group b
กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด B จานไหนดี จานไหนเลี่ยง !
ใครมีเลือดกรุ๊ป B บ้างเอ่ย? รู้สึกไหมว่าทำไมตัวเองอ้วนง่ายจัง แถมยังเป็นหวัด หรือไม่ก็เป็นภูมิแพ้บ่อย ๆ ด้วย แล้วถ้าอยากจะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย ๆ ต้องเลือกทานอาหารประเภทไหน หรือต้องเซย์โนอาหารชนิดไหนล่ะ เอ้า...ได้เวลาที่คนกรุ๊ปบีทั้งหลายจะเลื่อนเมาส์ลงไปอ่านข้อมูลดี ๆ ต่อไปนี้ แล้วจดกันไว้เลยจ้า
คนกรุ๊ปบีเป็นอย่างไร? สำหรับใครที่ชอบดื่มนมคงต้องอิจฉาคนเลือดกรุ๊ปบีแน่ ๆ เพราะคนกรุ๊ปบีนั้นสามารถรับประทานนม เนย ไข่ ได้ เพราะระบบย่อยอาหารค่อนข้างจะยืดหยุ่น จึงย่อยนมได้อย่างสบาย และยังทานเนื้อสัตว์ได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นคนที่มีกรดในกระเพาะอาหารสมดุลดีทีเดียว แต่เพราะทานอะไรก็ได้นี่แหละที่กลายมาเป็นปัญหาหนักใจคุณสาว ๆ นั่นก็คือ มักเป็นคนอ้วนง่าย นอกจากนี้ คนกรุ๊ปบีนี้มักจะป่วยด้วยปัญหาไวรัส อย่างเช่นเป็นหวัดบ่อย ภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีอาการแพ้ง่าย ไม่ว่าจะแพ้ดอกไม้ แพ้อาหาร แม้กระทั่งแพ้ภูมิตัวเองด้วย มักปวดตามข้อบ่อย ๆ ซึ่งไม่ใช่โรคเกาต์ หรือรูมาตอยด์ แต่เป็นเพราะระบบประสาทไม่ดี และมีโอกาสเกิดโรคแผลในสมอง (sclerosis) ด้วย (เราไม่ค่อยเป็นแฮะ)
เลือกทานอะไรถึงเหมาะกับคนกรุ๊ปบี มาดูกันว่าคนกรุ๊ปบีควรทานอาหารประเภทไหนถึงจะดีต่อสุขภาพ
ปลา ควรทานปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ และปลาเนื้อขาว อย่างปลาจะละเม็ด ปลาตาเดียว
ธัญพืช เฉพาะข้าวโอ๊ต และข้าวกล้อง (เภสัชห้ามอ่ะ)
ผลิตภัณฑ์จากนม เนย ไข่ สามารถทานได้ แต่ก็ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงเนยแข็งที่มีไขมันมาก เพราะจะทำให้ย่อยยาก ท้องอืด
น้ำมันมะกอก ควรทานไม่น้อยกว่าวันละ 1 ช้อนโต๊ะ เพราะคนกรุ๊ปบีจะตอบสนองต่อน้ำมันมะกอกดีมาก แต่น้ำมันชนิดอื่น ๆ ควรทานแต่น้อย เพราะไม่ดีต่อระบบย่อย
ผักใบเขียวทุกชนิด รวมทั้งผักที่จัดอยู่ในประเภทสมุนไพรสามารถกินได้หมด เพราะมีแมกนีเซียมช่วยป้องกันอาการผื่นคัน ลดอาการแพ้ได้อย่างดี เนื่องจากคนกรุ๊ปบีมักมีปัญหาเกี่ยวกับไวรัสและภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เภสัชห้ามอีกแล้ว)
ผลไม้ทานได้เกือบทุกชนิด เพราะคนกรุ๊ปบีมีระบบการย่อยที่สมดุล ควรรับประทานผลไม้ที่มีผลต่อเลือด 2-3 ครั้งต่อวัน เพื่อรักษาโรคและลดความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น แต่ก็ควรเลี่ยงลูกพลับ ทับทิม และลูกแพร์ เครื่องดื่ม ควรดื่มชาสมุนไพรที่ให้ประโยชน์ อย่าง ขิง เปปเปอร์มิ้นต์ โสม ชาเขียว จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่
อาหารที่ควรทานให้น้อยลง หรือหลีกเลี่ยงดีกว่า
เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อไก่มีสารเลคตินไปรบกวนระบบเผาผลาญ ทำให้อาหารไม่ย่อย หากอยากทาน ให้ทานแต่น้อย และเลือกเนื้อไก่ไร้หนังที่มีคอเลสเตอรอลน้อยกว่าเนื้อไก่ทั่วไป (เราชอบกินไก่ซะงั้น)
อาหารทะเล อย่างหอยเชลล์ กุ้ง ปู หอยแครง ปลาแซลมอน ควรเลี่ยง หรือไม่ควรทานเกินสัปดาห์ละครั้ง เพราะอาหารเหล่านี้มีเลคตินจะไปรบกวนระบบในร่างกายเช่นกัน
แป้งสาลี ไม่ควรทานเพราะข้าวสาลีก็มีเลคตินไปรบกวนการสร้างอินซูลิน ซึ่งมีแนวโน้มให้เกิดโรค Hypoglycemia หรือน้ำตาลในเลือดลดกะทันหัน และยังทำให้อ้วนด้วย ควรหันไปทานคาร์โบไฮเดรตจากข้าวเจ้า หรือน้ำตาลฟรุกโตสจากผลไม้ที่นำไปใช้ได้ทันทีจะดีกว่า หรือให้ทานแป้งสเปลท์ (spelt) ซึ่งเป็นแป้งที่มีคุณค่าทางสารอาหาร และมีไฟเบอร์สูงแทน(จุดสำคัญอยู่ตรงข้อนี้ค่ะอ่านต่อด้านล่างนะคะ)
ถั่วเปลือกแข็ง งา เมล็ดทานตะวัน อาหารเหล่านี้จะสร้างไขมัน ทำให้อ้วน และยังไม่ดีต่อระบบเลือดของคนกรุ๊ปบีด้วย แต่หากอยากทานถั่ว สามารถทานถั่วแดงหลวง และถั่วเหลืองได้บ้าง (เภสัชห้ามธัญพืชทั้งหมด แง้)
ผัก ควรเลี่ยงมะเขือเทศ เพราะมีสารที่มีผลต่อการก่อกวนผนังภายในกระเพาะ ส่วนข้าวโพด หากทานจะทำให้ท้องอืด (ชอบมากคือมะเขือเทศกะข้าวโพด)
เครื่องดื่ม ควรเลี่ยงชา กาแฟ ไวน์ ซึ่งจริง ๆ ไม่ได้มีผลอะไรมากนักกับคนกรุ๊ปนี้ แต่ก็ควรเลี่ยงเพื่อเสริมสภาพร่างกาย
คนกรุ๊ปบี ลดความอ้วน อย่างไรดี
เนื่องจากคนกรุ๊ปบี ทานเนื้อ นม เนย ไข่ ได้ ดังนั้นจึงอาจเป็นโรคอ้วนได้ง่าย เพียงแค่ทานนิด ๆ หน่อย ๆ หรือทานเท่าคนทั่ว ๆ ไป น้ำหนักก็ขึ้นแล้ว และยังมีปัญหาห่วงยางรอบเอวด้วย ดังนั้น ควรเน้นทานผักให้มากกว่าทานเนื้อ โดยสามารถรับประทานผักได้เกือบทุกชนิด แต่หากกำลังไดเอตอยู่ ควรเลี่ยงทานมะเขือเทศและข้าวโพด เพราะมีผลต่อการสร้างอินซูลิน และระบบเผาผลาญ นอกจากนี้ ยังควรทานสับปะรดเพื่อช่วยลดน้ำหนัก ส่วนการออกกำลังกายนั้น ให้เลือกการออกกำลังแบบสมดุล คือไม่ช้าจนเกินไป (เหมือนคนกรุ๊ปเอ) แต่ก็อย่าหักโหมหรือออกกำลังกายหนัก ๆ (เหมือนคนกรุ๊ปโอ) ควรเลือกว่ายน้ำ เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ เล่น กอล์ฟ หรือเล่นปิงปอง หากอยากออกกำลังกายให้หนักขึ้นมาหน่อย แนะนำให้เต้นแอโรบิค เล่นเทนนิส ฝึกศิลปะป้องกันตัว ปั่นจักรยาน ปีนเขา ยกน้ำหนัก
(ที่มา:บล็อคหลิง @oknation)
# เรื่องทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด รู้มานานแล้วแต่ไม่ได้ให้ความสนใจค่ะ
คิดว่าคงไม่มีผลเท่าไหร่ แต่ความจริงมันไม่เป็นเช่นนั้น
เพราะเราเจอมากับตัวเอง
ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว ประมาณสองปีอ่ะ เรามีอาการน้ำตาลตก
แต่ไม่แน่ใจว่าใช่รึป่าว เราคิดว่าเป็นอาการของคนเข้าสู่วัยทองไปโน่น
สงสัยเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ถามเพื่อนๆก็ไม่มีใครเป็นกัน
จนมาวันหนึ่งขณะที่เราอยู่ที่ รพ. พอดีหมอนัดตรวจโรคประจำตัว
อาการนี้ก็มาค่ะ คือน้ำตาลตกเหลือ 40 (แม่จ้าาว)
พยาบาลวิ่งกันวุ่น และหมอก็สั่ง แอดมิทวันนั้นเลย หุหุ
นอน รพ. อยู่ 4 วันเพื่อหาสาเหตุที่ น้ำตาลตก เจาะเลือดที่นิ้ว ที่แขนจนพรุน
ก็หาสาเหตุไม่ได้ จบ กลับบ้าน หมอได้แต่บอกวิธีป้องกัน 555
จนสองวันก่อนเราได้อ่านเจอข้อความข้างบนเลยถึงบางอ้อ
ว่าคนกรุ๊ปบีไม่ควรกิน แป้งสาลี ขุ่นพระ! ไม่จริงใช่มั้ยยยยย
เพราะในชีวิตประจำวันของเรา เช้ามาเครื่องดื่มร้อน 1 แก้ว กับโฮลวีต 2 แผ่น
ยังไม่ถึงกลางวันก็กินอีก 1 มื้อเพราะหิว
ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรกิน มีส่วนผสมหลักคือแป้งสาลี ทั้งนั้น ฮือออ
หยิบเวเฟอร์มากิน แหงะไปดูข้างกล่อง แป้งสาลีอีกแล้ววววว
อาหารที่มีส่วนผสมของแป้งสาลีค่ะ
แต่เราไม่ได้งดขาดหรอกน่ะ ไม่งั้นคงอดตาย ฮืออออ(อีกรอบ)
เราอยากรู้ว่ากรุ๊ปบีคนอื่นๆเป็นกันมั้ยอ่าาาา
ปิดท้าย คั่วกลิ้งสูตรโนน้ำมัน (ลดพุง ลดโรคตามสโลแกนของ สสส. อิอิ)
ใบมะกรูดมาเป็นไร่เพราะเก็บจากต้น ลูกโดดก็เก็บจากต้นเหมือนกัน ใส่เพื่อความสวยงามแต่ไม่กินค่ะ
ใบมะกรูดจริงๆก็กินไม่ได้ เพราะเป็นผักใบเขียว แต่เราก็กินน่ะ มันไม่ไหวจริงๆอ่า
Create Date : 27 พฤษภาคม 2557 |
|
7 comments |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2557 9:26:14 น. |
Counter : 1577 Pageviews. |
|
|
|