|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เป็นลูกสาวคนเล็ก ที่มีแม่และพี่สาวทำอาหารเก่งและอร่อย ตอนเด็กๆ มีหน้าที่คิดเมนู ตำพริกแกง ขูดมะพร้าว แล้วก็ล้างจาน จนโตก็ไม่ค่อยทำกับข้าวเลย
เป็นแม่บ้านเกาหลีที่สามีไม่ชอบทานอาหารสำเร็จรูป จึงต้องเรียนจากตำราและอากู๋ ตอนนี้มีความสุขกับการทำอาหารกินเองทุกวัน
ชอบอ่านหนังสือทุกชนิด หลังๆ สะสมตำราขนมกะนิยายสืบสวนเกี่ยวกับร้านกาแฟ เลยเป็นแรงบันดาลใจให้หัดทำขนม พอทำแล้วมีความสุขจัง
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Last train to Pusan: ซิ่งมอไซค์ไปเกียงจู
อันนองฮาเซโย?
วันนี้จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวเมืองหลวงของราชวงศ์ชิลลาเมื่อ 57 ปี ก่อนคริสตกาล ชื่อเมืองเกียงจู หรือเขียนในภาษาอังกฤษว่า Kyungju/Gyeongju ดูรายละเอียดจากลิงค์นี้นะคะ //en.wikipedia.org/wiki/Gyeongju
เกียงจูเป็นเมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเกาหลีใต้ค่ะ เป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ชิลลานานเกือบตวรรษเลยทีเดียวละ เพราะภูมิประเทศที่อำนวยด้วยละนะเราว่า เพราะตั้งอยู่บนพื้นที่ราบกว้างใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยภูเขา บนชายฝั่งทะเลตะวันออก (East Sea) ซึ่งกั้นระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่นจ้ะ
นอกจากนี้ UNESCO ยังได้บันทึกให้เป็นมรดกโลกเมื่อไป 2000 นี่เองค่ะ เกียงจูเองก็ได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ไร้กำแพงด้วยละจ้ะ
วันนี้พี่ปั๊กพาเราซิ่งด้วยมอไซค์คันใหญ่ของเค้าอะจ้ะ ก็โน้มน้าวเราใหญ่ว่ามันสนุกน้า รถไม่ติดด้วย... เราก็เอ่อ พี่เอาจริงเหรอ แล้วฟ้าฝนก็ครึ้มอยู่ด้วยเนี่ยะนะ แต่มองหน้าแล้วก็เผลอพยักหน้าด้วยนะสิ ก็เลย แฮะ แฮะ เลยตามเลยจ้ะ
พี่ปั๊กพาซิ่งฉิวซักประมาณ 30 นาทีก็ถึงวัดพูลกุกซา (Pulguksa/Bulguksa) ซึ่งเป็นวัดสำคัญซึ่งถือว่าเป็นมรดกชิ้นสำคัญยุคทองของศาสนาพุทธในราชวงศ์ชิลลาเลยละจ้ะ แต่ยังก่อน พี่ปั๊กพาไปซื้อหนังสือไกด์บุคของเมืองเกียงจูก่อนจ้ะ เพราะพี่แกบอกว่าขี้เกียจอธิบาย ซึ่งเราก็เห็นด้วยอะนะ ขืนให้พี่แกอธิบายเป็นภาษาอังกฤษคงไม่ต้องไปไหนกันพอดี
ได้หนังสือแล้วก็เลยถือโอกาสพักกินกาแฟแก้หนาวกันคนละถ้วย ก่อนจะซิ่งขึ้นเขาไปอี่กประมาณ 4 กม. เราจะไปวัย Sokkuram ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาโทฮัมซาน เพื่อชมพระพุทธรูปซึ่งแกะสลักมาจากหินทรายสีชมพูที่งดงามมาก แต่ก่อนจะถึงยอดเขานี่สิ เราอยากจะบอกพี่ปั๊กว่าหนูหนาวจะตายแล้วน้า ฮือ ฮือ แต่ก็เอาวะเดี๋ยวจะหาว่าสาวไทยใจเสาะ เลยสู้ต่อ แต่เวลาที่พี่เค้าแถเข้าโค้งด้วยความเมามันเนี่ยนะ บทสวดมนต์กี่บทเรางัดมาหมดเลยละจ้ะ
เฮ้อในที่สุดเราก็มาถึงซะที แต่ยังหรอกครับท่าน เราต้องจอดรถไว้แล้วเดินเท้าขึ้นไปจ้า ตอนนี้เราเลยตู่เอาเสื้อพี่ปั๊กมาใส่อีกตัวหนึ่งกันหนาวตาย แต่พี่แกก็ไม่เดือดร้อนอะไร บอกว่าเฮอะ แค่นี้ ชิวชิว เชอะ
Sokkuram เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหินทรายตามแบบเซนในปางสมาธิที่งดงามมาก พระเนตรที่ปิดสนิทดูช่างสงบงามเหลือเกินจ้ะ เค้าก็ไม่ได้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสักการะใกล้ๆ หรอกนะ เพราะมีกระจกกั้นอยู่ จะเปิดให้เฉพาะคนสำคัญเข้าไปสวดมนต์นะจ้ะ แล้วก็ห้ามถ่ายรูปด้วย
อยู่บนเขาซักพักเราก็ซิ่งลงมาจากเขา แล้วเข้าไปเที่ยวที่วัดพูลกุกซากันจ้ะ //www.gyeongju.go.kr/eng/02/01.asp
วัดพูลกุกซาเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงและร่ำรวยของราชวงศ์ชิลลาในสมัยนั้นเลยละจ้ะ ซึ่งในสมัยโน้นว่ากันว่า ประกอบด้วยอาคารไม้ 80 หลังซึ่งโหญ่โตพอที่จะได้ร้บสมญาว่า Taekaram ซึ่งแปลว่าวัดใหญ่นั่นเอง แต่น่าเสียดายว่าอาคารเหล่านั้นถูกเผาไปเมื่อครั้งญี่ปุ่นเข้ามารุกราน เมื่อปีค.ศ. 1953 จ้ะ
ที่ประตูหน้าของทุกวัดที่นี่ จะมีเทพเจ้าอยู่ 4 องค์เหมือนคล้ายๆ ว่าคอยปกปักรักษาดินแดนของพระพุทธเจ้า อะไรอย่างนั้นนะจ๊ะ เราเดินผ่านครั้งแรกไม่ได้สังเกต พอเงยหน้าขึ้นมาทำเอาตกใจไปเลยละจ้ะ
เทพเจ้าทั้งสี่
พอผ่านประหน้าเข้ามา ก็จะมองเห็นบันไดเรียงรายสามบันไดทอดขึ้นไปยังตัวอาคารที่ขวางอยู่ แต่เค้าเรียกว่า สะพานซึ่งทอดยาวขึ้นไปนั้นคล้ายกับว่าเป็นทางเดินขึ้นไปยังดินแดนของพระพุทธเจ้า หรือสวรรค์นั่นเอง แต่ว่าเนื่องด้วยความเก่าแก่ เราเลยได้แต่ยืนถ่ายรูปอยู่ด้านหน้าเท่านั้นเอง
ด้านหน้าวัด มุมนี้ยอดนิยมจ้ะ
เราอ้อมไปด้านข้างเพื่อที่จะเข้าไปชมความงามในวัด ซึ่งสิ่งแรกเลยก็คือเจดีย์คู่ 3 ชั้นอยู่ด้านหน้า Main Hall
Tabot'ap Pagoda
Main Hall ซึ่งประดิษฐานพระศรีศากยะมุนี
พระศรีศากยะมุนี
ออกจากวัดพี่ปั๊กพาไปต่อที่ World Culture Expo ซึ่งเพิ่งเปิดงานไปเมื่อวานนี้เอง เราซื้อตั๋วดูบัลเลต์สเก็ตน้ำแข็งจากรัสเซียเอาไว้ก่อน ราคาคนละ 5000 วอนหรือประมาณ 170 บาทอะจ้ะ แล้วเดินดูรอบๆ เสียดายไม่มีเวลาอะจ้ะ เราถ้าจะดูทุกอย่างคงต้องใช้เวลาทั้งวันเลยละ พอบ่ายสามครึ่งเราก็เข้าไปดูสเก็ตกันจ้ะ นักแสดงดูเด็กมากเหมือนนักเรียนมัธยมเลย แต่ฝีมือไม่เบาเลยจ้ะ คนดูที่นีก็สนุกสนานทั้งตบมือ เป่าปากเปี้ยวป้าวเลยละ ชั่วโมงหนึ่งผ่านไปไม่รู้ตัวเลยจ้ะ
ขอพักเหนื่อยกันนะคะ แล้วเดี๋ยวมาเล่าต่อ อย่าเพิ่งเบื่ออ่านน้า
ชลันธร
Create Date : 23 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 25 ตุลาคม 2550 20:18:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 753 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|