Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
24 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
เศษเสน่หา - บทนำ

lozocat






Wir verletzen die, die uns lieben. Und lieben die, die uns verletzen.
คนเรามักจะเจ็บปวดกับสิ่งที่เรารัก และเราเองก็รักมัน ทั้งๆที่มันทำให้เราเจ็บปวด


ร่างสาวสูงระหงในชุดเดรสกระโปรงสีม่วงแขนตุ๊กตาจับจีบใต้อกด้วยริบบิ้นโบว์ขาวเน้นส่วนสัดโค้งเว้างดงามให้ดูอ่อนหวานตัดสายสนทนาคู่ควงคนล่าสุดในมือเรียวลงเมื่อก้าวลงมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย ก่อนที่รอยยิ้มอ่อนๆจะผุดขึ้นอย่างพึงพอใจเมื่อแม่บ้านสาวคนใหม่ถือถาดจานอาหารเช้าผ่านหล่อนยังห้องอาหารด้านซ้ายมือ


ทีแรกเรือนร่างบอบบางของอีกฝ่ายตัวหล่อนยังวิตกอยู่เหมือนกันว่าจะดูแลงานทั้งหมดแบบแม่บ้านคนเก่าไม่ได้แต่พอได้เห็นท่าทางคล่องแคล่วเช่นนี้แล้ว แสดงว่าอีกฝ่ายคงจะเข้าใจสิ่งที่หล่อนพูดไว้เป็นอย่างดี



“นี่พี่ไรน์ไปทำงานแล้วเหรอ?”
หญิงสาวชะงักฝีเท้าอยู่หลังเก้าอี้เมื่อเห็นจานอาหารเช้าถูกจัดวางเพียงที่เดียว


“ปะ...เปล่าคะ คุณไรน์เพิ่งขึ้นไปบนห้องเมื่อครู่นี่เอง เห็นพึมพำว่าจะเอาแบมมี่ไปอาบน้ำน่ะคะ”ร่างเล็กอ่อนวัยกว่ากว่าหล่อนหลายปีหดคอราวกับกลัวถูกสาป


“เจ้าแบมมี่เนี่ยนะ” เรียวคิ้วสีน้ำตาลวาดแต่งได้รูปสวยขมวดชนกันน้อยๆ มองริมฝีปากสั่นละลักละล่ำตอบตนเองอย่างนึกขันระคนแปลกใจ ก่อนไล่ระดับสายตาไปตามขั้นบันไดวนสูงของคฤหาสน์ ปีกซ้ายสุดเป็นห้องนอนของ ‘มิคาเอล’ พี่ชายต่างสายเลือดของหล่อน ส่วนแบมมี่นั้นเป็นชื่อแมวเปอร์เซียสวยขนสีเทาหนานุ่มเหมือนดวงตาของอีกฝ่าย โดยหล่อนนำมันมาเป็นเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ27 ปีของเขาเองเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน แต่ดูเหมือนตอนนี้มันจะไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงธรรมดาเท่านั้น หากมันกำลัง ’อัพเกรด’ สถานะมาเป็นเจ้านายของทุกคนในบ้านรวมถึงมิคาเอลอย่างเงียบๆ


เสียงหัวเราะหวานใสเจือรอยยิ้มขบขันที่นานครั้งจะปรากฏขึ้นสักทีดังขึ้นเบาๆพร้อมอาการสั่นหน้าเมื่อนึกครุ่นสภาพของพี่ชายมาดเนี๊ยบตอนวิ่งไล่จับเจ้าขนปุยอาบน้ำไม่ได้ ก่อนที่วงหน้าหวานจะปรับสีหน้ากลับมาเป็นเรียบเฉยดั่งปกติหลังได้ยินเสียงขาเก้าอี้ถูกบอดี้การ์ดคนสนิทในห้องเลื่อนลากออกให้


ร่างสวยสง่าทิ้งตัวลงบนเบาะหนังหนานุ่มด้วยท่าทางผ่อนคลาย ก่อนเกี่ยวปลายนิ้วเล็กๆเข้ากันหูแก้วกาแฟมาจิบผ่านเรียวปากบาง ทว่าหัวข้อหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันใหม่สามฉบับซึ่งมักจะวางเคียงคู่กันตามกิจวัตรประจำวันก็ทำให้แก้วกาแฟที่เพิ่งยกขึ้นไปไม่นานถูกในมือเรียวสวยกระแทกลงมาอย่างรวดเร็วจนน้ำสีเข้มข้นกระฉอกออกมารดเปื้อนผ้าปูสีขาวเป็นวงกลมยาวสามสี่หยด


แม้ไม่ได้มีอะไรแตกหัก หากแต่รอยดำที่ซึมเนื้อผ้าจนแผ่ขยายวงกว้างขึ้นกลับบาดลึกไปทุกอณูของผู้ที่อยู่ในห้องกันถ้วนหน้า แม่บ้านสาวและบอดี้การ์ดหนุ่มทั้งห้าคนริมผนังต่างพากันเกร็งไหล่แน่นราวกับแถวทหารฝึกหัด ตาสบตาลงความเห็นผ่านกลางอากาศว่า’ระเบิด’ลงแล้ว!!


ภาพของ ’ใครบางคน’ ที่ปรากฏบนกลางหน้าแรกของหนังสือพิมพ์ธุรกิจในเช้าวันนี้ทำให้หญิงสาว รีบหยิบขึ้นมากางอ่านด้วยความรวดเร็ว ริมฝีปากบางเล็กขมุบขมิบปฏิสัมพันธ์กับสายตาที่กวาดตามตัวอักษรแสดงถึงสมาธิทั้งหมดที่มีต่อสื่อสิ่งพิมพ์ตรงหน้า ก่อนที่ปลายนิ้วทั้งสิบจะพับหนังสือพิมพ์ลงพรึ่บกับโต๊ะอาหาร ฉีกขยุ้มมันขาดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหลังจากอ่านสรุปเนื้อหาและภาพของคนในกรอบคอลัมภ์จบ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่พอใจ ลุกขึ้นเหยียบย่ำเศษกระดาษที่หล่นกระจายอยู่บนพรมนั้นซ้ำอีกหลายหน

หญิงสาวรู้สึกว่าเส้นสมองที่เคยควบคุมได้เป็นอย่างดีถูกกระตุกจนขาดผึงออกจากกัน เส้นเลือดในกายแล่นพล่านไปด้วยอารมณ์เดือดดาลจนถึงขีดสุด


“คนสารเลว...” เส้นเสียงสั่นๆเค้นผ่านลำคอแผ่วเบา ชั่วขณะเดียวกันมือเรียวเล็กก็กำรวบเข้าหากันแน่น ก่อนจะเกิดเสียงทุบบนหน้าโต๊ะเต็มแรงเมื่อเจ้าตัวนึกมันแทนที่ใบหน้าของอีกฝ่าย

หล่อนจะไม่เพิกเฉยมองเขาไม่มีตัวตนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว บางทีหล่อนอาจจะต้องทำอะไรกับเขาอย่างจริงจังเสียที



“นั่นไงมาแล้ว....ช่างสวยเหลือเกิน“

ทุกสายตาต่างหยุดมองร่างระหงเป็นจุดเดียวกันโดยพร้อมเพรียงกันราวกับถูกสะกดด้วยอำนาจมนตราของสาวสวยคนดัง ซึ่งคืนนี้นักธุรกิจหญิงสาวดาวสังคมไม่ได้เลือกใช้สีโทนสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวมาออกงานเหมือนทุกครั้ง หากหล่อนกลับอยู่ชุดเดรสเกาะอกสีแดงเพลิงยาวกรอมเท้าที่ใช้เนื้อผ้าซาตินเป็นมันวาวแนบพลิ้วไปกับเรือนร่างโค้งเว้าและเนินอกอิ่มสวยเต็มตึงชวนสัมผัส ส่วนชายกระโปรงยาวที่ปกคลุมสะโพกผายนั้นได้ผ่าข้างขึ้นสูงมาถึงระดับต้นขาเรียวขาวสล้างสวยแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจอันเต็มเปี่ยมของผู้ที่นำมันมาสวมใส่เป็นอย่างดี


เสียงที่พึมพำอย่างชื่นชมและอิจฉาจากรอบด้านไม่ขาดสายทำให้ร่างสูงที่เคียงข้างกันมานั้นกอดกระชับเอวบางแนบกายยิ่งขึ้นอย่างหวงแหน ก่อนจะหักสายตากลับมามองคนในอ้อมแขนอีกครั้งด้วยความรัก


วงหน้างดงามตามธรรมชาติถูกตบแต่งโทนสีอ่อน นัยน์ตาคู่งามชวนฝันถูกแต่งเติมให้หวานลึกซึ้งด้วยอาย์ชาโดว์สีน้ำตาลเข้มล้อมกรอบด้วยอายน์เลเนอร์สีดำซึ่งช่วยขับสายตากลมโตให้ดูโดดเด่นน่าระยับน่ามองยิ่งขึ้นเมื่อผสานกับขนตางอนยาวเป็นแพรหนาที่กระพริบมองผู้คนโดยรอบงาน ผมยาวสลวยดำขลับราวกับเหมือนไหมชั้นดีถูกรวบไว้ค่อนไปทางกลางศีรษะทิ้งปลายผมยาวเรียวเป็นพวงลงไประแผ่นหลังเนียนขาวเผยให้เห็นถึงดวงหน้าสาวเจ้าได้อย่างชัดเจนซึ่งรับกันกับไหล่กลมกลึงและลำคอขาวดั่งหงส์สาวที่ถูกเชิดชูให้ละลานตาด้วยสร้อยเพชรรูปหยดน้ำร้อยยาวมากึ่งกลางอกส่งประกายวูบวาบ


ริมฝีปากบางสวยราวกลีบกุหลาบอิ่มน้ำฉาบปรุงด้วยลิปสติกเนื้อเนียนและกลอสสีชมพูอ่อนขยับคลี่ยิ้มให้กับคนในงานเล็กน้อยเมื่อก้าวพ้นจากประตูลิฟต์ แต่แค่นั้นก็สามารถกระชากหัวใจบุรุษน้อยใหญ่ที่พบเห็นให้หลุดร่วงลงมาเป็นเครื่องบรรณาการวางไว้แทบเท้าหล่อนได้ในพริบตา ทว่าในความสวยงามของหล่อนนั้นใช่จะมีคนชอบไปเสียหมดเพราะยังมีชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งที่ยืนกอดอกอยู่ริมขวาสุดของห้องกลับไม่ได้ให้ความสนใจในความงามที่เฉิดฉายออกมาจากตัวหล่อนสักนิด


เขาเกลียด!! เกลียดจนร้อนพล่านไปทั้งร่าง แม้ว่าร่างบางระหงนั้นจะสวยงาม น่าทะนุถนอมในความรู้สึกเขาเท่าใด หากรอยยิ้มเย้ยหยันราวกับตนเองเป็นผู้ชนะเหนือใครแบบนั้น ทำให้เขารู้สึกอยากยิงหล่อนให้ตายคามือซะมากกว่า


ไม่ช้ารองเท้าส้นเข็มสีดำรัดข้อเท้าเรียวสวยที่ย่ำลงบนพรมอย่างหนักหน่วงหยุดชะงักอยู่กับที่ทันทีเมื่อหางตาแลเห็น ‘ใครคนนั้น’ กำลังมุ่งเดินมาทางตนเอง ถึงเขาจะไม่ได้เข้ามาหาหล่อนโดยตรง แต่การที่เขาทำเป็นเดินผ่านนั่นก็หมายความว่าเขาอยากจะให้หล่อนเห็นเขา!!



“ฮึ! มาที่นี่ด้วยเหรอ?!!” ปากที่เม้มเรียบขยับพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ ขณะที่นัยน์ตาสีอำพันสาดแสงสีเพลิงก็กลอกมองร่างสูงสง่าในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มที่ถูกตัดเย็บมาอย่างประณีตจากนักออกแบบชื่อดังระดับโลกขึ้นลงด้วยสีหน้าเหยียดหยัน ก่อนจะตวัดสายตาไปทางคนข้างกาย จมูกโด่งสันสวยรั้นปลายเชิดขึ้นถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรงชัดที่ได้มาพบเห็นชายหนุ่มตรงหน้านี้ยืนหราอยู่ตรงหน้า


“พี่ไรน์คะ! ทำไมไม่บอกก่อนว่าที่นี่งานนี้จะมีคนประเภทนี้มาด้วย” น้ำเสียงหวานแสร้งถามออกไปอย่างห้วนจัดกว่าปกติ หลายช่วงที่ผ่านมานี้การประจันหน้ากันตรงๆเกิดขึ้นน้อยมาก เขาชอบทำตัวเป็นเสือซุ่มคอยมองดูหล่อนในที่ลับ ก่อนเข้ามาตะปบหลังหล่อนที่ไม่ทันตั้งตังเสมอ แต่วันนี้เขาโผล่ออกมาอยู่กลางแจ้งและในงานเลี้ยงหรูหราแบบนี้ หล่อนชักสังหรณ์ใจขึ้นมาทันทีว่าเขาต้องวางแผนการบางอย่างไว้แน่

เจ้าของชื่อผู้มีใบหน้าหล่อเหลาคมคายแบบตะวันตกในชุดสูทขาวอาร์มานี่ที่ยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางบอดี้การ์ดชุดดำที่ขนาบตามมาด้วยถึงสิบคนกลับทำเพียงแต่แตะฝ่ามือปรามที่แขนเรียวบางนุ่มเบาๆให้ผู้เป็นน้องสงบเสียงลงแทน แม้เขาจะรู้สึกเกลียดชังเช่นเดียวกัน แต่เขาก็ไม่อยากจะต่อกรกับคนๆเลย เพราะที่ผ่านมาเขาพยายามกำจัดบุคคลนี้ให้ไปพ้นทางเท่าไหร่ อีกฝ่ายกลับยิ่งแผ่อิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆจนตัวเขาเริ่มรู้สึก ‘หวาดหวั่น ‘ ในความไม่ชอบมาพากลนี้ ตัวเขานั้นยังด้วยว่าผู้ชายอันตรายตรงหน้าในขณะนี้มีคนคอยหนุนอยู่เบื้องหลัง และที่ไม่เข้าใจก็คือคนเบื้องหลังที่สนับสนุนชายหนุ่มนั้นไม่เคยมีแนวโน้มมาจับธุรกิจ นี้มาก่อนเลย แต่อยู่ๆกลับทุ่มเงินลงทุนมหาศาลอย่างไม่กลัวความเสี่ยงซึ่งเขาคิดว่ามันต้องมี ’มูลเหตุ’ จูงใจบางอย่าง



“งานใหญ่ระดับนี้ใครๆเขาก็มา ที่สำคัญผมว่าการที่ผมมาที่นี่ ผมคิดว่าไม่น่าจะทำให้คุณรู้สึกระคายเท้าหรอกนะครับที่มาเหยียบย่ำในที่ๆ เดียวกับผม” เขาพูดและจ้องมองเจ้าของเสียงและเรือนร่างไร้ที่ติไปทั่วทุกส่วนที่เขาเคยสัมผัส


ใช่....หล่อนสวย! นัยน์ตาสีดำสนิทเต็มไปด้วยความแข็งกร้าวเผลอมองอย่างหลงใหลอยู่วูบหนึ่ง ภาพผ้าปูที่นอนยับย่นกับหมอนที่มีมือบางขย้ำเป็นเครื่องย้ำเตือนความทรงจำชัดเจนว่าหล่อนเป็นของเขาโดยสมบูรณ์แบบ และเหมือนตอนนี้จะไม่ใช่แค่ความทรงจำที่หวนเข้ามากระแทกอกเขา หากร่างกายของเขากลับตื่นตัวขึ้นมาดื้อๆ ก่อนเจ้าตัวสลัดละความรู้สึกที่อยากจะเชยชมร่างนั้นอีกไว้ใต้ซอกลึกของหัวใจ



“แต่ถ้าคุณคิดว่ามันระคายมากละก็จะกลับก็ได้นะครับ” สิ้นเสียงเอ่ยยั่ว รอยยิ้มมาดหมายปนเย้ยเยาะก็ปรากฏบนใบหน้าคมสัน


“ไม่มีวัน!!ฉันจะไม่ทางทางถอยจากงานนี้เด็ดขาด!!!”

ร่างเพรียวบางเอ่ยเสียงกร้าว ดวงตาสีอำพันที่จ้องมองอีกฝ่ายร้อนแรงดั่งเปลวเพลิง จนคนฟังอย่างมิคาเอลเองยังตกใจ ขาและน้องสาวอยู่ในแวดล้อมธุรกิจมาตั้งแต่เด็ก เจอคนมาหลายร้อยประเภทชนิดมองตาก็หยั่งรู้ถึงก้นบึ้งจิตใจได้ทันที แต่กระนั้นไม่เคยมีสักครั้งที่จะเห็นอีกฝ่ายจะแสดงอารมณ์ออกมาให้ใครเห็นว่ารู้สึกอย่างไร


ถ้าไม่ใช่กับเขา!!


ริมฝีปากหยักได้รูปของคนรอฟังคำตอบยกยิ้มสูงด้วยท่าทางยั่วเย้า นาทีนี้เขามั่นใจแล้วว่าความเกลียดที่มีในตัวหล่อนมีนั้นมันไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปจากเดิมเลย หล่อนยังคงเป็นนังแม่มดจอมเจ้าเล่ห์ที่เขารู้จัก แต่อย่างไรเสีย...เขาเชื่อว่าท้ายสุดไม่ว่าเรื่องธุรกิจหรือตัวหล่อน เขาจะต้องเป็นผู้ชนะ! หล่อนจะต้องได้รับความเจ็บปวดทรมานอย่างสาสมที่สุด และเขาจะทำให้ความรู้สึกเหล่านี้คอยตามหลอกหลอนติดตามตัวหล่อนไปชั่วชีวิตไม่ว่ายามหลับหรือตื่น



ร่างสูงสง่าขยับปลายเท้าเข้าไปใกล้หญิงสาว “ก็ดี...เพราะตัวผมก็จะไม่ถอยจากงานนี้เหมือนกัน” เสียงห้าวพร่าก้มกระซิบเกือบชิดริมฝีปากแผ่วเบาพลางลากปลายจมูกโด่งไถลกับแก้มนิ่มระเรื่ออ่อนสูดกลิ่นหอมนั้นเข้าปอดอย่างจงใจ ทันใดนั้นเองหญิงสาวก็รู้สึกถึงพลังคุกคามอย่างรุนแรงจู่โจมเข้าสู่หัวใจโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างทั้งร่างราวถูกตรึงให้แขวนค้างอยู่กลางอากาศ



“ฉันจะคอยดู ถ้าคุณล้มฉันจะเหยียบซ้ำ!! อย่างไม่คิดรั้งรอเลยทีเดียว” ริมฝีปากบางเล็กส่งเสียงคำรามสั่นผ่านในไรฟันสวยออกมาอย่างคนเสียขวัญ ความเครียดแววตาดันปะทุขึ้นประหนึ่งเมฆดำทะมึน ไม่ใช่แค่เขาที่เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นกับร่างกาย ประสาทการรับรู้อย่างฉับไวของหล่อนก็รู้สึกว่าทรวงอกและปลายถันยังคงซาบซ่านและร้อนรุ่มราวริมฝีปากของเขายังคงวนเวียนไม่คลาย เนื้อเยื่ออันอ่อนไหวภายใต้ส่วนลึกของร่างกายยังสั่นไหวจากการครอบครองของเขา แค่คิดถึงการตอบสนองของตนกับชายหนุ่มในค่ำคืนนั้น คลื่นแห่งความหวาดหวั่นและปรารถนาก็พุ่งวาบไปทั่วเรือนร่าง


“ถ้าคุณตาย ผมจะสาปให้คุณวอดวายไปทุกภพทุกชาติเช่นกัน!!” ชายหนุ่มสำทับทิ้งท้ายก่อนเดินเฉียดร่างบางไปอย่างไม่แยแสอีก


คำพูดของเขาไม่ใช่แค่ส่งผลคนรอบกายหญิงสาวที่รู้ร้อนๆหนาวๆเท่านั้น แต่ยังทำให้คนที่ยืนอยู่บริเวณเดียวกันรู้สึกสะท้านเยือกขึ้นมาราวกับอยู่ท่ามกลางพายุหิมะไม่ใช่ห้องจัดเลี้ยงแสนหรูหราของโรงแรม Mandarin Oriental แห่งฮ่องกง ส่วนร่างสวยบนชุดราตรีเนื้อซาตินพริ้วสวยของวาเลนติโน่ที่ถูกกล่าวโดยตรงถึงกับหน้าซีดเผือดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกแปลกประหลาดดุจวิญญาณและลมหายใจได้ถูกช่วงชิงไปยังไม่พอ หากดวงตาดุดันของเขาฉายประกายแวววามเจือรอยกร้าวด้วยความชิงชังราวกับต้องการให้หล่อนจจารจำคำพูดนี้ไว้ในความทรงจำอย่างไม่มีวันลบเลือน ไม่ว่าเขาหรือหล่อนจะสิ้นลมหายใจไปก่อนกันก็ตามที่ส่งทอดมานั้นทำให้ หล่อนยิ่งรู้สึกเจ็บแค้นยิ่งกว่าโดนไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ท้ายทอยเสียอีก


ก็ดีในเมื่ออยากจะลองดีกับหล่อน หล่อนก็จะจัดให้อย่างสาสามเลย


นึกก่อนจะคว้าแก้วแชมเปญแถวจากถาดบริกรขึ้นมาจิบผ่านริมฝีปากบางเรื่อเบาๆ ทว่าดวงตาสีอำพันกลับยังคงจ้องแผ่นหลังชายหนุ่มที่เดินจากไปอย่างแน่วนิ่งและเต็มไปด้วยกลิ่นไอสังหารคุกรุ่น




Create Date : 24 มกราคม 2555
Last Update : 24 มกราคม 2555 1:51:26 น. 0 comments
Counter : 549 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

cheery_princess
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




★ถ้าเราไม่รู้จักสูญเสียบางอย่างไป เราก็จะไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งนั้น★ Never lie,cheat or steal,always strike a fair deal






MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com





Friends' blogs
[Add cheery_princess's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.