ตุลาคม 2568

 
 
 
1
4
6
7
8
9
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
As Good as It Gets (1997) เพียงเธอ..รักนี้ดีสุดแล้ว

 
"You make me want to be a better man."
 
เคยได้ยินคนพูดเกี่ยวกับ ''คนปากแต่ร้ายใจดี'' หรือเปล่าครับ ตอนแรกผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดนี้สักเท่าไหร่

คิดไปซะว่า ''ไอ้คนที่ชอบพูดจาขวางโลก ปากร้าย'' (หรือเรียกอีกอย่างว่าปากหมา) มันก็แค่ข้ออ้าง ถ้าคนเราคิดดีมันจะพูดจาแบบนั้นออกมาทำไม เอาจริงๆในตอนแรกผมค่อนข้างไม่ค่อยเข้าใจคนประเภทนี้เท่าไหร่เลย ยิ่งมาเจอในชีวิตจริงเรียกว่าหวิดจะมีเรื่องกับคนประเภทนี้หลายๆครั้งแล้ว 555

แต่ไม่ว่ายังไง พอลองมาคิดดูดีๆแล้ว ''คนประเภทนี้มีจริงๆนะ'' แล้วถ้าเรามาลองรู้จักเขาดูดีๆ ''เขาอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอกนะ'' ตรงกันข้ามเขาอาจจะเป็นคนดีกว่าที่เราคิดอยู่ก็ได้

เรื่องราวแบบนี้ทำให้ผมมานึกถึงหนังเรื่อง As Good as It Gets (ผมโครตชอบชื่อหนังเรื่องนี้เลย) ที่นำแสดงโดย Jack Nicholson ในบท ''ยูดัล เมลวิน'' เป็นชายที่ปากเสีย ชอบทำตัวขวางโลก ไม่พอใจอะไรก็เสียงดัง เเล้วชอบพูดอะไรออกมาโดยไม่คิด จนทำให้คนอื่นช้ำใจอยู่บ่อยครั้ง

ลองนึกถึงคนแบบนี้ดูนะครับ ถ้าแกเป็นคนข้างบ้านผม แล้วมาทำพฤติกรรมแบบนี้บ่อยๆ อาจมีเรื่องกันสักวันแน่ๆ

แต่นั่นก็เป็นภายนอกของเขาครับ เมื่อพอถึงเวลาที่คนอื่นเดือดร้อนจริงๆ แกจะเป็นคนยื่นมือมาช่วยเหลือเสมอ

แกจะมีร้านอาหารโปรดแกอยู่ร้านหนึ่งครับ โดยมี ''แครอล'' ทำงานเป็นสาวเสิร์ฟอยู่ที่นั่น วันหนึ่งแครอลบอกกับแกว่า

''อาหารที่คุณสั่งมันไม่ดีต่อสุขภาพนะ''

ด้วยความเป็นคนที่พูดไม่คิดอยู่แล้ว แกจึงสวนกลับมาว่า

''ไม่ต้องกังวลหรอก เพราะยังไงลูกของเธอก็ตายก่อนฉันอยู่ดี''

และนี่ก็เป็นปัญหาของคนที่พูดจาไม่ค่อยคิดครับ เพราะหารู้ไม่ว่าลูกชายของแครอลป่วยหนักอยู่ เธอจึงตอกกลับมาด้วยอารมณ์โกรธสุดๆว่า

''ต้องสัญญาว่าจะไม่พูดแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นก็ไสหัวออกไปจากร้าน แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก''

หลังจากวันนั้น ''เมลวิน'' ก็เริ่มเห็นสิ่งหนึ่งในตัวเธอ เขามากินร้านนี้ทุกวัน เริ่มถูกชะตากับเธอ คอยถามเธอด้วยความเป็นห่วงว่า ''ลูกชายคุณเป็นไงบ้าง''

และเขาก็เป็นห่วงหวังดีกับเธอจริงๆ

หลังจากวันนั้นเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงตัวเอง (ก็เพราะไปตกหลุมรักผู้หญิงนั่นแหละ) เริ่มจะระงับอารมณ์ได้ เริ่มจะพูดจาดีขึ้น ดูเป็นมิตรขึ้น วันหนึ่งเพื่อนบ้านเขาโดนทำร้ายร่างกายและบาดเจ็บหนัก เขาก็ดูแลสุนัขให้ และก็เป็นมิตรกับสุนัข (ที่เคยเกลียด) อย่างไม่น่าเชื่อ

แต่แล้ววันหนึ่งแครอลไม่มาทำงาน

''เมลวิน'' จึงเดินทางไปหาเธอที่บ้าน ตอนเธอเจอเขามาหาที่บ้าน เธอก็โวยวายขึ้น ''คุณมาที่นี่ทำไม!!!''

เธอด่าเขาไปว่า ''นี่คุณบ้าไปแล้วนะ ที่มันบ้านฉันนะ รู้จักหัดควบคุมสติบ้างนะ''

เขาเพียงตอบกลับเธอไปว่า ''อ๋อ ผมควบคุมตัวเองได้ และนี่คือข้อพิสูจน์ คุณโวยวายแต่ผมไม่เป็น''

หลังจากนั้นเขารู้ได้ว่าลูกเธอป่วยและเธอไม่มีเงินรักษา เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลแพงมาก เขาจึงจ่ายค่ารักษาทั้งหมดให้เธอ เพื่อให้เธอได้กลับไปทำงาน

อ้อ! ตรงนี้ลืมเล่าไป ''เมลวิน'' เป็นนักเขียนครับ แม้เขาจะเป็นคนอารมณ์รุนแรง ปากไม่ค่อยจะดี แต่งานเขียนของเขาโรแมนติกใช้ได้เลยนะ

หลังจากนั้นพวกเขาสองคนก็ค่อยๆ เข้ามาอยู่ในชีวิตของกันและกัน โอเครมองจากตรงนี้ พวกเขาทั้งสองไม่สมบูรณ์แบบหรอกครับ ทั้งเรื่องจะมีแต่แดกดันกัน ''เมลวิน'' ก็พูดไม่ค่อยคิด ''แครอล'' ก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปล่ะครับ พอผู้ชายคนหนึ่งผู้หนึ่งพูดจาไม่เข้าหูก็โกรธเป็นธรรมดา จนเวลาผ่านไปทั้งคู่เริ่มปรับตัวเข้าหากัน

มีฉากหนึ่งที่พวกเขาทั้งสองไปเดตกันที่ร้านอาหาร

''แครอล'' บอกกับ ''เมลวิน'' ว่า ''คุณต้องหัดชมคนอื่นมั่งนะ การชมเป็นสิ่งที่ดี ชมฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะไปนะ แล้วชมมาจากใจด้วย

ตอนแรก ''เมลวิน'' ค่อนข้างอึดอัดใจ ทำตัวไม่ค่อยถูกเพราะ ตลอดชีวิตของเขาชมใครไม่ค่อยเป็น อย่าว่าแต่ชมเลยเอาแค่พูดจาดีๆกับชาวบ้านก็ยากแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆ เขาก็บอกเธอไปว่า

''คุณทำให้ผมอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิม''

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็หัวเราะด้วยกัน การพูดคำดีๆ มันทำให้อะไรๆดีขึ้นเยอะเลยนะ

หนังเรื่องนี้เหมือนกับการพบกันครึ่งทางของ ''คนปากร้ายใจดี'' กับ ''คนที่ต้องการฟังสิ่งดีๆ''

เราเข้าใจทั้งสองอย่างได้ เพียงแค่ทั้งคู่เข้าใจกัน

บางคนก็อย่างว่าล่ะครับจิตใจเขาไม่ได้ร้ายหรอก แต่เขาเป็นคนแบบนั้นจริงๆ พูดอะไรไม่ค่อยคิด ปากไม่ค่อยดี แต่จริงๆแล้วเขาอาจเป็นคนดีมีน้ำใจมากๆก็ได้

ไม่ว่ายังไงคนที่ขวางโลกหรือปากไม่ดี ถ้าจิตใจเขาดีจริงๆ วันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนตัวเองครับ เหมือนชื่อหนังเรื่องนี้เลย

As Good As it Gets
''ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้แล้ว''

หนังเรื่องนี้ดีจริงๆครับ อยากแนะะนำให้ลองหามาดูกัน การแสดงของ Jack Nicholson ก็สุดยอดมากๆด้วย (แกถนัดบทแนวๆนี้อยู่แล้ว)

ปล. ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วแอบนึกถึงเพลง Better Man ของ Robbie Williams เลย

ท่อนที่ว่า..
Lord, I’m doing all I can
To be a better man
 
คะแนนความชอบส่วนตัว 7.5/10



Create Date : 02 ตุลาคม 2568
Last Update : 2 ตุลาคม 2568 23:20:48 น.
Counter : 93 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BlogGang Popular Award#21



ไมเคิล คอร์เลโอเน
Location :
กำแพงเพชร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



สวัสดีชาวบล็อคทุกคนนะครับ

''ชีวิตก็เหมือนกับกล่องช็อตโกแล็ต เราไม่รู้ว่าเปิดจะเจออะไร''