สถานที่ตั้ง
อุทยาน แห่งชาติเขาสก อยู่ในเขตจังหวัดสุราษฏร์ธานี อาณาเขตครอบคลุมพื้นที่บริเวณเทือกเขาสูง ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีไปจนถึงอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 อุทยานแห่งชาติเขาสกแบ่งเป็น 2 พื้นที่ใหญ่ๆ คือ เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือเขื่อนรัชชประภา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ กม. 57-58 ตามเส้นทางหลวงสาย 401 ห่างออกไปอีก 51 กม. คือบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก ซึ่งตั้งอยู่ที่ กม. 109 บนถนนเส้นเดียวกัน แต่เดิมนั้นอุทยานแห่งชาติเขาสกมเฉพาะพื้นที่ที่เป็นป่าเขา อยู่มาภายหลังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้สร้างเขื่อนเชี่ยวหลายขึ้นมาเพื่อผลิต กระแสไฟฟ้าจึงทำให้พื้นที่ป่าบางส่วนกลายเป็นเขื่อนเก็บน้ำและยังอยู่ในการ ดูแลพื้นที่โดยอุทยานแห่งชาติเขาสก

> จุดชมวิว

แหล่งท่องเที่ยว
อุทยานแห่งชาติเขาสกแบ่งลักษณะการท่องเที่ยวตามลักษณะพื้นที่ได้ 2 ประเภท คือการท่องเที่ยวทางบก หรือการเดินป่า และ การท่องเที่ยวทางน้ำ หรือการล่องเรือชมวิวเหนือเขื่อน นอนแพ พื้นที่การท่องเที่ยวทั้งสองแบบนี้อยู่ห่างกันประมาณ 51 กม. ตามถนนหลวง หรือ 65 กม. จากเขื่อน

> วิวบริเวณสันเขื่อน

ที่พัก
การเข้าพักบริเวณเขื่อนมี 2 แบบคือเข้าพักบ้านพักของไฟฟ้า และพักในแพซึ่งอยู่ในเขื่อนเลย เป็นของเอกชน แต่เราเลือกพักที่บ้านพัก เพราะสะดวกสบายกว่า

ถ้าคนทั่วไปเข้าพักจะคิดราคาปรกติ แต่ถ้ารู้จักใครที่ทำงานข้างใน ก็สามารถให้เค้าช่วยติดต่อจองให้ได้ จะได้ลด 50%



> ทางไปบ้านพักของเรา
โค้งน้ำสวยงาม

บ้านพัก
คนที่จองให้ เลือก "บ้านเฟื่องฟ้า" ให้เพราะเค้าบอกมาว่า เงียบสงบดี แต่เนื่องจากเราไปกันก่อนเทศกาลปีใหม่ บ้านไหนๆ เท่าที่ขับวนดู ยังไม่มีคนเข้าพักมาก ตอนนี้ก็น่าจะสงบทุกที่ สำหรับบ้านนี้ ปรกติ 1,200 บาท เราได้ลดเหลือ 600 เท่านั้นเอง :)


> บ้านเฟื่องฟ้า




> ถึงบ้านแล้ว
บรรยากาศ ร่มรื่น มาก เงียบสงบจริงๆ





> ได้อยู่บ้านหลังริมสุด ติดเขื่อนเลย
มองทำเล หาที่อ่านหนังสือ



> ได้ทำเลอ่านหนังสือที่เหมาะมาก

อาหารการกิน
ในเขื่อนมีร้านอาหารที่ต้องประมูลมา มีแนะนำอยู่ 2 ร้าน (แต่ก็เห็นแค่ 2 ร้านนี้เองนะ)


> ครัวกุ้ยหลิน
ป้ายหน้าร้าน มีขายเสื้อที่ระลึก เขียนว่า กุ้ยหลิน ด้วย



> ภายในร้าน
มุมร้านเค้าดีมาก เป็นลานกว้างๆ ใครๆ ก็ต้องออกมานั่งข้างนอกกัน เวลาอาหารเย็นแบบนี้ อากาศดี วิวสวย



> วิวนี้ถ่ายจากโต๊ะที่นั่งได้เลย




> อีกวิวจากร้านเช่นกัน




> มองลงไปเห็นสนามกอฟท์




> ลมพัดเย็นสบาย




> มื้อแรก
แกงส้มยอดมะพร้าว, ผัด 5 กรอบ (อันนี้อร่อยมาก โต๊ะข้างๆ ยังแอบสั่งเหมือนเรา) และห่อหมก



> มื้อที่ 2
อย่านึกว่า มา 2 คน ทำไมสั่งเยอะจัง แกงส้มผักรวม, ยำซีฟู้ด และ ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา อาหาร รสชาติใช้ได้ ราคาพอรับได้ แต่บรรยากาศดีสุดๆ

ที่เที่ยว
การชมทิวทัศน์ ที่เรียกว่า กุ้ยหลินเมืองไทย นั่น ต้องนั่งเรือชมภายในเขื่อน

แต่การนั่งเรือชม เค้าจะคิดแบบเหมาลำ คิดลำละ 1,500 บาท ใช้เวลา 2 ชม. นั่งได้ประมาณ 13 คน

แต่เราไปกัน 2 คน ให้เหมาลำคงไม่ไหว โชคดีว่าพี่ห้องข้าง เค้ามากันกรุ๊ปใหญ่ จึงขอแปะไปด้วย 2 คน พี่ๆ ใจดีมาก

ต้องตื่นเช้าๆ นะคะ ควรจะไปลงเรือให้ได้ตอน 6 โมงเช้าจะดีมาก จะได้เห็นเมฆเยอะๆ อากาศดี



> นั่งเรือ
ท่าเรืออยู่ไม่ไกลที่พักมากนัก



> เมฆขาวๆ






> เขาสวยๆ






> แพ
แวะทานอาหารเช้าที่แพภูตะวัน คิดหัวละ 100 บาท ราคาสูงเอาการ เมื่อเทียบกับอาหารที่ได้ แต่ก็ไม่ว่ากัน เค้าก็คงได้ก็ช่วงวันหยุดนี้เท่านั้น

> จบแล้ว :)
Review แรกที่ตั้งใจทำมากเลย ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่แวะมาชมนะคะ ยังมีอีกหลายที่เลย ที่จะแนะนำต่อๆ ไป