เคยเห็นรูปมาบ้างแล้ว ไม่ค่อยมีอะไรนอกจากดิน 2 คือชื่อภาษาไทย กองแลน ไม่ค่อยน่าเชิญชวนให้ขึ้นไปดูเท่าไหร่ แต่นี่เป็นอีกบทเรียนสำหรับผม อย่าตัดสินอะไรหรือใครก่อนจะได้รู้จักจริงๆซะก่อนแสงสุดท้ายหลังจากพระอาทิตย์ตก (ผมไปไม่ทันเนื่องจากไม่ได้คิดว่าจะไปถ่ายรูปครับ พลาดไป0)อีกอารมณ์นึงหลังจากสิ้นแสงอาทิตย์ ผมคิดผิดไปอีกแล้วที่นี่สวยมากๆ ผมชอบมากครับภาพที่พักบ้างครับ จริงๆ ผมไปพักที่ the quaeter มี voucher 2 คืน แต่ผมอยู่ได้แค่คืนเดียวก็ตัดสินใจเปลี่ยนที่พัก โดยยอมทิ้งไป 1 คืนครับ กับความไม่ประทับใจหลายอย่างกับที่นี่ ทำให้ผมเปลี่ยนมาพักที่บุระลำปาย ในคืนต่อมาครับ บุระลำปายครับในห้องน้ำบริเวณระเบียงครับ ติดกับสระน้ำเมื่อถึงกลางคืนก็ถึงเวลาไปถนนคนเดินกันแล้วครับเริ่มต้นที่แยกปายหนาว อากาศหนาวนิดๆในวันนี้ แต่ทำไมบางครั้งรู้สึกว่าความหนาวมันแทรกซึมเข้าไปในใจได้แฮะร้านขายของที่ระลึกหลายร้านตั้งเรียงรายกัน เป็นอีกภาพที่คุ้นในความทรงจำของผมร้านนี้ขายกระเป๋า กับหมวกครับเก็บรูปตามร้านต่างๆต่อไปนะครับ รถแบบนี้จอดหลายคันครับ ส่วนใหญ่ขายของเล่นเด็กสมัยก่อนเดินไปเดินมา มาถึงธนาคารเดิมครับ ขออีกรูปละกันร้าน black canyon ในสไตน์เมืองปายชาที่ผมซื้อกลับมาด้วย เค้าบอกปลูกที่แม่ฮ่องสอนนะครับที่ขาดไม่ได้ของปายก็คือร้านขายโปสการ์ดกับเสื้อปายแล้วผมก็มาถึงร้านนี้ครับ ร้าน ปาย บ่ เปลี่ยนถ้าคิดถึงเก็บเงินครั้งละ 5 บาทจริง เมื่อเงินหมดก็คงหยุดคิดถึงได้เนอะ แต่หลายๆคนคงรู้ว่าบางครั้ง ความคิดถึงมันหยุดไม่ได้ความรู้สึกแรกของผมคือแอบไม่เห็นด้วยกับชื่อร้าน แน่นอนว่าปายเปลี่ยนไปแล้ว ปายมี 7-11 ถึง 3 ร้าน (ตอนที่ผมมายังไม่มีซักร้าน) ในหน้าหนาวมีวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง มีรีสอร์ทแข็งๆเกิดขึ้นจนนับไม่ไหว ร้านกาแฟแปลกๆใหม่ๆหลายร้าน แต่สิ่งที่สะกดใจผมมากที่สุดในทริปนี้คือ โปสการ์ด เล็กๆแผ่นนี้ครับผมกลับที่พักไปนอน ช่วยไม่ได้เลยที่ในคืนนั้นคำๆนี้วนเวียนอยุ่ในหัวผมซ้ำไปซ้ำมา ปายไม่เปลี่ยน แต่คนสิเปลี่ยน ให้ตายเถอะ ประโยคนี้มันเหมือนเจาะเข้ามาที่ผมตรงๆ ผมที่คอยบอกว่าปายเปลี่ยนไปหมดแล้ว น่าเสียดายที่จะไปเที่ยวในตอนนี้ จริงๆแล้วสิ่งที่เปลี่ยนไปคือตัวผมเอง ผมเปลี่ยนไปจาก 7 ปีที่แล้วอย่างมากมาย ผมทิ้งความฝันหลายอย่างเพื่อเดินหน้าในความเป็นจริงต่อไป ถ้าคนไม่เปลี่ยนไปผมคงกลับมาที่นี่ด้วยความรู้สึกเดิมๆได้ และทุกอย่างคงจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม คืนนั้นผมหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตอนเช้าผมตื่นขึ้นมาเพื่อไปห้วยน้ำดัง ทางยังคงมีหมอกเหมือนเดิมครับเช้านี้ผมมีความคิดใหม่เกิดขึ้น ผมเปลี่ยนความคิดเรื่องปายแล้ว ผมเชื่อว่าจิตวิญญาณของปายยังคงอยู่ แม้ว่าคนจะขนเอาความเปลี่ยนแปลงมากมาย จะสร้างรีสอร์ทอีกกี่หลัง ปายก็ยังคงเป็นปาย คนอย่างผมที่ถือว่าเป็นคนนึงที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นกับปาย ไม่ควรมีสิทธ์โทษเรื่องนี้ ผมมองย้อนไปถึงคำพูดที่เคยบอกคนอื่นๆรวมทั้งเพื่อนๆหลายคน บางครั้งผมถึงกับบอกว่าปายไม่ใช่ที่น่าไปอีกต่อไปแล้ว ถึงตอนนี้ถ้าใครถามผม คงต้องขอเอาคำนี้ไปบอกต่อ ปายไม่เปลี่ยน....คนสิเปลี่ยนไปเนื่องจากผมตื่นสายไปหน่อย ก่อนไปถึงห้วยน้ำดังแสงอาทิตย์ยามเช้าก็ไปถึงก่อนผมซะแล้วภาพห้วยน้ำดัง ในเช้าวันที่ผมตื่นสายครับภาพมุมกว้างของทะเลหมอกที่คงจะมีตอนหน้าหนาวครับ ตอนนี้พอเห็นได้บ้างที่พักของทางอุทยาน ผมชอบครับ ดูอบอุ่นดีเมื่อเก็บภาพสุดท้ายเสร็จ ก็ถึงเวลาที่ผมต้องเดินทางกลับจากปายแล้วหล่ะครับเวลา 7 ปี เป็นเวลานานพอที่อะไรหลายๆอย่างจะเปลี่ยนแปลงไป นานพอที่จะทำให้ความรักที่เคยสดใสจางหายจนหมดไป แล้วก็นานพอที่จะทำให้เกิดความรักงอกงามขึ้นอีกครั้งได้ณ วันนี้ 7 ปี ผ่านไป ...... ผมหลงรักปายอีกครั้งนึงลาก่อนครับ เมืองปาย จนกว่าจะพบกันใหม่ ( อ้าว ก็ไหนว่าจะมาเป็นครั้งสุดท้ายนี่??? )
ของฝากจากอัมพวา ขอเลียนแบบปายนิสนุง คริ คริ
ภาพสวย เล่าเรื่องได้เพลินเลยครับ แหล่ม ๆ