|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Mini Cheese Cake แบบ Easy ๆ
ไม่ได้อัพบล็อกไปหลายวัน เริ่มขี้เกียจทำรูปแล้ว แหะๆ ช่วงนี้อาจจะอู้บ่อยอย่าว่ากันนะคะ อิอิ วันนี้มีเมนูมินิชีสเค้กมาฝากค่ะ ปกติชอบกินชีสเค้กมากแต่ที่ขายก้อนละ250g.มันแพง เราชอบซื้อเป็นกิโลตามร้านเบเกอรี่ค่ะ ประหยัดดี แต่ซื้อมาทีไรต้องรีบกำจัด ไม่งั้นเสียก่อนทุกที เมนูกำจัดครีมชีสก็ต้องเป็นชีสเค้กนี่แหละ เริ่ดที่สุด
สูตรนี้เอามาจากpantownค่ะ เคยทำมาทีนึงแล้วแบบมีฟิลลิ่ง ตอนนั้นยังใช้กล้องมือถือถ่ายอยู่เลยค่ะ วันนี้เลยเอามาทำใหม่ ถ่ายทำใหม่อีกที แต่คราวนี้ไม่ได้ใส่ฟิลลิ่งแล้วค่ะ พอดีว่ารสชาติมันหวานได้ที่แล้ว กินเปล่า ๆ ไม่ต้องราดอะไรได้เลย (ถ้าราดเราว่าจะหวานเกินไปค่ะ) หาทางลิงค์กลับไปที่pantownไม่เจอ ถ้าหาเจอจะมาแก้ไขเพิ่มเติมค่ะ สูตรนี้ใช้ครีมชีส 2 ก้อนค่ะ (ก้อนละ 8 oz.,226 g.) เอามาวางไว้นอกตู้เย็น หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อสะดวกในการตีค่ะ
ส่วนผสมอื่น ๆ ก็มี คุ๊กกี้เนย จริง ๆ เค้าใช้ Vanilla Wafer แต่เราดูแล้วหน้าตาคล้าย ๆ คุ๊กกี้เนย เลยเอามาใช้แทนกันค่ะ น้ำตาล 1 ถ้วย (185 g.) ถ้าจะราดหน้าด้วยฟิลลิ่งแนะนำให้ลดเหลือ 3/4 ถ้วย(140 g.)จะดีกว่าค่ะ แต่ถ้ากินเปล่า ๆ แบบไม่ราดอะไรเลย ใส่ไปเลยค่ะ 1 ถ้วย ไข่ 2 ฟอง วนิลา 1 ชช. ส่วนผสมน้อยจริง ๆ อิอิ
วิธีทำ 1.ตีครีมชีสกับน้ำตาลให้ขึ้นฟู
2.ใส่ไข่ลงไปทีละฟอง ตีให้เข้ากัน ใส่วนิลาลงไป ตีให้เข้ากัน
3.เตรียมคุ๊กกี้ใส่ถ้วยกระดาษไว้ก่อนลงมือทำเลยนะคะ พอดีว่าคุ๊กกี้ชิ้นใหญ่ ก็เลยต้องใช้ถ้วยกระดาษใหญ่หน่อย แต่ไม่มีถ้วยไซส์เดียวกับกระดาษค่ะ ก็เลยไปเอาพิมพ์วุ้นมาใช้ (ทั้งบ้านมีอยู่ 7 อันนี่แหละ) พอดีว่าส่วนผสมได้ออกมาเยอะแต่พิมพ์มีน้อยก็เลยทำใส่ฟอล์ยอันกลาง ๆ ได้ 2 อันค่ะ
4.ตักครีมชีสหยอดใส่ถ้วยเลยค่ะ เราใส่ไปเกือบเต็มถ้วย
อันนี้แบบฟอล์ยค่ะ ดันจำเบอร์ถ้วยฟอลย์ไม่ได้ ว่าจะไปซื้อมาใช้อีก
ส่งเข้าเตาใช้ไฟ 350 F เราใช้ 150 ซีไฟล่างอย่างเดียวตามเคย ห้ามเลียนแบบนะคะ เตาเรามันไฟแรงค่ะ
ตามสูตรให้อบ 15 -20 นาที ของเราอบไป 10 กว่านาทีหัวปูดกลมป๊อกเชียว อบนานกว่านี้แตกแน่ ๆ ก็เลยเอาออกค่ะ
เอามาพักไว้ตรงตระแกรงซักพักหน้ามันจะยุบลงไปเองค่ะ
เปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ระหว่างถาดแรกกับถาดสอง
แบบใส่ถาดฟอล์ยก็ปูดค่ะ เริ่มมีรอยแยก อิอิ จำไม่ได้ว่าอบกี่นาที ใช้การสังเกตุหน้าขนมดูค่ะ ด้านข้าง ๆ จะเริ่มมีสี ตรงกลางปูดกลมก็เอาออกได้แล้วค่ะ
ทิ้งไว้ซักพักก็เป็นแอ่งเหมือนเคย เหมาะสำหรับใส่ฟิลลิ่งด้านบนขนมเลยค่ะ เราซื้อบลูเบอรรี่กระป๋องมาเตรียมไว้แล้ว แต่ปรากฎว่าไม่ได้ใช้เพราะขนมรสชาติหวานกำลังดี
พอขนมหายร้อนก็จัดแจงเก็บใส่ตู้เย็นได้เลยค่ะ แช่ซัก 2-3 ชม.ก็เอาออกมาหม่ำได้แล้ว ถ้าใครทำแบบลดน้ำตาลลงเหลือ3/4ถ้วย ก่อนเสิร์ฟก็ราดหน้าขนมด้วยบลูเบอรี่ สตรอเบอรี่ รึเชอรี่ฟิลลิ่งก็ได้ค่ะ ส่วนเราไม่ได้ลดน้ำตาลก็ต้องเก็บบลูเบอรี่กระป๋องไว้ทำเมนูอื่นต่อปาย
Create Date : 18 กันยายน 2551 |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2556 8:30:09 น. |
|
21 comments
|
Counter : 2981 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หนูแดง (น้ำพันซ์ ) วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:14:22:24 น. |
|
|
|
โดย: Gena (Lilybell ) วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:14:27:06 น. |
|
|
|
โดย: กะละมัง_ข้าว (joylife ) วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:15:04:53 น. |
|
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:15:08:02 น. |
|
|
|
โดย: wiyada_susi วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:16:30:50 น. |
|
|
|
โดย: โปแป้ง (popang ) วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:16:48:11 น. |
|
|
|
โดย: Artasi@ วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:19:07:46 น. |
|
|
|
โดย: LiLeE DiArY วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:19:26:34 น. |
|
|
|
โดย: พี่สาวโบกี้ IP: 203.152.22.15 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:19:56:58 น. |
|
|
|
โดย: งาขาว วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:20:32:34 น. |
|
|
|
โดย: ann_269 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:22:07:25 น. |
|
|
|
โดย: เอ๋ (n'frame ) วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:10:33:52 น. |
|
|
|
โดย: ลูกสน วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:12:44:43 น. |
|
|
|
โดย: Artasi@ วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:15:28:19 น. |
|
|
|
โดย: puppadoowab วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:20:04:22 น. |
|
|
|
โดย: ash (Larorimosa ) วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:21:19:59 น. |
|
|
|
|
|
|
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน
|
|
|
|
|
|
|