น้ำสัปปะรดขื้นฉ่าย
ชลีเปิดหัวบล็อกใหม่กับน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพค่ะ ก็ได้สูตรจากเน็ตและในหนังสือ และก็มีมั่วเอาบ้างตามใจอยากค่ะ สูตรที่ทำชลีปรับส่วนผสมให้เป็นหัวเป็นลูกแทนค่ะจะได้ง่าย ตามสูตรที่เห็นส่วนใหญ่จะให้ส่วนผสมส่วนมา ออนซ์ หรือ เป็นกรัม
ประเดิมด้วยน้ำสัปปะรดขึ้นฉ่าย
ส่วนผสม แครอท 4 หัว ขึ้นฉ่ายต้นใหญ่ 4 ก้าน สับปะรด ลูกเล็ก 1 ลูก พริกหวาน 1 ลูก
วิธีทำ แครอทไม่ต้องปอกเปลือก พริกหวานแกะเม็ดออก ขึ้นฉ่าย สัปปะรด คั้นทุกอย่างด้วยเครื่องคั้นผลไม้แยกกาก ส่วนผสมนี้ทำได้ 600 ml. หรือ 3 แก้ว
รสชาติ มีรสเปรี้ยวหวานของสัปปะรด หอมกลิ่นขึ้นฉ่ายกับพริกหวาน สัปปะรดสุก มีสรรพคุณ แก้ไอ แก้เสมหะ ระงับอาการอักเสบ น้ำลายเหนียว ขับปัสสาวะฟอกเลือด ช่วยย่อยอาหาร ขับเหงื่อบำรุงกำลัง ในสัปปะรดมีเอนไซม์โบรมีลิน เป็นเอนไซม์ช่วยย่อย
แครอท ผลสีส้ม เป็นแหล่งรวมเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง และยังช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากตับ ช่วยย่อยอาหาร ฆ่าเชื้อแบคทีเรียตัวการก่อโรคร้ายในลำไส้ใหญ่ รักษาอาการติดเชื้อราและโรคพยาธิ บำรุงผิวพรรณ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ขับปัสสาวะและสารพิษ ซึ่งให้คุณประโยชน์ต่อสายตา ปอด ตับ และม้าม บรรเทาอาการไอ บำรุงระบบโลหิต นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม และแมกนีเซียม เสริมประสิทธิภาพการล้างพิษของร่างกาย ซัลเฟอร์ และคลอรีน ช่วยทำความสะอาดเนื้อเยื่อ ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้แครอทผลใหญ่ แก่จัด และสีส้มเข้ม โดยไม่ต้องปอกเปลือกออก
ขึ้นฉ่าย มีสรรพคุณบำรุงตับ แก้ร้อนใน ลดความดันโลหิต ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และนอนหลับได้ดีโดยเฉพาะผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ รับประทานเป็นประจำจะช่วยแก้ปัญหานั้นได้ ในทางตรงกันข้าม หากผู้ชายรับประทานขึ้นฉ่ายจะทำให้อสุจิลดลงไปร้อยละ 50 ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
พริกหวาน มีสรรพคุณ กระตุ้นน้ำย่อย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
สรุปมาจากหนังสือของ ดร.ทอมอู๋ น้ำผักผลไม้ดื่มตอนคั้นเสร็จใหม่ๆ จะให้คุณค่ามากที่สุด แต่ถ้าไม่มีเวลา คั้นใส่ขวดปิดฝาแช่ตู้เย็นไว้ได้ ก่อนดื่มเดิมน้ำร้อนนิดหนึ่งเพื่อปลุกเซล์ลผักผลไม้ให้ตื่น อุณหภูมิ ประมาณ 39 องศาจะได้ประโยชน์ที่สุด ผักผลไม้ยิ่งเก็บไว้นานยิ่งเสียคุณค่า ดื่มน้ำผลไม้ที่เสียคุณค่าไปเล็กน้อยดีกว่าไม่ได้ดื่ม
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2553 11:34:29 น. |
|
13 comments
|
Counter : 6300 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:47:55 น. |
|
|
|
โดย: Mein Schatz วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:26:41 น. |
|
|
|
โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:17:27 น. |
|
|
|
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:39:44 น. |
|
|
|
โดย: ChaleenaP วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:29:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
อุบลราชธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
| | | | สาวน้อยจากเมืองเจียงใหม่ ไปทำงานขุดเหมือง ที่แม่สอด ย้ายถิ่นฐานมาอยู่เมืองอุบลฯ ตอนนี้...มีอาชีพ ท่องเน็ต อ่านนิยาย สอนโยคะ และ เป็นแม่ค้า ค่ะ ^o^ | | | | |
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ชาลีก็ใช้วิธีนั้นล่ะค่ะ
เพราะชิมวุ้นแล้วหวานมากแล้ว
เลยใช้กะทิราดเลยค่ะ ^^