|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
21 สิงหาคม 2550 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Tales from Earthsea
ได้ผ่านตาหนังสือเรื่องนี้ในบ้านเรามานานพอสมควรแต่ก็ไม่มีโอกาสได้อ่านซักที บทประพันธ์ที่ เออร์ซูลา เค เลอกวิน ขายให้สตูดิโอจิบลิเพราะประทับใจมากๆกับ SPIRITTED AWAY(ซึ่งก็ควรประทับใจอยู่หรอก หนังดีขนาดนั้น)ด้วยความรู้สึกที่คิดว่าหนังคงจะออกมาดีและทำให้เขาภาคภูมิใจ เเต่ผลที่ออกมาก็คืองานนี้เออร์ซูล่าไม่ปลื้มครับ
งานนี้ไม่รู้เพราะได้ผกก.ฝีมือไม่ถึงหรือเพราะบทประพันธ์มันดัดแปลงยากก็ไม่รู้ หนังถึงได้ออกมาดูน่าเบื่อเนิบนาบเยิ่นเย้อขนาดนี้ โดยหนังยำใหญ่เอามาจากเล่ม3กับ4ของหนังสือชุดนี้โยที่ไม่ได้ซื่อตรงกับต้นฉบับเท่าไหร่แถมยังเขียนเรื่องเองเติมเข้าไปอีกต่างหาทำให้หนังเข้ารกเข้าพงไปเยอะเลยทีเดียว หนังเริ่มต้นเมื่อโลกเสียสมดุลไปทำให้ธรรมชาติเริ่มแปรปรวนเกิดโรคระบาดและอุธกภัยตามมา และยังส่งผลไปถึงพ่อมดและแม่มดที่สูญเสียเวทมนต์ไปด้วย หนังโฟกัสมาที่องค์ชายอาร์เร็นได้สังหารบิดาตัวเองตายแล้วหนีไป จนมาพบกับพ่อมดเก็ดซึ่งได้ช่วยชีวิตอาร์เร็นจากฝูงหมาป่าไว้แถมยังให้อาร์เร็นติดตามไปด้วย ซึ่งเก็ดก็กำลังตรวจสอบว่าโลกใบนี้กำลังเปลี่ยนแปลงไปเพราะเหตุใด หนังทำให้ตัวอาร์เร็นซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องดูลึกลับและซับซ้อน แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้เลย อาร์เร็นดูเหมือนคนที่เมีอดีตมีปมอะไรในใจตลอดเวลา แต่ก็เท่านั้นเพราะเมื่อเฉลยออกมากลับไม่ได้ทำให้คนดูสงสารหรือตื่นเต้นได้เลย ประเด็นเปิดเรื่องเกี่ยวกับพ่อก็เหมือนให้คนดูรู้สึกเป็นปมแต่ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ และยังเปิดประเด็นหลายๆอย่างให้เรื่องราวต่างๆดำเนินไปแต่กลับพบว่าหนังเปิดหลายๆประเด็นทิ้งไว้เฉยๆแล้วก็จบโดยไม่พูดถึงอีกเลย ทั้งยังพยายามแสดงให้เห็นว่าหนังดูลึกและเป็นปรัชญาโดยใช้ภาพและคำพูดให้ลึกซึ้งทั้งๆที่หนังไม่ได้มีความสามารถถ่ายทอดออกมาได้ขนาดนั้นเลย ทั้งเหตุการณ์หรือสิ่งที่ตัวละครกำลังทำอยู่ก็เข้าใจยากอาจจะเป็นเพราะดัดแปลงมาจากบทประพันธ์หรือเปล่าหนังจึงไม่ได้ปูพื้นอะไรเล็กๆน้อยเช่น เรื่องชื่อจริงในหนังที่คนดูเข้าใจว่าอาร์เร็นคือชื่อจริงมาตลอดซึ่งก็ไม่ใช่ ไหนจะเรื่องเด็กฝึกหัดเวทย์มนตร์ซึ่งถ้าไม่ใส่เข้าไปก็ได้ก็ไม่มีปัญหาแต่เมื่อใส่แล้วก็ทำให้บางคนอาจจะติดๆอยู่บ้างว่ามันคืออะไรก็เป็นได้ และหนังก็ไม่ได้เอ่ยถึงเเละไม่ได้อธิบายเลยแต่นำมาใช้ ซึ่งประเด็นแบบนี้มีเยอะมากในหนังซึ่งไม่รู้ว่าคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือจะเข้าใจหรือไม่หรืออาจจะผ่านเลยไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร( ที่จริงผมไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้หรอกแต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อคือนิยายแฟนตาซีของฝรั่งทำไมมันถึงเหมือนหรือคล้ายกันได้มากขนาดนี้เพราะสิ่งที่ผมใช้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นปลีกย่อยเหล่านี้กลับมาจากหนังสืออีกเรื่องนึงที่มีโอกาสได้อ่านคือเรื่องโจนาธาน เสตรนจ์ซึ่งเป็นนิยายแฟนตาซีเหมือนกัน โดยหนังสือเรื่องนี้ก็โด่งดังพอสมควรเหมือนกันเพราะนิวไลน์ซื้อลิขสิทธ์ไปพัฒนาเป็นบทภาพยนตร์เรียบร้อยแล้วแต่ท่าทางจะโดนดองเค็มไปอีกหลายปีเพราะก็พัฒนามาหลายปียังไม่มีวี่แววจะได้สร้างเลย )หนังยังดูเหมือนว่าจะลอกเลียนแบบฉากหนังดังๆหลายเรื่องมาใช้เพราะดูไปก็รู้สึกคุ้นไปทั้งเรื่องเท่าที่ชัดเจนก็คือฉากที่เก็ดขี่ม้าแล้วใช้ไม้เท้าที่ส่องแสงเป็นไฟนำทางเพื่อที่จะไปปราสาทนั้นเหมือนLORTซะเหลือเกิน และอีกหลายฉากที่ยืมมาจากหนังหลายเรื่อง อาจจะเพราะเป็นมือไหม่ทำให้ผกก.เลือกที่จะเซฟตัวเองโดยการลอกมาจากหนังเรื่องอื่นๆก็ได้แต่ผลที่ได้คือหนังไม่มีเอกลักษณ์ความเป็นของตัวเองโดยเฉพาะเอกลักษณ์ของสตูดิโอจิบลิเองเหลือเลยยกเว้นก็แต่ลายเส้นซึ่งดูยังไงก็จิบลิวันยังค่ำ
ต้องบอกว่าโกโร่มิยาซากิเสียหายไปเยอะจากหนังเรื่องนี้เพราะโดนคาดหวังเอาไว้มากเพราะเป็นลูกของ ฮายาโอะ มิยาซากิ ไหนจะโดนถล่มจากเจ้าของบทประพันธ์เอง ตอนออกฉายก็ไม่ได้ทำเงินเปรี้ยงปร้างเหมือนหนังเรื่องอื่นๆของสตูดิโอ และสำหรับผมต้องบอกว่าเป็นหนังที่ชอบน้อยที่สุดในบรรดาหนังของสตูดิโอจิบลิไปแล้ว
Create Date : 21 สิงหาคม 2550 |
|
4 comments |
Last Update : 21 สิงหาคม 2550 10:54:28 น. |
Counter : 2689 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: kannasan 21 สิงหาคม 2550 12:01:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: amchan IP: 125.24.28.68 27 สิงหาคม 2550 4:44:41 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|