...เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องใหญ่สำหรับเรา...

1000MilesJourney
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 93 คน [?]




เรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องใหญ่สำหรับเรา

Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
4 มิถุนายน 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add 1000MilesJourney's blog to your web]
Links
 

 

"ไม่รวย ก็เที่ยวเมืองนอกได้" แชร์ประสบการณ์จริงกว่า 5 ปีที่ผ่านมา


"เที่ยวเยอะขนาดนี้ ต้องรวยแน่ๆ เงินเดือนต้องสูงแน่ๆ เลย"

"ทำงานอะไรอ่ะ ทำไมถึงได้เที่ยวบ่อยจัง"

"ดีเนอะ ลางานได้เยอะขนาดนี้ เจ้านายใจดีจัง"

"เราคงไม่มีโอกาสได้เที่ยวอย่างนี้หรอก เราไม่มีเงิน ภาระเราเยอะ ค่าใช้จ่ายเราแยะ"

"เราไม่เคยไปเที่ยวคนเดียวเลย ผู้หญิงตัวคนเดียวอันตรายจะตาย เหงาด้วย"

"เราพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง พูดภาษาจีนไม่ได้ เราไม่กล้าไปเที่ยวเองหรอก"
...
...
...


ข้างบนนี้เป็นคำถาม หรือคำพูดที่ได้ยินบ่อยๆ ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา

จริงๆ คิดอยู่นานว่าจะอัพบล็อกเรื่องนี้ดีมั้ย เพราะอาจจะดูไร้สาระ หรือเป็นเรื่องราวส่วนตัวมากไปหน่อย

แต่คำถามต่างๆ ยังคงวนเวียนมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ  วันนี้ถือโอกาสมาไขข้อสงสัยของใครหลายๆ คนซะเลย


"สาวโรงงาน" คือ คำตอบของอาชีพตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

มีรายได้อยู่ทางเดียว คือ "เงินเดือน" และรอ "โบนัส" อย่างใจจดใจจ่อ

ใน 1 ปีมีวันหยุดพักร้อน 12 วัน (น้อยจัง อยากได้เพิ่มอีกอ่ะ Smiley) วันหยุดตามประเพณี 16 วัน วันหยุดประจำสัปดาห์ 105 วัน

บวกลบคูณหารแล้ว "วันหยุดทั้งหมด 133 วัน"


ปีนึงยังไงก็เที่ยวน้อยว่า 133 วันอยู่แล้ว ทีนี้ก็จัดการกับวันหยุดเอาเองสิว่าจะไปเที่ยวช่วงไหนได้บ้าง

แต่ด้วยความที่ปีก่อนโน้นลาเต็มพิกัดไปหน่อย เจ้านายจึงออกคำสั่งพิเศษมาใช้กับเราคนเดียวว่า

"ห้ามลางานเกิน 1 สัปดาห์ทำงาน"

(รวมเสาร์-อาทิตย์หัวท้าย เท่ากับว่า การเที่ยว 1 ครั้ง ลาได้สูงสุดแค่ 9 วันเท่านั้น Smiley)


ในเมื่อเรื่อง "เที่ยว" คือ เรื่องใหญ่ และเรื่องสำสำคัญสำหรับเรา

ประกอบกับว่าเคยอ่านเจอในหนังสือของคุณนิ้วกลม แล้วชอบสโลแกนนี้มาก....

"เงินทองเก็บเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ประสบการณ์บางอย่าง ต้องเก็บตอนมีแรง"

จากนั้นเราจึงต้องพยายามหาหนทางว่า "ทำอย่างไรจึงจะสามารถไปเที่ยวได้ทุกๆ ปี?"


แรกเริ่มเดิมทีเราจะใช้เงินเก็บ (เท่าที่ตอนนั้นจะเก็บได้) หรือโบนัสประจำปี สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเที่ยว

แต่เมื่อมีโอกาสได้ไปออกไปเห็นโลกกว้างครั้งนึงแล้ว ความอยากเที่ยวก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

และหลายๆ ครั้งเห็นคนอายุเยอะเดินเหินไม่สะดวก ไม่คล่องแคล่ว ยิ่งเกิดความคิดว่า...

เราคงต้องเที่ยวตั้งแต่สมัยสาวๆ นี่ล่ะ

เพราะถ้าเที่ยวตอนแก่กลัวจะเป็นภาระของคนอื่น และก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ถึงแก่รึเปล่า


และเวลาได้ยินเพื่อนร่วมทริปพูดถึงความประทับใจของประเทศต่างๆ ที่เค้าเคยไป

ก็บังเกิดความอยากไปเห็นกับตาตัวเองบ้าง

ทีนี้ล่ะเป็นเรื่อง!!! เงินทองที่เก็บไว้ชักจะไม่พอสำหรับเที่ยวแล้วสิ

(เงินเดือนไม่สูง และชอบช้อปปิ้ง จะมีเงินเหลือเก็บสักเท่าไหร่กันเชียว)


ด้วยความที่ตัวเองเป็นคน "ไม่ชอบทำงาน แต่ชอบเที่ยว"

และมีรายได้เพียงทางเดียวคือ "เงินเดือน" ดังนั้นก็ต้องมาคิดแล้วล่ะว่า

จะบริหารเงินเดือนก้อนนี้อย่างไรดี เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน และการท่องเที่ยว

ประมาณว่า จะไม่ยอมสูญเสียความสุขด้านใดด้านหนึ่งของชีวิตเลยว่างั้นเถอะ Smiley


เมื่อมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนขนาดนี้แล้ว

เราจึงเริ่มต้นเปิด "บัญชีเงินฝากประจำรายเดือน" (ฝากเท่าๆ กันทุกเดือน)

ซึ่งข้อดีคือ จะได้ดอกเบี้ยมากกว่าการฝากออมทรัพย์ทั่วไป และรายได้จากดอกเบี้ยนี้ไม่เสียภาษี

มีระยะเวลาการฝากขั้นต่ำ 2 ปี

เหมือนเป็นการบังคับไปในตัวว่าต้องเอาเงินไปฝากทุกเดือน  Smiley

หากไม่ฝากติดต่อกันแค่ 2 เดือน บัญชีนี้ก็จะสิ้นสภาพทันที


เราถือว่าเงินฝากส่วนนี้คือ "ค่าใช้จ่ายรายเดือน"

เมื่อเงินเดือนออก นอกจากจะหักส่วนของที่ต้องให้พ่อแม่ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ แล้ว ก็รวมยอดนี้ไปด้วย

จะทำให้เห็นตัวเลขชัดเจนว่า ในแต่ละเดือนเรามีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

และเราควรจะใช้เงินส่วนที่เหลืออย่างไรให้มีความสุข



ส่วนที่จะฝากเท่าไหร่นั้น ก็อยู่ที่ว่าเราอยากจะกัน "ค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว" นี้ออกมาได้เท่าไหร่

และดูว่าทริปต่อไปเราอยากไปไหน งบประมาณเท่าไหร่

ธนาคารส่วนใหญ่จะให้ฝากขั้นต่ำ 1,000 บาท ระยะเวลา 2 ปี 

ครบกำหนด เราจะมีเงินก้อนอย่างน้อยๆ 24,000 บาท ไม่รวมดอกเบี้ย 

เท่านี้ก็สามารถไปเที่ยวประเทศใกล้ๆ ได้ตั้งหลายประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย พม่า เป็นต้น



ฉะนั้นคำพูดที่ว่า

"เงินเดือนน้อย ค่าใช้จ่ายเยอะ ไม่มีเงินไปเที่ยวหรอก"

ก็จะหมดไป


ยกตัวอย่างการเก็บเงินเพื่อเป้าหมายสำคัญของเรา  "ผจญภัยในโลกกว้าง"

เราจะฝากเงินเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 24 เดือน

แต่ในเมื่ออยากเที่ยวทุกๆ ปี เราจึงต้องฝากเงิน 2 ธนาคาร และเปิดบัญชีไล่หลังกัน 1 ปี

ทีนี้ก็จะมีบัญชีเงินฝากที่ครบกำหนดและเบิกใช้ได้ในทุกๆ ปีตามที่ตั้งใจไว้แล้ว



และสำหรับเราที่มี "รายได้จำกัด" 

จึงจำเป็นต้อง "จำกัดค่าใช้จ่าย" ด้วย

เพื่อที่จะได้มีเงินมาฝากเงิน "กองทุนเพื่อการท่องเที่ยว"  นี้ทุกๆ เดือน Smiley Smiley



วิธีการง่ายๆ เลยก็คือ ลองตัดรายจ่ายที่ไม่เป็นจำเป็น (จริงๆ****)Smiley ลงบ้าง

โดยคิดว่าถ้าเราไม่จ่ายเงินส่วนนี้ ความสุขจะลดลงมั้ย ชีวิตจะยากลำบากเกินไปรึเปล่า

คนเราก็คงไม่พ้นเสื้อผ้าSmiley เครื่องสำอาง เครื่องประทินผิว Smiley เครื่องประดับ Smiley กระเป๋า Smiley รองเท้า Smiley สินค้าแบรนด์เนม 

อาหารมื้อหรู เค้ก เบเกอรี่ ชากาแฟ มือถือ หรืออุปกรณ์ไอทีรุ่นใหม่ๆ สินค้านำสมัย ดูหนัง ฟังเพลง สังสรรค์



และวันที่อยู่บ้านว่างๆ ลองตั้งเป้าหมายเล่นๆ ว่า "วันนี้จะไม่ใช้เงิน"

แรกๆ อาจจะดูทรมานไปนิด เหมือนต้องคอยสะกดจิตตัวเอง

แต่ถ้าทำได้ เท่ากับว่าวันนั้นเราก็จะมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น 1 วัน 

ไม่ยากๆ ลองทำแล้ว Smiley



บางคนอาจจะคิดว่า โห...เก็บเงินเพื่อไปเที่ยวซะขนาดนี้

ชีวิตในแต่ละวันจะมีความสุขได้อย่างไร มิต้องกระเหม็ดกระแหม่ หรืออดมื้อกินมื้อเหรอเนี้ย

จริงๆ แล้ว เราก็มีความสุขตามอัตภาพของเรานะ เพราะมีความสุขที่ยิ่งใหญ่รอเราอยู่ข้างหน้า Smiley



อาหารเมนูเดียวกัน ถ้ากินในร้านหรูๆ อาจจะราคาร้อยกว่าบาท แต่ถ้ากินที่ร้านธรรมดา ก็แค่ไม่กี่สิบบาท

หรือถ้าที่บ้านมีวัตถุดิบอยู่พร้อม ก็ทำกินเองได้ ไม่ต้องเสียเงินค่ารถ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

และยังได้กินของที่สด สะอาด และมีคุณภาพชัวร์ๆ อีกด้วย



แต่ยามใดที่ได้ออกเดินทาง เราก็จะแสวงหาความสุขให้เต็มที่

อยากเที่ยวที่ไหน อยากกินอะไร อยากได้ หรืออยากซื้ออะไร ถ้าทุกอย่างยังอยู่ในงบประมาณที่กำหนดไว้ 

จัดเต็ม ลุยให้เต็มที่ไปเลย!!!

เพราะของที่อยากกิน หรืออยากได้ บางทีหาได้เฉพาะในท้องถิ่นนั้นๆ

จะไม่นึกเสียดายตังค์เลย เพราะเราตั้งใจเก็บเงินมาเพื่อสิ่งนี้แล้วนี่



คติพจน์ประจำใจข้อสำคัญของเราคือ

การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ

และการไม่มีหนี้ ก็เป็นลาภอันประเสริฐเช่นกัน

ดังนั้นควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ นอกจากไม่ต้องเสียเงินค่าหยูกยาแล้ว ยังมีเงินเก็บมากขึ้นอีกด้วย

และคนเราควรใช้จ่ายเท่าที่มีกำลังทรัพย์ และกำลังแรงจะหามาได้

ไม่ควรใช้จ่ายเกินตัว และไม่ควรก่อหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ หรือหนี้สินที่ไม่จำเป็น

ไม่อย่างนั้นชีวิตเราจะไม่มีความสุข จะเกิดภาวะเครียดกับการที่ต้องหาเงินมาใช้หนี้

เกือบ 20 ปีที่แล้ว ที่บ้านมีหนี้สินประมาณ 10 ล้านบาท (แต่ใช้หนี้หมดแล้ว)

เราเข้าใจความรู้สึกนั้นดี 



เรามีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า 

คนเราสามารถทำได้ทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับว่าจะทำหรือไม่ทำ เท่านั้นเอง

และไม่ควรพูดคำว่า "ฉันทำไม่ได้หรอก" หากยังไม่ได้ลงมือทำ

ลองใช้เทคนิค "ธรรมดาๆ" นี้ แล้วจะรู้สึกว่ามัน "พิเศษ" มากจริงๆ

สำหรับคนที่ไม่ชอบเที่ยว อาจจะเก็บเงินเพื่อซื้อสิ่งของที่ตัวเองอยากได้อยากมีก็ได้เช่นกัน



บอกอย่างภาคภูมิใจอีกอย่างหนึ่งว่า

Smileyทุกทริปที่เดินทาง ไม่ว่าจะภายในประเทศ หรือต่างประเทศ เราออกค่าใช้จ่ายเองทุกบาททุกสตางค์Smiley

ไม่มีท่านเซอร์ หรือสปอนเซอร์คนใดใจดีมาออกให้

มีเพียง 2 ทริป คือ ฉงชิ่งที่เจ้านาย (ผู้หญิง) ชวนไป และไต้หวันครั้งล่าสุดที่ไปช่วยเพื่อนทำงานเท่านั้นที่ไม่ต้องเสียเงินเอง



หวังว่าบล็อกนี้จะพอมีประโยชน์สำหรับใครหลายๆ คนที่อยากทำความฝันให้สำเร็จบ้างนะคะ

ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว เรียนหนังสือ บ้าน รถ สินค้าแบรนด์เนม หรือสิ่งของต่างๆ เพื่อสนองความต้องการ

และหวังว่าใครหลายๆ คนจะหายข้องใจแล้วนะว่า "ทำไมถึงมีเงิน มีเวลาเที่ยวได้บ่อยจัง?"

ขอบคุณจริงๆ ที่ติดตามอ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย Smiley




 

Create Date : 04 มิถุนายน 2557
27 comments
Last Update : 5 มิถุนายน 2557 11:15:20 น.
Counter : 13154 Pageviews.

 

ขอบคุณมากเลยจ้า เห็นภาพมากขึ้นเปี่ยวกะเงินออมก้อนนี้เลยจ้า

 

โดย: coji IP: 101.109.75.121 4 มิถุนายน 2557 14:09:13 น.  

 

พี่ก๋าก็เริ่มเก็บเงินบ้างแล้ว
แต่ไม่ได้ตั้งกองทุนท่องเที่ยว
เก็บเอาไว้ซื้อของครับ 555

เมื่อก่อนเก็บไม่อยู่เลยครับ
ใช้เกินอีกตะหาก 555

บล็อกนี้ของน้องหนึ่ง
สร้างแรงบันดาลใจให้คนที่อยกาเที่ยวได้มากเลยล่ะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 5 มิถุนายน 2557 15:58:43 น.  

 

สวัสดีตอนดึกๆ ครับคุณหนึ่ง .....

ขอสารภาพเลยว่า ผมเคยนึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมคุณหนึ่งถึงไปเที่ยวต่างประเทศได้บ่อยขนาดนี้
เรื่องที่อยากถามก็เหมือนกับที่เขียนไว้ตอนต้นของบล็อกเอนทรี่นี้เลยล่ะครับ .....

ทีแรกคิดว่ารายได้น่าจะสูงไม่ก็ฐานะที่บ้านคงจะไม่ธรรมดา
เพราะเคยเห็นใช้รถ Camry คันโตจากภาพในบล็อกนึงที่ขับรถไปส่งเพื่อนบล็อก .....

เพิ่งรู้ว่า กว่าจะได้ไปเที่ยวแต่ละแห่ง ต้องมีวินัยทางการเงินมากพอสมควรเลยทีเดียว
ถ้าใครทำได้แบบคุณหนึ่ง ก็คงจะไปเที่ยวต่างประเทศได้ทุกปีเช่นเดียวกัน .....

นับเป็นเรื่องราวที่เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่อยากไปเที่ยวแบบนี้บ้าง สำหรับผมเอง เรื่องเก็บเงินน่าจะทำตามได้ไม่มีปัญหา
จะมีก็แต่เรื่องเวลานี่แหละครับ ที่หาได้ยากเหลือเกิน เพราะด้วยอาชีพที่ทำอยู่ ยากที่จะหยุดได้คราวละหลายๆ วัน .....

 

โดย: NET-MANIA 5 มิถุนายน 2557 23:57:57 น.  

 

สุดยอดมากๆๆๆ น้องหนึ่ง อ่านแล้วปลื้มแทน

จริงนะ ความสุขของคนเราไม่เท่ากัน แล้วการที่เราจะทำให้เรามีความสุขได้ วางแผนดีๆ คุมใจตัวเองดีๆ มันก็สำเร็จจริงๆ นะ

โหวตหมวดท่องเที่ยวให้ แล้วก็ขออนุญาตเอาไปแชร์หน้าแฟนเพจด้วยนะจ๊ะ


เอ่อ...งานใหม่พี่นี่วันหยุดพักร้อนแค่ 6 วันเอ๊งงงง เหอๆ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 6 มิถุนายน 2557 8:05:53 น.  

 


อ่านแล้วอยากจะกด Like ให้หมื่น Like เลยจ้า
อ่านแล้วน้องหนึ่งสุดยอดในเรื่องความตั้งใจมั่น
ไว้พรุ่งนี้มาโหวตให้จ้า
คำนับให้เลยจ้า

 

โดย: อุ้มสี 6 มิถุนายน 2557 8:26:32 น.  

 

เข้ามาแบบไม่ได้ลอกอิน เราชอบความคิดและการจัดการของหนึ่งมาก ความฝันเราคือเดินทางเหมือนกัน ปต่เพิ่มอยากถ่ายภาพกับเขียนหนังสือไปด้วย

ข้อจำกัดเดียวตอนนี้คือพ่อ สักวันนึงเราจะทำตามฝันแน่นอนที่สุด

จะติดตามการเดินทางของหนึ่งต่อไปจ้ะ

 

โดย: รักแรกคลิก IP: 49.230.147.119 6 มิถุนายน 2557 11:27:37 น.  

 

กองทุนเพื่อการท่องเที่ยว
น่าหยอดเหรียญเข้าทุกเดือนจริงๆค่ะ
คนเราหากชอบอะไรเชื่อว่าต้องขวนขวายหามา หรือทำจนสำเร็จจนได้
ถ้ามีความตังใจจริง เชื่อว่าอย่างนั้น

แต่เห็นด้วยล้านเปอร์เซนต์ว่าไม่จำเป็นต้องรวยถึงจะเที่ยวได้
มันอยู่ที่การวางแผนจริงๆ ^_^

ปล เบเกอรี่นีทำสนองนีดว่าอยากทำค่า แต่กินนิดๆหน่อยๆ แจกให้เพื่อนๆอ้วนแทน อิอิ

 

โดย: AdrenalineRush 6 มิถุนายน 2557 12:16:55 น.  

 

กรี๊ด กรี๊ด

my idol มาเปิดปูมเทคกะนิค คิดเหมือนคุณเนทและอีกหลายๆคนแหละว่าทำไม๊ทำไมน้องหนึ่งทำงานอะไรถึงได้ตระเวนตะลอนซะครึ่งค่อนโลกขนาดนั้น แถมต้องเป็นเจ้าของ บ หรือ บ เครือญาติแน่ๆ ถึงได้ไม่โดนซองขวา อิอิ

"เงินเดือนไม่สูง และชอบช้อปปิ้ง จะมีเงินเหลือเก็บสักเท่าไหร่กันเชียว" ต้องเพิ่มว่าแถมชอบหาของอร่อยๆ กินอีกด้วย สามเด้งเลยเนี่ย ยากทวีคูณ เห็นขนาดบางทีบินไปตปท.เพื่อชิม!!! โดยเฉพาะ อิอิ แต่น้องหนึ่งก็เผยเคล็ดลับที่ไม่ลับไม่ซับซ้อนแล้ว เพียงต้องตั้งมั่นและมีวินัย ส่วนพี่แย่หน่อย ขาดเวลาอย่างมาก ปีหนึ่งมีโควต้าให้หยุดแค่ 52วัน + สงกรานต์ เอง เส้า

 

โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 6 มิถุนายน 2557 14:09:25 น.  

 

คุณหนึ่งมีวินัย เยี่ยมเลยครับ นับถือจริง ๆ

ทีแรกก็สงสัย ว่า ได้เที่ยวแยะจริง ๆ ไปในที่แปลก
แหะ ๆ ที่เขาไม่ไปกัน โห..มีปล้นฆ่ากันด้วย

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 6 มิถุนายน 2557 15:33:13 น.  

 

ดีแล้วน้องหนึ่งที่เขียน พี่ชอบ... อ่านแล้วรู้สึกดี เก่ง เพราะต้องมีวินัย และต้องชนะใจตัวเองในบางเรื่องบางอย่างจริงๆ เนาะ

จริงๆ พี่ก็หยอดกระปุกเพื่อไปเที่ยวนะ แต่ที่บ้านพี่คูณ 4 ไง เลยต้องคิดเยอะ แต่ก็ไปจ้ะ ในเวลาอันใกล้นี้ อาจจะยังไม่มีต่างประเทศ แต่ไม่เป็นไร พี่ไม่รีบ

ที่พี่ตั้งใจเที่ยว เมื่อมีโอกาส ก็เมื่อตอนไปเที่ยวปายกับอาม่า ทั้งทริปมีคนอายุ 60 up ทั้งนั้น พี่ไปกับเมฆ แล้วก็หลานอีกคน ส่วนมากบรรดาอาม่าก็นั่งแหมะกัน เดินไม่ไหว กลับจากทริปนั้น ตั้งใจกับตัวเองเลย จะไปเท่าที่ตัวเองยังพอไหว มีวันลูกหยุดเยอะ ก็ไปหลายวันหน่อย วันหยุดน้อยก็ใกล้ๆ ออกนอกบ้านก็ถือว่าได้เที่ยวแล้วจ้ะ (แต่ทิเบต เนปาล ปากี แบบน้องหนึ่ง พี่ไม่ไหวแล้วนะ หายใจไม่ทัน ตายแน่เลย 555)

*** เสม็ด พี่ตั้งใจไปทุกหาด ไปถึงเที่ยงกว่ามัง มีเวลาประมาณ 4-5 ชม. กลับมาฝั่งนี้จ้ะ พี่พักที่บ้านเพ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 6 มิถุนายน 2557 16:20:04 น.  

 

555
น้องหนึ่ง
พี่ชอบ "กองทุนเพื่อการท่องเที่ยว" อ่ะ
ทำไงพี่ถึงจะได้เข้าร่วมหน้อ.....

พักหลังด้วยภารกิจการงาน
กับการตัดสินใจนำเงินไปลงทุนเกสเฮ้าส์
ทำให้ภารกิจตะลอนทัวร์ของพี่หดหายไปเยอะเหมือนกันนะ
ทั้งๆที่ อยากไปมาก ก็มันอยู่ในกระแสเลือดแล้วอะเน๊อะ

 

โดย: mutcha_nu 7 มิถุนายน 2557 12:04:39 น.  

 

อ่านสองรอบแล้วค่ะคุณหนึ่ง
ชอบมากๆค่ะ งานเขียนแบบนี้สร้างกำลังใจให้รุ้งได้มากๆเลยค่ะ
สำหรับรุ้งก็มีกองทุนท่องเที่ยวเหมือนกันค่ะ. เก็บบัญชีแยกไว้ต่างหาก แต่ไม่ได้เปิดบ/ชฝากประจำ. รุ้งกับแฟนทำงานฟรีแลนซ์ รายได้ไม่แน่นอนบางทีก็ติดขัดก็ต้องเอาเงินท่องเที่ยวมาหมุนก่อนบ้างก็มีค่ะ.

เรื่องเวลาสำหรับรุ้งกับแฟนนี่จะเรีย่กว่าพอยืดหยุ่นได้ค่ะ. ถ้ามีงานเข้ามาตรงกับวันเที่ยวก็ต้องตัดใจทิ้งเงินแลกกับการไปชาร์ตพลัง. แต่ถ้าเงินมากก็ทิ้งตั๋วเหมือนกันค่ะ

สุดท้ายส่วนสำคัญที่ทำให้เหนื่อยเวลาเก็บเงินสำหรับรุ้งคือรายรับที่ไม่แน่นอนกับรายจ่ายที่ค่อนข้างหมดไปกับเรื่องไร้สาระนี่แหละค่ะ วันนี้รุ้งจะลองทำตามคุณหนึ่งดูค่ะ คืออยู่บ้านงดใช้เงินกับเรื่องไร้สาระดูค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆนะคะ อยากขออนุญาตแชร์ไปทาง fb. บ้างได้ไหมคะ

 

โดย: กางเกงยักษ์ลอยฟ้า 7 มิถุนายน 2557 12:34:20 น.  

 

เก่งมากเลยครับ..ทุกวันนี้ยังมีโรคปรำตัวอยู่เลย ทรัพย์จาง หนี้ท่วม...

 

โดย: Ujiba 9 มิถุนายน 2557 21:55:38 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
ขอบคุณคุณหนึ่งคนสวยที่ยังไม่ลืมกันค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
chenyuye Travel Blog ดู Blog


 

โดย: หอมกร 9 มิถุนายน 2557 22:14:03 น.  

 

หวัดดีครับคุณหนึ่ง..

ไม่ได้มาเยี่ยมกันนานมาก
เห็นด้วยนะว่าไม่รวยก็เที่ยวเมืองนอกด้วย
ปัจจุบันค่าเครื่องแย่งกันลดราคามากมาย
ถ้าเตรียมตัวดีๆ..ไปได้ครับ

รักษาสุขภาพด้วย

 

โดย: wicsir 10 มิถุนายน 2557 21:42:10 น.  

 

ทึ่งความมีวินัยในการเก็บเงินของคุณหนึ่งมากกกกกกเลยค่ะ
ไม่ต้องใช้แบรนด์เนม ไม่ต้องใช้เครื่องสำอางแพงๆ
ไม่ต้องกินหรูหรามากเปลืองตังค์ ก็เที่ยวได้แล้ว

แต่ละที่ไปไกลๆ สวยๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ ชอบๆ
ทึ่งเรื่องการเก็บเงินมาก

ไปเที่ยวเองไม่ง้อ สปอนเซอร์ไม่ต้องมากดดันทำบล็อกให้ด้วยนะคะ รินว่า 555






เนื้อย่าง ขั้นเทพ!!

 

โดย: Rinsa Yoyolive 11 มิถุนายน 2557 23:46:49 น.  

 

เห็นรูปไซบีเรียแล้วอยากไปย่ำตอนมีหิมะบ้างจัง

เก็บทุนเอาไว้สำหรับท่องเที่ยวโดยเฉพาะเหมือนกันค่ะ ไปตั้งแต่มีเรี่ยวแรงนี่แหละ (แม้ว่าตัวเองจะเพิ่งเที่ยวได้ไม่นานนัก) ถือว่าคืนกำไรชีวิตสุดๆแล้วค่ะกับการได้ออกไปดูโลกกว้าง

ไม่จำเป็นต้องรวย ก็เที่ยวได้ แค่วางแผนชีวิตให้เป็นอ่ะเนอะ

 

โดย: wachi (กาบริเอล ) 19 มิถุนายน 2557 13:56:16 น.  

 

เคยคิดเหมือนกันค่ะ ว่าคุณหนึ่งทำงานเป็นไกด์หรือเปล่า
ตอนนี้ได้คำตอบละ
เพราะมีวินัยในการจัดการงบและเวลาที่ดีนี่เอง

 

โดย: VELEZ 24 มิถุนายน 2557 22:22:34 น.  

 

ทำแบบคุณหนึ่งค่ะแต่ทำสองช่องทางคือฝากเงินประจำกับเล่นแชร์
ฮ่าๆๆๆๆๆ จะบอกว่ามิลเป็นคนที่มีวินัยทางการเงินได้น้อยกว่าคุณหนึ่งนิดนุง
และอยากไปเที่ยวทุกที่แต่ก็ประหยัดกินประหยัดใช้เหมือนกันเลยอิอิ
แต่ตัวเองก็มีภาระต้องผ่อนรถไรงี้ตอนนั้นนะคะ แต่ก้อยังขยันเที่ยวอ่ะนะ
เสื้อผ้าซื้อน้อยมากค่ะเพราะชอบใส่ที่มีอยู่แล้วมากกว่าเสื้อยืดยีนส์ง่ายๆเมื่อก่อนสบายมากๆ มาปรบมือให้คุณหนึ่งและคงเป็นแนวทางให้น้องๆขาเที่ยวได้เอาเป็นแบบอย่างด้วยค่ะ

 

โดย: มิลเม 9 กรกฎาคม 2557 23:21:29 น.  

 

สุดยอดเลยคุณหนึ่ง ^^

 

โดย: ืnamfaseefoon IP: 223.206.157.197 15 กรกฎาคม 2557 19:42:00 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องหนึ่ง
อ่านแล้วรู้เลยว่ารักการเที่ยวจริง ๆ 555
ปล.ขนมจีนเอามายำอร่อยค่ะ
เพราะเส้นจะไม่อืดน้ำแบบวุ้นเส้นจ้า

 

โดย: เนินน้ำ 15 กรกฎาคม 2557 22:17:16 น.  

 

ชอบความคิดของเจ้าของบล็อกจังเลยค่ะ
ดูดี มีสาระ และยังได้ไปเที่ยว

 

โดย: เหมือนพระจันทร์ 23 มกราคม 2558 10:38:52 น.  

 

เก่งจริง ๆ ตัวแค่เนี้ย ผมสั้นน่ารักดีนะ

 

โดย: ตะวัน IP: 49.237.5.193 28 กุมภาพันธ์ 2558 15:18:46 น.  

 

พี่เก่งมากเลยคะ

 

โดย: โบ IP: 202.29.214.229 30 มีนาคม 2558 13:36:44 น.  

 

ขอบคุณๆ และขอบคุณสำหรับแรงบันดาลใจดีๆค่ะ คุณหนึ่ง
เราเองก็เพิ่งมารู้สึกตัวเมื่อได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาปีนี้เองค่ะ
ว่าหลงไหลการท่องเที่ยวมากๆ ที่ผ่านมาไม่รู้มัวแต่เสียเวลาไปทำอะไรอยู่
แถมยังพึ่งนึกถึงคำสัญญาว่าจะพาคุณแม่เที่ยวเมืองจีน บ้านเกิดบรรพบุรุษ
ที่แม่ไฝ่ฝันว่าจะไปตั้งแต่สิบปีที่แล้ว เคยรับปากกับแม่ไว้ก็ลืมสนิท
มาตอนนี้เพิ่งเริ่มเก็บเงินเป็นกองทุนพาแม่เที่ยว ยังไม่รู้จะทันกับอายุที่เพิ่ม
ขึ้นของแม่หรือเปล่า แต่ก็จะพยายามสุดกำลังค่ะ

 

โดย: pim IP: 171.7.178.166 10 พฤษภาคม 2558 17:01:20 น.  

 

กำลังทำแบบเดียวกันเลยคะ

 

โดย: แตง IP: 115.31.154.248 25 พฤษภาคม 2558 11:18:22 น.  

 

ปรบมือรัวๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: zuttizhai IP: 110.170.183.200 19 พฤศจิกายน 2558 8:49:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.