Mission: Impossible - The Final Reckoning (2025) มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ
จากใจแฟนหนัง Mission: Impossible ที่ตามดูมาตั้งแต่ภาคแรก (ได้ดูครั้งแรกคือภาคสี่ แล้วค่อยย้อนดูสามภาคแรกทีหลัง)
ไม่เคยมีภาคไหนเลยที่ทำให้ผิดหวัง ส่วนตัวชอบหมดทุกภาค แม้แต่ภาคสอง ที่เขาวิจารณ์กัน ก็ยังชอบ
ทำให้เมื่อหนังเดินทางมาถึงภาค ''ปิดปฏิบัติการ'' ที่เขาว่าเป็นภาคจบ ก็ต้องดูอยู่แล้ว และค่อนข้างคาดหวังกับตัวหนังมากๆ ด้วย
หนังกำกับโดย Christopher McQuarrie ที่เราอยู่กับเขามาตั้งแต่ภาค Rogue Nation (หรือภาค 5) แล้ว ส่วนตัวคิดว่าแกเป็นคนทำหนังได้จริงจัง ตอบโจทย์ เข้าขากับ Tom Cruise เป็นที่สุด
แต่ดูเหมือนว่าหนังภาคนี้ มันดูจริงจังเกินไป หรือเราคาดหวังเกินไปหรือเปล่า? เราคาดหวังให้ 'อีธาน ฮันท์' ต้องบู๊เยอะๆ ต่อสู้เยอะๆ มีภารกิจเสี่ยงตายเยอะๆ ภารกิจมันต้องยากขึ้น ต้องเป็นไปไม่ได้ขึ้นทุกภาค จนกราฟความพีคมันขึ้นไปสุดในภาค Fallout ผมก็คาดหวังให้มันขึ้นสุดกว่านั้น จนลืมดูว่าอายุนักแสดงก็มากขึ้นตามจำนวนภาค จะให้แกมาเสี่ยงตายแบบมากๆ ก็ยากแล้ว แค่ทุกวันนี้ก็เสี่ยงตายมากๆ แล้ว ซีนขี่มอเตอร์ไซค์ลงเขาในภาคที่แล้ว มาจนถึงซีนใต้น้ำ ซีนต่อสู้บนเครื่องบิน เห็นจากเบื้องหลังนี่คือไปถ่ายสถานที่จริง แทบไม่ใช้ green screen เลย รวมไปถึง Tom Cruise ก็ยังแสดงเองอยู่เหมือนเดิม ด้วยวัยเลขหก คือแกก็ที่สุดแล้ว
ตัวหนังภาคนี้บทบู๊จะน้อยลง ความยาวหนังจะมากขึ้น เนื้อเรื่องจะมากขึ้น แต่พอมาถึงซีนที่ให้ลุ้น ด้วยสัดส่วนภาพแบบ Imax คือ หนังทำซีนเหล่านี้ได้ลุ้นมาก ซีนใต้น้ำ ซีนต่อสู้กลางอากาศ คือลุ้นไปกับแกเลย เเล้วนี่อาจเป็นภาคสุดท้ายด้วย ยังแอบคิดตามว่า คือสุดท้ายแล้ว อีธานจะรอดเปล่านะ ส่วนนี้ยังเป็นจุดเเข็งของหนังเหมือนเคย นี่ขาดดูที่บ้านนะยังขนาดนี้ ยังเสียดายอยู่เลย ถ้าไปดูในโรงจะขนาดไหน
แต่ด้วยความยาวของหนังที่ยาวเกือบสามชั่วโมง กับซีนแอ็คชั่น ซีนให้ลุ้นที่ใส่มาเฉลี่ยๆ รวมดูเเล้ว ไม่เยอะเหมือนภาคก่อนๆ ช่วงแรกๆ ของหนัง ขณะที่ดูตอนบ่ายๆ ยังแอบวูบเป็นพักๆ แต่จุดแข็งของหนังก็ยังเป็นจุดแข็งจริงๆ
คะแนนความชอบส่วนตัว 7.5/10
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [