|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Perhaps love ความฝันสิบปี และ...ไม่มีใครรักเราเท่าตัวเอง
หนังเรื่องนี้เขาว่ากันว่าเป็นMoulin Rouge แห่งเอเชีย แค่ได้ฟังคะแนนในใจฉันก็ติดลบไปอักโขแล้ว ไม่รู้ใครตั้งสมญานามนี้ให้ ช่างตลกสิ้นดี ฉันคิดว่าการเป็นออริจินัลดีกว่าที่จะเป็นที่สอง แต่เมื่อได้ดูหนังก็รู้สึกถึงกลิ่นอายหนังต้นแบบสุดๆ แต่ไม่เป็นไรยังพอไหวเพราะมีคนหล่อเดินผ่านฉากให้ชุ่มชื่นหัวใจบ้าง
หนังเป็นแบบซ้อนหนัง งงไหมคุณ? เอาเป็นว่าเป็นแบบซ้อนทับกันของเรื่องจริงและเรื่องฝัน เอาอย่างนี้จะอธิบายง่ายกว่า รักสามเศร้าเราสามคนระหว่างดาราชายหญิงและผู้กำกับหนุ่ม ระหว่างนั้นก็เล่าเรื่องความเป็นมาของดาราชายหญิงไป
ฉันดูแล้วนึกถึงเรื่องของประเทศจีนเลย สะท้อนการใฝ่หา ความรุ่งโรจน์ ที่แลกมาด้วยศักดิ์ศรี ดาราหนุ่มที่ยังจมอยู่กับความหลัง ดาราสาวที่ยอมก้าวไปข้างหน้าโดยทิ้งบาดแผลไว้เบื้องหลัง หล่อนไม่มีที่จะกลับแล้ว หล่อนมาไกลเกินที่จะคิดถึงมัน การร้องไห้คิดถึงความหลังอาจมีรสที่หวานปนขื่น แต่หล่อนก็ต้องเชิดหน้าสู้ต่อไป
ฉันชอบตอนจบของเรื่องจังเลยล่ะคุณ ตัวละครทุกตัวก้าวต่อไปไม่ติดกับกับดักของอดีต แต่ฉันก็ยังคลางแคลงใจอยู่ดี ตกลงที่ผู้ชายทุกคนแสดงออกนี่มันใช่ความรักหรือเปล่า ในเรื่องดาราหนุ่มให้ความรู้สึกของความหลงติดอยู่ในฝัน ขณะที่ผู้กำกับหนุ่มหวงและเกรี้ยวกราด แต่คิดดูดีๆสิ่งเหล่านี้มันก็คือส่วนประกอบของความรักมิใช่หรือ แล้วดาราสาวนั่นเล่า… ถ้าอย่างนั้นคงจะตรงคอนเซปของเรื่องกระมัง Perhaps love(รักหรือเปล่าหว่า) ฉันดูเรื่องนี้แล้วนึกถึงคำพูดที่ว่า ความรักมีวันหมดอายุ
แหม! เขียนอย่างนี้แล้วคุณคงค่อนขอดฉันใช่ไหมล่ะว่าเป็นนักเขียนนิยายฝันหวานแต่กลับมีความคิดที่เป็นปรปักษ์อย่างนี้ มันเป็นความจริงของโลกนะ ความรักมีวันหมดอายุจริงๆเพราะมันจะเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบต่างๆเช่น ความห่วงใย ความเข้าใจ อย่างที่ผู้เฒ่าผู้แก่อยู่กันมายังไงล่ะคุณ
บางครั้งฉันก็คิดนะ เป็นเพราะเราอยู่ในโลกดิจิตอลหรือเปล่า ทุกอย่างมาเร็ว ไปเร็ว เราเห็นทุกอย่างสำเร็จรูปมาแล้ว ความอดทนเราจึงสั้น ทนกับอะไรที่เนิบช้าและลึกซึ้งไม่ได้ พูดไปก็เข้าตัวอีกนั่นแหละคุณกับฉันก็เกิดยุคใกล้ๆกันคงจะรู้ๆกันอยู่
ออกนอกเรื่องไปเสียไกล มาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่า ฉากที่ฉันชอบคือฉากถนนสายนางโลม ยั่วยวน ยั่วเย้า เต็มไปด้วยกิเลศ พวกเจ๊ๆในชุดกี่เพ้าร้องเล่นเต้นได้อารมณ์สุดๆ ฉากที่บอกความจริงหลายๆอย่างและบอกถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญของดาราสาวด้วย
ฉันแอบร้องไห้กับฉากที่ดาราสาวบอกว่า “ จำไว้ ไม่มีใครรักเราเท่าตัวเราเอง “ คมกรีดบาดลึกถึงทรวงเลยค่ะคุณขา ไอ้เรื่องในโลกที่อกหักรักคุดกันจะเป็นจะตายก็มาจากเรื่องนี้แหละ รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง เอาใจไปผูกพันกับคนอื่น อีกคนเขาไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นด้วยเลย เหมือนดาราหนุ่มที่เผชิญกับอาการนอนไม่หลับและความฝันสิบปี ที่ได้มาเพียงความว่างเปล่า
ในเมื่อความรักมันได้ผ่านไปแล้ว เราควรจะจำเพียงรสหวาน ส่วนขมนั้นเอาไว้ตัดแก้เลี่ยน และเหนือสิ่งอื่นใด จงรักตัวเอง ใช่! นี่คือสัจธรรมชีวิตนะจำไว้
Create Date : 09 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 9 ธันวาคม 2551 1:21:55 น. |
|
2 comments
|
Counter : 286 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หนูมะลิ (love_you_na ) วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:2:12:35 น. |
|
|
|
โดย: champ IP: 124.157.187.140 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:02:20 น. |
|
|
|
|
|
|
|
สร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้.. ชีวิตมั่นคงแล้ว
ค่อยพลิกเปิด เลือกเอาก็ได้ค่ะ..ผู้ชายหน่ะ..