น้องเชาว์เด็กแอสเพอร์เกอร์ตัวโต
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
232425262728 
 
20 กุมภาพันธ์ 2557
 
All Blogs
 
33-ค่ายลูกเสือแสนลำบากกับลำบากของตัวผม

 เมื่อ2-3 วันก่อน ผมซึ่งเป็นเด็กในกลุ่มออทิสติกได้มีโอกาสไปเข้าค่าย ที่จังหวัง ราชบุรี อย่างที่รู้กันดี ว่าเด็กอย่างผมเนี้ยทำอะไรไม่ค่อยเป็นดูแลตัวเองกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ไม่ค่อยได้ สาเหตุที่ต้องไปคือ ผมเรียนวิชา ผู้กำกับลูกเสือ (เป็นครูสอนวิชาลูกเสือ) ถามว่าต้องไปเข้าค่ายด้วยหรอ คืออธิบายอย่างนี้ ให้การสอนวิชาลูกเสือนั้น กฏหมายบังคับว่า ผู้ที่สามารถจะสอนวิชาลูกเสือ-เนตรนารีได้จะต้องผ่านการฝึกอบรมมาอย่างน้อย หนึ่งวุติ หมายความว่าจะต้องมีวุติทางลูกเสืออยู่หนึ่งวุติ ทางคณะครุผมเห็นความสำคัญเรื่องนี้ก็เลย เปิดวิชานี้เพิ่ม (ทีแรกไม่เปิดวิชานี้) วุติทางลูกเสือจะมีอย่างเช่น อันที่ผมได้มาคือ B.T.C อย่างอื่นก็มี L.T , L.T.C เป็นต้น (รายละเอียดค้นจากอากูเกิลและกัน ถ้าอยากรู้นะ) ผมก็ต้องเรียนวิชานี้ ผมก็ต้องไปด้วย

ก่อนที่จะไปผมได้บอกครูไว้แล้วว่า ผมเป็นเด็กในกลุ่มออทิสติก ที่จริงจะบอกว่าเป็นประเภท แอสเพอร์เกอร์ แต่กลัวไม่เข้าใจ มันเป็นอะไรที่เข้าใจยากมากๆเลย ก็บอกแค่ว่าเป็นออทิสติก ง่ายดี อย่างที่รู้กันว่า ถ้าเด็กพิเศษไป มันจะลำบากมากเลยละ ผมเองก็ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องลำบาก แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะลำบากขนาดนี้ วันศุกร์ที่ผ่านมา ผมจะต้องไปมหาลัยแต่เช้า เพื่อขึ้นรถไปค่าย 6.00 น. ผมก็รีบไปเพราะบ้านอยู่ไกลมากเลย และก็เกือบไม่ทัน ผมก็ไปถึงมหาลัยเพื่อขึ้นรถไปค่ายที่ราชบุรี ผมก็ได้ไป ระหว่างเดินทางนั้นก็เจอกับครอบครัวคนขับรถคนนึง ซึ่งบอกว่า ครอบครัวที่มีลูกสาว อายุ 1ขวบ 1 คน อยากจะบอกว่าน่ารักมาก ผมก็เล่นกับน้องเค้า ก็สนุกดี มีความสุขดี จากนั้นพอถึงค่ายแล้ว วิทยากรเป็นอะไรที่ไม่น่ากลัว แต่ก็น่ากลัว เพราะเกรดอยู่ในมือเค้า จะตกหรือจะผ่านก็อยู่ที่มือเค้า ผมไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

หลังจากที่ลงจากรถแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่การฝึกอบรม วิทยากรเป็นระดับวุติทางลูกเสือสูงๆทั้งนั้น ผมก็ได้เข้าร่วมอบรมด้วย ต่อจากนี้ไปการฝึกอมรมครั้งนี้ก็เหมือนนรกดีๆ ผมถามเพื่อนว่ามันต่างจาก ร.ด มั่ยก็ต่างกันมาก ร.ด แค่ใช้กำลังอย่างเดียว แต่อบรถแบบนี้ใช้สมอง กำลัง สติปัญญา ความว่องไว ซึ่งผมไม่มีเลยสักอย่างเ้ดียว และการอบรบก็เริ่มขึ้น เข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ และก็เข้าห้องประชุม วิทยากรแต่ละท่านก็เริ่มบรรยาย เรื่อยๆ เหมือนอัดความรู้ใส่สมอง และก็มีกิจกรรมหลายอย่าง ในวันแรกนี้ก็จัดหนักกันเลย ก็เริ่มเรียนกัน ผมก็ง่วงนอน บางทีก็หลับไปบ้าง แต่ก็ต้องทน มาเจองานยากอีกแล้ว เนื่องจากการอบรมแบบนี้จะต้องมีการฝึกปฎิบัติและสอบด้วย การสอบจะสอบตอนกลางคืนแต่ละคืน ซึ่งผมเองก็งงๆ ทำไม่ได้หรอก การสอนแต่ละวิชามันเร็วมากๆ ผมฟังไม่รู้เรื่องเลยละ

วิชาที่จะต้องสอบคือ วิชาแรกเลย การท่องกฎ 10 ข้อ ของลูกเสือ ถ้าเป็นคนอื่นก็ทำได้อยู่ แต่นี้เป็นผม ทำไม่ได้หรอก มันเป็นอะไรที่ยากมากเลยละ ในอาการออทิสติกส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองสนใจ ต่อให้อ่าน 100 ครั้งก็จำไม่ได้ เป็นอะไรอยากจะร้องไห้ ผมทำไม่ได้จริงๆ และวิชาผูกเงื่อน อันนี้ยากยิ่งกว่าวิชาอื่นอีก คือสอบผูกเงื่อนต่างๆ เช่นเงื่อนพิรอด ห่วงสายธนู เป็นต้น ขนาดเพื่อนผมยังทำไม่ค่อยได้เลยและผมจะทำได้อย่างไรเล่า ตอนที่ผมอยู่ในค่ายนั้น แรกๆ เพื่อนที่อยู่ด้วยเค้าไม่สนใจผมกับเลย ผมเป็นเด็กที่ถูกรังเกลียดจากสังคมมากๆ ผมก็เลยคิดว่า ตัวเองไม่มีคุณค่ากับเพื่อนต่อไปแล้ว คงจะมีคุณค่ากับครู หรือวิทยากรเท่านั้น ผมก็เลยอยากให้วิทยากรเข้าใจสิ่งที่ผมเป็นอยู่ แต่แล้ว มันก็ไม่ใช่ วิทยากรเค้าไม่สนใจผมเลยในวันแรกนี้ เหมือนกับว่า ผมไม่มีตัวตนในสายตาเค้า ในช่วงเย็น ผมเข้าไปดูเค้ากินข้าวกัน ผมไม่มีเพื่อน และสมองผมมีแต่เรื่องนี้เท่านั้น ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร วิทยากรคนนึงก็ออกมา ก็เหมือนงงๆว่า ทำไมเด็กคนนี้ดูแปลกๆ ดูเหมือนไม่เข้ากลุ่มกับเพื่อนเลย ผมก็เลยเครียด ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี ก็ไปอยู่กับเพื่อน เพื่อนเค้าก็ถามว่า เชาว์เป็นไงบ้าง ผมไม่เข้าใจว่าเพื่อนห่วง ผมชอบคิดว่าเพื่อนๆ สำหรับผมแล้วมันไม่มีหรอก ซึ่งผมผูกมิตรกับเพื่อนไม่เป็น ผมก็เลยอยู่คนเดียวกับเพื่อน หมายความว่า เพื่อนจะห่วงหรืออะไรก็ไม่สนใจ เพราะก็แค่นั้น

มากถึงตอนกลางคืนวันแรก เขียนในนี้อาจจะดูไวนิดหน่อย แต่จริงๆแล้ว เวลาที่ค่ายมันรู้สึกช้ามากๆเลย ตอนกลางคืนก็มีกิจกรรมเข้าฐานผจนภัย มันอาจจะเป็นอะไรที่ชอบกันใครหลายๆคน แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ชอบเลย เพราะกล้ามเนื้อผมไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไรนัก แต่ละหมู่จะต้องเข้าแต่ละฐานเวียนกันไป ผมเองก็ต้องไปด้วย เจอฐานปีนกำแพง 3 เมตรเข้าไปก็ทำไม่ได้แล้ว คือในฐานนี้ หมู่ผมทั้งหมู่จะต้องปีนกำแพงข้ามไปอีกฝั่งนึงให้ได้ โดยที่จะต้องไปหมดทุกคน ผมก็ไปคนเกือบท้ายๆ รูปร่างผมก็ดูเหมือนจะปีนได้นะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ผมกลับปีนไม่ขึ้นเลยละ เพื่อนก็ช่วยดันผมขึ้นไป ขาขึ้นก็ลำบากแล้ว ขาลงดันกลังความสูงของกำแพงอีก จะลงอย่างไรดี เพื่อนอีกฝั่งนึงก็บอกให้โดดลงมา ผมก็พยามลง อยากจะบอกว่า ปวดแขนไปหมดเลย กล้ามเนื้อผมไม่มีแรงนี้นา แต่เพื่อนก็ช่วยเรานะ เพื่อนบอกว่า ฐานต่อไป ถ้าไม่ไหวก็บอก ไม่ต้องฝืนเล่นหรอก เกิดเจ็บตัวขึ้นมา มันไม่คุ้ม ผมก็เชื่อเพื่อน อย่างฐานตีหอระฆังสูงๆ ผมก็ไม่ได้เล่นเพราะกลัวความสูง ปีนกำแพงเชื่อกก็ไม่ไหว ผมปีนไม่ขึ้นเลยละ ฐานข้ามยาง ก็ได้ไม่ไหวมันข้ามอันต่อไปไม่ได้ สรุปคือ ผมก็เล่นแต่ฐานง่าย อย่างเช่น  สะพายเส้นเดียว สกีบก ฐานที่อะไรที่มันง่ายผมก็จะเล่น ก็นะผมก็อยากจะพยายามเล่นนะ แต่ศักยภาพผมไม่ถึงก็ไม่รู้จะทำไงดีผมก็ได้แต่ ซึมเศร้าในใจ ว่าผมไม่เหมือนเพื่อนจริงๆ

จากนั้นมาเรื่องของท่องกฏลูกเสือ 10 ข้อ และผูกเงื่อน 6 เงื่อน ผมก็อย่างที่บอกว่า ทำไม่ได้หรอก ในใจคิดว่า ผมจะทำได้อย่างไรกัน แต่ก็ลองพยายามดูนะ จาก 3 ทุ่มครึ่งแล้ว จนถึง 4 ทุ่ม ก็ยังท่องไม่ได้ จาก 4 ทุ่มจนถึง 5 ทุ่มก็ยังทำไม่ได้ ผมก็ร้องไห้ในใจ ทำไม่ได้ ทำไงดี ทำไงดี ครูที่เค้าสอบก็เริ่มที่จะเข้าใจผม จึงช่วยผมให้ผมสอบผ่าน ผมก็เลยสอบผ่าน จากนั้นก็ถึงเวลาที่ได้เข้านอนจริงๆซักที สำหรับเด็กกลุ่มออทิสติกอย่างผมเป็นอะไรที่ ดูแลตัวเองไม่ได้ จะอาบน้ำ เพื่อนๆเค้าอาบน้ำกันได้หมด ผมก็เข้าไปอาบน้ำ แต่ก็ไม่กล้าเ้หยียบพื้นห้องน้ำ ห้องน้ำที่ค่ายสกปรก จากที่เพื่อนอาบยิ่งไม่กล้าเหยียบ ผมจึงไปอาบที่ห้องส้วม ยืนตรงชักโครกและอาบน้ำ พอเปิดน้ำเท่านั้น น้ำจากก็อกน้ำมีแต่ตะกอนน้ำตาล ใครมันจะกล้าอาบ ผมก็เล่นจำใจอาบหลังๆ ตะกอนก็หมด ก็ยังดี ก็ได้อาบน้ำ และแล้วก็จะนอน ผมที่จริงอยากนอนให้หอพักวิทยากรซึงอยู่ติกกับหอพักพวกผม ผมกะว่าตรงทางเข้ามีโต๊ะอยู่ ก็กะว่าจะใช่ด๖๊ะนั้นนั่งหลับ แต่เพื่อนก็แสนใจดี ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจอีกแหละ เอาที่นอนมาปูให้ผม ผมก็ต้องนอนกับเพื่อน ผมอยากจะบอกจากใจเลยว่า ผมคิดว่าตัวเองแปลกแยก อย่าอยู่รวมกับเพื่อนเลยจะดีกว่า ผมไม่มีคุณค่าพอที่จะอยู่กับเพื่อนหรอก

จากตรงนี้ วันที่ 2 ของการเข้าค่าย ผมก็ได้ตื่นก่อนเพื่อนๆ แต่ไม่อยากอาบน้ำ ก็เปลี่ยนชุดรอให้วิทยากรปลุกเพื่อน ก็ออกไปเดินเล่น ผมละเดินไปเรื่อย และก็ถือเวลาตี 5 ครึ่ง ก็ได้มาฝึกระเบียบแถวกับเพื่อน อธิบายนิดนึ่ง ผมเป็นรองนายหมู่ ทั้งๆที่เพื่อนเค้าไม่อยากให้เป็น เป็นผมดื้อที่จะเป็น ที่จริงแล้วอยากให้เพื่อนรู้ว่า ผมก็มีคุณค่าในสายตาเพื่อนเหมือนกัน ผมก็ดื้อสำเร็จ จากนั้นผมก็ได้ไปที่บ้านพักหญิงซึ่งจะมีการตรวจบ้านพักหญิงกัน ผมก็เป็นรองนายหมู่ งานเริ่มเข้าเพราะหน้าที่ๆผมเป็น ผมจะต้องแยกตัวไปฟังคำแนะนำจากวิทยากร ซึ่งจะต้องมีพิธีต่างๆ ให้การขออนุญาติ ผมก็จำเป็นก็ต้องทำ แต่ก็นะ วิทยากรยังไม่สั่ง ผมก็เอ๋อตามไปดู อะไรอย่างนี้ ก็นะ ก็ผิดพลาดกันไป ผมก็เครียด ทำให้เพื่อนขายหน้าเค้า ช่วงเช้าก็จะมีการเข้าแถวเคารพธงชาติเช่นเคย และก็เรียน วันนี้เครียดน้อยกว่าเมื่อวันแรกนิดนึ่ง ซึ่งผมเองก็ต้องทำใจยอมรับว่า วันนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีก และแล้ววันเรียนก็เรียนหลายอย่างอีกเช่นเคย จนผมหลับ วันนี้มีการสอนเรื่องของการเปิดประชุมกองลูกเสือด้วย ผมก็เข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ หลายครั้งที่ผมจะต้องทำหน้าที่แตกต่างจากเพื่อน เพื่อนเค้ากลัวผมไม่รู้เรื่อง แต่ผมไม่ยอม ผมรู้ว่าเมื่อผมอยากเป็นก็ต้องทำหน้ารองนายหมู่ให้ดีที่สุด ผมก็พยายามนะครับ

และแล้วก็ถึงวิชาผูกฐานเสาธง ผมก็ต้องไปดูและผูกเงื่อนไม่ให้เสาธงล้ม โดยจะมีการโยนฐานขึ้นไปข้างบนให้ตกลงมา ผมก็เป็นคนไปดูฐานของวิทยากร และมาบอกเพื่อน เพื่อนก็เครียดกัน กลัวผมดูแล้วไม่เข้าใจคำสั่ง กลัวทำไม่ได้ แต่ผมก็พยายาม จนกระทั่งเพื่อนก็รู้เรื่อง ผมก็ไม่ได้ช่วยเพื่อนอีกตามเคย เพราะผมผูกเงื่อนไม่เป็นเลย เพื่อนเค้าก็เข้าใจ และก็ผ่านไปได้ด้วยดี ตอนกลางคืนวันที่สอง จะมีการชุมนุมรอบกองไฟ ผมก็ได้รับว่าในหมู่จะต้องออกมาแสดงละครเรื่องนึ่ง ก่อนที่ผมจะได้แสดงนั้น ผมก็ดูวิทยากรกินข้าวอีกเช่นเคย คราวนี้วิทยากรเค้า เริ่มสนใจผมมากขึ้นกว่าเดิม และดูเหมือนว่า และครูที่มหาลัยก็ออกมาบอกว่า ดูครูกินข้าวมันไม่ดี อะไรอย่างนี้ ตอนนี้วิทยากรเข้าเริ่มรู้จักผมบ้างแล้ว เค้าเริ่มทักทายผม ผมอยากให้เป็นอย่างนั้น มันรู้สึกว่าผมไม่ถูกทอดทิ้ง ผมก็เดินอย่างเศร้าๆไป จนกระทั้ง ถึงเวลาแคมกองไฟ ผมก็ได้ดูเพื่อนเค้าแสดงกัน เพื่อนเค้าสนุกสนานกันมาก แต่ผมกับมองพระจันทร์ว่ มันสวยดี ก็นะผมสนใจเพื่อนก็น้อยกว่าคนอื่น วันนี้เป็นกิจกรรมกลุ่ม ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร

ในคืนนี้ผมเจอลูกชายวิทยากรที่อยู่ใกล้หอผม ผมไม่ได้เจอเด็กๆมาหลายวัน พอเจอก็อยากเล่นกับเค้า ใจผมก็สั่นมากๆ เวลาที่ไม่ได้เล่นจะรู้สึกซึมเศร้าทันทีเลย ก็เจอกันแปปเดียว ก็อยากทำความรู้จักนะ มันเป็นอะไรที่สนุก แทบอยากรอเล่นกับน้องเค้าเลยละ วิทยากรที่เป็นพ่อเค้าก็บอกว่า เชาว์นอนเถอะ ผมก็ไปนอน ก็นะ ผมก็ในใจก็อยากเจอเด็ก 2คนนั้นมากเลย ละ

จนเช้าวันที่ 3 ผมก็ได้ตื่นรอน้องเค้าว่าเมื่อไรจะตื่นนะ รอน้องเค้า ก็สนุกดี แต่ก็ไม่ตื่นเลย ผมก็เลยดูซึ่มๆไปอยากเจอน้องเค้า อยากเล่นกับน้องเค้า อยากรู้จัก ผมติดเด็กมากเลยละ ในวันนี้เพื่อนก็เหมือนจะดีใจเป็นพิเศษที่จะได้กลับบ้านกันแล้ว ผมก็คงอาจจะดีใจเหมือนกัน แต่ผมดูซึมๆเพราะอยากเจอน้องเค้า เพื่อนตอนแรกก็ไม่เข้าใจ คิดว่าผมเครียดที่ต้องอยู่ค่ายนี้ ผมก็เครียดจริงๆแหละ แต่ผมคิดถึงน้องเค้ามากกว่า วันนี้พอช่วงฐานกิจกรรม ผมเห็นน้องเค้า 2 คนก็อยากไปเล่นด้วย เป็นอะไรที่อยากไป วิทยากรที่รู้จักผม เค้าก็งงๆว่าผมจะไปไหนกัน ก็พาไปกินข้าวก็เลยอดไป ผมก็รีบหากิน รีบหาน้องเค้าอย่างกระวนกระวาย ที่ว่ากลัวจะไม่ได้เจออีก และแล้วผมก็เจอ ที่นี้ได้คุยได้เล่นนานขึ้น ผมก็มีความสุขมากๆเลย เพื่อนที่อยู่ด้วยเค้าก็เลยเข้าใจว่า ผมอยากเล่นกับเด็กๆ
มาถึงช่วงรับวุติบัตร ผมก็ต้องมีหน้าที่สั่งเพื่อนในหมู่ ซึ่งตรงนี้แหละที่เพื่อนๆเป็นห่วงสุด ไม่อยากให้ผมทำตรงนี้ สุดท้ายผมดื้อ ผมอยากทำ อยากมีคุณค่าในสายตาเพื่อนๆบ้าง ผมก็เลยทำไป และก็เรียบร้อย เพื่อนเค้าชมผมว่าเก่งมากๆด้วย ผมดีใจมากเลยละครับ สุดท้ายก็ได้ขึ้นรถกลับบ้าน ผมก็เจอเด็กน้อยอีกครั้ง ก็เล่นกับน้องเค้าก็สนุกดี จนถึงมหาลัย ผมก็บายน้องเค้า ผมมีความสุขที่ได้เล่นกับเด็กจริงๆเลย


Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2557 21:33:23 น. 3 comments
Counter : 2058 Pageviews.

 
สวัสดีจ้า ขอบคุณที่มาแบ่งปันนะ


โดย: cyberlifenlearn วันที่: 3 มีนาคม 2557 เวลา:6:57:37 น.  

 
จากที่อ่านเพื่อนทุกคนใส่ใจเธอ เราคิดว่าเธอมีเพื่อนที่ดีมากๆเลยนะ ลองเปิดใจคบกับเพื่อนๆให้มากกว่านี้ดูมั๊ย


โดย: อีฟ IP: 125.25.7.15 วันที่: 15 มีนาคม 2557 เวลา:23:49:44 น.  

 
ขอชื่นชมความพยายามของน้องเชาว์ค่ะ และขอบคุณที่เขียนประสบการณ์มาให้อ่านและได้รับรู้เรื่องของน้องค่ะ


โดย: พี่น้อย IP: 49.230.183.93 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:06:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้องเชาว์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 71 คน [?]




Friends' blogs
[Add น้องเชาว์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.