จากอ่างขางถึงแม่เมย สี่ดอยกับอีกสองพันกว่าโค้ง - ตอนที่สาม
จากสองตอนที่แล้ว ตอนแรก 3-4 ธ.ค.52 : จาก กทม.ขับยาวขึ้นดอยอ่างขาง กับคืนอันหนาวเหน็บ และเช้าอันสดใส ตอนที่สอง 4-5 ธ.ค.52 : ดอยอินทนนท์ ยามเช้าบนยอดดอย กับอุณหภูมิเลขหลักเดียว กับสถานีเกษตรหลวงอ่างขางสวยงามน่าเยี่ยมชม
ตอนนี้ 5-6 ธ.ค.52 ลงจากดอยอินทนนท์ ผ่านอ.แม่แจ่ม ไปตามถนนคดเคี้ยว ถึงที่หมาย ดอยแม่อูคอ กับทิวเขาทุ่งบัวตองตระการตา อีกทั้งน้ำตกแม่สุรินทร์สูงตระหง่าน
เส้นทางสายสีม่วงครับ ดูเหมือนจะไม่ไกล แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชม. ลงจากดอยอินทนนท์ ก็ทั้งโค้งทั้งชัน ผ่านแม่แจ่มไปได้ ก็เจอทั้งชันทั้งโค้งไปตลอดทางกว่าจะถึงที่หมาย แต่สภาพถนนดี สองเลน ลาดยางตลอด
ระยะทางจากดอยอินทนนท์ ถึงอ.แม่แจ่ม ไม่กี่สิบกิโลเมตร โดยปกติใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมงก็น่าจะเพียงพอ แต่เนื่องจากเบรครถอาการไม่ดี เลยต้องแวะพักรถ แล้วขับต่อไปแบบไม่กล้าลงเขาเร็วมากนัก จนถึง อ.แม่แจ่มใช้เวลาร่วมชั่วโมง
บ่ายสามโมงมาถึงแม่แจ่ม เวลาที่เหลือก่อนค่ำรู้สึกว่าชักกระชั้นชิดไปหน่อย ผ่านร้านอาหารร้านแรก ครัวไหล่หิน เลยแวะทานมื้อเที่ยงกันตอนบ่ายสามโมงนี่แหละ เหตุซ้ำร้ายเข้าไปอีก เมื่อต้องคอยอาหารนานร่วม40นาทีกว่าจะได้กิน ทั้งๆที่ลูกค้าในร้านรวมพวกเราแล้วเหลือแค่4โต๊ะ ยังสงสัยว่าสภาพบนโต๊ะใหญ่ที่กินเสร็จแล้วยังไม่ได้เก็บนั้น เค้าคอยกันนานแค่ใหน ?
อาหารที่สั่ง หมูแดดเดียว ไก่ต้มข่า ผัดผักฮ่องเต้ น้ำพริกหนุ่มผักลวก ....
รีบกิน แล้วก็ไปต่อ เวลาบ่าย 4 โมง GPS ระบุเวลาถึงปลายทาง 6.15 น. นั่นคือใช้เวลาอีก 2.15 ชม.บนถนนขึ้นเขาลงเขา และคดเคี้ยว
ช่วงแม่แจ่มถ้ามาหน้าก่อนเก็บเกี่ยว ที่ใครๆก็อยากมาสัมผัส มันจะสวยสักขนาดไหนหนอ
ไม่มีเวลาให้ชื่นชมบรรยากาศสองข้างทาง อ.แม่แจ่มได้มากนัก เวลามันบีบรัด
ถนนเส้นนี้ ตลอดระยะเวลา2ชม. พบเจอรถยนต์ผ่านมาผ่านไป เพียงไม่กี่คัน โค้งเยอะจัดแทบไม่ค่อยจะได้จับพวงมาลัยนิ่งๆ แถมขึ้นลงสูงชันเป็นระยะๆ แต่ก็ยังไม่เกินสมรรถนะรถ
ตามคาด ไปถึงที่ทำการวนอุทยานทุ่งบัวตองตอนค่ำพอดี 6โมง15นาที ตรงที่ทำการวนอุทยานฯ รถราและผู้คนล้นหลาม จนท.บอกว่าข้างบน(อีก500ม.) ทุ่งบัวตองมีผู้คนกางเต็นท์เต็มพื้นที่แล้ว คงต้องหา พื้นที่ที่ยังพอว่างตรงที่ทำการฯนี่แหละ ข้างเสาธงยังว่าง เราเลยปักหลักกันตรงนี้เลย ห้องน้ำห้องท่าก็สะดวกดีครับ อากาศค่ำนี้ก็ไม่หนาวมาก เหมือนกับสองดอยที่ผ่านมา
ก่อนรุ่งสางเรารีบตื่น แล้วก็ขับรถต่อไปไม่กี่นาที่ เพื่อไปชมทุ่งบัวตอง
รถรา ผู้คนค่อนข้างเยอะ จอดรถทิ้งไว้ข้างทาง แล้วเดินขึ้นบันได ชมวิวบนยอดเขาก่อนเลย
พระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี
นักท่องเที่ยวก็เริ่มเก็บเกี่ยวบรรยากาศยามเช้า
มุมมองจากบนยอดเขาลงมา
อาคารสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั่นคือจุดบริการนักท่องเที่ยว อีกจุดไกลออกไปเป็นจุดกางเต็นท์
อากาศหนาวแบบสบายๆ
ทิวทัศน์มุมสูงสวยงาม
ห้องน้ำห้องท่า จุดแวะพักสะดวกดี แต่ไม่มีร้านค้าขายอาหาร
น้องๆกลุ่มนี้มีความฝัน อยากจะไปดูหลินปิง ถ้าผ่านไป ช่วยกันสานฝันน้องๆ เค้าด้วยนะครับ
ถ้าคุณนำพาเอาตัวเองพร้อมพาหนะมาถึงที่นี่ได้ คุณไม่ธรรมดาแน่นอน คู่ควรที่จะได้รับประกาศนียบัตร ฉบับนี้
เพื่อเป็นเกียรติที่ได้ฝ่าฟัน 1,864 โค้ง มาหยุดอยู่ที่ความสูง 1,600 เมตร จากระดับน้ำทะเล มาถึงที่นี่
มองไปทางใหนก็เหลืองอร่าม
หน้าตา ดอกบัวตอง เมื่อมองใกล้ๆ
ดอกเดี่ยว ๆ
จริงๆแล้ว ช่วงเทศกาลวันพ่อ กลีบดอกโรยไปค่อนข้างเยอะแล้ว น่าจะเหลือเพียงสักไม่เกิน 20 % เหลือเพียงช่อเกสรโด่เด่
เพียงแต่ว่า เมื่อมมองไปตามทิวเขาทุ่งบัวตองโดยรวม วันนี้ยังคงเห็นเหลืองอร่ามสวยงามอยู่ระดับหนึ่ง แม้จะไม่สวยเท่าเมื่อกลางเดือน พ.ย.
หากแต่ความหนาวเย็น และบรรยากาศยามเช้า ก็คงยังมีเสน่ห์ไม่น้อยกว่ากัน
มีความสุขที่ได้ชม
อิ่มใจที่ได้มาเยือน
ประทับใจ
เก็บกลับไป แค่ภาพถ่ายและความทรงจำ
ยังปลื้มได้อีกหลากหลายมุมมอง
อีก
ยังได้อีก
ช่วงเช้าน่าจะเก็บภาพที่นี่ได้สวยที่สุด เที่ยงก็แดดแรงไป ช่วงเย็นก็น่าจะสวย แต่คงไม่เท่ากับตอนเช้า
อิ่มหน่ำกับบรรยากาศ ทิวเขาทุ่งบัวตอง
ได้เวลาไปต่อ ทิ้งท้ายทุ่งบัวตองด้วยรูปนี้
น้ำตกแม่สุรินทร์ อีก 8 กม.จากทุ่งบัวตอง ไม่ลำบากถ้าจะแวะไปเยี่ยมเยือน
ขับต่อไปตามเส้นทางเดิมอีกสัก20นาทีก็ถึง ที่ทำการอุทยานน้ำตกแม่สุรินทร์แล้วจะมีถนนเล็กๆเข้าไปจุดกางเต็นท์ใกล้ๆกับจุดวิวน้ำตก
ที่ลานกางเต็นท์ น้ำตกแม่สุรินทร์ มีห้องน้ำ มีร้านค้าสวัสดิการ มีร้านอาหารของชาวบ้าน ก็สะดวกดีครับ
ร้านอาหาร มื้อเช้าง่ายๆ สบายๆ สำหรับใครหลายๆคน
สั่งได้ทุกอย่าง แต่อาจทำให้ทานได้ไม่กี่อย่าง
ง่ายสุด ก๋วยเตี๋ยวชาวดอย (ผมตั้งชื่อเอง)
จากจุดนี้ถ้าจะไปน้ำตก มีทางให้เลือก 2 ทาง 1. ชมวิวเฉยๆ เดินขึ้นเนินไปนิดหน่อย ไม่กี่สิบก้าว ก็จะได้เห็นวิวน้ำตกจากเบื้องสูง 2. ชมตัวน้ำตกแบบระยะประชิด ต้องเดินลงด้านล่าง ใช้เวลาไปกลับ 3 ชม. ถูกแล้ว เสียงส่วนใหญ่ลงมติเลือก ทางแรก ประหยัดเวลา
มองจากบนนี้ น้ำตกยิ่งใหญ่มาก ตกลงมาจากบนหน้าผาสูงเป็นร้อยเมตรเชียว
ถ้าลงไปชมข้างล่างคงสวย และเปียกปอนด้วยละอองน้ำกระเซ็น
ชมความงามแค่บนจุดชมวิวนี้ก็เพียงพอแล้ว เดินทางกันต่อ กลับลงมาตามเส้นทาง เหลือบเห็นวิวท้องทุ่งแบบนี้ ชอบจัง
วิถีชีวิตที่เรียบง่าย แต่ก็คงมีความสุข แบบพอเพียง
ชวนให้คิดถึงบ้านเกิดแฮะ...
แล้วก็เดินทางกลับลงไปตามทางเดิม ผ่านทุ่งบัวตอง แล้วกลับไปที่ทำการ วนอุทยานทุ่งบัวตอง ยังไม่ได้เก็บเต็นท์เลย
สิบโมงกว่า กลับมาถึงที่ทำการฯ มื้อเช้าแบบง่ายๆ อีกแล้ว ม่าม่า กาแฟ ขนม อีกนิดหน่อย ผู้คนที่หนาแน่นเมื่อคืน ตอนนี้ไปกันหมดแล้ว เหลือแต่เต็นท์ของเรา แถมนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ก็เริ่มทยอยเข้ามาแล้ว อาบน้ำอาบท่า แล้วก็เก็บเต็นท์ 11 โมงแล้ว (ดูเหมือนจะใช้เวลาเช้านี้มากไปอีกแล้ว) ไปกันต่อกับอีกระยะทาง กว่า200กิโล กับที่หมายใหม่อีก 1 ดอย แม่เมย จังหวัดตาก กับเส้นทางโค้งอีกมากมาย....
แล้วค่อยมาต่อตอนต่อไป (จบ) นะครับ
By Chaoswalker 20 ธันวาคม 2552
Create Date : 20 ธันวาคม 2552 |
|
19 comments |
Last Update : 20 ธันวาคม 2552 11:25:55 น. |
Counter : 3118 Pageviews. |
|
|
|
ไม่ค่อยเหมือนจริงเท่าไหร่นะคะ