Group Blog
 
 
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
17 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
"Wishing Well" ความตายที่สวยงาม





"Wishing Well" ความตายที่สวยงาม

เราทุกคนรู้ว่า "ความตาย" คือ ปลายทางของชีวิต แต่ไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะมาถึง เมื่อไร ตรงกันข้ามมีเด็กกลุ่มหนึ่งที่รู้ตัวดีว่า พวกเขากำลังเดินไปสู่ความตายและอยู่ใกล้มันขนาดไหนทุกวินาทีที่ผ่านไป
หากใครมีโอกาสขึ้นไปบนชั้น 16 ตึก สก รพ.จุฬาลงกรณ์ จะพบเด็กๆ โกนหัวจนล้านเลี่ยนนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเรียงราย เขาและเธอเหล่านี้เป็นโรคมะเร็งที่แตกต่างกันไป เมื่อรักษาไปได้ระยะหนึ่งแพทย์วินิจฉัยแล้วว่า ไม่สามารถรักษาต่อไปได้ จะแนะนำพ่อแม่ผู้ปกครองถึงทางเลือก 2 ทาง คือ
หยุดการรักษาทางเคมีการแพทย์แล้วกลับไปอยู่บ้าน แต่ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์และ ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ถ้าหากพ่อแม่เด็กตัดสินใจทางเลือกใหม่ คือ การหยุดรักษาทางเคมีแพทย์แล้ว ให้รักษาแบบประคับประคอง โดยให้เด็กมีคุณภาพจิตที่ดี ทำให้มีความสุขก่อนจากโลกนี้ไป แพทย์จะส่งต่อมาที่ Wishing Well หรือ
โครงการส่งชีวิตสุขสมหวังก่อนสิ้นลม แทนที่จะนอนรอความตายอยู่กับยาพาราแก้ปวดหรือสิ้นลมในห้องไอซียูอย่างเดียวดาย
>> "เม่น" เด็กผู้ชายวัย 6 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งเยื่อหุ้มปอดมานาน 2 ปีแล้วเขามีอาการครั้งแรกเมื่อปลายปี 2547 ขณะเดินถือหม้อหุงข้าวอยู่เขาหันมาบอกแม่ว่า "ขอพักก่อน เหนื่อยเดินไม่ไหว" หลังจากนั้นแม่ก็พาไปหาหมอที่คลินิกประจำ และได้รับคำแนะนำให้ไปที่ รพ.บางพลี รพ.ศิครินทร์ ก่อนจะส่ง ต่อไปยัง รพ.จุฬาฯ ตรวจวินิจฉัยโรค บังเอิญว่าเป็นช่วงปีใหม่และเกิดพิบัติภัยสึนามิ จึงต้องรอผลการตรวจ ระหว่างนี้แพทย์จะเจาะน้ำออกจากปอดทุกวันๆ ละ 500-800 ซีซี
1 ทุ่มตรง วันที่ 4 มกราคม 2548 ครอบครัวน้องเม่นจึงรู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว โรคที่เด็กชายวัย 6 ขวบ กำลังเผชิญอยู่ คือ มะเร็งเยื่อหุ้มปอด ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้เพียง 1 ในล้านโอกาสรักษาหายมีเพียง 80% ขณะนอนรักษาตัวอยู่ที่ตึก สก ชั้น 18 น้องเม่นต้องทำเคมีบำบัด 3 สัปดาห์ ครั้งและครั้งละ 3-5 วัน มากถึง 17 ครั้งด้วยกัน และครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว หลังจากเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์หมอไม่พบมะเร็งอีก จึงให้พักฟื้น 3 เดือน น้องเม่นกลับไปใช้ชีวิต ตามปกติอีกครั้ง ไปโรงเรียนได้ วิ่งเล่นได้เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ
แต่แล้วอีก 6 เดือนต่อมา เมื่อหมอนัดตรวจอีกครั้ง น้องเม่นและครอบครัวก็ต้องพบกับข่าวร้ายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เด็กชายในวัยซุกซนจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3 เดือนเท่านั้น หมอจึง
แนะนำทางเลือกให้ 2 ทาง คือ
รักษาต่อซึ่งโอกาสหายน้อยมาก กับการหยุดรักษาแล้วใช้ชีวิตตามปกติ ไปโรงเรียนตามปกติ พาไปเที่ยวที่เด็กอยากไป ครอบครัวและน้องเม่นเลือกวิธีที่ 2 คือ
การอยู่ท่ามกลางความรักความอบอุ่นของ คนในครอบครัว ใน วาระสุดท้ายของชีวิต เที่ยวทะเลบางแสน สวนสนุกดรีมเวิลด์ สยามโอเชี่ยน เวิร์ล และไปทำบุญตามวัดต่างๆ

"โหน่ง ชะ ชะ ช่า" คือ ดาวตลกในดวงใจของน้องเม่น ก่อนช่วงสุดท้ายของชีวิตจะ มาถึง เจ้าหน้าที่มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง โทรศัพท์ติดต่อไปยังตลกชื่อดังโหน่งกำลังทำงานอยู่ ต่างจังหวัดบอกกับ " นิลอุบล จันทร์โหนง" เจ้าหน้าที่ให้หามือถือที่เปิดเสียงได้ "จะเล่นตลกให้น้องฟัง" ก่อนจะบอกลาน้อง
เม่นให้หลับให้สบายเมื่อการแสดงสั้นๆ จบลง ในขณะที่ทุกคนในห้องหัวเราะกับเสียงของโหน่ง ชะ ชะ ช่า น้องเม่นหลับสบายไป พร้อมกับเสียง "พี่โหน่ง...มาแว้วววว"

>> ในขณะที่ "น้องรุ้ง" เด็กผู้หญิงอีกคนอยากเพ้นท์เล็บเจ้าหน้าที่ก็พาช่างมา เพ้นท์เล็บถึงเตียงผู้ป่วย หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ น้องรุ้งก็จากโลกใบเล็กๆ นี้ไปอย่างสงบ พร้อมกับเล็บที่เพ้นท์ด้วยสีสันสวยงาม และรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข

>> แต่สำหรับ "น้องซี" วัย 7 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แม้จะต้องทนทุกข์ขนาดไหน น้องซีก็ยังมอบความสุขให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ในมูลนิธิสายธารแห่งความหวังด้วยการร้องเพลงให้ฟัง กลายเป็นบ่อเกิดแห่งความหวังเล็กๆ ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ระดมเงินมาช่วยเหลือและก็ได้ครบในวันที่น้องซีจากไป

>> ด้าน "น้องเจมส์" เด็กฉลาดที่อยากไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ มูลนิธิสารธารแห่งความหวังแอบทำเซอร์ไพรส์เล็กๆ ด้วยการให้ "อ้อม พิยดา อัครเศรณี" ไปกับเขาด้วย น้อง เจมส์กึ่งตกใจกึ่งดีใจ และวันที่น้องเจมส์จากไปนางเอกสาวชื่อดังถึงกับหลั่งน้ำตา
>>
>> เด็กผู้หญิงอีกรายวัย 12 ปี มีความหวังสุดท้ายของชีวิต คือ การเสริมดั้งจมูก เพื่อจะได้พบกับ " แอนดริว เกร้กสัน" แต่การตามตัวดาราดังไม่ใช่เรื่องง่ายดังนั้นเจ้าหน้าที่จึง หาวิธีเข้าไปโพสต์ในอินเทอร์เน็ตบอกว่า มีคนไข้ต้องการเจอตัว และเขาใกล้จะเสียชีวิตแล้ว
ไม่นานต่อมา กลางดึกคืนหนึ่งแอนดริวในสภาพหนวดเคราเฟิ้ม เพราะกำลังถ่ายละคร เรื่อง "คนระลึกชาติ" ก็โผล่เข้ามาให้กำลังใจเด็ก สร้างความประทับใจกับทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ป่วย แล้วอีก 2 วันต่อมา เด็กก็เสียชีวิตลง

>> "ความฝันของเด็กๆ มีหลากหลาย ทำง่ายและทำได้ทันที เช่น เด็กคนหนึ่งอยากกินไก่ทอดเคเอฟซี เราก็สั่งมาให้ตอนนั้นได้เลย เด็กบางคนอยากไปเดินเล่นสวนลุมฯ เราก็พาไป"
นิล >อุบล จันทร์โหนง สรุป

ก้าวเข้าปีที่ 4 แล้ว สำหรับโครงการ Wishing Well ซึ่งมีความหมายอยู่ 2 ประการ คือ การรักษาให้หายกับคำอธิษฐานสุดท้ายที่เป็นจริง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ต่อชีวิต และส่งชีวิตเด็กๆ ไป แล้ว 35-40 ราย เฉลี่ยมีคนไข้เสียชีวิต 3-5 คนต่อปี โดยเด็กๆ หลายคนสุขสมหวังกับปรารถนาสุดท้ายของชีวิต จากไปด้วยรอยยิ้มอย่างสงบสุข ถึงแม้จะรู้ล่วงหน้าว่า มีเวลาเหลืออยู่บนโลกกลมๆ ใบนี้อีกนานแค่ไหน
>> หลังจากนั้นพวกเขาก็จะจากไป ไม่มีวันกลับมาอยู่ดูความศิวิไลซ์บนโลกใบนี้อีกต่อไป !!!

เรื่อง / ตวงรัตน์ มีศรี mesri@gmail.com

ภาพ / มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง
โทร 02-677-4117
บริจาคเงินได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย บัญชีออมทรัพย์ ชื่อ
บัญชี " มูลนิธิสายธาร
แห่งความหวัง" เลขที่บัญชี 045-2-95999-4


ฟาก...ฝากข่าวต่อ




เพื่อนใจบุญส่งเมล์มาให้ aohsawitree@hotmail.com




Create Date : 17 เมษายน 2550
Last Update : 17 เมษายน 2550 21:40:16 น. 0 comments
Counter : 3243 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

chantra_aor
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add chantra_aor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.