Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
เข็ดวัดนี้ ฝังใจนานถึง 20 ปี รู้สึกวัดนี้เป็นพุทธพาณิชย์มากๆ ไม่อยากมา กลัวต้องทำบุญจนหมดตัว เราไปทำบุญวัดป่ากันดารๆ ปลื้มมากกว่า มีคนชวนติดจานดาว.....

รู้สึกวัดนี้เป็นพุทธพาณิชย์มากๆ ไม่อยากมา กลัวต้องทำบุญจนหมดตัว เราไปทำบุญวัดป่ากันดารๆ ปลื้มมากกว่า มีคนชวนติดจานดาวเทียม ก็รับมาเพราะเกรงใจ เราเลยดองจานไว้อย่างนั้น ไม่ยอมติดอยู่เป็นปี


จากหนังสืออะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ
อะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ เล่ม 2 เรื่องที่ 4
เข็ดวัดนี้ ฝังใจนานถึง 20 ปี
ศิรินทร์พร เมนะเนตร
ผู้จัดการบริษัท ดี- ริช กรุ๊ป จำกัด
รู้สึกวัดนี้เป็นพุทธพาณิชย์มากๆ ไม่อยากมา กลัวต้องทำบุญจนหมดตัว
เราไปทำบุญวัดป่ากันดารๆ ปลื้มมากกว่า มีคนชวนติดจานดาวเทียม
ก็รับมาเพราะเกรงใจ
เราเลยดองจานไว้อย่างนั้น ไม่ยอมติดอยู่เป็นปี
อะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ
รู้สึกเข็ดวัดนี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะพี่สาวชอบพามาวัดด้วยทุกครั้ง ตอนนั้นเรียนอยู่ ป.5 ได้ตังค์ค่าขนมวันละ 15 บาท พอเขาทำบุญกัน เราเลยต้องทำด้วย พอกลับไปบ้าน ตังค์หมดเกลี้ยงทุกที เป็นอย่างนี้บ่อยๆ จนเราปฏิเสธไม่ยอมมาวัดกับพี่สาวอีกเลย นับจากนั้นจึงปิดกั้นตัวเองและแอนตี้วัดมาโดยตลอด พอเราโตเป็นผู้ใหญ่ ก็ได้ข่าววัดในทางที่ไม่ดีอีก เลยยิ่งฝังใจว่าวัดนี้เป็นวัดพุทธพาณิชย์ แล้วที่สำคัญคนในครอบครัว เราส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครชอบวัดพระธรรมกายเลย เขาจะชอบไปวัดป่าที่กันดารๆ เพราะรู้สึกว่าทำบุญกับวัดจนๆ แล้วปลื้มกว่า เป็นอย่างนี้นานถึง 20 ปี จนชีวิตเราเข้าสู่วิกฤติเจอปัญหาหลายด้าน ทั้งด้านงาน ด้านเงิน จนมีคนมาชวนเราให้เข้าวัดพระธรรมกาย ชวนบ่อยมาก แต่เราก็คิดในใจว่ายังไงๆ เสีย..เราก็ไม่มาหรอกวัดนี้ ไม่อยากโดนเรี่ยไร จนหมดตัว เราจึงหาทางออกให้กับชีวิตโดยการไปบวชชีถือศีลอยู่วัดต่างจังหวัดแทน บวชอยู่ 12 วัน จนได้คิดว่า ชีวิตแท้จริงแล้วเราไม่ต้องการอะไรมาก ขอเพียงความสมถะเรียบง่าย เราก็มีความสุขแล้ว ช่วงนั้นใจสงบขึ้นมาก มานั่งคิดว่า เราน่าจะหาที่สักแห่งที่ไม่ไกล สะดวกต่อการเดินทาง ไว้เพื่อให้เรามานั่งสมาธิ(Meditation)บ่อยๆ ให้จิตใจสงบก็น่าจะดี ซึ่งเราก็มองหาหลายที่ ก็เลยลองมาดูที่วัดพระธรรมกาย พอมาถึงก็คิดว่า สถานที่เป็นของใครก็ได้ แต่ใจเป็นของเรา ตอนนั้นแอบมาคนเดียว พอมาก็ไม่ยอมไปนั่งเข้ากลุ่มกับใครเลย เราหาที่แอบนั่งสมาธิในมุมสงบส่วนตัวของเราเอง เพราะกลัวคนมาเรี่ยไรมากๆ ทำอย่างนี้อยู่ 4 อาทิตย์ ก็เริ่มสังเกตอะไรต่างๆ และสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันสงบของวัดนี้ ผู้คนที่นี่จิตใจดี พูดจาเพราะ ห้องน้ำสะอาด คือมาวัดนี้แล้ว..รู้สึกปลอดภัย สงบ ทั้งๆ ที่การมาตอนนั้นก็ไม่ได้ศรัทธาอะไรเลย

       จนกระทั่ง คุณสมเดช สุขประดิษฐ์อาภรณ์ ที่เขาเข้าวัดพระธรรมกาย เป็นประจำที่เราติดต่อธุรกิจกับเขา ชวนเราไปฟังเกี่ยวกับเรื่องการสร้างพระ ใจจริงไม่อยากไปเลย แต่จำใจต้องไปเพราะพี่คนชวนเขาเป็นคนดี และคอยช่วยเหลือเรามาโดยตลอด ด้วยความเกรงใจตรงนี้ เราเลยต้องไป พอได้ฟังวิทยากรชื่อพี่หนูออกมาพูด ทำให้เราคิดตามหลายๆ อย่าง เพราะรู้สึกโดนใจ เช่น เรื่องความกตัญญูต่อพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าความกตัญญูเป็นสิ่งที่ดี ขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่เราก็ต้องตอบแทน โดยการดูแลท่านอย่างดีที่สุด และต้องตามดูแลต่อ แม้ท่านลับโลกไปแล้ว โดยการหาที่ที่ดีที่สุด เพื่อฝังศพท่าน ที่เราเรียกกันว่าฮวงซุ้ย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรามีโอกาสไปฮวงซุ้ย ทำบุญให้ท่านแค่ปีละครั้ง พอไปถึงก็เห็นหญ้าขึ้นรกร้าง ฝุ่นดินเต็มไปหมด ดูแล้วรู้สึกหดหู่ แต่หากมีสถานที่แห่งหนึ่ง ที่เราทำให้บรรพบุรุษของเรา และสถานที่นั้นมีคนดูแลทำความสะอาด เปิดไฟส่องสว่างให้สวยงาม มีคนมาบูชากราบไหว้ทุกวัน แถมสถานที่นั้นอยู่ไปเป็นพันๆ ปี และที่สำคัญยังได้ทำบุญให้ท่าน โดยการสร้างองค์พระประจำตัวจารึกชื่อให้ท่านอีก พอเราฟังมาถึงตรงนี้ เราใจเปิดมากๆ อยากทำทันที เพราะคนในตระกูลเราก็ยังไม่เคยมีใครได้ทำบุญสร้างเจดีย์อะไรทำนองนี้เลย ซึ่งตอนนั้นไม่สนใจหรอกว่าจะเป็นของวัดพระธรรมกายหรือไม่ จะเป็นของที่ไหน หากได้คอนเซ็ปตามนี้เราก็ยินดีสร้างเพราะใจอยากทำเพื่อ เป็นการตอบแทนพระคุณ ให้กับคนที่เรารักอยู่แล้ว จึงตัดสินใจจองสร้างพระทั้งหมด 11 องค์ทันที ทั้งที่ไม่มีเงิน พอกลับบ้านเลยนอนก่ายหน้าผาก เพราะไม่รู้จะไปหาเงินจากไหน แต่ก็อัศจรรย์ใจมาก พอนึกจะทำบุญใหญ่ อยู่ๆ พ่อก็ให้เงินก้อนใหญ่อย่างไม่คาดคิด โดยที่ไม่ได้เอ่ยปากบอกอะไรท่านเลย เพราะพ่อขายบ้านได้ เลยทำให้เราได้บุญอย่างอัศจรรย์ พอทำบุญไป ได้มาดูเจดีย์รู้สึกประทับใจว่า วัดเขาสร้างใกล้เสร็จแล้ว ที่เราทำบุญไปเห็นเป็นรูปเป็นร่างได้เร็วมาก เลยทำให้ประทับใจว่าการที่วันนี้เราได้มาทำบุญกับวัดใหญ่ๆ เขาได้เอาเงินที่เราบริจาคมาสร้างสถานที่ เพื่อรองรับคนหลายแสนคนเพื่อมาทำความดี มานั่งสมาธิจนพบความสุข เลิกอบายมุขกันมากขนาดนี้ แถมมีคนมาเป็นประจำไม่ได้ขาดเลย รู้สึกว่าสิ่งก่อสร้างในวัดแต่ละแห่งได้ใช้ประโยชน์ตลอด มีคนดูแลเอาใจใส่ไม่ปล่อยให้รกร้าง ทำบุญอย่างนี้ ทำให้เราได้บุญมาก เพราะเขาสร้างแล้วเอาไปใช้จริงๆ



แต่ช่วงนั้นปัญหาชีวิตเราก็ยังไม่คลี่คลาย จนพี่ที่มาวัดพระธรรมกาย ก็เอ่ยปากชวน ให้ไปนั่งสมาธิที่พนาวัฒน์อีก แต่เราก็ปฏิเสธอีก โดยอ้างโน่นอ้างนี่ จนเขาชวนหนักๆ เข้า ก็เลยยอมตกลงทั้งที่ไม่อยากไปเลย เพราะยังไม่ได้ศรัทธาอะไรมากมาย แต่เมื่อตกลงแล้วก็ต้องไป ขณะเดินทาง ก็รู้สึกประทับใจอีก เพราะในรถไม่อึกกระทึกโหวกเหวก ไม่มีกินเหล้า ตีกลองดังๆ เหมือนไปทำบุญที่อื่นเลย เพราะคนบนรถทุกคนจะสวดมนต์พร้อมกันอย่างสงบ ทำสมาธิกันไปจนถึงจุดหมายปลายทาง พอไปถึงพนาวัฒน์ บรรยากาศดีทุกอย่าง เราได้นั่งสมาธิเต็มที่จนเกิด ประสบการณ์ภายในจากสมาธิ จึงทำให้เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ที่เกี่ยวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะขนาดประสบการณ์ทางสมาธิยังมี เรามีความสงบกายและใจมาก รู้สึกหายทุกข์หายเครียด และนึกขอบพระคุณ คนที่สร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาอย่างจับใจ เพราะด้วยค่าใช้จ่ายที่เรามาที่นี่ นับว่าถูกมาก เราทำธุรกิจมา เรารู้ดีว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพียงแค่นี้ แต่เขาให้เราขนาดนี้ เป็นราคาที่เขาไม่ได้อะไรเลย จนทำให้เรามองเห็น และสัมผัสได้ถึงเจตนาบริสุทธิ์ ของคนคิดทำสถานที่นี้ ที่มีความจริงใจ ที่อยากให้ชาวโลกพ้นทุกข์ และเข้าถึงธรรมอย่างเดียวเท่านั้น
ซึ่งก็คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย

ตลอด 6 วัน ที่นั่งสมาธิที่นี่นั้น เราได้ฟังท่านสอนธรรมะทุกวัน จากการถ่ายทอดทางจานดาวเทียม จึงมานั่งคิดว่านี่หรือเจ้าอาวาสที่เคยโดนโจมตี ทำไมท่านดีขนาดนี้ ท่านสงบสำรวม พูดเพราะ เป็นเจ้าอาวาสที่ไม่เล่นตัว พบง่ายมาก เพราะท่านลงเทศน์สอนที่วัดทุกวัน ทุ่มครึ่ง ถึง 4 ทุ่มกว่าทุกวัน ใครจะไปฟังท่านอย่างใกล้ชิดก็ได้ ซึ่งถ้าไม่สะดวกก็มีการถ่ายทอดทางจานดาวเทียมไปทั่วโลก และทุกวันอาทิตย์ก็ลงสอน นำนั่งสมาธิเช้า-บ่าย เป็นประจำอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย เรามาฉุกคิดว่า หากไม่ได้ทำด้วยมโนปณิธาน ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ คงไม่มีใคร ที่ยอมเสียสละตนเองแบบนี้ หาใครทำได้อย่างท่านยากมาก

             ช่วงนั้นมีความสุขขึ้น ก็ทำให้คิดถึงคนที่เรารักที่สุด คือแม่ จึงกลับไปติดจานดาวเทียมที่ถ่ายทอดธรรมะมาที่บ้าน ที่เรียกกันว่าจานดาวธรรม เพราะพี่ที่มาวัดได้ชวนติดจาน แต่ตอนนั้นรับมาเพราะเกรงใจ เราเลยดองจานไว้อย่างนั้น.. ไม่ยอมติดอยู่เป็นปี คราวนี้จึงยอมเปิดใจติด และใช้กุศโลบายชวนแม่ดู แรกๆ แม่บอกว่าวัดนี้ไม่ดี จึงบอกท่านว่า อันไหนดี..แม่ก็เก็บ อันไหนไม่ดี..แม่ก็ไม่ต้องเก็บสิ ปรากฏว่าแม่ดูจานดาวธรรม แล้วแม่ชอบมากๆ ลุงที่ดูด้วยกัน ก็ตัดสินใจเลิกบุหรี่เด็ดขาด หลังจากนั้นแม่ก็ยอมไปนั่งสมาธิที่พนาวัฒน์ และมาวัด ทุกวันนี้เราแม่ลูกได้รับความสุขจากการปฏิบัติธรรมมาก

จากการที่เราเข้าใจวัดช้า แอนตี้วัดมาตลอดทำให้รู้สึกเสียดายเวลามากๆ ที่ก่อนนั้น..เราคิดได้แค่นั้น เพราะตอนเด็กไม่มีใครอธิบายอะไรให้เราฟัง ว่าบุญคืออะไร..ทำบุญ..ทำไปทำไม อีกทั้งเชื่อข่าวและปิดกั้นตัวเอง ทำให้มาพบสิ่งดีๆ ในชีวิตช้า เพราะนับตั้งแต่มาทำบุญที่วัดพระธรรมกาย ภาวะเศรษฐกิจเราก็ค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เจอแต่คนดีๆ มาคอยช่วยเหลือ มีแต่โอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิต เพราะการทำบุญหากทำอย่างถูกต้องแล้ว บุญไม่เคยทำให้เราหมดตัว.....



Create Date : 08 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 9:45:29 น. 2 comments
Counter : 1075 Pageviews.

 
อ่านแล้วเข้าใจได้ดี อขบคุณมากๆครับ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


โดย: warit วันที่: 10 พฤศจิกายน 2555 เวลา:0:43:07 น.  

 
อ่านแล้วเข้าใจได้ดี อขบคุณมากๆครับ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


โดย: warit วันที่: 10 พฤศจิกายน 2555 เวลา:0:43:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชบาแก้วริมน้ำ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ชบาแก้วริมน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.