เล่ห์ซ่อนใจ : บทที่ 16


ตอบคอมเม้นท์จากตอนที่แล้ว
คุณyapapaya: ติดตามกันต่อได้เลยค่ะ Smiley



บทที่ 16


ระหว่างทางที่ขับรถกลับมาจากโรงพยาบาลแจ็คกับชาร์ล็อตต่างก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก เธอลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อในที่สุดเขาก็เลี้ยวรถเข้าไปในจอดในโรงจอดรถของบ้านเขา ชาร์ล็อตลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปทางด้านหลังรถเพื่อจะหยิบเอากระเป๋าเดินทางที่เธอเก็บมาก่อนหน้าที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะย้ายไปพักที่โรงแรม หากก็ต้องชะงักเมื่อมือของแจ็คเอื้อมมาคว้ากระเป๋าเดินทางของเธอไปถือเสียเอง

“ผมช่วย จะได้พาคุณไปที่ห้องที่เตรียมไว้ให้คุณด้วย” แจ็คกล่าวเสียงเรียบก่อนที่จะยกกระเป๋าเดินทางของเธอเข้าไปในบ้าน ซึ่งชาร์ล็อตก็จำใจต้องเดินตามเขาไปโดยไม่มีทางเลือก

แม้ว่าจะเคยเข้ามาในบ้านของเขาแล้วแต่เธอก็ยังไม่เคยเดินไปตรงส่วนชั้นบนซึ่งเป็นส่วนของห้องนอน  แจ็คพาเธอมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนซึ่งอยู่ด้านซ้ายสุดของโถงทางเดินแล้วเปิดประตูห้องแล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เธอเดินเข้าไปด้านใน

“นี่ห้องของคุณ ผมทำความสะอาดแล้วก็เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้แล้ว แต่ถ้าหากคุณอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็บอกได้นะ” เขากล่าวพลางวางกระเป๋าลงบนพื้นก่อนที่จะชี้มือไปทางอีกฟากหนึ่งของโถงทางเดิน

“ห้องนอนของผมอยู่ห้องขวาสุดทางซ้าย ถ้าหกคุณอยากใช้อินเตอร์เน็ตผมจดรหัสผ่านเอาไว้ที่ลิ้นชักโต๊ะทำงาน”

เธอกล่าวพึมพำขอบคุณเขาก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องในขณะที่แจ็คก็ขอตัวกลับลงไปทำงานต่อที่ด้านล่าง


***********************


เมื่ออยู่คนเดียวตามลำพังในห้องชาร์ล็อตก็หันไปมองรอบๆ ห้องที่กลายเป็นที่พักชั่วคราวแห่งใหม่ของเธอ ห้องนอนขนาดกลางที่มีห้องน้ำในตัวดูยังไงก็ใหญ่เกินไปสำหรับที่จะเป็นห้องนอนสำหรับแขกที่จะมาพักในบ้าน

ภายในห้องครบครันด้วยเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานอย่างเตียง โต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งซึ่งทำจากไม้เนื้อแข็งขัดเงาทาสีเข้มตัดกับผนังสีครีมทำให้บรรยกาศของห้องดูเรียบแต่ก็ไม่ได้แห้งแล้งจนเกินไป

เธอหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัวไปวางเรียงในห้องน้ำและเมื่อเข้ามาในห้องน้ำ เมื่อจัดของในห้องน้ำเสร็จแล้วชาร์ล็อตก็เปิดกระเป๋าเดินทางเพื่อจะจัดเรียงเสื้อผ้าของเธอใส่ตู้ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงของแจ็คดังมาจากหลังประตู เธอชะงักมือที่กำลังจะหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าแล้วตะโกนถาม

“ใครคะ”

“ผมเอง ผมมาตามคุณลงไปเจอไมค์”

ชาร์ล็อตถอนหายใจก่อนที่จะละมือจากการจัดเสื้อผ้าใส่ตู้แล้วลุกไปเปิดประตูที่มีแจ็คยืนรออยู่

“ไมค์เพิ่งมาถึง เขาบอกผมว่าคุณควรลงไปฟังความคืบหน้าเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ด้วย”

เธอพยักหน้าก่อนจะเดินตามเขาลงไปที่ห้องรับแขกด้านล่างซึ่งมีไมเคิลและชายอีกสองคนที่โซฟารับแขก พวกเขาลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นแจ็คกับเธอ

“ชาร์ล็อต นี่สารวัตรแม็คเคนน่าจากฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจลอนดอนและนี่เจ้าหน้าที่แอนเดอร์สันจากสก๊อตแลนด์ยาร์ด”

เธอยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับชายทั้งสองพร้อมกับกล่าวแนะนำตัวแล้วนั่งลงตรงโซฟาตัวยาวที่อยู่ด้านตรงข้าม โดยที่แจ็คนั่งลงตรงโซฟาเดี่ยวด้านซ้ายมือของเธอ และไมเคิลก็อธิบายให้เธอฟังว่าแอนเดอร์สันและแม็คเคนน่ามาเพื่อสอบถามข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อคดีทำร้ายร่างกายของโรเบิร์ตและเรื่องที่สำนักงานของโรเบิร์ตถูกงัดจากเธอกับแจ็ค


*************************


เพื่อเป็นการส่วนตัวแจ็คจึงแนะนำให้แม็คเคนน่าใช้ห้องทำงานของโฮเวิร์ดในการพูดคุยโดยที่แม็คเคนน่าเลือกที่จะคุยกับชาร์ล็อตก่อน

ชาร์ล็อตนั่งหลังตรงมองสารวัตรแม็คเคนน่าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะทำงานและไมเคิลที่ยืนพิงกรอบหน้าต่างยกมือขึ้นกอดอก แม็คเคนน่าหยิบแฟ้มเอกสารและสมุดบันทึกออกมาวางไว้บนโต๊ะและเปิดอ่านอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเริ่มถาม

“นอกจากเรื่องที่คุณฮอว์ธอร์นกำลังดูแลเรื่องคดีพินัยกรรมแล้วพอจะทราบไหมครับว่าเขามีเรื่องขัดแย้งกับใครอีกบ้างที่อาจเป็นประเด็นที่ทำให้มีคนปองร้ายหมายจะเอาชีวิต”

ชาร์ล็อตส่ายหน้า “ฉันไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เพราะฉันเองก็เพิ่งรู้จักคุณฮอว์ธอร์นและเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานนัก”

แม็คเคนน่าพยักหน้าก่อนจะจดข้อความขยุกขยิกลงบนสมุดโน้ตส่วนตัวก่อนที่จะถามคำถามต่อไป “คุณบอกว่าคุณเพิ่งมาอยู่ที่นี่และรู้จักกับคุณฮอว์ธอร์นได้ไม่นาน แล้วทำไมเขาถึงให้คนที่เพิ่งรู้จักอย่างคุณมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของเขาล่ะครับ”

ช่องท้องของชาร์ล็อตขมวดเกร็งกับคำถามของแม็คเคนน่าซึ่งจ้องตรงมาที่เธออย่างจับสังเกต เธอกำลังชั่งใจว่าจะพูดถึงสาเหตุที่เธอยังอยู่ที่นี่ให้กับแม็คเคนน่าและแอนเดอร์สันรับรู้ได้หรือไม่ เธอเหลือบไปมองไมเคิลที่คงอ่านความคิดเธอได้ก็พยักหน้าเป็นการยืนยัน

เธอพ่นลมหายใจยาวก่อนที่จะเริ่มต้นพูด “ฉันมีเอกสารสำคัญบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคดีพินัยกรรมของดอกเตอร์โฮเวิร์ดที่กำลังฟ้องร้องกันอยู่ เพื่อความสะดวกในการติดต่อและความปลอดภัยของทั้งเอกสารและตัวของฉัน คุณฮอว์ธอร์นจึงได้เสนอให้ฉันมาพักที่บ้านพักที่ว่างอยู่ในระหว่างที่เรื่องยังไม่เรียบร้อย”

“แล้วความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณฮอว์ธอร์นล่ะครับ”

เธอขมวดคิ้วกับคำถามที่ดูเหมือนจะเจาะลึกในประเด็นของความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เธอมีต่อโรเบิร์ต

“ผมจำเป็นจะต้องถามเรื่องส่วนตัวพวกนี้เพราะมันเป็นข้อมูลที่ทำให้เราหาแรงจูงใจและเบาะแสที่จะนำไปสู่คนร้ายได้เร็วขึ้น”

“ฉันเข้าใจค่ะว่าคุณทำหน้าที่ของคุณ แต่ฉันกับคุณฮอว์ธอร์นไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรลึกซึ้งแบบนั้นหรอกค่ะ ที่คุณฮอว์ธอร์นเอื้อเฟื้อดูแลฉันดีขนาดนี้ก็เพราะฉันเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทสมัยเรียนของเขา”

“เป็นเพื่อนสนิททางพ่อหรือว่าทางแม่ครับ”

“ทั้งสองคนค่ะ พ่อแม่ของฉัน ดอกเตอร์โคลเทรนและคุณฮอว์ธอร์นเป็นเพื่อนสนิทกันตอนที่คุณฮอว์ธอร์นกับดอกเตอร์โฮเวิร์ดไปเรียนต่อที่อเมริกา”

แม็คเคนน่าพยักหน้าก่อนที่จะจดข้อความลงบนสมุดบันทึก “ถ้าอย่างนั้นก็พอเข้าใจได้ แล้วบอกได้ไหมครับว่าเอกสารสำคัญที่คุณพูดถึงคืออะไร”

“เรื่องนั้นคงบอกไม่ได้หรอกนะแม็คเคนน่า เพราะมันเป็นหลักฐานสำคัญสำหรับอีกคดีหนึ่งที่แอนเดอร์สันกำลังดูแลอยู่” ไมเคิลเอ่ยขัดซึ่งแม็คเคนน่าก็พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ

“ถ้าอย่างนั้นผมก็คงไม่มีอะไรจะถามต่อ ขอบคุณนะครับที่ให้ความร่วมมือ รบกวนช่วยตามแจ็คให้เข้ามาหาผมด้วยนะครับ” แม็คเคนน่ากล่าวก่อนจะยื่นมือไปเช็คแฮนด์กับเธอโดยที่เธอกล่าวขอบคุณเขากลับก่อนที่จะเดินออกไป


***********************


เมื่อเดินออกมาชาร์ล็อตก็พบกับแจ็คที่กำลังพูดคุยกับแอนเดอร์สันด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด บนโต๊ะกาแฟที่อยู่กลางชุดโซฟานั้นมีเอกสารและภาพถ่ายวางกระจายอยู่เต็มโต๊ะ

“นี่เป็นหลักฐานใหม่ที่เราตรวจสอบได้จากซากรถของดอกเตอร์โคลเทรน จากรายงานเก่าของตำรวจบอกว่าเป็นเพราะเบรกเสื่อมสภาพ แต่พอผมตรวจสอบอีกทีและเช็คประวัติการดูแลรักษารถแล้ว รถของดอกเตอร์โฮเวิร์ดเพิ่งผ่านการตรวจซ่อมบำรุงมาไม่กี่วันก่อนหน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุ และนี่...” แอนเดอร์สันชี้ไปที่ภาพของอะไรสักอย่างที่ดูเหมือนเป็นช่วงล่างของรถยนต์ “รอยสึกบนจานเบรกไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเบรกมีการเสื่อมสภาพอย่างที่รายงานของตำรวจระบุเอาไว้”

แจ็คกำมือที่วางอยู่บนเข่าของตัวเองแน่นจนมันสั่นระริก “หมายความว่ามีคนวางแผนที่จะทำให้การตายของพ่อดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ”

แอนเดอร์สันพยักหน้า “ผมเสียใจด้วยนะแจ็คที่ดูเหมือนว่าเรื่องมันจะต้องยุ่งยากขึ้นไปอีก”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ” แล้วเขาก็หันมาทางชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องทำงานของพ่อเขา ร่างกายของเขาเครียดเกร็งขึ้นมากะทันหันกับสายตาที่แสดงว่าเธอได้ยินบทสนทนาของเขากับแอนเดอร์สันหมดแล้ว

“สารวัตรแม็คเคนน่าอยากคุยกับคุณ แต่ถ้าหากคุณยังคุยกันไม่เสร็จฉันจะกลับเข้าไปบอกให้เขารอก่อนก็ได้”

“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณคลาร์ก ผมเสร็จเรื่องกับแจ็คพอดี” แอนเดอร์สันพูดขัดพร้อมกับพยักหน้าให้กับแจ็คเป็นการยืนยัน "ถ้าได้รายละเอียดอะไรเพิ่มผมจะติดต่อมานะครับ”

แจ็คลุกขึ้นยืนก่อนจะเช็คแฮนด์กับแอนเดอร์สันพร้อมกับกล่าวพึมพำขอบคุณก่อนที่จะเดินผ่านเธอไปที่ห้องทำงานของพ่อเขา

“เชิญนั่งก่อนครับคุณคลาร์ก ผมมีสองสามเรื่องที่จะถามคุณ”

ชาร์ล็อตลอบถอนหายใจก่อนจะเดินมานั่งลงบนโซฟา “เรื่องอะไรเหรอคะ”

“เรื่องการเสียชีวิตของดอกเตอร์โฮเวิร์ดน่ะครับ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเขาได้เดินทางไปอเมริกาและพบกับคุณถูกต้องไหมครับ”

“ใช่ค่ะ”

“แล้วตอนที่ได้พบกันครั้งสุดท้ายเขาได้พูดอะไรน่าสงสัยบ้างหรือเปล่า”

เธอบีบมือเข้าหากันแน่นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น “ค่ะ ลุงโฮเวิร์ดมีท่าทางแปลกๆ และพูดในทำนองว่ามีคนกำลังจ้องจะปองร้ายเขาอยู่ และด้วยเหตุผลนั้นลุงโฮเวิร์ดก็เลยฝากพินัยกรรมไว้กับฉันเพราะคิดว่าถ้าหากเก็บไว้ที่บ้านครอบครัวของเขาอาจไม่ปลอดภัย”

“พินัยกรรมที่ว่ามีสองฉบับ ฉบับหนึ่งเก็บไว้ที่คุณฮอว์ธอร์น และอีกฉบับอยู่ที่คุณถูกต้องไหมครับ”

เธอพยักหน้า “ใช่ค่ะ ลุงโฮเวิร์ดบอกว่าถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น คุณฮอว์ธอร์นจะติดต่อฉัน แต่ว่าหลังจากลุงโฮเวิร์ดเสียชีวิตไปก็ไม่มีใครติดต่อกลับมา และพอดีที่ฉันต้องเดินทางมาที่นี่ก็เลยไปตัดสินใจไปพบกับคุณฮอว์ธอร์นและได้รู้เรื่องการปลอมแปลงพินัยกรรม”

แอนเดอร์สันเงียบไปอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวพันกัน และแรงจูงใจก็คงเป็นเพราะเรื่องพินัยกรรมที่ถูกกล่าวอ้างว่ามีการปลอมแปลงขึ้นมา”

“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าคนพวกนั้นจะกล้าทำอะไรเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้เพื่อเงินและผลประโยชน์”

“การที่คุณฮอว์ธอร์นถูกปองร้ายและสำนักงานถูกงัดก็อาจเป็นเพราะฝ่ายนั้นไม่อยากถูกขุดคุ้ยและต้องการทำลายหลักฐานที่มีอยู่ แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากกว่าก็คือพวกเจนนิ่งส์อาจรู้แล้วก็ได้ว่าพินัยกรรมอีกฉบับอยู่ที่คุณและนั่นจะทำให้คุณไม่ปลอดภัย”

“แล้วจะให้ฉันทำยังไงคะ”

“แจ็คบอกผมว่าคุณไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหนมากนักเพราะงานของคุณที่กำลังทำอยู่ ซึ่งนั่นถือว่าเป็นเรื่องดี ผมจะให้ตำรวจคอยตรวจดูความปลอดภัยให้ทุกวัน แต่ในระหว่างนี้ขอให้คุณอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวและระวังอย่าพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงก็พอ”

แม้รู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่พอได้ยินหนึ่งในผู้รักษากฎหมายมาพูดต่อหน้าแบบนี้ชาร์ล็อตก็อดที่จะรู้สึกชาไปทั้งใบหน้าพร้อมกับที่มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบและชื้นเหงื่อ

แอนเดอร์สันมองเธอด้วยสายตาที่แสดงความเห็นใจเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ “ผมไม่อยากทำให้คุณรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยนะครับ แต่ข้อดีของมันก็คือจะทำให้คุณไม่ประมาท”

เธอพยักหน้าพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างปลงตก “ค่ะ ฉันเข้าใจ”


**********************


หลังจากที่แอนเดอร์สันไม่มีคำถามอะไรกับเธอแล้ว ชาร์ล็อตจึงขอตัวกลับไปนั่งทำงานในห้องพักห้องใหม่ของเธอ แต่ทว่าเธอก็เอาแต่นั่งจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ในขณะที่ความคิดของเธอวิ่งวนอยู่กับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอรู้ตัวดีนับตั้งแต่วินาทีที่เธอตัดสินใจพาตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าทุกอย่างมันจะเลยเถิดมาจนกลายเป็นการปองร้ายหมายเอาชีวิตอย่างที่เธอกำลังเผชิญหน้าอยู่ในเวลานี้ สิ่งที่ทำให้เธอเป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือริชาร์ด ด้วยความคิดแบบตื้นๆ ของเธอที่คิดว่าการปล่อยให้ริชาร์ดเข้ามาทำความรู้จักกับเธอนั้นอาจช่วยหาโรเบิร์ตหาหลักฐานเรื่องการปลอมพินัยกรรมได้โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังลากตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของโฮเวิร์ดและการถูกปองร้ายของโรเบิร์ต ร่างกายของเธอสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวเมื่อระลึกได้ว่าริชาร์ดรู้ที่อยู่ของเธอและเขายังสามารถติดต่อเธอได้ทุกเวลาที่เขาต้องการ

เสียงทุบประตูห้องที่ดังขึ้นทำให้ชาร์ล็อตสะดุ้งเฮือกก่อนที่จะยกมือขึ้นแตะหน้าอกตัวเองด้วยความตกใจ เธอหันไปมองประตูห้องที่ยังปิดอยู่ ก่อนที่จะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเสียงทุบประตูดังขึ้นกว่าเดิมจนเธอเริ่มมองหาอะไรบางอย่างที่เหมาะจะเป็นอาวุธภายในห้องนี้ซึ่งสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดก็เป็นแจกันตรงโต๊ะทำงานของเธอ

“ผมเอง คุณช่วยเปิดประตูออกมาคุยกับผมหน่อยได้ไหม”

เสียงห้าวทุ้มที่ดังผ่านประตูไม้บ่งบอกได้ชัดว่าเจ้าของเสียงไม่ใช่ที่ไหนนอกจากแจ็คซึ่งฟังดูแล้วเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีสักเท่าไรนัก เธอถอนหายใจพลางวางแจกันที่เธอหวังว่าจะใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวลงบนที่เดิมแล้วเดินไปเปิดประตูโดยที่มีแจ็คยืนกอดอกทำหน้าเครียดใส่

“คุณมีอะไรจะคุยกับฉันคะ”

“ทำไมคุณถึงปิดบังผม”

คำถามของเขาทำให้ใจของเธอหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม แต่เธอก็เกลื่อนท่าทีของตัวเองด้วยการขมวดคิ้วก่อนจะถามกลับ “ฉันปิดบังคุณเรื่องอะไร?”

“เรื่องที่คุณบอกว่าคุณไม่รู้ว่าพ่อแม่ของคุณกับพ่อและอาบ๊อบรู้จักกัน”

ใบหน้าของเธอชาหนึบและจากสายตาของเขาไม่บอกก็รู้ว่าเขาคงจับสังเกตท่าทางของเธอได้

“ฉันไม่ได้ปิดบัง เพียงแต่ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันไม่จำเป็นที่จะต้องบอกให้ทุกคนบนโลกใบนี้รู้”

“แต่คุณไม่คิดบ้างหรือไงว่าผมมีสิทธิ์ที่จะรู้”

“มันก็ไม่ใช่สิทธิ์ของฉันเหมือนกันที่จะพูดเรื่องนี้”

“เลิกเล่นเกมกับผมเสียทีเถอะชาร์ล็อต คุณบอกว่าคุณอยากตอบแทนบุญคุณของพ่อผม แต่ผมรู้ว่าคุณรู้อะไรมากกว่านั้นและกำลังปิดบังไม่ให้ผมรู้ คุณกำลังวางแผนอะไรอยู่และคุณต้องการอะไรจากผมกันแน่”

“ฉันไม่ได้กำลังเล่นเกมอะไรทั้งนั้น และฉันก็ไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณ”

“ผมไม่เชื่อ” เขาว่าพลางส่ายหน้าในขณะที่ดวงตายังจับจ้องนิ่งที่ใบหน้าของเธอ

“ถ้าคุณไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ เพราะฉันไม่มีอะไรจะบอกคุณหรอก”

เธอกล่าวตัดบทพลางเอื้อมมือไปคว้าประตูจะปิดแต่แจ็คที่ไวกว่าก็คว้าต้นแขนของเธอดึงให้ออกมานอกห้องตรึงไหล่ทั้งสองข้างแนบกับผนังจนขยับตัวหนีไปไหนไม่ได้

“ผมไม่ปล่อยให้คุณหนีไปจากเรื่องนี้และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนทุกทีไม่ได้หรอกนะชาร์ล็อต เพราะอะไรรู้ไหม? คุณตีตัวออกห่างผมทั้งที่เราเพิ่งตกลงคบหากันยังไม่ถึงสามวัน ผมเพิ่งรู้ว่าพ่อของผมถูกฆาตกรรมแทนที่จะเป็นอุบัติเหตุ อาบ๊อบถูกแทงจนเกือบตายก็เพราะมีคนอยากจะปกปิดหลักฐานเรื่องการปลอมพินัยกรรม และผมมั่นใจเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าคุณเองก็มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่อย่างนั้นพ่อก็คงไม่ฝากพินัยกรรมเอาไว้กับคุณก่อนตาย อย่ามาพูดว่าคุณไม่มีอะไรจะพูดหรือไม่มีอะไรปิดบังผม และผมเบื่อกับการบอกความจริงเพียงครึ่งเดียวของคุณเต็มแก่แล้ว ผมไม่ได้เป็นคนดีมากพอที่จะอดทนรอจนกว่าในสักวันหนึ่งคุณจะยอมเปิดปากพูด เพราะฉะนั้นบอกผมมาว่าคุณกำลังปิดบังอะไรจากผมกันแน่”

ดวงตาที่เรืองรองด้วยโทสะของแจ็คทำให้เธอนึกกลัวจนไม่กล้าจะขยับตัวหรือแม้กระทั่งหายใจและเป็นครั้งแรกที่ชาร์ล็อตรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกต้อนให้จนมุม

“ฉันบอกคุณแล้วว่าฉันไม่มีอะไรจะพูดอีก” แล้วเธอก็ยกมือขึ้นดันอกเขาพลางออกแรงผลัก แต่แล้วก็ต้องอุทานเมื่อถูกผลักให้กลับไปตรึงอยู่ตรงผนังอย่างเดิม “นี่! ปล่อยฉันนะ!”

“ไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะยอมพูดความจริง”

“แต่ฉันไม่มีความจริงอะไรจะบอก!”

“โกหก”

“ฉันไม่เคยโกหก!”

“ไม่เคยโกหก?” แจ็คย้อนเสียงหยัน “ไม่เคยโกหกแต่ก็ไม่เคยพูดความจริง”

เธอถอนหายใจก่อนที่จะหันหน้าหลบสายตาเขา “เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับการตายของพ่อคุณหรอก”

แจ็คจับปลายคางของเธอให้หันกลับมาสบตากับเขาพร้อมกับก้มลงมาจนอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอเพียงแค่ไม่กี่เซ็นติเมตรจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เป่ารดลงมา และน่าแปลกที่ทั้งที่ควรจะรู้สึกหวาดหวั่นแต่ผิวกายของเธอกลับร้อนวูบวาบเมื่อตระหนักได้ว่าเขาเบียดร่างเข้ามาชิดจนรู้สึกได้ถึงไอร้อนจากผิวกายของเขาที่แผ่ผ่านเสื้อผ้าออกมา

“เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวมันเป็นเรื่องที่ผมจะตัดสินใจ” เขาพูดก่อนจะจับมือทั้งสองข้างของเธอไปตรึงอยู่เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียวแล้วชาร์ล็อตก็สะดุ้งเฮือกเมื่อแจ็คก้มลงไปซุกไซ้ซอกคอของเธอ

“แจ็ค!” เธออุทานด้วยความตกใจก่อนจะดิ้นเพื่อให้หลุดจากเขา

“ไม่ใช่คุณคนเดียวที่จะเล่นเกมได้นะชาร์ล็อต ผมก็มีวิธีเล่นเกมของผมที่จะเค้นเอาความจริงจากคุณได้เหมือนกัน”

ชาร์ล็อตขนลุกชันกับน้ำเสียงแหบต่ำของเขาที่กระซิบข้างหู แววตาที่เต็มไปด้วยโทสะของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเรืองรองด้วยความรู้สึกอีกอย่างที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นถี่กระชั้นจนดังกึกก้องในโสตประสาท ลมหายใจของเธอสะดุดเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือร้อนที่สอดผ่านชายเสื้อของเธอไปปัดป่ายตรงชายโครงใต้ฐานอกของเธอ

“แจ็ค... หยุดนะ” เธอกระซิบห้ามเขาเสียงสั่นพยายามต่อสู้กับความรู้สึกหวามไหวจากความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นแต่ก็ดูเหมือนจะยากเต็มที

“อยากให้ผมหยุดก็พูดสิ” เขาตอบพลางเลื่อนมือขึ้นสูงขึ้นในขณะที่ริมฝีปากร้อนๆ ของเขาแตะไล้จากกกหูของเธอมาแล้วเคลื่อนไปขบเม้มตรงจุดชีพจรที่ฐานคอของเธอซึ่งส่งให้กระแสไฟฟ้าแล่นผ่านไปทั่วทั้งร่าง ชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากข่มกลั้นเสียงครางเอาไว้ในขณะที่แจ็คเอนหน้าออกห่างพร้อมกับกล่าวต่อ “หรือว่าคุณไม่แคร์ถ้าหากจะต้องยอมนอนกับผมเพื่อแลกกับการเก็บความลับ”

คำพูดของเขาเหมือนกับน้ำเย็นที่สาดเข้าใส่กองไฟที่กำลังโหมกระพือ ชาร์ล็อตรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดดึงมือของตัวเองให้หลุดก่อนที่จะผลักเขาออกห่าง

“อย่าคิดว่าจะทำอะไรยังกับฉันก็ได้ตามใจชอบแบบนี้นะ” เธอกล่าวในขณะที่ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความโกรธกับสิ่งที่เขาพูดและทำกับเธอ

แจ็คแค่นหัวเราะก่อนจะเหยียดริมฝีปากยิ้มหยันใส่เธอ “แล้วสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้คืออะไรล่ะ มันก็ไม่ได้แตกต่างกันเลยไม่ใช่เหรอ”

“ก็แล้วคุณจะรู้ให้มันได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ฉันบอกแล้วไงว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องพินัยกรรมของพ่อคุณ ทำไมถึงไม่ฟังฉันบ้าง!”

แล้วเธอก็ร้องอุทานออกมาอีกครั้งเมื่อเขาผลักเธอไปติดกับกำแพงพร้อมกับริมฝีปากของเขาที่กดจูบอย่างจาบจ้วงไร้ซึ่งความนุ่มนวล เขายกมือขึ้นข้างหนึ่งล็อคกรามของเธอเอาไว้ไม่ให้หันหน้าหนีในขณะเดียวกันที่เขาตรึงร่างของเธอเอาไว้ด้วยร่างสูงใหญ่ของเขาที่เบียดแนบชิดจนแทบไม่มีส่วนไหนที่แยกห่างจากกัน

ชาร์ล็อตพยายามที่จะไม่ตอบสนองกับจูบของเขา แต่ด้วยเพราะความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นและความต้องการเบื้องลึกของเธอที่โหยหาสัมผัสและความอบอุ่นจากร่างกายของเขาทำให้แรงต้านทานที่เธอพยายามเหนี่ยวรั้งเอาไว้เริ่มหลุดหายไปกับสัมผัสและริมฝีปากของแจ็ค มือที่ทุบไหล่นั้นอ่อนแรงลงจนต้องจิกกำเสื้อแจ็คเอาไว้แน่นเมื่อจูบที่จาบจ้วงของเขาแปรเปลี่ยนเป็นลึกล้ำและดื่มด่ำ ปลายลิ้นของเขาที่สอดแทรกเข้ามาหยอกล้อและกวาดไล้ภายในริมฝีปากของเธอนั้นแทบกระชากสติของเธอให้ปลิวหายไปกับสัมผัสจากทั้งริมฝีปากและผิวกายร้อนผ่าวของเขาที่แนบชิด

เธอถอนหายใจก่อนที่จะขยับปลายลิ้นตอบรับเขาอย่างยอมจำนนถึงแม้ว่าภายในสมองของเธอจะส่งเสียงเตือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้จะทำให้ทั้งเขาและเธอต้องเจ็บปวดกับความจริงที่รอให้ถูกเปิดเผยในภายหลังมากเพียงใดก็ตาม


**********************


แจ็คส่งเสียงคำรามในอก เมื่อรับรู้ได้ว่าชาร์ล็อตจูบตอบเขา มือข้างที่บีบล็อคกรามของเธอเมื่อครู่คลายออกและลูบปลายนิ้วอย่างแผ่วเบาตรงสันกรามของเธอแทนคำขอโทษ ก่อนที่แขนอีกข้างจะรั้งเอวของเธอให้เข้ามาแนบชิด ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอที่บดเคล้าอยู่กับริมฝีปากของเขาทำให้ความตั้งใจที่แค่จะกดดันให้เธอพูดความจริงนั้นถูกเบี่ยงเบนไปอย่างอื่น

ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ในวินาทีหนึ่งเขารู้โดยที่ไม่ต้องรอให้เธอบอกว่าเธอรู้สึกเช่นไรกับเขา ซึ่งนั่นทำให้เขาโมโห เพราะในขณะที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี แต่พอเกิดเรื่องขึ้นกับโรเบิร์ตเธอก็กลับมาก่อกำแพงปิดกั้นเขาเอาไว้ทุกทิศทุกทางอีกครั้ง ชายหนุ่มรู้ว่าบางอย่างที่เธอปกปิดไม่ให้เขารู้นั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการเสียชีวิตของพ่อเขา แต่สิ่งที่เขาเพิ่งได้รับรู้จากแม็คเคนน่าว่านอกจากที่เธอเคยเล่าให้ฟังว่าพ่อของเขาและพ่อของเธอรู้จักกันมาก่อนนั้นแท้จริงแล้วทั้งพ่อและแม่ของเธอต่างก็เป็นเพื่อนสนิทของพ่อเขา

และรวมถึงโรเบิร์ตด้วย...

เขาดันบั้นเอวของเธอขยับเข้ามาแนบชิดกับเขาให้มากขึ้นเมื่อรู้สึกโกรธเพราะว่าไม่ใช่เพียงแค่ชาร์ล็อตเท่านั้นที่ปิดบังความจริงกับเขา แต่รวมถึงโรเบิร์ตที่ตอนนี้ยังไม่ได้สติอีกด้วย ความจริงที่ว่านั้นคือเรื่องอะไร แล้วเพราะเหตุใดทุกคนต่างพากันปิดบังไม่ให้เขาได้รับรู้ ทั้งที่เขามีสิทธิ์ที่ควรจะต้องรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับผู้ให้กำเนิดของเขาไม่ใช่หรือ

เขาละริมฝีปากออกแล้วแตะย้ำลงบนริมฝีปากของเธอเบาๆ อีกครั้งก่อนที่จะเคลื่อนลงไล่แตะตรงแนวกราม ปลายคาง แล้วหยุดที่ตรงแอ่งชีพจรซึ่งเรียกเสียงครางแผ่วหวิวจากเธอ

“พูดออกมาชาร์ล็อต สิ่งที่คุณปิดบังผมอยู่คืออะไร”

แจ็คชะงักเมื่อรู้สึกได้ว่าร่างกายของชาร์ล็อตก็แข็งทื่อขึ้นมากะทันหัน แต่เธอไม่ได้ผลักเขาออกหรือดิ้นรนต่อต้านเหมือนอย่างที่ทำเมื่อครู่ และหัวใจของเขาก็กระตุกวูบเมื่อเงยหน้าขึ้นมองแล้วพบกับหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเธอ

“ฟ้า...”

เขาเอ่ยเรียกชื่อเธอเสียงแผ่วก่อนที่จะยกมือขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตาให้แต่เธอกลับเอนหน้าหนีพร้อมกับผลักเขาออกห่างแล้วตวัดมือตบหน้าของเขาเต็มแรง แจ็คหันกลับมามองเธอแต่แล้วดวงตาของเขาก็ทอประกายอ่อนลงเมื่อเห็นความเจ็บปวดและเสียใจที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของเธอ

“นี่สำหรับที่คุณไม่ให้เกียรติฉัน” เธอกล่าวเสียงสั่นก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อหยุดหยดน้ำตาที่ไหลออกมาพร้อมกับเชิดปลายคางขึ้น “ถ้าหากคุณอยากรู้นักฉันก็จะบอก”

สายตาและสีหน้าของเธอทำให้แจ็ครู้สึกกระวนกระวาย เขาเดินเข้าไปใกล้เธอพร้อมกับยกมือขึ้นจะแตะไหล่ของเธอหากชาร์ล็อตกลับเบี่ยงไหล่หนีแล้วเดินไปที่บันไดปล่อยให้เขามองตามหลังเธอไปพร้อมกับถอนหายใจ

ทั้งที่เคยบอกตัวเองว่าเขาจะเป็นคนปกป้องไม่ให้เธอต้องเจอกับความเจ็บปวดหรืออะไรที่มาทำร้ายความรู้สึกของชาร์ล็อตแต่ทว่าเขากลับปล่อยให้อารมณ์ของตัวเองเข้าครอบงำจนเป็นคนทำร้ายความรู้สึกของเธอเสียเอง

ชายหนุ่มหลับตาพร้อมกับสบถด่าตัวเองก่อนที่จะเดินตามเธอไปที่ชั้นล่างของบ้าน


***********************


ชาร์ล็อตนั่งรอเขาอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางที่ดูสงบนิ่ง แจ็คเดินมานั่งตรงโซฟาตัวที่อยู่ด้านตรงข้ามและมองเธอที่ยังคงนั่งก้มหน้านิ่งมองฝ่ามือที่ประสานกันอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาและเริ่มพูด

“ลุงโฮเวิร์ด... พ่อของคุณเล่าให้ฉันฟังว่าพ่อของฉันเป็นรูมเมทของเขาในตอนที่มาเรียนต่อปริญญาโท-เอกที่อเมริกา พออยู่ด้วยกันไปนานเข้าพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน และหลังจากนั้นไม่นานลุงโฮเวิร์ดก็ได้เจอกับแม่ของฉัน ลุงโฮเวิร์ดตกหลุมรักแม่ของฉันตั้งแต่แรกพบแต่เรื่องมันซับซ้อนมากไปกว่านั้นก็เพราะนอกจากลุงโฮเวิร์ดแล้ว แพทริค คลาร์ก... พ่อของฉันเองก็ตกหลุมรักแม่ตั้งแต่แรกพบด้วยเหมือนกัน”

ชาร์ล็อตหยุดมองแจ็คที่ยังคงนั่งนิ่งฟังเรื่องที่เธอเล่าด้วยท่าทางสงบแต่เธอก็สังเกตเห็นได้ว่ามือทั้งสองข้างที่วางอยู่บนเข่าของเขานั้นกำเข้าหากันแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว

“แต่ว่าคนที่แม่รักและตัดสินใจจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยคือลุงโฮเวิร์ดในขณะที่แพทริคก็ทำใจยอมรับและคงความสัมพันธ์เป็นเพื่อนกับทั้งคู่ ลุงโฮเวิร์ดกับแม่คบหากันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในฐานะคู่รักกันจนกระทั่งเมื่อถึงตอนที่ต้องเรียนต่อปริญญาเอก ความสัมพันธ์ของลุงโฮเวิร์ดกับแม่ก็เริ่มห่างเหินกันไปเพราะแม่ต้องเดินทางไปเก็บข้อมูลเพื่อทำวิทยานิพนธ์สำหรับปริญญาเอกที่ตะวันออกกลาง และในขณะนั้นลุงโฮเวิร์ดที่ทำงานเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเดิมก็ได้พบกับเกว็น แม่ของคุณ และเพราะความสัมพันธ์ที่ห่างเหินไปจนทำให้ความรักที่ลุงโฮเวิร์ดที่มีให้กับแม่ไม่ได้มั่นคงเหมือนเดิมและความใกล้ชิดที่ลุงโฮเวิร์ดกับเกว็นมีให้กันมากขึ้น ลุงโฮเวิร์ดจึงได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเกว็น และนั่นก็ทำให้ความสัมพันธ์ของลุงโฮเวิร์ดกับแม่ต้องจบลง เพราะหลังจากนั้นไม่นานเกว็นก็ตั้งท้องคุณขึ้นมาและเพื่อเป็นการรับผิดชอบลุงโฮเวิร์ดจึงตัดสินใจที่จะย้ายกลับมาอยู่ที่อังกฤษและแต่งงานกับเกว็น”

เธอหยุดพูดไปอีกครู่หนึ่งเมื่อรู้สึกว่าลำคอตีบตันขึ้นมากะทันหันก่อนที่จะกล่าวต่อ “หลังจากที่เลิกกับลุงโฮเวิร์ดไปแม่ก็ตัดสินใจคบกับแพทริคอยู่นานหลายปีและมีแผนที่จะแต่งงานกัน แต่ว่าก่อนหน้าที่จะแต่งงานกันไม่กี่เดือนแม่ก็ได้เจอกับลุงโฮเวิร์ดอีกครั้งและเผลอใจจนไปมีอะไรกัน”

แม้ว่าแจ็คจะยังนั่งนิ่งไม่ยอมพูดอะไรออกมา แต่สีหน้าที่ซีดเผือดของเขานั้นก็บ่งบอกได้ว่าสิ่งที่เธอเล่าให้เขาฟังนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิดว่าจะได้ยิน

“สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างแม่กับลุงโฮเวิร์ดในครั้งนั้นคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น ทั้งคู่ก็เลยตกลงกันว่าจะยุติความสัมพันธ์ที่มีต่อกันทั้งหมดและเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แต่ความลับมันก็ถูกเก็บได้ไม่นานนักเพราะหลังจากนั้นไม่นานแพทริคก็รู้ความจริงเรื่องนี้เข้า ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจว่าครอบครัวที่อุบอุ่นของฉันทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ขนาดนั้นแต่ฉันก็เป็นเพียงแค่เด็กอายุแค่เจ็ดขวบที่ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ฉันจำได้ว่านับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาสายตาของแพทริคที่มองฉันก็เปลี่ยนไปเหมือนกับฉันเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขา จากที่เคยเข้ามาจูบหน้าผากฉันและบอกราตรีสวัสดิ์ทุกคืนก็กลายเป็นแม้กระทั่งจะแตะต้องตัวฉันก็ยังไม่คิดจะทำ

หลังจากที่พ่อกับแม่หย่ากันแพทริคก็ส่งฉันไปเรียนโรงเรียนประจำ ส่วนแม่ก็เอาแต่เดินทางไปขุดโบราณสถานทั่วโลกไม่เคยคิดจะกลับมาหาฉัน พอปิดเทอมแทนที่ฉันจะได้กลับบ้านและใช้เวลาอยู่กับพ่อหรือแม่ ฉันก็ถูกส่งไปอยู่กับคุณย่าที่ไทย วันเกิดของฉันก็มีแค่เช็คใบหนึ่งให้ฉันเอาเงินไปซื้อของที่ฉันอยากได้ ไม่เคยมีการมานั่งเปิดของขวัญในเช้าวันคริสต์มาสด้วยกัน ตอนแรกฉันก็คิดว่าอาจเป็นเพราะฉันไม่ดีพอที่พ่อจะสนใจ ฉันพยายามทำทุกอย่างทั้งเรื่องการเรียนหรือกีฬาเพียงเพื่อที่ว่ามันอาจทำให้พ่อหันกลับมาสนใจฉันบ้างและในระหว่างนั้นเองฉันก็ได้รู้ว่าที่พ่อไม่เคยสนใจฉันเลยนั้นเป็นเพราะอะไร”

ดวงตาของเธอร้อนผ่าวด้วยหยดน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาจวนเจียนจะหยดเต็มที นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่เธอไม่คิดอยากจะเล่าให้เขาฟัง การเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเธอมันก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้มีดกรีดผ่ารอยแผลที่ไม่มีวันสมานเข้าหากันให้เป็นลึกหนักเข้าไปอีก

“ตอนอยู่ไฮสคูลปีสองฉันโดนรถเฉี่ยวแล้วหัวกระแทกขอบฟุตบาธจนหมดสติ พอรู้ตัวอีกทีฉันก็อยู่ในห้องไอซียูและได้ยินแพทริคพูดกับหมอว่าเขาไม่อยากเชื่อว่าผลเลือดที่เขาขอร้องให้หมอเอาไปตรวจดีเอ็นเอนั้นจะบอกว่าฉันเป็นลูกของเขาเพราะเขาคิดมาตลอดว่าฉันเป็นลูกของชู้ซึ่งก็คือลุงโฮเวิร์ด แต่แพทริคคงไม่รู้ว่าตอนนั้นฉันได้สติแล้วและหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นฉันก็เลยตัดสินใจว่าฉันจะไม่คาดหวังที่จะให้แพทริคหรือจิลเลียนหันกลับมารักหรือสนใจฉันอีก และฉันจะใช้ชีวิตที่มีอยู่เพื่อตัวฉันเอง ฉันเริ่มต้นหาทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัยแทนที่จะใช้เงินของแพทริคเพื่อเรียนต่อ พอเข้ามหาวิทยาลัยฉันก็เริ่มต้นหางานพิเศษทำเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจนกระทั่งได้มาเป็นนางแบบและนักเขียนอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนมันออกมาพร้อมกับเหยียดริมฝีปากยิ้มเมื่อสบตากับเขาที่ดวงตาแดงก่ำ “ในขณะที่คุณใช้ชีวิตครอบครัวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก แต่ฉันกลับต้องเติบโตมาด้วยการถูกทอดทิ้งและปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมยังต้องมารับรู้ความจริงจากปากของคนที่เคยไว้ใจและไม่คิดว่าจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของฉันต้องแตกแยก”

“คุณพระช่วย...” แจ็คเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบ เขายกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียด “ผมไม่อยากเชื่อว่าเรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นกับพ่อแม่ของพวกเรา... ผมไม่เคยรู้เรื่องแบบนี้เลย พ่อกับแม่ไม่เคยมีท่าทางแปลกๆ ที่จะทำให้คิดว่าเคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลยสักนิด”

“พ่อแม่ของคุณคงรับมือกับปัญหาได้ดีกว่าพ่อแม่ของฉัน” เธอกล่าวพลางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนที่จะบีบมือเข้าหากันแน่น “ฉันเคยรักและเคารพลุงโฮเวิร์ดเหมือนเป็นพ่อของฉันอีกคนหนึ่ง ฉันยึดถือพ่อของคุณเป็นแบบอย่างในการก้าวตามความฝัน จนกระทั่งวันที่เขาเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง คุณเคยรู้สึกอะไรแบบนี้ไหม ความรู้สึกที่เหมือนโลกทั้งใบที่กำลังสร้างขึ้นมาพังทลายไปต่อหน้าต่อตาเมื่อรู้ว่าคนที่ทำให้คุณต้องเติบโตมาอย่างทิ้งๆ ขว้างๆ น่ะจริงๆ แล้วคือคนที่คุณชื่นชมและยึดถือเป็นแบบอย่าง”

ชาร์ล็อตยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาที่ไหลลงมาก่อนจะแค่นยิ้ม

“เพราะอย่างนั้นฉันถึงบอกคุณว่าเรื่องของเรามันไม่มีทางเป็นไปได้ พ่อของคุณทำลายชีวิตและครอบครัวของฉันมามากพอแล้ว และฉันมาที่นี่ก็แค่ตอบแทนบุญคุณเพื่อที่จะได้ไม่มีอะไรติดค้างอีกและฉันก็จะไม่หวนกลับมายุ่งเกี่ยวกับพวกคุณอีก”

แล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่าและเย็นชา “ฉันยังจะอยู่ที่นี่ต่อจนกว่าเรื่องจะการสืบสวนคดีจะเรียบร้อยตามที่ไมค์บอก แต่ในระหว่างนี้ขอให้คุณเข้าใจไว้ด้วยว่าฉันมาที่นี่เพราะอะไรและฉันไม่อยากให้คุณเข้าใจอะไรไปเองเหมือนอย่างที่ผ่านมา ความใกล้ชิดทำให้คนหวั่นไหวและทำสิ่งผิดพลาดได้ง่ายๆ ฉันไม่อยากจะเดินตามรอยพ่อกับแม่ของเรา ฉันขอให้คุณช่วยเคารพการตัดสินใจของฉันด้วย”


**************************


ชาร์ล็อตเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองโดยที่บังคับตัวเองไม่ให้สบตากับเขา เมื่อเข้ามาในห้องของตัวเองแล้วเธอก็พิงหลังกับประตูห้องพร้อมกับรูดตัวลงไปนั่งกับพื้นแล้วยกเข่าขึ้นและซบใบหน้าพร้อมกับปล่อยให้หยดน้ำตาที่เธอกลั้นเอาไว้เมื่อครู่ไหลลงมาพร้อมกับเสียงสะอื้นเงียบๆ สีหน้าและแววตาของเขาในตอนที่ฟังเธอเล่าความจริงทั้งหมดนั้นยังเด่นชัดในความคิด เธอรู้ว่าเขารู้สึกเช่นไรเพราะเธอผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาก่อนและมันไม่ง่ายที่จะปล่อยวางหรือก้าวผ่านมันไป

หลังจากนี้อะไรหลายอย่างคงจะเปลี่ยนไป โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแจ็คที่คงจะกลายเป็นเส้นขนานอย่างที่เธอต้องการตั้งแต่แรก ชาร์ล็อตยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ถ้าหากเขาไม่ใช่ลูกชายของโฮเวิร์ด อะไรๆ ก็คงไม่ออกมาในรูปแบบนี้ เธอกับเขาอาจกำลังเดินจูงมือกันอยู่ที่ชายหาดที่ไหนสักที่โดยที่ไม่มีใครมาสนใจหรือรบกวน ไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวถึงเรื่องอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองในวินาทีใดก็ได้เช่นนี้

แล้วเราจะคิดอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหนกัน? เธอตั้งคำถามกับตัวเองก่อนที่จะผุดลุกขึ้นและเปิดกระเป๋าเดินทางเพื่อที่จะหยิบเอาเสื้อผ้าที่แขวนและพับอยู่ในตู้มาเก็บใส่เข้าที่กระเป๋าเหมือนดังเดิม หากก็ต้องชะงักแล้วก็หัวเราะเยาะตัวเองเมื่อนึกถึงคำพูดของไมเคิลและแอนเดอร์สันขึ้นมาได้ว่าเธอยังต้องอยู่ที่นี่จนกว่าเรื่องราวทั้งหมดจะคลี่คลาย

ดูเหมือนว่าคนที่กำลังถูกไล่ต้อนให้จนมุมจะไม่ใช่แค่เฉพาะพวกเจนนิ่งส์ฝ่ายเดียว แต่รวมถึงเธอที่จะต้องอยู่ที่นี่และแบกรับความผิดพลาดในอดีตของผู้ให้กำเนิดโดยที่ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้เช่นกัน



โปรดติดตามตอนต่อไป


รักคนอ่านค่ะ
Smiley



Create Date : 25 สิงหาคม 2559
Last Update : 25 สิงหาคม 2559 21:46:17 น.
Counter : 1096 Pageviews.

2 comments
  
รักคนเขียนเช่นกัน
โดย: yapapaya IP: 118.173.135.6 วันที่: 5 กันยายน 2559 เวลา:18:04:50 น.
  
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:13:14:35 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตัว(Z)
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำ ภาพถ่าย, รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึงข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้ ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร


มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด


. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .





เติมรักลงกลางใจ






ลมหนาว ฟ้าใส หาดทราย ใบไม้เปลี่ยนสี






ให้หัวใจเติมเต็มรัก



รักต่างวัยหัวใจข้ามรั้ว





ข้อตกลงก่อนจะรัก





บอกได้ไหมว่าไม่ใช่รัก


สิงหาคม 2559

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
MY VIP Friend