| ห้องฝากข้อความ | Youtube.com | เติมใจให้กัน | MY Photos | |www.facebook.com|

หนาวลมที่เรณู- ศรคีรี ศรีประจวบ / ลมหนาวที่เรณู : อิ๋ว พิมพ์โพยม










หนาวลมที่เรณู

.


.


.





ดูดอุร้อยไห ไม่คลายหนาวได้หรอกหนา

ห่าง...น้อง พี่ต้องหนาวหนักอุรา

คอยนับวันเวลา จะกลับมาอบไอรักเก่า


เย็นลมเหมันต์ ผ่านพ้นยิ่งพาสะท้อน

โธ่น้องบังอร ก่อนนั้นเคยคลอเคียงเจ้า

ครั้งเที่ยวชมงานพระธาตุพนม

ยามหน้าหนาว พี่ยังไม่ลืมนงเยาว์

โอ้แม่สาว เรณู .....


.


.


.


หนาวลมที่เรณู- ศรคีรี ศรีประจวบ / ลมหนาวที่เรณู : อิ๋ว พิมพ์โพยม




หนาวลมที่เรณู- ศรคีรี ศรีประจวบ
ประพันธ์เพลง - สุรินทร์ ภาคศิริ

เรณูนคร ถิ่นนี้ช่างมีมนต์ขลัง
ได้พบนวลนาง ดั่งเหมือนต้องมนต์แน่นิ่ง
น้องนุ่งซิ่นไหม ไว้ผมมวยสวยเพริศพริ้ง
พี่รักเจ้าแล้วแท้จริง สาวเวียงพิงค์แห่งแดนอีสาน

เราเคยสัมพันธ์ พลอดรักเมื่อคราหน้าหนาว
คืนฟ้าสกาว เหน็บหนาวน้ำค้างหรือนั่น
เพราะได้เคียงน้อง ถึงต้องหนาวตายไม่หวาดหวั่น
รุ่งรางต้องร้างไกลกัน สุดหวั่นไหวก่อนลา
ผ้าผวยร้อยผืน ไม่ชื่นเหมือนน้องอยู่ใกล้
ดูดอุร้อยไห ไม่คลายหนาวได้หรอกหนา

ห่างน้องพี่ต้องหนาวหนักอุรา
คอยนับวันเวลา จะกลับมาอบไอรักเก่า
เย็นลมเหมันต์ ผ่านผันยิ่งพาสะท้อน
โธ่ น้องบังอร ก่อนนั้นเคยคลอเคียงเจ้า
ครั้งเที่ยวชมงานพระธาตุพนมยามหน้าหนาว
พี่ยังไม่ลืมนงเยาว์ โอ้แม่สาวเรณู


ว่ากันว่าเพลงนี้มีสถิติการบันทึกเสียงถึง 46 ครั้ง
โดยมีนักร้องที่นำมาขับร้องล่าสุดคือ “เทพ ทูลใจ”
ในชุด “ย้อนรอยอมดะเพลงดัง”

แต่ถ้าจะให้ได้บรรยากาศต้นฉบับจริง ๆ แล้ว
ต้องยกให้ “ศรคีรี ศรีประจวบ”
นักร้องโทนเสียงสูงยากที่จะหาผู้เลียนแบบได้


หนาวลมที่เรณู ผลงานของครูสุรินทร์ ภาคศิริ
ท่านประพันธ์เพลงนี้ไว้เมื่อปี 2513
เมื่อครั้งที่รับราชการอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

โดยได้แรงบันดาลใจจากเมื่อครั้งวัยหนุ่มมีโอกาสไปเที่ยวงานพระธาตุพนม
ได้พบกับสาวเรณูนครไปเที่ยวงานนุ่งซิ่นไหมไว้ผมมวยสวยประทับใจยิ่งนัก
จึงได้มาแต่งเป็นบทเพลงในเวลาต่อมา นั่นเป็นความเป็นมาของ
บทเพลงอมตะที่กล่าวถึงเรณูนคร

(จากหนังสือเบื้องหลังเพลงดัง : สุรินทร์ ภาคศิริ)




  • ▶ประวัติ คุณศรคีรี ศรีประจวบ

  • จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี





  • ▶ประวัติ คุณ'อิ๋ว''พิมพ์โพยม เรืองโรจน์








  • พระธาตุเรณู อ.เรณูนคร จ.นครพนม

    พระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันจันทร์



    .


    .


    .


    เรามักจะรู้จักการดูดอุ
    การดื่มสาโทหรือการชนช้าง
    จากบทเพลงหนาวลมที่เรณู

    ที่จริงเรื่องการดูดอุ หรือการชนช้าง เป็นส่วนหนึ่งการวัฒนธรรมชาวผู้ไท
    การดูดอุ หรือการชนช้าง เป็นทั้งประเพณีราษฎร์และประเพณีหลวง
    ทั้งนี้การดูดอุ หรือการชนช้าง นี้ไม่ได้มีแต่ที่เรณู..มีโดยทั่วไปของคนผู้ไท



    ในภาพ เป็นการดูดอุ ของกลุ่มชาติพันธุ์ไท
    ในเขตเวียดนามเหนือ ติดกับจีน ในยุคสมัยที่เป็นอาณานิคมฝรั่งเศส


    เหล้าอุ หรือช้าง เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ชาวผู้ไทยังอนุรักษ์และสืบทอดมาสู่ลูกหลาน
    เดิมนั้นชาวผู้ไทใช้เหล้าอุในการเลี้ยงสังสรรค์ ต้อนรับเพื่ื่อนฝูงหรือแขกผู้มาเยือน
    ที่เมื่อแขกมาเยือนต้องต้อนรับด้วยเหล้าไหไก่ตัว อุ เป็นเครื่องดื่มที่ออกฤทธิ์มึนเมา
    ซึ่งได้ทำมาจากข้าวเหนียว แกลบ รำข้าวและแป้งยีสต์

    ปัจจุบันอุ เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล(OTOP)ของเรณูนคร
    ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของคนทั่วไปเมื่อมีการต้อนรับแขกผู้มาเยียน
    ด้วยการฟ้อนรำผู้ไท ก็จะมีการเชิญแขกร่วมดูดอุกับสาวผู้ไทเรณูนคร
    เรียกว่า การชนช้าง ซึ่งเป็นประเพณีที่ขาดไม่ได้และเป็นกิจกรรม
    ที่สร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือนอย่างไม่มีวันลืม

    ประเพณีการดูดอุ หรือการชนช้าง ของชาวผู้ไท ใช่ว่าจะมีแต่ที่เรณูนคร เท่านั้น
    แต่เป็นประเพณีที่มีโดยทั่วไปของคนผู้ไท ครับ รวมทั้งผู้ไท ที่อยู่ใน สปป.ลาว
    ก็มีประเพณีการดูดอุ หรือการชนช้างด้วยเช่นกัน


    นอกจากนี้ ในกลุ่มชาติพันธุ์ไท ที่เรียกตัวเองว่า Phu Tay
    (อ่านว่าผู้ถ่าย หรือ ผู้ไท) ใน เวียดนามตอนเหนือ ในกลุ่มที่เรียดตวเองว่า
    Pu Dai(ผู้ได หรือ ผู้ไท) ในเหวินซาน มณฑลยูนาน รวมทั้งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า
    Phu Tai(ผู้ไท) ในจินหลง มณฑลกว่างซี ก็ยังคงประเพณีนี้อยู่
    และเรียกชื่อว่าเหล้า อุ เช่นเดียวกันทั้งหมด หรือนี่คือประเพณีหนึ่งที่
    จะเป็นลายแทงของการความเป็นผู้ไทนานาชาติ โดยมีประเพณีการดูดอุ
    หรือการชนช้างเป็นจุดเชื่อมโยงเข้าหากัน

    สำหรับประเพณีการดูดอุ หรือการชนช้าง ในราชสำนัก
    หรือในธรรมเนียมของเจ้าเมืองผู้ไทโบราณ จะเรียก ว่า "หัดกิน"
    ดังมีเรื่องเล่า เรื่องการ "หัดกิน"ในสมัยเมืองวังยุคเก่า
    ที่เล่าโดย อ.นรเก โทธิเบศวงษา ปราชญ์ เมืองเขาวง(กุดสิม) ดังนี้


    เรื่องนี้มีอยู่ว่า...

    ในสมัยที่เจ้าก่ำครองเมืองวัง นอกจากการแย่งสมบัติกันกับพระยาราชเดโชแล้ว
    เจ้ากำ่ยังได้ฆ่าเจ้าแก้วผู้เป็นน้องชายแท้ๆ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอุปราชเมืองวังด้วยความริษยา
    กลัวว่าเจ้าแก้วจะแย่งตำแหน่งเจ้าเมืองจากตน(ผู้คนรักและศรัทธาเจ้าแก้ว)
    เมื่อเจ้านายผู้ไทขัดแย้งกันเอง และมีการอพยพผู้คนออกจากเมืองวัง
    มาตั้งบ้านเมืองใหม่ที่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงซึ่งในระยะแรกมี 2 เมือง
    คือเมืองภูแลนช้าง และเมืองเว เรณูนครทำให้ผู้ไทอ่อนกำลังลง

    ทางฝ่ายบรูซึ่งเป็นคนพื้นถิ่นเดิมจึงคิดจะทำศึก แย่งตำแหน่งเจ้าเมืองเจ้าก่ำ
    จึงจำยอมให้บรู กุลาอางเป็นเจ้าเมืองแทนเมื่อบรูได้เป็นเจ้าเมืองก็เล่นงานผู้ไท
    เป็นการเอาคืน กดขี่ข่มเหงน้ำใจคนผู้ไทสารพัดในงานเทศกาลเลี้ยงฝี
    เมื่อทำตามจารีต มีการเลี้ยงควาย กินอิ่มหนำสำราญแล้วก็ถึงคราว
    พิธี “หัดกิน” (เป็นชื่อพิธีการกินเหล้าแบบดูดอุ)คือ การชนช้างนั่นเอง
    ผู้ไทได้เตรียมเหล้าไหใหญ่มางานพิธีเต็มที่

    เจ้านายบรูจึงได้มาหัดกินเหล้าใหญ่ใหญ่ จนเมาได้ที่กัน
    เมื่อเจ้านายบรูเมาเหล้า(สาโทหรือ อุ) เต็มที่แล้วฝ่ายผู้ไท
    จึงได้เอาง้าวดัดคอพระยาบรูขาด และเจ้านายบรูแล้วลากคอพระยาบรู
    ไปทิ้งลงน้ำเซเก๊าะ บรูก็ได้แตกหนีกระจัดกระจายไปหมดครับ

    นี่อีกข้อมูลหนึ่งที่ระบุชัดเจนว่า เรื่องการดูดอุ หรือการชนช้าง
    มีในประเฑณีหลวงด้วย ที่เรียกว่าการหัดกิน และเป็นข้อมูลสะท้อนว่า
    ตัวเมืองวังเดิมนั้นตั้งอยู่บนริมฝั่งน้ำเซเกาะครับบ้านเมืองหลวง(เมิงโหลงเก่า)
    ตั้งอยู่ติดลำน้ำเซเกะครับ(เรื่องเล่าทำนองเดียวกันนี้ มีในตำนานผู้ไทเมืองเซโปนด้วย)

    ในภาพข้างบน เป็นการดูดอุ ของกลุ่มชาติพันธุ์ไท ในเขตเวียดนามเหนือ
    ติดกับจีน ในยุคสมัยที่เป็นอาณานิคมฝรั่งเศส






    ขอขอบคุณ

    CR ::เรื่องเล่าจากคุณ Suthep Chaiyakhunt
    CR :: ภาพของคุณ เจสซี่ สะกดใจ




     

    Create Date : 01 สิงหาคม 2555
    0 comments
    Last Update : 1 สิงหาคม 2555 15:14:41 น.
    Counter : 5574 Pageviews.


    jamaica
    Location :
    1 Albania

    [ดู Profile ทั้งหมด]

    ฝากข้อความหลังไมค์
    Rss Feed
    Smember
    ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





    ฝากข้อความที่นี่ค่ะ^_^


    ++ Harmony of Life ++
    ช่วงเวลาดีๆ และ....
    ความรู้สึกดี ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ
    เมื่อเรามีหัวใจจะสรรค์สร้าง
    รู้สึกดีกับตัวเราเองรู้สึกดีกับสิ่งต่างๆ
    กับใครๆรายรอบตัว......และ
    แบ่งปันความรู้สึกที่ดีให้แก่กัน
    ทุก ๆวัน ก็จะเต็มไปด้วยความสุข
    และความรู้สึกดีๆ ค่ะ ^_^



    "เปิดBlog 5 กรกฎาคม 2553"

    ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่มอบให้
    jamaica's Blog นะคะ


    BlogGang Popular Award # 6

    BlogGang Popular Award # 7

    BlogGang Popular Award # 7

    BlogGang Popular Award # 8

    BlogGang Popular Award # 8

    BlogGang Popular Award # 9

    BlogGang Popular Award # 9

    BlogGang Popular Award # 9

    BlogGang Popular Award #10
    Group Blog
     
    <<
    สิงหาคม 2555
     1234
    567891011
    12131415161718
    19202122232425
    262728293031 
     
    1 สิงหาคม 2555
     
    All Blogs
     
    Friends' blogs
    [Add jamaica's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.