|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Service Mind in St. Peterburg
หลังจากทิ้งช่วงเขียนเล่าเรื่องทริปยุโรปไปหลายอาทิตย์ วันนี้ขอกลับมาเล่าบันทึกการเดินทางยุโรปครั้งแรกภาคต่อไป
เนื่องจากแบตเตอรี่ที่ใช้กลับกล้องคอมแพ็คท์มีเพียงก้อนเดียว ดังนั้นเพื่อให้สามารถบันทึกภาพได้อย่างต่อเนื่อง การมีแบตเตอรี่สำรองน่าจะดีกว่า จึงตัดสินใจจะไปหาซื้อแบตเตอรี่ที่ศูนย์บริการของเพ็นแท็กซ์ในเมืองเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก เนื่องจากพยายามหาแบตเตอรี่รุ่นที่ใช้กับกล้องของเพ็นแท็กซ์แต่ปรากฏว่าร้านขายกล้องส่วนมากจะบอกว่าร้านเขาไม่มีแบตเตอรี่รุ่นที่ใช้ได้กับกล้องรุ่นของเรา
เห็นภาพของ Chesme Church of the Nativity of St. John the Baptist ตามสถานีรถไฟใต้ดินในเมืองเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์กและหนังสือไกด์บุ๊คก็ลงภาพโบสถ์นี้ แต่เขาไม่มีรายละเอียดว่าจากสถานี Park Pobedy จะไปที่นี่ได้อย่างไร? เนื่องจากโบสถ์นี้อยู่ใกล้สถานี Park Pobedy และศูนย์บริการของเพ็นแท็กซ์ก็อยู่ใกล้สถานี Moskovskaya ซึ่งอยู่ถัดไปอีกสถานี เลยตัดสินใจลองแวะไปโบสถ์นี้ดูก่อนจะแวะไปศูนย์บริการของเพ็นแท็กซ์
พอออกจากสถานี Park Podeby ลองสอบถามคนแถวสถานีว่ารู้จักไหมว่าโบสถ์ในรูปอยู่ที่ไหน? คนส่วนมากส่ายหัว...เขาไม่รู้ว่าโบสถ์นี้อยู่ที่ไหน? เอ้า..เป็นงั้นไป! มีคนรัสเซียที่ขายของใกล้สถานีรถไฟใต้ดินเขาชี้มือว่าอยู่ที่โน่นแต่ไม่บอกรายละเอียด...
เดินทะลุสวน ภายในสวนมีดอกไอริชสีม่วงกำลังออกดอกพอดี เดินผ่านร้านดอกไม้แล้วลองถามคุณลุงรายหนึ่ง แกรู้จักโบสถ์นี้แต่แกอธิบายเป็นภาษารัสเซีย วิธีที่ง่ายต่อการสื่อสารคือให้แกลองวาดรูปด้วยเส้นว่าจากจุดนี้จะไปโบสถ์นี้ได้อย่างไร เลี้ยวที่ไหนบ้าง กี่สี่แยก? แล้วยืนยันกันอีกทีว่าเราไม่เข้าใจผิด ขอบคุณคุณลุงเป็นภาษารัสเซีย "สปาซซีบ้า" แล้วลองเดินดูบ้าง เดินจนถึงบริเวณปลายทางรถรางก็เจอโบสถ์เหมือนในรูปในหนังสือไกด์บุ๊คตั้งอยู่ วันนั้นมีคนเข้ามาสวดกันพอสมควร มีโอกาสได้แวะเข้าไปในโบสถ์...ฟังเสียงนักร้องประสานเสียงที่อยู่ชั้นบนร้องบทสวดมนต์ดังกังวานจับใจดี
เดินทางไปศูนย์บริการของ Pentax ซึ่งอยู่ถัดไปอีกสถานี ศูนย์บริการที่ว่าชื่อบริษัท Zooma เขามีอุปกรณ์ถ่ายภาพของเพ็นแท็กซ์ แต่พอสอบถามพนักงานในร้านด้วยภาษาอังกฤษเรื่องแบตเตอรี่ เธอพอตอบได้ว่าในร้านของเธอไม่มีแต่เธอช่วยเช็กให้เราได้ว่าร้านไหนที่ยังพอจะมีแบตเตอรี่ที่เราต้องการบ้าง?
เนื่องจากคู่มือการใช้กล้องพิมพ์ด้วยภาษารัสเซีย ดูรูปแล้วก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่คู่มืออธิบายว่าหมายความถึงอะไร ภาพในคู่มือบ่งบอกว่ามีแท่นชาร์จซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม เข้าใจว่าเป็นแท่นชาร์จแบตเตอรี่ เลยสอบถามกับเธอว่ามีอุปกรณ์ดังกล่าวไหม? เธอบอกว่าในร้านของเธอมีอุปกรณ์ดังกล่าว ขอแท่นชาร์จมาดู ตัดสินใจซื้อและชำระด้วยบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย....เคยมีคนแอบบ่นว่าบัตรเครดิตแบรนด์ไทยมารูดต่างประเทศบางครั้งหน้าแตกเพราะรูดไม่ผ่าน พนักงานในร้านสอดบัตรเครดิตแล้วให้เรากดรหัสลับก่อนสลิปจะพิมพ์ออกมาให้เซ็นต์ ปรากฏว่ารูดผ่านไม่มีปัญหาอะไร
แต่ก่อนออกจากร้านสอบถามเพื่อให้แน่ใจอีกทีว่าแท่นชาร์จนี้ใช้ได้กับแบตเตอรี่ที่หมดเพื่อรีชาร์จใช่หรือไม่? ปรากฏว่าไม่ใช่ แท่นนี้ไม่ได้มีเอาไว้ใช้รีชาร์จแบตเตอรี่แต่ว่าเอาไว้ใช้สำหรับถ่ายภาพภายในกันแบตเตอรี่หมดระหว่างถ่ายภาพต่อเนื่อง เอ้า...ซื้อผิด เวรกรรมแล้วทำอย่างไรดี จะขอเขาคืนสินค้าก็กระทำได้ลำบากเพราะว่าจ่ายด้วยบัตรเครดิตไปแล้ว ถ้าเป็นเงินสดยังพอจะคืนได้เพราะสินค้าอยู่ในสภาพที่ดี
เวลามีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น มันอธิบายให้คนรัสเซียเข้าใจได้ค่อนข้างลำบาก ภาษาอังกฤษที่คุยกับพนักงานคนก่อนหน้านี้...เธอเองก็ไม่ค่อยเข้าใจประโยคบางประโยค พยายามเรียบเรียงประโยคภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่ายๆสำหรับเธอ...เธอก็ไม่เข้าใจ มีพนักงานอีกคนที่ภาษาอังกฤษของเธอดีพอที่จะสื่อสารได้ พนักงานคนนั้นเธอเข้ามาสอบถามปัญหาและพยายามหาทางช่วย
ผมขอโทษเธอที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา แต่อยากให้เธอเข้าใจว่าเรื่องเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิด ชี้คำอธิบายในเฟสบุ๊คคำว่า "เข้าใจผิด" ในภาษารัสเซียให้เธอดู เธอขอให้ผมมาที่นี่ใหม่วันจันทร์หน้าเพื่อทำเรื่องคืนเงินที่ชำระด้วยบัตรเครดิตไปแล้ว แต่อธิบายให้เธอฟังว่าเราจะเดินทางกลับมอสโคว์วันเสาร์นี้ เลยเสนอทางออกให้เธอว่าเป็นไปได้ไหมที่เธอไม่ต้องคืนเงินให้ แต่ผมจะขอซื้ออุปกรณ์ถ่ายภาพในร้านตัวอื่นแทนในมูลค่าที่ใกล้เคียงกับแท่นชาร์จตัวนั้น
เธอหาทางออกที่สวยให้ผมด้วยการไปหยิบเอาแบตเตอรี่ก้อนใหม่จากกล่องใส่กล้องคอมแพ็กท์ตัวใหม่สองตัวที่อยู่ในร้านออกมาให้ เนื่องจากร้านของเธอไม่มีแบตเตอรี่ก้อนใหม่ไว้ขายให้ลูกค้าเลย ซึ่งมันเป็นการพยายามช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าและเรื่องวุ่นวายจบลงด้วยทุกฝ่ายพอใจ ถือเป็นไหวพริบของพนักงานขายและนับถือการมีจิตใจในการให้บริการของพนักงานขายรายนี้
อยากให้เรื่องอย่างเดียวกัน...เกิดขึ้นกับการให้บริการในเมืองไทยบ้าง ดูเหมือนเราอาจจะอบรมพนักงานเรื่องการให้บริการ แต่จิตใจของการให้บริการ...มันออกมาจากใจของคนที่ทำงานตรงนั้น คนๆนั้นต้องมองจากมุมมองของลูกค้า หาทางแก้ปัญหาให้ลูกค้า ทำอย่างไรให้ลูกค้าประทับใจมากกว่าคิดแค่ให้บริการ ถ้าเขาไม่มีความคิดแบบนี้...ลูกค้าจะไม่มีทางได้รับบริการที่ดีและประทับใจจนอยากจะกลับมาใช้บริการใหม่
ผมสรรหาคำที่มีความหมายกินใจในภาษารัสเซียกล่าวขอบคุณพนักงานขายคนนั้นที่ช่วยเหลือ เธอยิ้มกลับมาด้วยความดีใจ พร้อมกล่าวคำว่า
"ปัสชาล สไตล์" ที่มีความหมายว่า "ไม่เป็นไรค่ะ"
กล่าวอำลาเธอเป็นภาษารัสเซียก่อนออกจากร้าน
"ดัสวี ดานียา"
เธออวยพรให้ผมโชคดีและเดินทางโดยสวัสดิภาพ
ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Sennaya Plauchad แล้วเดินเลียบคลองเก็บภาพบรรยากาศของสถาปัตยกรรมในรัสเซีย อาคารต่างๆริมคลองดูแล้วชวนให้นึกถึงอาคารเก่าๆแถวริมคลองหลอดในกรุงเทพฯที่ยังเหลืออยู่
แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันก็คือ...ไม่เจอเสาไฟฟ้าที่นี่ เพราะที่นี่เขาใช้สายไฟฟ้าขึงระหว่างอาคารแทนเสาไฟฟ้า! มันทำให้ทัศนียภาพดูสวยงามกว่า
ระหว่างที่เดินผ่านเห็นผู้คนยืนวาดรูปสถาปัตยกรรมด้วยสีน้ำบนผืนผ้าใบริมคลอง...ชวนให้นึกถึงญี่ปุ่นเวลาที่เราไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ มักเจอผู้คนเอาพู่กันและสีน้ำมาระบายทิวทัศน์ที่ได้พบเห็นลงบนผืนผ้าใบ มันเป็นความสุขและสุนทรีย์ในชีวิตอย่างหนึ่ง
เดินเลาะคลองขึ้นมาจนเจอโดมของวิหาร St. Isaac
เลยไปนิดนึงมองเห็นวังยูซูป๊อบ อาคารสีเหลืองๆที่เขาใช้เป็นที่ลวงรัสปูตินมาฆ่าที่นี่ แต่ก็มีเรื่องเล่าว่าพ่อมดรัสปูตินรายนี้ที่ไปกล่อมมเหสีของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองจนเชื่อหัวปักหัวปำไม่ได้ตายเพราะถูกยิงหรือว่ายาพิษแต่ตายเพราะตกเลือด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรผู้สนใจลองค้นคว้าเพิ่มเติม แต่ที่แน่ๆรัสปูตินก็ตายในที่สุด
มีโอกาสได้แวะไปที่ทำการไปรษณีย์กลางส่งโปสการ์ดไปให้ที่บ้านและเพื่อนบางคน (ซึ่งผู้รับได้รับโปสการ์ดภายหลังจากผมถึงเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว) แล้วซื้อแสตมป์ที่ระลึกกลับมาเป็นของฝากสำหรับตัวผมสำหรับการเดินทางมารัสเซีย
แย่จังที่เดี๋ยวนี้คนให้ความสำคัญกับการเขียนจดหมายลดลงและคนที่สนใจสะสมแสตมป์ก็น้อยลง คุณค่าของจดหมายอยู่ที่ลายมือของผู้เขียนที่เขียนถ่ายทอดเรื่องราวและความรู้สึกลงบนกระดาษเขียนจดหมาย...ซึ่งเมื่อเอาจดหมายกลับมาอ่านใหม่กี่ทีก็ยังได้ความรู้สึกเหมือนตอนที่ได้รับ ลายมือบ่งบอกว่าขณะที่เขียนผู้เขียนอยู่ในอารมณ์ไหน? ต่างจากอีเมลถึงแม้จะรวดเร็วแต่ไม่มีลายมือของผู้เขียนสะท้อนความรู้สึกในขณะที่เขียนอีเมลฉบับนั้นและน้อยคนนักคิดจะเก็บรักษาอีเมลของผู้ส่งเอาไว้ทุกฉบับโดยไม่คิดจะลบเลย...เห็นด้วยไหม?
เดินทะลุ St. Isaac Cathedral Square ได้ภาพที่ดีที่สุดภาพนี้เป็นของที่ระลึก ที่บอกว่าดีที่สุดเพราะวันนั้นทัวร์ลงกันหลายกรุ๊ปมากดังนั้นหาทำเลที่ดีกว่านี้ลำบาก เพราะจะถ่ายภาพออกมาแล้วยากที่จะเลี่ยงภาพรถทัวร์เป็นส่วนหนึ่งของภาพ
ไม่รู้ว่าถ้าเอารูปนี้มาทำโปสการ์ดขาย...จะมีคนซื้อมากกว่ารูปวิหาร St. Isaac ที่เขาทำเป็นโปสการ์ดขายกันอยู่ในเมือง St. Peterburg รึเปล่า?
Create Date : 15 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 16 สิงหาคม 2552 17:45:30 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1271 Pageviews. |
|
|
|
โดย: chompu YCL IP: 118.172.179.222 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:7:00:44 น. |
|
|
|
โดย: ชีวประภา วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:8:41:32 น. |
|
|
|
โดย: Nok-BCL16 IP: 118.172.179.36 วันที่: 16 สิงหาคม 2552 เวลา:11:31:58 น. |
|
|
|
โดย: ..ยูกะ.. (YUCCA ) วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:8:12:56 น. |
|
|
|
โดย: ชีวประภา วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:21:29:09 น. |
|
|
|
โดย: yo IP: 113.53.33.22 วันที่: 29 สิงหาคม 2552 เวลา:21:33:26 น. |
|
|
|
|
|
|
|