Like a carousel that's turning running rings around the moon... Like the circles that you find in the windmill's of your mind...

ทำไม?.. เพื่อน จึงกลายเป็น ..คู่รัก..

Smiley ทำไม?.. เพื่อน จึงกลายเป็น ..คู่รัก..
ที่ดีที่สุดของเรา..


จริงไหมที่ว่า.. เพื่อนชายที่เรา ให้ความสนิทสนมกับเขา.. นั่นแหละ เหมาะที่จะเป็นแฟนของเรามากที่สุด.. คนรักกันชอบกัน พออยู่กันไปนานเข้า ความรักนั้น มักจะชืดจืดสนิทไปเลย ผิดกับ ความรักที่เกิดจาก ความรู้สึก ของความเป็นเพื่อน... ความรักแบบนี้ ยิ่งนานวัน ดูเหมือนจะรักกันแนบแน่นยิ่งขึ้น


"ตอนรู้จักกันใหม่ ๆ เขาเป็นผู้ชายในฝันของชั้นทีเดียว พอเราคบกันได้แค่ ครึ่งปี ความรักนั้น ก็ต้องจบลงด้วยความเศร้า..."


เรื่องทำนองนี้ มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ คุณอาจกำลังถามตัวเองว่า... ทำไม ชั้นไม่ดีตรงไหน... หรืออาจจะโทษว่า ทั้งหมดมันเป็นความผิดของ ผู้ชายเลว ๆ คนนั้น...ซะเลย จริง ๆ แล้ว มันอาจจะไม่ใช่ทั้งสองอย่าง... ทีนี้เรามาดูกันเถอะค่ะว่า... ถ้าเราเปลี่ยนทัศนคติในการมอง ผู้ชาย เสียใหม่... อะไร ๆ มันคงจะดีขึ้นกระมัง...


... ถ้าแฟนคุณกำลังเอาใจออกห่าง หรือ แสดงท่าทีที่เย็นชา แน่นอน... คุณคงทนไม่ได้ และ อยากจะระบายกับใครสักคน ที่รู้ใจคุณดีพอ และนั่นก็คงเป็นเพื่อนผู้หญิง แต่คุณรู้มั้ย ในกรณีเช่นนี้ คุณคงต้องพึ่งเพื่อนชายเสียแล้ว...  เพราะ พ่อเจ้าประคุณผู้ชายด้วยกัน เขาก็ต้องมีกลยุทธมากมาย ที่เราคาดไม่ถึง มาบอกเล่ากันแน่ ไม่แต่เฉพาะ เรื่องความรัก เท่านั้นหรอก เพื่อนชายของคุณ ยังมีประโยชนือีกมาก... ปัญหาในเรื่องการงานเอย... การวางตัวในสังคม... หรือแม้แต่ ความไม่ลงรอยกัน ของคนในครอบครัว บางทีปัญหาร้อยแปดแบบนี้ ถ้าไปปลดทุกข์ ให้ผู้หญิงด้วยกันฟัง เราอาจจะทำได้เพียงรับรู้ แต่เพื่อนชายของเรา อาจมีไอเดียดี ๆ มาเสนอก็ได้... ใครจะไปรู้ ตัวอย่างเช่น เวลาผู้ชายเขาหิวน้ำ เราคงเกิดสองจิตสองใจว่า จะหาให้เขาดี หรือว่า มือเท้าก็มี เดินไปดื่มเองซิ แต่ถ้าเรารู้ใจผู้ชายสักนิด เขาจะคิดว่า เวลานั้น เป็นหน้าที่ของผู้หญิง จะบริการ...


ทีนี้มาดูทางฝ่ายผู้ชาย... เมื่อเหินห่างกับแฟน เขาจะมีความสุข เมื่อได้ระบายความรู้สึกนึกคิด และ ความคับแค้นใจ ออกมาอย่างอิสระ กับเพื่อนหญิงของเขา ราวกับจะบอกว่า จำไว้ เธออย่าทำแบบนี้นะ... ทำไม พวกเราจึงไม่กล้าพูดความจริง กับแฟนตัวเองล่ะ ทั้ง ๆ ที่ความเจ็บปวดนั้น มีสาเหตุมาจากแต่ละฝ่าย นั่นเอง เราไม่กล้าที่จะเปิดใจ และ เผชิญกับปัญหากับมันหรือ... แต่ทำไมกับเพื่อน เรากลับพร้อมที่จะเปิดเผยทุกอย่าง ให้เขารู้ แล้วก็ถามว่า "จะทำไงดีล่ะ..." ประจำ


ถ้าคุณเคยเจ็บ เพราะ ความรัก มาแล้ว และนึกขยาดผู้ชายอยู่ล่ะ ก็ลองหันมามองเพื่อนชายของคุณ บางทีมิตรภาพระหว่าง ความเป้นเพื่อน อาจมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง แอบแฝงอยู่ก็ได้ เพราะ พวกเขาไม่ได้เป็นเพียง ผู้ที่คุณจะปรับทุกข์ด้วยได้เท่านั้น แต่เขาจะปรับนิสัย ให้เข้ากับคุณได้มากที่สุดด้วย ความจริงแล้ว ความรักกับมิตรภาพ ระหว่างเพื่อน มันเป็นสิ่งแตกต่างกัน แต่ถ้าเราเอาทั้งสองอย่าง มารวมกัน มันคงจะวิเศษที่สุด


Smiley ... ทำไม ความรักที่พัฒนามาจาก ความเป็นเพื่อน ค่อนข้างจะยืนนาน...


ความรัก ทำให้เรามีความหวัง ความสุข และความตึงเครียด ในเวลาเดียวกัน พอรักใครสักคน เรามักต้องการมอบสิ่งที่สมบูรณ์แบบ ที่สุด ให้กับเขา จนบางครั้งลืมไปว่า ความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ความรักของคนทั้งสอง ยั่งยืนตลอดไป อย่างไรก็ตาม ถ้าความรักนั้น เป็นแค่เพียงมิตรภาพระหว่างเพื่อน เราคงไม่ต้องสูญเสียอิสระขนาดไหน ไม่ต้องเสี่ยงกับการคาดหวัง ไม่ต้องนั่งใจตุ๊มตุ๊มต่อมต่อม... ไม่ต้องคอยเป็นห่วง จนทนไม่ได้ว่า ความสัมพันธ์ของเราสองคน จะคงอยู่ในรูปแบบไหน คุณยังคงเป็นตัวของตัวเอง และเมื่อถึงกรณีที่คุณจะต้องตัดสินใจ คุณก็จะตอบว่า "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ... ไม่ต้องเสแสร้ง และนั่นจะทำให้เรา เกิดความยินดี เพราะ เป็นคำพูดที่ออกมาจากใจจริง ถึงแม้ว่า ภายในหนึ่งอาทิตย์ เขาจะไม่โทรศัพท์มาเลย ก็ไม่แคร์ นาน ๆ ครั้งจะพบกันที ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม


ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนแบบนั้น ถ้าวันใด เกิดกลายมาเป็นความรัก ตัวคุณเองจะสามารถพิจารณาได้ อย่างเด็ดขาด เพราะ คุณมีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะตัดสินใจ และไม่มีอะไรเลย ที่คุณรู้สึกว่า ตัวเองผิดพลั้งไปในอดีต สิ่งนั้นจะก่อให้ ความรัก จากความจริงใจ และที่สำคัญ คุณควรให้ความสำคัญ กับระยะเวลา ที่จะพิสูจน์ความรักด้วย เพราะ หากตัดสินใจเร็วเกินไป หรือช้าเกินไป ก็จะก่อให้เกิดผลเสียทั้งสองอย่าง ลองมาฟังชายซึ่งเคยมีประสบการณ์ ของความรัก ทำนองนี้ดูบ้าง


"ถ้าเราไม่เริ่มจาก ความเป็นเพื่อน ในตอนแรก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ความรักของเรา จะมีความสุขเหมือนกับที่เป็นอยู่ เดี๋ยวนี้หรือเปล่า ถึงเราจะไม่ค่อยโรแมนติคกันเท่าไหร่ แต่ยิ่งนานวัน เราก็รู้จักกันดียิ่งขึ้น... เธอมีอะไร ก็บอกผมหมด เช่นว่า ชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง และก็เพื่อนผู้ชายที่เธอคบด้วย... ผมเองก็ไว้ใจเขา มีอะไรก็ปรึกษากันเสมอ... ซึ่งอันนี้ มันก่อให้เกิดผลดี... ตอนนี้ เธอเข้าใจผม ยิ่งกว่า พ่อแม่หรือใคร ๆ ทั้งหมด ผมเองก็รู้จักเธอดีพอ เวลามีอะไร ก็พูดกันตรง ๆ ไม่ต้องโกหก หรือเสแสร้งกันให้มากเรื่อง"


Smiley ... ถ้าความรู้สึกว่า เป็นเพื่อนกัน ก็จะเปิดเผยทุกอย่าง


เธอเล่าให้ฟังว่า "ตอนนี้ เขากล้าถาม และก็พูดคุยกัน อย่างเป็นกันเอง เหมือนกับเราเป็นเพื่อนเขาคนหนึ่ง" เธอและเขา รู้จักกันจากการแนะนำของเพื่อน ฝ่ายหญิง เช่าบ้านอยู่กับเพื่อนที่ชนบท ส่วนเขารู้จักกับเพื่อนชาย ของเธออีกทีหนึ่ง จึงตามมาเที่ยวด้วย เธอและเขา ก็เลยรู้จักกัน ทำอาหารด้วยกัน... แบ่งกันทาน ทำกิจกรรมร่วมกัน พูดคุยหยอกล้อกันไป หยอกล้อกันมา นานเข้า... จากความรู้สึกที่จริงใจ มีต่อกัน ต่างฝ่ายก็กล้าี่จะเปิดเผย เรื่องของตัวเอง ความรักของเขาทั้งสอง เริ่มก่อตัวขึ้น จากพื้นฐานของความเป็นเพื่อน เรียนรู้นิสัยซึ่งกันและกัน ... ทำให้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น


"ของแบบนี้ เราควรพูดคุยเปิดเผยกันก่อน ดีกว่าจะทำอ้ำอึ้ง ดูซิว่า เขาทนเราได้มั้ย และเราเองทนเขาได้มั้ย ไม่จำเป็นต้องสูญเสียเวลา ไปอย่างเปล่าประโยชน์กับเกมส์แบบนี้" นั่นคือ การสร้างความสัมพันธ์ จากพื้นฐานของ การพูดคุยกันอย่างจริงใจ ถ้าพูดถึง ความจริงใจ แล้ว นั่นก็คือ การมีเล่ห์เหลี่ยมน้อยที่สุด เป็นสิ่งง่าย ๆ ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องเกร็ง คนฟังจะเข้าใจเองว่า เราปรารถนาดีต่อเขา นอกเสียจาก คนที่ไม่ยอมรับ ความปรารถนาดี ของคนอื่น


ถ้าแฟนคุณตัวเตี้ยกว่าคุณ นิดหน่อย คงไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาเคี้ยวอาหารเสียงดัง เราก็ควรบอกให้เขาระมัดระวัง มากกว่านี้ได้ หรือถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับแบบผมของเขาเลย... เอาเป็นว่า...ก็ดูดี แต่... ถ้าทำทรงอื่น คุณจะดูดีหล่อกว่านี้มากทีเดียว ถ้าเรารู้จักเขาดีพอ ความเห็นอกเห็นใจ และ ความเข้าใจ ก็จะตามมา ถ้านิสัยบางอย่างของเขา ค่อนข้างจะขัดนัยน์ตาเรา... ซึ่งออกจะแก้ไขลำบาก ถ้าุคุณคิดว่าทนได้ หรือคิดได้ว่า นั่นมันเป็นส่วนน้อย ความดีของเขายังมีอีกมาก... ก็จะไม่มีอะไรมาทำลาย ความรักระหว่างคุณกับเขา ได้เลย


Smiley ... ถ้าฝันสูง ก็จะฝันเก้อ


ถ้าฉันมีแฟนสักคนล่ะก็ เขาจะต้องเป็นคนรวย มีตำแหน่งสูง ๆ มีพรสวรรค์ เพียบพร้อมไปด้วย แบบฉบับของตัวเอง... ต่าง ๆ นานาที่เราฝันไว้... ถ้าขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไปล่ะก็ ไม่แต่งเด็ดขาด... หากคุณเกิดความลำเอียง เกี่ยวกับแนวความคิด ในการเลือกคู่ครอง มันจะทำให้คุณ กลายเป็นคนใจแคบ และมองข้ามข้อดีข้ออื่น ของเขาไป... "เพราะ เขาไม่ได้ทำงานในตำแหน่งที่เหนือกว่าชั้น" "ตัวก็เตี้ย ออกอย่างนั้น" "ถ้ามีแม่จู้จี้ขี้บ่นล่ะก็ อย่าหวังเลย" ...ร้อยแปดพันประการ ที่เรายกมาเป็นเงื่อนไข และเราก็ต้องตัดเขาออกไปจากประเด็น... จริง ๆ แล้ว คุณเองก็คงกลุ้มใจว่า จะหาคนที่เพียบพร้อมได้จากที่ไหน ถึงแม้จะหาพบแล้ว ชีวิตรักนั้น จะราบรื่นไปได้นานสักเท่าไหร่


เมื่อคุณเริ่มมีความรักเข้าจริง ๆ คุณก็จะพบว่า เกิดการสลับที่กัน ระหว่างกฏเกณฑ์ ที่คุณตั้งไว้กับความเป็นจริง... คุณจะเกิดความลังเลใจ และอาจต้องสูญเสียเขาไปในที่สุด จากจุดเล็ก ๆ ที่คุณตั้งขึ้นมา... สอนให้คุณรู้ว่า เราประเมินค่าของความเป็นคนผิดไป และสิ่งที่ได้มา คือ ภาพล่อตาล่อใจต่าง ๆ ... ไม่ใช่ความรักที่คุณต้องการหรอก...


Smiley ...กลับไปศึกษา เพื่อนชาย ของคุณดูอีกที ไม่แน่นี่คะ... เขาอาจจะกลายมาเป็น องครักษ์ ข้างกายแทน อัศวิน คนปัจจุบันของคุณก็ได้... ใครจะรู้...






Free TextEditor




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2552
4 comments
Last Update : 1 พฤษภาคม 2552 19:02:44 น.
Counter : 458 Pageviews.

 

กลอนที่คุณแต่งเพราะมากเลยครับ

ปล. ผมเองก็งงๆครับ
เพราะไฟล์ที่ทำมาขนาดประมาณ 800*500

คอมที่ร้านภาพดูธรรมดา
แต่พอมาเล่นที่ห้องไฟล์ภาพใหญ่มากครับ 55555


 

โดย: กะว่าก๋า 1 พฤษภาคม 2552 21:36:12 น.  

 

" คู่รัก คนรัก ความรัก " แค่คิดก็กลัวแล้วค่ะ

ปล. ^_^ ขอแอดนะค๊า มีเรื่องดี ๆ ที่น่าสนใจทั้งนั้นเลย


 

โดย: น.ส.น้ำแข็งหลอด 2 พฤษภาคม 2552 0:15:34 น.  

 




ด่วนๆๆๆๆๆค้าบ รบกวนช่วยน้องหมาและผู้ป่วยเอดส์ที่วัดพระบาทน้ำพุ

 

โดย: พลังชีวิต 2 พฤษภาคม 2552 10:47:11 น.  

 

thank you ka

 

โดย: chinanod 2 พฤษภาคม 2552 18:34:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


chinanod
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สมถะ เรียบง่าย กันเอง
Background.MyEm0.Com
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 
1 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add chinanod's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.