ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
งานเลี้ยงอดีตนักเรียนไทยในญี่ปุ่น

เมื่อปลายปีที่แล้วได้รับจดหมายข่าวจากสมาคมนักเรียนเก่าในญี่ปุ่นเชิญชวนให้ไปร่วมงานเลี้ยงผู้สำเร็จการศึกษาจากญี่ปุ่นครั้งที่ ๒ ที่ทำเนียบเอกอัครราชฑูตญี่ปุ่น ณ.วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

ตัดสินใจไปร่วมงานเพราะอยากรู้ว่าบรรยากาศของงานเป็นอย่างไร? อีกอย่างได้ไปรู้จักผู้คนเพิ่มขึ้นก็เป็นเรื่องที่ดี

วันนี้มาถึงทำเนียบเอกอัครราชฑูตญี่ปุ่นก่อนเวลา ตั้งแต่มีข่าวผู้ก่อการร้ายทูปะอามารูบุกยึดสถานฑูตญี่ปุ่นในเปรูเมื่อ ๑๐ ปีก่อนทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากขึ้น

นักเรียนเก่าในญี่ปุ่นที่มาในงานมีราวๆ ๙๐ คนได้ มีตั้งแต่รุ่นพี่เก่าๆจนกระทั่งถึงน้องที่พึ่งจบกลับมาไม่นาน การได้พูดคุยกันทำให้ได้หวนรำลึกถึงบรรยากาศในญี่ปุ่นที่พวกเราเคยมีโอกาสไปสัมผัสมา โดยเฉพาะนึกถึงอาหารอร่อยๆหลายอย่างที่มีโอกาสได้ไปลิ้มรส...ที่หาโอกาสได้ทานอาหารอร่อยรสชาติแบบนั้นในไทยยากมาก เพราะที่ขายๆกันในไทยดัดแปลงรสชาติจนไม่เหลือความเป็นอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับที่รสชาติแสนอร่อยไว้เลย

น้องๆหลายคนผมเคยมีโอกาสได้เล่าประสบการณ์ชีวิตนักเรียนในญี่ปุ่นให้พวกเขาฟังก่อนที่พวกเขาจะไปเรียนต่อในญี่ปุ่น...จนตอนนี้บางคนกลับมาเมืองไทยแล้ว

ได้มีโอกาสพูดคุยกับรุ่นพี่หลายคน ในจำนวนนั้นมีอาจารย์ ผุสดี นาวาวิจิตร รวมอยู่ด้วย ชื่อนี้คงคุ้นตาสำหรับคอหนังสือแปลญี่ปุ่น อาจารย์ผุสดี นาวาวิจิตรแปลหนังสือที่สนุกหลายๆเล่มให้คนไทยได้อ่านกัน หนึ่งในหนังสือแปลของอาจารย์ที่ขายดีคือ "โต๊ะโตะจังเด็กหญิงข้างหน้าต่าง" ที่เขียนโดย เท็ตสึโกะ คุโรยานากิ ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษาทั่วโลก

มีโอกาสได้อ่านหนังสือ "โต๊ะโตะจังเด็กหญิงข้างหน้าต่าง" สมัยมัธยมปลาย พอจะจำเรื่องของโต๊ะโตะจังได้บ้าง ตอนไปเรียนหนังสือในญี่ปุ่นมีโอกาสได้ดูรายการทีวีในญี่ปุ่น ได้เห็นหน้าคุณเท็ตสึโกะ คุโรยานากิ มาออกทีวีอยู่บ่อยๆ คุณเท็ตสีโกะเป็นผู้หญิงที่ฉลาด เธอได้รับคัดเลือกเป็นฑูตยูนิเซฟไปเยี่ยมเด็กๆในประเทศทุรกันดาร

ผมมีโอกาสได้สนทนากับอาจารย์ผุสดีอยู่พอสมควรในระหว่างงาน เป็นเกียรติมากที่ได้เจอนักแปลที่มีชื่อเสียงอย่างอาจารย์ผุสดี นาวาวิจิตร

งานเลี้ยงคราวนี้จัดขึ้นในทำเนียบเอกอัครราชฑูตญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีโอกาสได้เข้าไปในทำเนียบเอกอัครราชฑูต ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นอดีตนักเรียนเก่าในญี่ปุ่น คงไม่มีโอกาสดีๆแบบนี้

ท่านเอกอัครราชฑูตคนใหม่ ท่าน เคจิ โคมะจิ พึ่งมาดำรงตำแหน่งได้ไม่นานนัก ได้มีโอกาสสนทนากับท่านเอกอัครราชฑูต ท่านเป็นคนเกียวโต ผมเคยเดินทางไปเกียวโตหลายครั้งแต่ยอมรับว่าอย่างไรก็ยังเที่ยวไม่ทั่วเกียวโตจนถึงตอนนี้...เกียวโตเป็นเมืองกว้างมาก และไม่มีทางเที่ยวเกียวโตได้ทั่วภายในครั้งเดียวถ้าไม่มีเงินในกระเป๋าและเวลามากพอ ถ้าจะเปรียบกรุงเทพฯเหมือนโตเกียว เกียวโตน่าจะคล้ายเชียงใหม่มากที่สุด เพราะเป็นสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวอยากไปมากรองลงมาจากเขตโตเกียว

ท่านโคมะจิได้เผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่นให้แก่คนไทยได้รู้จัก ในงานเทศกาลวันเด็กผู้หญิงที่ผ่านมา (วันที ๓ เดือนมีนาคม) ท่านจัดชั้นโชว์ตุ๊กตาหินาซามา และมีการสาธิตแสดงพิธีชงชา วันนี้ท่านก็ตั้งชั้นโชว์ตุ๊กตาหินาซามาให้แขกที่มางานเลี้ยงได้ชมกันด้วย

อาหารที่จัดเลี้ยงพวกเราในค่ำคืนนี้เป็นอาหารญี่ปุ่น ผมคีบปลาแซลมอน ซูชิ และอุด้งเส้นนุ่มๆรับประทานแทนทาโกะยากิที่ขยาดตั้งแต่อยู่ญี่ปุ่นปีแรก ถ้าถามว่าอาหารญี่ปุ่นไม่ชอบอะไร...คงต้องบอกว่า "ทาโกะยากิและน้ำซอสแบบทาโกะยากิ" ไม่ว่าเขาจะบอกว่าของคันไซอร่อยขนาดไหน กินแล้วจะเบะปาก เพราะเคยกินทาโกะยากิแล้วขึ้นเจ็ทคอสเตอร์ ลงมาจากเครื่องเล่นเจ็ทคอสเตอร์แล้วเกิดอาการอาเจียน ตั้งแต่นั้นเราจะเกลียดทาโกะยากิเข้าไส้เลย

วัตถุประสงค์ของการจัดงานคราวนี้...เป็นการสร้างเน็ทเวิร์คกลุ่มอดีตนักเรียนไทยในญี่ปุ่นขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้จะเป็นตัวแทนที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและญี่ปุ่น งานในการเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีของสองประเทศจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยถ้าขาดพลังขับเคลื่อนจากบรรดาอดีตนักเรียนไทยในญี่ปุ่น

ได้ฟังแขกมางานหลายคนแนะนำตัว ในจำนวนนี้มีคนจบปริญญาเอกจากญี่ปุ่นอยู่หลายคน ส่วนมากจะไปทำงานด้านสายงานวิชาการกัน นึกถึงเพื่อนอีกหลายๆคนที่ยอมแพ้กลางคันกับหลักสูตรปริญญาเอกในญี่ปุ่น มีคนถามว่า "คุ้มค่าไหมที่ไปใช้เวลาเรียนในญี่ปุ่นหลายปีกับหลักสูตรปริญญาเอก?" สำหรับผม...นั่นคือบททดสอบความตั้งใจแน่วแน่ของตัวเอง ซึ่งเราพิสูจน์แล้วว่า "ความพยายามของผู้คนไม่เคยจบลงด้วยความสูญเปล่า" แต่ถ้าเราเลิกล้มกลางคัน...วันนึงในอนาคตเรากลับมามองดูแล้วคงเป็นบาดแผลในใจที่เราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้

การเรียนปริญญาเอกไม่ใช่เรียนเพื่อความโก้หรู เรียนเอาไว้อวดชาวบ้าน แต่ต้องถามตัวเราเองว่าเรายินดีทุ่มเทกับมันไหมไม่ว่าจะใช้เวลากี่ปีก็ตามกว่าจะได้ตำแหน่งคำว่า "ด็อกเตอร์" นำหน้า ถ้าเราตอบตัวเองได้ว่าเรียนไปทำไม และยินดีที่จะอุทิศตัวเองเพื่อการศึกษาและคาดว่าความรู้ที่ได้จะนำมาเพาะความรู้ให้กับคนรุ่นใหม่เป็นกำลังในการพัฒนาบ้านเมืองต่อไป การไปเรียนหลักสูตรปริญญาเอกก็คือทางเลือกทางหนึ่งในชีวิต

จนถึงตอนนี้เราตระหนักว่าเวลากว่า ๙ ปีในญี่ปุ่น เราได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ได้เข้าใจความหมายของชีวิต เข้าใจวิถีชีวิต แนวคิดของคนญี่ปุ่น ตลอดจนสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติในญี่ปุ่น มันก็คุ้มค่ากับการได้เป็นอดีตนักเรียนไทยในญี่ปุ่น

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้...ก็คงเลือกที่จะไปเรียนต่อในญี่ปุ่น แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะกลับมาใช้ชีวิตในประเทศไทยเพราะที่นี่คือประเทศบ้านเกิด ที่ซึ่งสร้างความภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย มีสิ่งดีๆที่เป็นเอกลัษณ์ที่ควรค่าแก่การหวงแหนรักษาเอาไว้ และคนไทยเท่านั้นที่เข้าใจคนไทยด้วยแนวคิด ความเชื่อและแบบแผนการใช้ชีวิตทีดีๆแบบสังคมไทย


Create Date : 11 มีนาคม 2552
Last Update : 11 มีนาคม 2552 23:44:47 น. 9 comments
Counter : 918 Pageviews.

 
ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักท่านนี้ในประเทศญี่ปุ่นค่ะ "เท็ตสึโกะ คุโรยานากิ"
๙ ปี ในประเทศญี่ปุ่นก็หมายถึงเกือบครี่งขีวิตของคุณชีวประภาเเล้วค่ะ ความรักความผูกพันในประเทศนี้ต้องมีมากเป็นของธรรมดา


โดย: ยูกะ (YUCCA ) วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:2:42:07 น.  

 
มาขอมอบเเท็ก" คู่มือทำความรู้จักตัวเอง " มาให้คุณชีวประภาด้วยความเคารพค่ะ


โดย: ยูกะ (YUCCA ) วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:2:43:47 น.  

 
ขอบคุณยูกะที่แวะมาเยี่ยมบล็อกนี้อย่างสม่ำเสมอ

๙ ปียังไม่ถึงครึ่งชีวิตหรอกครับ แต่คิดว่าอาจจะราวๆ ๑ ใน ๙ ของชีวิตมากกว่าถ้าอยู่ได้นานอย่างที่ใจปรารถนา แต่ก็ถือว่านานทีเดียว แต่เราเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆมาตลอดเวลาที่อยู่ที่ญี่ปุ่น

ชีวิตยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมายครับ ความจริง..ชีวิตพึ่งจะเริ่มต้นต่างหาก


โดย: ชีวประภา วันที่: 12 มีนาคม 2552 เวลา:20:53:37 น.  

 

เชิญไปชมการแสดง ชุดใหม่ค่ะ เกศสุริยง

คุณสบายดีนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:0:36:35 น.  

 
สบายดีครับ ขอบคุณครับคุณเกศสุริยง


โดย: ชีวประภา วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:20:13:59 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่แวะไปทักทาย เช่นกันค่ะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ระลึกถึงอยู่เสมอค่ะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:23:07:28 น.  

 
ถ้า 9 ปี เท่ากับครึ่งชีวิตของพี่ โอ้.. กำลังวัยรุ่นเลยทีเดียวนะคะตอนนี้


โดย: กุ๊บกิ๊บ IP: 58.9.167.118 วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:21:22:17 น.  

 
P'Ngeab, I'm pround of you


โดย: Yai IP: 90.58.80.205 วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:2:28:25 น.  

 
ขอบคุณนะใหญ่ที่แวะมาเยี่ยมเยียนบล็อกผม


โดย: ชีวประภา วันที่: 29 เมษายน 2552 เวลา:21:00:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.