โรงแรมทำเลดีใจกลางเมือง @Hilton Sukhumvit Bangkok
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ เปลี่ยนบรรยากาศจากรีวิวร้านอาหาร ไปชมรีวิวโรงแรมในกรุงเทพฯ กันอีกซักที่ ครั้งนี้เรามีโอกาสได้เข้าพักที่ โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท (Hilton Sukhumvit Bangkok) ก็จะขอนำภาพโรงแรม ห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มาฝาก เผื่อใครสนใจจะมาพักแถวนี้จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูลค่า โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท (Hilton Sukhumvit Bangkok) ตั้งอยู่ในซ.สุขุมวิท 24 เข้าซ.มาไม่ไกล โรงแรมอยู่ซ้ายมือ ใครนำรถมาก็จอดได้ที่ชั้นใต้ดินของโรงแรม ส่วนใครที่ไม่มีรถก็เดินทางสะดวกด้วย BTS ลงสถานีพร้อมพงษ์ใช้ทางออกที่ 4 เดินเข้าซ.ข้างเอ็มโพเรี่ยมเข้ามานิดเดียวก็ถึงโรงแรมละ
เข้ามาในโรงแรมก็จะเจอในส่วนของล็อบบี้
ส่วนของล็อบบี้ของที่นี่ค่อนข้างกว้างเลยค่ะ การตกแต่งภายในโรงแรมจะดีไซน์ให้อยู่ในช่วงค.ศ. 1920 - 1930 เป็นสไตล์อเมริกัน-อิตาเลี่ยน โดยมีความเป็นไทยแทรกอยู่เล็ก ๆ
ใคร ๆ ที่เข้ามาที่นี่ก็จะพบกับรูปปั้นสีขาวบริเวณล็อบบี้ เป็นรูปปั้นชายหนุ่ม - หญิงสาว และน้องหมาตัวน้อย เราจะพบ 2 คนนี้ และเรื่องราวของเค้าได้ทั่วทั้งโรงแรม
Jay เป็นหนุ่มชาวอิตาลีที่ชอบเดินทาง และเลือกเดินทางมาเอเชีย โดยมีประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมาย Daisy เป็นสาวนิวยอร์คที่รักการอ่าน เดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก Mali หมาน้อยพันธุ์พุดเดิ้ลสัตว์เลี้ยงของเดซี่ Jay และ Daisy พบรักกันบนเรือและเดินทางมาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย
รอบ ๆ ล็อบบี้ก็มี Jay และ Daisy ในอริยาบถต่าง ๆ
เพดานถูกออกแบบโดยศิลปินคนไทย ก็จะมีลวดลายแบบไทย ๆ
โต๊ะกลมบริเวณล็อบบี้ก็จะเป็นชื่อเต็มของกรุงเทพฯ
ที่นี่เค้าได้รางวัลด้านการออกแบบด้วยนะคะ รับประกันความสวยมีสไตล์ได้เลย
สำหรับแขกที่มาพักเช็คอินได้บริเวณนี้เลยค่ะ
แต่สำหรับห้องพักบางประเภทจะสามารถใช้บริการใน Executive Lounge ได้ด้วย ถ้าจองแบบนี้มาจะต้องไปเช็คอินที่ชั้น 4 ซึ่งเป็น Executive Floor ค่ะ ขึ้นลิฟท์ไปกันเลย
ป้ายหน้าลิฟท์เก๋ ๆ ดีไซน์ในรูปของหน้าหนังสือ (ที่เดซี่ชอบอ่าน) เราว่าใส่ใจรายละเอียดทุกจุดดีนะ
Executive Lounge เปิดให้บริการตั้งแต่ 6.00 - 23.00 น.
เช็คอินได้ตรงบริเวณนี้เลยค่ะ ที่ฮิลตันนี่เช็คอินได้ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เช็คเอาท์ได้ถึง 12.00 น.
บรรยากาศภายในเลานจ์ ตกแต่งได้หรูหรามาก ๆ มีหนังสือพิมพ์ มีหนังสือให้อ่าน
มีห้องประชุมให้ใช้ด้วย
ในส่วนของอาหารนี่ก็เปรมปรีมีตลอดทั้งวันค่ะ มื้อเช้าสามาถเลือกได้ว่าจะทานที่เลานจ์หรือห้อง Scalini ที่ชั้น 2 ส่วนช่วง 14.00 - 16.00 น.ก็จะเป็นช่วง Afternoon Tea สามารถมาจิบชา+กาแฟทานขนมได้เพลิน ๆ 18.00 - 20.00 น. เป็นช่วง Evening Cocktails เอาใจสายดื่มเลยค่ะ แต่เสียดายไม่ได้แวะมาเก็บภาพช่วงนั้นว่ามีอะไรให้ดื่มบ้าง เพราะติดดินเนอร์อยู่ค่า ** พวกเครื่องดื่มต่าง ๆ ชา-กาแฟ-น้ำเปล่า-ซอฟท์ดริงค์นี่มีบริการทั้งวันค่ะ **
เช็คอินเรียบร้อยเดี๋ยวไปสำรวจห้องกันดีกว่าค่ะ เราจะได้คีย์การ์ด 2 ใบ ส่วนใบล่างเป็นการ์ดสำหรับ HHonors Member (Gold & Diamonds) ก็จะได้รับสิทธิพิเศษทั้ง Complimentary และ WiFi Free
ซึ่งปกติใครเข้าพักที่นี่มี Wi-Fi ให้ใช้ฟรีเฉพาะในพื้นที่ส่วนกลาง แต่ถ้าอยากใช้ในห้องด้วยแนะนำให้สมัครสมาชิก HHonors ค่ะ จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย (เมมเบอร์มีหลายประเภท แต่ละประเภทสิทธิพิเศษไม่เท่ากันนะคะ)
สมัครฟรีได้ทางเว็บ HHonors.com หรือที่เคาน์เตอร์เช็คอินค่า ใช้ได้กับโรงแรมในเครือฮิลตันทั้งหมดนี่เลย
ห้องที่เราพักอยู่ที่ชั้น 18 เป็นห้องแบบ King Deluxe Room
เข้ามาปุ๊บซ้ายมือก็จะเป็นที่เสียบการ์ด มีปุ่มต่าง ๆ อยู่ด้านข้าง ออกแบบเรียบหรูดูดีนะ ชอบ ๆ
เตียงแบบ King-Size ใหญ่ นุ่ม นอนสบายยยย มีหมอนให้ 4 ใบนุ่มอีกเช่นกัน
ข้างเตียงจะมีโทรศัพท์ วิทยุนาฬิกาปลุก (เล่น MP3ได้) และน้ำแร่
ข้างเตียงอีกด้านจะเป็นมุมนั่งเล่น มีโคมไฟให้ด้วยเผื่ออยากจะนั่งอ่านอะไรเพลิน ๆ ปุ่มควบคุมระบบไฟก็อยู่ข้างเตียงนี่หล่ะ สะดวกดีไม่ต้องลุกไปไกล มีปุ่ม night mode ด้วย จะเป็นไฟดวงเล็ก ๆ ทำให้มองเห็นในห้องได้ ดึก ๆ ตื่นมาก็ลุกไปเข้าห้องน้ำได้สบาย ไฟไม่สว่างจ้าเกินไปจนทำให้นอนไม่หลับ
ห้องพักของที่ฮิลตันเริ่มต้นที่ 37 ตรม. ขนาดกำลังดีไม่แคบเลยค่ะ
ห้องพักที่นี่ไม่มีระเบียง หน้าต่างเป็นกระจกใสมองเห็นวิวด้านนอกได้ ผ้าม่านทึบแสงดี ปิดแล้วไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามา
มุมโต๊ะทำงาน
ทีวีจอแบนขนาด 40 นิ้วอยู่ตรงข้ามเตียง
มุม Mini Bar
กาต้มน้ำร้อน / น้ำเปล่าฟรี 2 ขวด / ชา-กาแฟ 3in1 แก้วน้ำ / แก้วกาแฟ/ แก้วไวน์ ขนมและ... เผื่อใครต้องการใช้นะฮับ 555
ราคาแต่ละเมนูตามนี้เลยค่ะ ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายคือน้ำเปล่านอกตู้เย็น 2 ขวด และชา-กาแฟ 3in1
ในห้องมีคุณเดซี่ตามมาด้วย อิอิ
จากเตียงนอนสามารถมองเห็นในห้องน้ำได้ด้วยนะคะ แต่ไม่ต้องเขินไปมีม่านไฟฟ้า เปิด-ปิดได้ค่า
มุมวางของ
ในตู้เสื้อผ้ามีอุปกรณ์ให้ครบครันเลย - ไม้แขวนเสื้อ - เตารีด + ที่รองรีด - ไฟฉาย - ตู้เซฟ - ชุดคลุม - ไดร์เป่าผม (อันใหญ่เบิ้ม) - รองเท้าสลิบเปอร์ - ถุงซักแห้ง
ฝั่งตรงข้ามเป็นประตูห้องน้ำแบบบานเลื่อน ดีตรงที่ทำเป็นกระจกทั้งบาน ส่องทีเดียวเห็นเต็มตัวจ้า
ภายในห้องน้ำ กว้างขวางเช่นกัน ภายในจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ซ้ายมือเป็นห้องสุขา ไม่มีสายฉีดชำระ
ตรงกลางเป็นส่วนของอ่างล้างมือ มีที่เสียบปลั๊ก / เก้าอี้ / เครื่องชั่งนน. ชอบกระจกบานเล็กเหนือปลั๊กอ่ะ ส่องทีเห็นทุกอณูรูขุมขน เหมาะกับสาว ๆ เวลาแต่งหน้ามาก ๆ
แก้วน้ำมีฝาพลาสติกครอบไว้ด้วย ชอบจังดูใส่ใจความสะอาดดี
Amenities ต่าง ๆ ครบมาก ๆ มาแต่ตัวและเสื้อผ้าก็พอละ ทั้งสบู่ก้อน-สบู่เหลว , ยาสระ-ครีมนวด , โลชั่น , แปรง-ยาสีฟัน , Sanitary Bag , หวี , มีดโกน , หมวกคลุมผม , คอตตอนบัต-สำลี , เข็ม-ด้าย , ที่ตะไบเล็บ , น้ำยาบ้วนปาก แถมมีสบู่ก้อนที่เป็นปุ่ม ๆ เหมาะสำหรับอาบไปนวดตัวไปด้วยค่า เริ่ดซะไม่มี
ถัดเข้าไปด้านขวามือจะเป็นส่วนเปียก มีกระจกใส สามารถมองเข้าไปในห้องนอนได้ แต่ไม่ต้องเขิน ในห้องน้ำมีปุ่มปิด-เปิดม่านอยู่ค่า
มุม Shower มีทั้งฝักบัวธรรมดา และ Rain Shower เลือกอาบได้ทั้งน้ำร้อน-น้ำเย็น
มีอ่างอาบน้ำให้แช่ด้วย
สำรวจห้องเรียบร้อย เดี๋ยวเราไปสำรวจส่วนอื่น ๆ ของโรงแรมกันค่า
ลงมาที่ชั้น G จ๊ะเอ๋กับ Jay และ Daisy อีกรอบ
ที่ชั้น G จะมีห้องอาหารชื่อห้องมอนโด (Mondo) ภาษาอิตาเลี่ยนแปลว่าโลก
บรรยากาศน่านั่งเชียวค่ะ เป็นห้องอาหารที่ให้บริการอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน , อาฟเตอร์นูนทีเซ็ต รวมไปถึงเป็นบาร์เครื่องดื่มต่าง ๆ ด้วย
กระเป๋าเดินทางมากมายเหล่านี้เค้าว่าเป็นของคุณ Jay ที่ขนมาจากอิตาลี่นั่นแหละ เราชอบไอเดียการตกแต่งเค้านะ ดูมีเรื่องราวดีค่ะ
เมนูก็เก๋ มาในรูปของ Passport
ขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 กันต่อ
ขึ้นมาก็จะเจอห้องอาหารสกาลินี (Scalini) ภาษาอิตาเลี่ยนแปลว่า บันได ช่วงเช้าให้บริการบุฟเฟต์อาหารเช้า มื้อเที่ยงและค่ำให้บริการอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนอเมริกันพร้อมทั้งไวน์และเครื่องดื่มต่าง ๆ
ที่ชั้นเดียวกันนี้จะมีห้อง Study Room เป็นห้องจัดงานอีเวนท์ และงานประชุมต่าง ๆ มีมุมทำครัวด้วยนะ
ไปต่อกันที่ชั้น 26 ต้องใช้ลิฟท์ 2 ตัวซ้ายมือนะคะ ลิฟท์อีก 2 ตัวไปไม่ถึงชั้น 25-26 จ้า กดปุ่มเรียกลิฟท์ตามในรูปเลย
ชั้น 26 จะมีสระว่ายน้ำ เปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00 - 21.00 น.
คุณJay , Daisy และ Mali ก็มานั่งชิลล์อยู่ริมสระ
สระไม่ใหญ่มาก แต่บรรยากาศดีเหมาะกับการมาว่ายน้ำชมวิวจ้า ใครพักที่ฮิลตันสามารถเดินไปใช้บริการสระว่ายน้ำที่ Double Tree By Hilton ได้เช่นกันนะคะ มีทางเดินเชื่อมไปโรงแรมนู้นอยู่ที่ชั้น G ส่วนสระว่ายน้ำอยู่ชั้น 7 ค่ะ
ว่ายเหนื่อย ๆ ขึ้นมานั่งพักจิบเครื่องดื่มริมสระที่ LAPSE ได้นะคะ
Mojito
จากซ้ายไปขวา Midori Sour - Singapore Sling - Orange Juice
จิบไปชมวิวสวย ๆ ไปเพลิน ๆ เลยค่า บรรยากาศดี้ดีย์
ชั้นนี้มีห้องฟิตเนสด้วยเปิด 24 ชม.เลยค่ะ
เดินสำรวจจนเหนื่อยกลับห้องมานอนพักผ่อนกันดีกว่าค่า
กลางคืนกลับมาที่ห้องมีมาการองเป็น Complimentary ให้สำหรับ HHonors Member ด้วย
ตื่นเช้ามาไปทานอาหารได้ที่ห้องสกาลินีชั้น 2 นะคะ แต่สำหรับ HHonors Diamond Member เลือกทานที่ Executive Lounge ได้ด้วยค่ะ เรามาทานที่เลานจ์นี่แหละเพราะลงไปแล้วที่ห้องสกาลินีคนเพียบ อาหารเช้าให้บริการตั้งแต่ 6.00 - 11.00 น. (วันหยุด) ถ้าเป็นวันธรรมดาให้บริการถึง 10.30 น. เราลงไปทานสายนะ คนเพียบ+อาหารแหว่งไปเยอะละ เลยถ่ายมาแบบคร่าว ๆ นะคะ อาหารก็จะมีทั้ง ABF ไส้กรอก - แฮม - เบคอน - ไข่ และสไตล์เอเชีย ข้าวต้ม - โจ๊ก - อาหารญี่ปุ่น
โคลคัท - ชีส - สลัด - เบเกอรี่ - น้ำผลไม้ - ผลไม้ - โยเกิร์ต - นม ฯลฯ
จัดมาเบา ๆ อย่างละนิดอย่างละหน่อย ในรูปนี่ของ 2 คนนะคะ ไม่ได้กินคนเดียว 55 โดยรวมอาหารเช้าถือว่าโอเคนะ ไม่ได้เยอะมากแต่ก็ไม่ได้น้อย ชอบครัวซองค์อ่ะ แป้งบาง หอมเนยดี แล้วก็มีเมนูแปลก ๆ อย่าง Mangosteen Pavlova เราเคยกิน Pavlova นะแต่พึ่งเคยเห็นแบบที่ใช้มังคุด รสก็หวาน ๆ เหมาะจะกินคู่กับกาแฟ/ชา
สำหรับการเข้าพักโรงแรมฮิลตัน สุขุมวิทในครั้งนี้ ประทับใจมาก ๆ ค่ะ ทั้งทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก (ใกล้ BTS) ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง (เอ็มโพเรี่ยม / เอ็มควอเทีย) การบริการดีมาก ความสะดวกครบครัน
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท (Hilton Sukhumvit Bangkok) Tel : 02-6206666 FB : HiltonSukhumvit IG : Hiltonbkk
Create Date : 27 กันยายน 2559 |
Last Update : 5 เมษายน 2561 8:21:39 น. |
|
27 comments
|
Counter : 4028 Pageviews. |
|
|