Bloggang.com : mole_bury : ดูดู้

ดูดู้

ตั้งแต่ตั้งหัวข้อ Football ขึ้นมาอยากเขียนเล่าอะไรอยู่หลายครั้ง

แต่พอลองๆดู การเขียนเรื่อง Football ให้เป็นเรื่องราว ไม่ใช่เอาข่าวมาเล่าต่อนั้นค่อนข้างยากทีเดียว

มาครั้งนี้มีเรื่องกระทบจิตใจ ทำให้มีเรื่องเขียนซะที...

แล้วก็ได้เขียนทีเดียว 2 เรื่องเลย (แม่ว่าเรื่องแรกจะ Copy + Paste แทบทั้งหมดก็ตาม)

.......................................................

ถ้าใครได้ดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกนัดวันเสาร์ที่ผ่านมา คู่ระหว่าง เบอร์มิงแฮม-อาร์เซนอล คงได้เห็นภาพที่ทำให้รู้สึกว่า ชีวิตนักบอลที่เราคิดกันบ่อยๆว่ามัน สนุกสนาน ได้เงินเยอะ ไม่ต้องคิดมาก ฯลฯ นั้นมีความเสี่ยงต่อสภาพร่างกาย และจิตใจอยู่ไม่น้อย....

หลังจากเริ่มเกมส์ไปไม่ถึง 4 นาที มีการปะทะระหว่างผู้เล่น 2 ฝ่ายเกิดขึ้น

ถ้าไม่ได้ดูภาพช้า จากมุมกล้องที่ถ่ายทอดสดที่ฉายทางด้านหลังผู้ถูกปะทะ จะเห็นว่าเหมือนเป็นการเข้าเสียบสกัดธรรมดาๆ กรรมการเป่าฟาวล์ ผู้เล่นอาร์เซนอล ที่ถูกเสียบล้มลงไปนอน

แต่เมื่อเห็นหน้าเพื่อนร่วมทีม ก็จะเริ่มสงสัยว่าต้องเกิดอะไรรุนแรงแน่ๆ

คนหนึ่งทำหน้าเสีย กวักมือเรียกแพทย์สนามให้เข้ามาเร็วๆ

คนหนึ่งหัวเสีย เข้าไปต่อว่าผู้เล่นฝั่งตรง ข้ามอย่างรุนแรง

เมื่อได้เห็นภาพช้าภายหลังจากแข่งขัน(ตอนแข่งไม่มีภาพช้าให้เนื่องจากผู้บรรยายบอกว่าเป็นภาพที่ไม่น่าดูเท่าใดนัก)....ก็เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

โดยเริ่มจาก

แล้วก็

แล้ว....

ผลที่เกิดขึ้นคือ ผู้เล่นที่เข้าเสียบ โดนใบแดงไล่ออกทันที

ผู้เล่นที่เจ็บได้รับการปฐมพยาบาล ให้อ๊อกซิเจน และนำส่งโรงพยาบาลทันที
สำหรับชื่อของผู้เล่นคนนี้ คือ “เอดูอาร์โด ดาซิลวา” หรือ “ดูดู้” (เป็นนักเตะโครเอเชียแต่มีชื่อเล่นแบบนี้เนื่องจากมีเชื้อสายบราซิล)

การแข่งขันดำเนินต่อไปหลังจากหยุดไปถึงประมาณ 10 นาที

ผู้เล่นอาร์เซนอล เล่นกันแบบไม่อยากเล่นเท่าไหร่... ถ้านึกว่าเป็นเราเห็นเพื่อนร่วมทีมลงไปนอนขาเบี้ยวแบบนั้นคงไม่มีอารมณ์เท่าไหร่

และแล้วครึ่งแรกก็โดนเบอร์มิงแฮม ยิงนำไปได้ 1-0

เริ่มต้นครึ่งหลังอาร์เซนอล เล่นดีขึ้นผิดหูผิดตา ยิงได้ 2 ประตู พลิกกลับมานำ 1-2 โดยได้อ่านบทสัมภาษณ์ของผู้เล่นหลายๆคน บอกว่า “ทุกคนสู้เพื่อ เอดูอาร์โด”

แต่ละครยังไม่จบ...อาร์เซนอล เสียจุดโทษช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย จากการเสียสมาธิของผู้เล่นกองหลัง

เบอร์มิงแฮมยิงไม่พลาด กลับมาตีเสมอ 2-2 ในที่สุด พร้อมกับการเป่านกหวีดของกรรมการ

2 คะแนน และเพื่อนร่วมทีม ที่หลุดลอยไปในช่วงสำคัญในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

….เป็นอีก 1 เกมที่ดูแล้วรู้สึกแย่ๆจริงๆ ในฐานะแฟนบอล ปืนใหญ่ อาร์เซนอล คนนึง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

สำหรับ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา ซึ่งประสบเหตุโชคร้ายในครั้งนี้ ก่อนจะถึงวัยเบญจเพส เพียง 2 วัน
ตอนนี้เข้ารับการผ่าตับเป็นที่เรียบร้อย โดยต้องพักรักษาตัวอย่างน้อย 9 เดือน จึงจะกลับมาลาสนามได้(แต่เห็นภาพแล้วกลัวว่าจะนานกว่านั้น)

ถ้าคุณได้รู้จักประวัติของ “ดูดู้” นักบอลที่เป็นนักสู้มาโดยตลอด จะรู้สึกสงสารเขามากกว่านี้

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ชื่อ : เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา

เกิด : 25 กุมภาพันธ์ 2526

ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร บราซิล

ตำแหน่ง : กองหน้า

หมายเลขเสื้อ : 9

สโมสรเดิม : ซีบีเอฟ โนว่า เคนเนดี้, แบงกู แอตเลติโก คลับ, อินเตอร์ ซาเพรซิค, ดินาโม ซาเกรบ์

ร่วมทีมอาร์เซนอลเมื่อ : 3 กรกฎาคม 2550

“การย้ายสู่อาร์เซนอล เป็นเรื่องที่ผมไม่คาดคิดเลยว่า จะเกิดกับตัวผม” สตาร์ทีมชาติโครแอตวัย 24 เอ่ย

“แต่ผมสามารถให้คำมั่นสัญญากับกองเชียร์ อาร์เซนอลได้เลยว่า ผมไม่รู้สึกกดดันอะไรแน่ เพราะที่ผ่านมาชีวิตผมโดนอะไรมาหนักกว่านี้เยอะ”

“ตอนที่ผมเดินทางมาถึงซาเกร็บใหม่ๆ อะไรๆก็ไม่ราบรื่นเอาเสียเลย” เอดูอาร์โด้ย้อนถึงความหลัง

“ผมไม่มีแม้ที่นอน และสิ่งที่ผมจำได้ดีคือผมต้องนอนขดในค่ำคืนที่เย็นยะเยือกดั่งน้ำแข็ง”

“ที่นอนของผมอยู่ในสนามของเรานั่นแหละ ไม่มีฮีทเตอร์อะไรหรอก ผมเลยต้องนอนทรมานเป็นประจำ และด้วยประสบการณ์เลวร้ายเยี่ยงนี้ จึงทำให้ผมมองเรื่องการเล่นให้อาร์เซนอล ว่า เป็นความท้าทายที่ร้ายกาจ”

แน่นอนว่า พรีเมียร์ชิพ เป็นเวทีที่มาตรฐานสูงกว่าลีกโครแอต แต่ ดา ซิลวา ก็เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ตนเองจะสามารถปรับตัวได้

ดูโร่ บราโก้ โค้ชซึ่งเป็นคนนำ ดา ซิลวามาสู่โครเอเชีย ในปี 1998 ในขณะนั้นเขาอายุเพียง 15 ขวบ พูดถึงสตาร์ตัวใหม่ของ เดอะ ปืน ว่า “ดูดู้ เป็นเด็กที่สู้ชีวิต และมีแคแรกเตอร์ที่สามารถทนทานได้กับทุกสิ่งที่ถาโถมเข้ามาหา”

“ตอนที่เขาเดินทางมาซาเกร็บใหม่ๆ มันเหมือนกับฝันร้าย เขาต้องนอนใต้ถุนสนาม เพราะสโมสรไม่สามารถช่วยดูแลจัดการตรงนี้ได้”

“ฤดูธรรมดาก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ถ้าถึงฤดูหนาวเมื่อไหร่มันเหมือนกับนรกบนดินดีๆนี่เอง ฮีทเตอร์ก็ไม่มีให้ และเขาก็ไม่มีเงินซื้ออาหารกิน”

“ผมจำได้ว่า เคยเลี้ยงชาร้อนเขาหนึ่งแก้วและเขาก็อยู่อย่างนั้นทั้งวันโดยไม่กินอะไรเลย และผมยังจำได้ว่าเขาร้องไห้บ่อยๆ ขณะที่เพื่อนร่วมทีมหลายคน อดสงสารไม่ได้จนต้องเอาเขาไปนอนที่บ้านด้วย”

“เขาเป็นคนอ่อนไหว บางทีตอนพลาดโอกาสทองในการพังประตูให้ทีม ก็จะปล่อยโฮออกมาซะอย่างนั้น”

“ครั้งหนึ่ง ตอนที่เรายกพลไปเล่นฟุตบอลเยาวชนในทัวร์นาเม้นที่ฝรั่งเศส และเราเจอโปแลนด์ในรอบรองชนะเลิศ ดูดู้พลาดโอกาสทองอย่างน่าเสียดาย แล้วเขาก็ร้องไห้ จนผมต้องเข้าไปกอดเพื่อปลอบประโลม”

“เขาไม่ได้เจอแม่บังเกิดเกล้าหลายปีทีเดียวแน่นอนว่าเขาคิดถึงบ้านจับใจ และเจ็บปวดมาก แต่เขาก็ตั้งใจทำผลงานบนสนามให้ดี นับตั้งแต่นั้น เราก็สนิทสนมกันมาก”

ทุกวันนี้ ดา ซิลวายังสำนึกเสมอว่าตนเป็นหนี้อดีตโค้ชอย่างบราโก้ไม่น้อย แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ยอมจมปลักอยู่กับอดีต

และเวลานี้ ดา ซิลวา คงต้องพุ่งสมาธิกับการเล่นให้ทีมภายใต้การนำของเวนเกอร์ ซึ่งดูแล้ว เรื่องร้ายๆ ต่างๆที่เคยเกิดขึ้นใน ซาเกร็บ คงจะไม่หวนกลับมาเกิดขึ้นอีกที่อาร์เซนอล

“ผมก็หวังอย่างนั้นนะ” ดา ซิลวาระเบิดเสียงหัวเราะ “อันเดรีย ภรรยาสาวของผม กำลังมองหาบ้านในลอนดอน เธอรู้ดี และจัดการทุกอย่างให้ผม ทำให้ผมจะสามารถทุ่มสมาธิให้กับการรับใช้อาร์เซนอลได้อย่างเต็มที่”

สาวกปืนใหญ่ คงพอยิ้มออก เมื่อประวัติที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า วามกดดันต่างๆ ไม่เคยระแคะระคายผิวเด็กหนุ่มหัวใจแกร่งผู้นี้เลย

ที่มา Soccersuck

- - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แม้ว่าตลอดปีนี้เราคงจะไม่ได้เห็น ดูดู้ ลงเล่นในสนามอีกแล้ว
แต่เพื่อนร่วมทีมทุกคนจะตั้งใจคว้าแชมป์ เพื่อมอบให้แก่นายแน่นอน
เราทุกคนจะสู้เพื่อนายนะ ดูดู้...

ปล. เราว่านายหน้าเหมือน สามารถ พยัคอรุณ บ้านเรามากเลยอะ

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2551

Last Update : 28 เมษายน 2551 15:33:32 น.

0 comments

Counter : 1443 Pageviews.