ขณะที่วันหนึ่งกำลังเม้าท์กันอย่างเมามันที่ออฟฟิศว่า

ถ้าให้เลือกจัด outing ได้ พวกเราอยากไปที่ไหนกัน

มีอยู่เสียงหนึ่งบอกว่า ไม่ขออะไรมาก ต่างประเทศก็ไม่อยากไป ขอไปแค่ภูเก็ต และพักที่ศรีพันวาก็พอ (อืม.....)

และในตอนนั้นเอง เพื่อนอุ๋ยก็ไลน์มาคุยเรื่องภูเก็ต และศรีพันวาพอดี

บอกว่า มีห้องพักแบบ Pool Villa อยู่ 2 วัน 1 คืน สนใจจะไปด้วยกันมั้ย

โอ้ว...สวรรค์มาโปรด เอ้ย เพื่อนมาโปรดขนาดนี้แล้ว มีหรือที่เราจะปฏิเสธ

เพราะถ้าให้จ่ายเงินมาเอง คงจะไม่มีปัญญาแน่ๆ

ห้องพักคืนละ 55,000 บาท ไปเที่ยวตามโปรแกรมในฝันได้อย่างน้อยๆ 1 ทริปเลยนะนั่น

รีบเคลียร์คิว และตอบตกลงทันที 

พวกเรามาถึงภูเก็ตตอนสายๆ จัดแจงเช่ารถและกินข้าวเที่ยงที่ร้านระย้า ร้านดังแห่งเมืองภูเก็ต

หลังจากนั้นก็ตรงดิ่งมาเช็คอินที่รีสอร์ท แต่หลงทางไปซะเกือบชั่วโมง

กว่าจะมาถึงทำเอาทั้งเหนื่อยและเพลียกันเลยทีเดียว

ได้น้ำเย็นๆ และผ้าเย็นๆ โป๊ะเข้าไปหน่อย หอมชื่นใจ และสดชื่นขึ้นมาทันที

จากนั้นพนักงานพาขึ้นรถเล็กของรีสอร์ทพามาส่งที่บ้านพัก

บ้านพักของเราอยู่ใกล้ๆ กับที่เช็คอินเลย แต่จะเดินมาเองก็ไม่ไหวแน่ๆ เป็นทางเนินขึ้นเขา ไหนจะสัมภาระอีก

พอเปิดประตูเข้ามาในบริเวณเท่านั้นล่ะ ถึงกับต้องร้องว้าว!!!!! กันเลย

บ้านพักใหญ่โต พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว

(ครั้งนี้ถ่ายรูปมาน้อยเกินกว่าที่ควรจะเป็น และรูปส่วนใหญ่ก็ไม่สวยถูกใจเลย)

แม่บ้านเปิดแอร์เย็นเจี๊ยบไว้คอยต้อนรับแล้ว

พร้อมแนะนำส่วนต่างๆ ของบ้านพักกันอีกนิดหน่อย

ส่วนของห้องรับรอง หมอนเยอะถูกใจดีจัง กลิ้งๆ นอนๆ อยู่ตรงนี้ไม่อยากลุกไปไหนเลย

ต่อมาคือส่วนของห้องครัวที่มีอุปกรณ์ครบครัน

ทั้งเตาไมโครเวฟ เครื่องชงกาแฟ กระติกน้ำร้อน เตาไฟฟ้า เครื่องปิ้งขนมปัง

จะว่าไป ที่จริงเอาอาหารแบบง่ายๆ มาทำกินในนี้ได้เลยนะ

จานชามช้อนส้อมเค้าเตรียมไว้ให้พร้อมสรรพเลย

ในส่วนของมินิบาร์ก็เลือกกินได้ตามใจชอบเลย ไม่คิดเงินเพิ่ม (ดีตรงนี้นี่ล่ะ)

ยกเว้นแต่ไวน์ 2 ขวดที่มีป้ายห้อยเอาไว้ ไม่ทันดูว่าเป็นไวน์อะไร และราคาเท่าไหร่

และมีขนมขบเคี้ยวเตรียมไว้ให้อีกนิดหน่อย

ห้องแต่งตัวที่มีอุปกรณ์ต่างๆ เตรียมไว้ให้ครบครัน

ผ้าเช็ดตัวที่เค้าจัดไว้ให้ ใช้ซะเกือบหมดกอง ว่ายน้ำหรืออาบน้ำทีก็เปลี่ยนผืนใหม่

เคาน์เตอร์ห้องน้ำก็แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ไม่ต้องแย่งกันใช้

สำรวจข้างในเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาดูข้างนอกกันบ้าง

สระว่ายน้ำล้อมรอบบ้านเลย

จะโดดลงน้ำจากมุมไหน ส่วนไหนของบ้านก็ได้

ยังมีเก้าอี้นอนให้อาบแดดเล่นๆ ด้วย แต่ไม่ได้ใช้บริการหรอก แค่น้ำก็คล้ำจะแย่อยู่แล้ว

เสียดายที่อ่างจากุชชี่อยู่ข้างนอก แล้วไม่มีอะไรปกปิด

ไม่ได้อายที่ต้องอาบน้ำกลางแจ้ง แต่ติดตรงที่ว่า อ่างเลอะขี้เกียจทำความสะอาดก่อนแช่น้ำแน่ะ

หรือจะอาบน้ำท่ามกลางแสงจันทร์ด้วย rain shower แบบนี้ก็ได้นะ

มีแชมพู ครีมนวด และสบู่เหลวจัดแยกไว้ให้อีกชุดด้วย

ห้องนอน เป็นห้องที่เราใช้เวลาอยู่ที่นี่น้อยที่สุดเลย

เข้ามาแค่ตอนนอนเท่านั้นล่ะ ก็ส่วนอื่นน่าสนใจกว่าตั้งเยอะนี่นา

ได้เวลาลงเล่นน้ำรอบแรกแล้ว

สระว่ายน้ำที่นี่กลิ่นคลอรีนแรงไปนิด กลิ่นติดตัว ติดชุดว่ายน้ำอย่างฝังแน่นมากๆ

ระหว่างรอรถมารับ ก็เลยแอบส่องบ้านตัวเองซะหน่อย

อยากรู้ว่ามีความเป็นส่วนตัวมากน้อยแค่ไหน

เผื่อวันข้างหน้าจะมาแบบสวีทๆ บ้าง

มาถึงตรงส่วนของ Baba Nest

ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยที่สุดของศรีพันวาเลย

ตอนขึ้นมาถึงที่นี่ถึงกับต้องร้องว้าวกันอีกรอบ

จะงดงามอะไรเช่นนี้!!!!! 

มีลูกค้านั่งกันเป็นกลุ่มๆ แล้ว ก็เลยถ่ายรูปมาได้ไม่เยอะ เพราะต้องให้ความเป็นส่วนตัวกับคนอื่นเค้าด้วย

ถ้าอยากขึ้นมานั่งชมดวงตะวันลับฟ้าที่นี่ ถึงกับต้องจองที่นั่งล่วงหน้ากันเลยทีเดียว

จุดไฮไลท์ก็อย่างนี้ล่ะนะ ใครๆ ก็อยากขึ้นมานั่งชิลด์ นั่งหวานกันบนนี้

หากข้างบนเต็ม หรือวันไหนฟ้าฝนไม่เป็นใจ ก็มีส่วนข้างล่างนี้ไว้รับรอง

ซึ่งก็สามารถชมวิวเพลินๆ ได้เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ได้เปิดโล่งเท่านั้นเอง

แอบทำซึ้งนิดนึง

ระหว่างไม่มีใครให้คิดถึง กับ คนที่คิดถึงไม่ได้มาด้วย

อย่างไหนจะเศร้ากว่ากันเนอะ (ดราม่าอีกล่ะ)

"ศรีพันวา" จัดสัมนาคุณพิเศษเป็นเครื่องดื่มเย็นๆ มาให้จิบระหว่างชิลด์

ช่วงเข้าพรรษา เพื่อนงดแอลกอฮอล์ทุกชนิด อดดริงค์เลย

น้ำลิ้นจี่ผสมมะนาว หวานๆ เปรี้ยวๆ ชื่นใจไปอีกแบบ

ขอบคุณนะคะ

ด้านข้าง Baba Nest เป็นบ้านพักของคุณปลาวาฬ

วิวแจ่มมากๆ ไม่มีอะไรมาบดบังความงามของธรรมชาติและท้องทะเลเลย

ทีแรกตั้งใจว่าจะออกไปหาอะไรง่ายๆ กินกันข้างนอก

แต่ดูจากถนนหนทางภายในรีสอร์ท และจากระหว่างทางที่ผ่านมาแล้ว

พวกเราตัดสินใจฝากท้องกันในนี้แล้วกัน เข้ามาถึงแหล่งที่เงียบสงบ ก็ไม่อยากออกไปไหนแล้ว

มื้อเย็นที่ Baba Poolclub

สปาเก็ตตี้มิกซ์ซีฟู้ด และพิซซ่าแป้งบางกรอบ

พิซซ่าเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่เลย อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ด้วย

แค่ 2 อย่างนี้ จ่ายไปเกือบ 1,500 บาท

ตอนเช้ามาสำรวจบริเวณภายในรีสอร์ทกันต่อ

จริงๆ อยากลงไปถึงทะเลข้างล่างเลย

แต่ติดตรงที่ว่าขาข้างซ้ายเดี้ยงตั้งแต่ก่อนมา และขาข้างขวามาเดี้ยงตอนอยู่ที่นี่ อดเลย

สระว่ายน้ำส่วนกลางที่มองเห็นวิวทะเลสุดลูกหูลูกตา

แต่ไม่ค่อยมีใครมาใช้บริการกันซะเท่าไหร่ เพราะในบ้านพักแต่ละหลังก็มีสระว่ายน้ำส่วนตัวกันอยู่แล้ว

เดินถ่ายรูปจนเหนื่อย ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว

อาหารเช้าของเราไม่รวมอยู่ในราคาห้องพัก ต้องจ่ายเพิ่มอีก คนละ 900++

ไลน์อาหารเช้ามีให้เลือกเยอะมาก และยังสามารถเลือกจากในเมนูได้อีก

ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเมนูขนมและเครื่องดื่ม

จบจากอาหารเช้าแล้ว ก็เดินย่อยถ่ายรูปต่ออีกนิดหน่อย

จริงๆ ตั้งใจว่าจะเดินลงไปถึงทะเล แต่ด้วยความที่ซุ่มซ่ามเดินตรงช่องทางเดิน เลือดอาบน่องขวาเลย

เดินลงไปไม่ไหวจริงๆ ทำให้อดเก็บภาพมุมกว้างที่เห็นศรีพันวาทั้งหมดเลย

เห็น "ไอติมตัวดูด" แล้วนึกตอนเด็กๆ เลย จำได้ว่าชอบกินมากตอนสมัยเรียนประถม

ที่นี่ก็มีแช่ไว้ให้ในส่วนของมินิบาร์ด้วย

เพื่อนบอกว่าหวานเกินไป ก็เลยไม่ได้ชิม 

ได้เวลาเช็คเอาท์แล้วเหรอเนี้ย ทำไมเร็วจัง

ขนาดเค้าให้เลทเช็คเอาท์ได้ถึงบ่าย 2 นะ ยังรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน

เช็คเอาท์เสร็จแล้ว แต่เรายังไม่กลับค่ะ

พอดีได้รับอภินันทนาการพิเศษจากศรีพันวา คือ ทรีตเมนต์และทำสปา คนละ 1 คอร์ส

ปลื้มสุดๆ กับข้อเสนอแสนพิเศษนี้  

ก่อนจะทำสปาต้องตอบคำถามสุขภาพเล็กน้อย

เช่นว่า มีอาการปวดเมื่อยมั้ย ปวดหลัง ปวดไหล่ หรือปวดคอ

ต้องการกลิ่นน้ำมันหอมระเหยแบบไหน แบบผ่อนคลาย หรือสดชื่น

สรรพคุณของแต่ละกลิ่นที่เค้าบอกมา ชวนเอาอยากจะนวดซะทุกกลิ่นเลย

แต่ในที่สุดสรุปได้ว่า

ขัดตัวด้วยมะม่วงสุกสดๆ (ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของ Cool Spa นี่เลย)

และนวดตัวด้วยน้ำมันหอมระเหยกลิ่นตะไคร้ เพื่อความผ่อนคลาย และสบาย

ค่าใช้จ่ายประมาณ 6,000 บาท / คอร์ส

 แค่เดินเข้ามาในห้องทำสปาก็รู้สึกเคลิ้มๆ อยากจะหลับแล้ว

แอร์เย็นๆ บวกกันเสียงเพลงคลอเบาๆ และกลิ่นหอมๆ เหมือนอยู่ในวังวนที่มีตามความสุขสบาย

เวลา 60 นาทีผ่านไปอย่างไว กำลังหลับได้ที่เลย

แต่ต้องลุกขึ้นอาบน้ำล้างตัว และกลับสู่สภาวะเดิมๆ ซะแล้ว

 ได้เวลาอำลา "ศรีพันวา" กันจริงๆ แล้วล่ะ

ช่วงเวลา 2 วัน 1 คืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว

รู้สึกว่าให้เวลากับที่นี่น้อยไปนิด ยังไม่ได้ออกสำรวจพื้นที่โดยรอบเลย

หวังว่าจะมีโอกาสพิเศษที่ทำให้ได้มาเยือนที่นี่อีกนะ

(เห็นแต่ละคนถ่ายรูป "ศรีพันวา" ออกมาสวยๆ ชวนฝันให้ไปเยือนทั้งนั้นเลย รูปของเราคงจะสวยน้อยที่สุด

หวังว่าใครผ่านมาชมบล็อกนี้แล้วจะไม่ทำให้ความอยากไปเยือนลดลงนะ

ขออภัย ฝีมือไม่ถึงจริงๆ

แต่สถานที่จริงสวยมากค่ะ คอนเฟิร์ม!!!)

Create Date : 27 สิงหาคม 2556
Last Update : 27 สิงหาคม 2556 18:00:19 น.		52 comments
Counter : 4064 Pageviews.
Share Tweet