|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
นกกระจอกตาล
นกกระจอกตาล Passer flaveolus (Plain-backed Sparrow / Pegu Sparrow) เป็นหนึ่งในสามนกกระจอกประจำถิ่นของประเทศไทย หรือหนึ่งในสี่ของนกกระจอกที่พบในประเทศไทย(ชนิดหนึ่งเป็นนกอพยพ หาพบได้ยากคือนกกระจอกป่าท้องเหลือง) มีความยาวจากปลายปากจรดปลายหาง 13.5-15 เซ็นติเมตร นกตัวผู้กับนกตัวเมียแตกต่างกันอย่างชัดเจน
นกตัวผู้มีจุดเด่นที่ต่างจากนกกระจอกอีกสองชนิดคือเป็นนกที่ดูเรียบๆ หลังสีน้ำตาลแดงไม่มีลาย กระหม่อมและหลังตอนบนเป็นสีเทา คอจากใต้ปากจนถึงอกตอนบนมีสีดำ แก้มและลำตัวด้านล่างสีเหลืองอ่อน
นกตัวเมียสีสันแตกต่างจากนกตัวผู้ คือหัวและลำตัวเป็นสีน้ำตาลแกมเทา มีคิ้วสีอ่อน ปีกและหลังเป็นสีน้ำตาลแกมเหลืองอ่อน คล้ายกับตัวเมียของนกกระจอกใหญ่แต่หลังไม่มีลาย
นกทั้งสองเพศมักถูกพบหากินด้วยกันเสมอๆ ดังนั้นหากไม่แน่ใจว่านกกระจอกตัวเมียที่พบเป็นนกกระจอกอะไร ก็สามารถอ้างอิงได้ง่ายๆจากตัวผู้นั่นเอง
นกขนิดนี้มีการกระจายพันธุ์ในทวีปเอเชียในประเทศพม่า ไทย มาเลเซีย กัมพูชา ลาว เวียตนาม
นกกระจอกตาลอาศัยหากินตามพื้นที่เกษตรกรรม สวนสาธารณะ พื้นที่เปิดโล่ง และชายป่า อาหารของนกชนิดนี้ก็คือเมล็ดพืช เช่นข้าว หญ้า หรือแมลงเล็กๆ โดยอาจพบหากินเป็นคู่ หรือเป็นฝูงเล็กๆ หรือร่วมกับนกกระจอกชนิดอื่นและนกกระติ๊ดที่กินอาหารชนิดเดียวกัน
นกในบล็อกถ่ายมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นกมากินดอกไผ่ที่บานร่วมกับนกไผ่หรือนกกระติ๊ดเขียว
ข้อมูลจาก :
หนังสือคู่มือดูนกหมอบุญส่ง เลขะกุล นกเมืองไทย โดยคณะบุคคลนายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล ปี2550
//en.wikipedia.org
Create Date : 29 ธันวาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 29 ธันวาคม 2552 20:38:22 น. |
Counter : 10098 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 29 ธันวาคม 2552 21:17:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป่ามืด 4 มกราคม 2553 7:16:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ตัวเล็กเล็กน่ารักนะคะ
ถ้าเกิดไปเห็นเอง
ดี.ก็แยกไม่ออกอยู่ดีค่ะ
เพราะจะดูคล้ายๆกันไปทั้งหมดนะคะ