My Life ..
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
4 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
คิดถึงลูก ..... เพราะพ่อแม่ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า

เมื่อสองสามปีก่อน ได้ดูหนังในช่องHallmark ทาง ยูบีซี ถ้าจำไม่ผิดชื่อเรื่อง Homeless to Harvard รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก

หนังเป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีแม่ติดยาและเหล้าอย่างรุนแรง พ่อก็ทิ้ง ตัวเด็กผู้หญิงคนนี้พยายามอย่างมากที่จะหาโอกาสเรียนหนังสือ .. ทั้ง ๆ ที่สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย ..ในวันที่แม่ตาย หนูน้อยตัดสินใจว่าตัวเองจะต้องเรียนหนังสือ เข้าไปสมัครเรียนแล้วเรียนแบบหามรุ่งหามค่ำ ทั้งเรียนทั้งทำงาน ตอนเช้าเธอจะไปถึงโรงเรียนก่อนโรงเรียนเปิด นั่งรอที่ประตูทางเข้า หลังเลิกเรียนไปทำงานรับจ้างล้างถ้วยชาม แล้วก็อาศัยรถไฟใต้ดินเป็นบ้าน นั่งรถเวียนไปเวียนมาจนเช้า .. แล้วไปโรงเรียน นี่คือสาเหตุที่ทำให้เธอมาถึงโรงเรียนเป็นคนแรก ดูแล้ว คิดถึงลูก อยากเก็บหนังเรื่องนี้ไว้ให้ลูกดู


แล้วก็ได้ดั่งใจ ..หนูน้อยคนนี้มีชีวิตจริง ๆ

วันก่อนเปิดนิตยสารแพรว ... ในคอลัมน์ คนไม่ดังของโลก โดย คุณสรจักร ศิริบริรักษ์ ..


ลิซ เมอร์เรย์

หัวใจใฝ่ดี
จากเด็กข้างถนน ไร้ที่อยู่อาศัย ไม่มีเงินแม้แต่เพนนีเดียวในกระเป๋า แต่ด้วยหัวใจใฝ่ดี เธอสามารถเข้าไปเป็นนักศึกษามหาวทิยาลัยฮาร์วาร์ด ลิซ เมอร์เรย์ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่วัยรุ่นผู้ด้อยโอกาสจำนวนมาก

ลิซ เมอร์เรย์ เกิดเมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.1980 อาศัยกับพี่สาว และพ่อแม่ขึ้ยาในอพาร์ตเมนท์สกปรกในย่านชุมชนแออัดเขตบร็องซ์ รัฐนิวยอร์ก เมื่ออายุ 9 ขวบ เธอต้องหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการตระเวนขออาหารตามร้านขายของชำ ขณะที่พ่อแม่เสพโคเคนอยู่ที่บ้าน

เมื่ออายุ 15 ปี พ่อย้ายเข้าไปอยู่สถานพักพิงสำหรับผู้ไร้ที่อยู่อาศัย แม่ตายเพราะเอดส์ ลิซกลายเป็นเด็กข้างถนน ไม่มีที่ซุกหัวนอน ต้องแอบงีบบนม้ายาวในสวนสาธารณะ สถานีรถไฟใต้ดิน
ในวันฝังศพแม่ ลิซยืนดูอยู่ห่าง ๆ ด้วยความอนาถใจ ร่างของแม่ถูกใส่ในโลงกระดานไม้อัด แม้แต่ป้ายหน้าหลุมฝังศพก็เขียนด้วยปากกาเคมี เธอเริ่มคิดถึงอนาคตของตัวเอง

โชคดีที่ลิซคบเพื่อนสูงวัยที่ฉลาดคนหนึ่งซึ่งมองเห็นศักยภาพภายในตัวเธอ เขาใช้อุบายกระตุ้นพลังแห่งการเรียนรู้ด้วยการมอบสารานุกรมเก่า ๆ ชุดหนึ่งให้เป็นของขวัญ ลิซจะหยิบมันขึ้นมาพลิกดูภาพประกอบอย่างสนใจทุกครั้งที่มีเวลา ..อยากรู้ว่าตัวอักษรที่บรรยายใต้ภาพบอกอะไร .. ต่อมาเพื่อนสูงวัยผู้นั้นยังซื้อตั๋วพาลิซไปทัวร์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สิ่งที่ได้พบเห็นสร้างแรงบันดาลใจให้ลิซอยากเรียนหนังสือ และตั้งความหวังว่า สักวันหนึ่งเธอจะต้องเข้ามายืนในรั้วแห่งนี้ให้ได้

หลังกลับจากทัวร์ ลิซตัดสินใจสมัครเข้าเป็นนักเรียนในโปรแกรมพิเศษสำหรับผู้ด้อยโอกาส เธอทุ่มเทเพื่อการเรียนอย่างมุมานะและบริหารเวลาอย่างเป็นระบบ เพราะต้องทำงานเลี้ยงชีพพร้อมกับลงวิชาเรียนเป็นสองเท่าของเพื่อนร่วมชั้น เธอต้องทำถึงขนาดเอาหนังสือเรียนห้อยติดผนังและอ่านไปด้วยขณะรับจ้างล้างจาน ลิซตระหนักดีว่า การศึกษาเท่านั้นที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิต

ในเวลาเพียงสองปี ลิซสามารถสอบข้ามชั้นแบบก้าวกระโดด จนไล่ทันเพื่อนวัยเดียวกัน และอีกสองปีเธอก็จบไฮสกูลได้สำหรับพร้อมที่จะเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย .. ครูที่รับผิดชอบเรื่องการเรียนเอ่ยชมว่า ลิซ เป็นนักเรียนที่ฉลาดและตั้งใจที่สุดที่ที่เคยเห็นมา

การเรียนจบไฮสกูลในสี่ปี เป็นความสามารถอันน่ามหัศจรรย์ แต่ไม่ใช่บัตรผ่านประตูสู่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่มีชื่อเสียงก้องโลก ถ้าดูจากพื้นฐานครอบครัว ประวัติการศึกษา และเงินออมที่เตรียมไว้เพื่อการศึกษา โอกาสที่คณะกรรมการของมหาวิทยาลัยจะคัดเลือกเธอเข้าเป็นนักศึกษา แทบจะเป็นศูนย์

แต่.. ลิซ ไม่ยอมแพ้ เธอสมัครชิงทุนการศึกษาทุกแห่งที่ทำได้ และด้วยความตั้งใจจริง ลิซ เมอร์เรย์ สามารถคว้าทุนการศึกษาของ นิวยอร์กไทม์ ในปี ค.ศ.1999 พร้อมกับที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้เปิดประตูต้อนรับเด็กสาวจากกองขยะให้เข้าศึกษาต่อทางด้านจิตวิทยาคลีนิก

ระหว่างการศึกษา ลิซ ใช้เวลาว่างเดินทางไปบรรยายตามแหล่งสลัม เพื่อให้เด็กวัยรุ่นได้เห็นตัวอย่างว่า แม้จะเป็นเด็กจรจัดไร้ที่พักพิง ไม่มีเงิน ต้องกินอาหารจากกองขยะ ทุกคนอาจมีชีวิตที่ดีได้ถ้าตั้งใจจริง

ลิซ กล่าวว่า " เธอไม่ได้รับพรจากนางฟ้าองค์ใด ความสำเร็จเกิดจากการมีเป้าหมายชีวิตที่แน่นอน เชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง บวกกับ ความอุตสาหะ อย่ามัวมองคนอื่นและคิดว่าพวกเขาทำได้เพราะเขามีบางอย่างเหนือคุณ มนุษย์ทุกคนมีเท่ากัน เพียงจะใช้สิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์เต็มร้อยหรือไม่ คุณต้องเชื่อว่าอนาคตอยู่ในกำมือของคุณ และคุณเป็นผู้กำหนดเอง "


ขอบคุณ คุณสรจักร ศิริบริรักษ์ .. ที่สรรหาเรื่องดี ๆ มาให้ผมเก็บไว้เพื่อลูก ครับ



Create Date : 04 กันยายน 2550
Last Update : 10 กันยายน 2550 17:50:06 น. 2 comments
Counter : 1288 Pageviews.

 


โดย: wbj วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:10:23:49 น.  

 
อ่านแล้วทำให้ฮึดสู้ขึ้นมาเลยค่ะ

คนเราถ้ามีความพยายามเสียอย่าง อะไรก้ไม่เกินความสามารถนะคะ



โดย: dogsma (dogsma ) วันที่: 13 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:00:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สามทับหนึ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สามทับหนึ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.