หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Something sweet.(14)...เหรียญสองด้าน



บุษบา ตื่นเช้าผิดปรกติ อันที่จริงต้องเรียกว่านอนกระสับกระส่ายมากกว่า หล่อนกังวลเรื่องเดียร์และท่าทีของผู้ชายสองคนที่ทำท่าจะฆ่ากันเสียให้ได้ พ่อที่แท้จริงและพ่อกำมะลอ หญิงสาวนั้นคิดว่าตนเองเป็นคนหนักแน่นพอที่จะแยกงานกับอารมณ์ส่วนตัวออก เพียงแต่คราวนี้เท่านั้นที่รู้สึกหนักใจปนสงสารในอนาคตของเด็กชาย
ระเด่นมนตรีก็เจ้าอารมณ์ทำอะไรสุดโต่ง


ขณะเดียวกันหนึ่งวันที่ผ่านมาจากการตะลอนไปสถานที่ต่างๆกับแบรนดอน หล่อนก็พอเดานิสัยเลาๆของหนุ่มนักร้องออก เขายังไม่เป็นผู้ใหญ่พอที่จะดูแลลูกชายได้ ชายหนุ่มทำตัวเหมือนพี่ชายหัวโจกของเดียร์เสียมากกว่า


ร่างสูงโปร่งนึกถึงเดียร์แล้วสงสารในชะตากรรมของเด็กชาย ต่างคนต่างยื้อเด็กชายเอาไว้ จนลืมความรู้สึกของคนตัวป้อม แม้จะยังเล็กแต่เด็กทุกคนสัมผัสได้ถึงความรักจากคนรอบข้าง ทุกคนแสดงว่ารักและออกอาการอยากครอบครองเต็มที่ ทั้งระเด่นมนตรีและแบรนดอนคงรักจินตะหรา จนอยากที่จะเก็บคนที่มีสายเลือดเดียวกับคนที่รักไว้ข้างกาย ความรักทำให้โลกหมุน ขณะเดียวกันก็ทำลายโลกได้เช่นกัน


หญิงสาวออกจากห้องของตัวเองมา หล่อนอยากจะหาอะไรทำคลายความฟุ้งซ่าน เมื่อออกมาที่ทางเดินแล้วหล่อนก็มี “ อะไร “ทำจริงๆ ระเด่นมนตรีหลับฟุบอยู่คาโต๊ะ แก้วและขวดไวน์วางเกลื่อนกลาดอยู่รอบบริเวณ เสื้อผ้าของเขาเป็นชุดเดิมกับที่ใส่เมื่อวาน
“ นายระเด่นคะ นายระเด่น “
เสียงเรียกแผ่วหวานนั้นไม่ได้ทำให้ร่างของชายหนุ่มไหวติงเลย


“ นายระเด่น “
บุษบาแตะแขนเขา ตัวร้อนจี๋ เหมือนคนเป็นไข้
“ นายระเด่น “
เสียงเขาครางอือออ บ่งบอกว่ากำลังตื่นแล้ว
“ นายระเด่นไม่สบายนี่คะ เดี๋ยวฉันให้คนไปตามหมอให้นะคะ “
“ ไม่ต้องหรอกคุณบุษบา ผมนอนพักเดี๋ยวก็หาย “
เสียงเขาแผ่วเบางึมงำอยู่ในลำคอ


“ แต่คุณตัวร้อน “
“ ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่ “
เขายังดื้อดึงอยู่ดี แล้วก็สั่นศรีษะลุกขึ้นจากเก้าอี้จะเดินกลับห้องแต่ทว่าเดินไปสองสามเก้าก็เซ จนหญิงสาวผวามาพยุงเขาไว้


“ คุณไม่สบายจริงๆนั่นแหละค่ะ เดี๋ยวฉันไปบอกคุณวิทกับลุงสุขให้ไปตามหมอมาดูอาการดีกว่า “
“ อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่น่าคุณ “
ชายหนุ่มปราม หล่อนได้กลิ่นเหงื่อผู้ชายผสมกับกลิ่นหวานขององุ่นที่แปรสภาพเป็นแอลกอฮอล์


“ แค่นี้ยังน้อยกว่าที่ผมเคยเจอ เคยเจ็บ เดี๋ยวผมหลับสักหน่อยมันก็จะดีขึ้น “
ระเด่นมนตรียังดันตัวเองเตรียมจะออกเดิน บุษบาอ่อนใจแต่ก็กลัวเขาจะล้มคว่ำเสียก่อนจึงพยุงร่างสูงใหญ่นั้นเข้าไปใน ห้องของเขา เมื่อถึงเตียงเขาก็ทิ้งตัวลงโครม พึมพำอือออฟังไม่ได้ศัพท์ คนหัวโล้นคงยังไม่สร่างเมาดี กลิ่นแอลกอฮอล์และสภาพกายมันฟ้อง


หญิงสาวถอนหายใจยืนดูคนเจ้าปัญหาบนเตียงแล้วก็แลกวาดสายตาไปทั่วห้อง น้อยครั้งที่บุษบาจะได้เข้ามาในห้องของผู้ชาย ห้องของเขาตกแต่งอย่างเรียบร้อยเคร่งขรึม มีรูปม้า รูปพวงองุ่นในกรอบประดับฝาผนัง
ผ้าปูเตียงสีเทาเข้าชุดกับผ้าห่ม ที่โต๊ะข้างเตียงมีรูปของเขากับเดียร์


อีกภาพหนึ่งเป็นภาพของผู้หญิงแย้มยิ้มแต่น้อยๆหล่อนเดาได้เลยว่านี่คือจินตะ หราเพราะเค้าหน้าหวานเหมือนกับเดียร์
เด็กชายได้ส่วนผสมที่ดีที่สุดของทั้งพ่อและแม่มา


“ เหมือนกันใช่ไหมล่ะ พ่อ แม่ ลูก “
เสียงชายหนุ่มบนเตียงมีแววขื่น ระเด่นมนตรีหันมาจ้องหล่อนที่มองภาพถ่ายนั้นอยู่ บุษบาหน้าเจื่อนด้วยความกระดากอายที่แอบเสียมารยาทสำรวจห้องเขา


“ แต่ดีหน่อยที่เด็กลูกครึ่งตอนเกิดใหม่ๆ ยังแยกกันไม่ค่อยออก แล้วเดียร์ก็เหมือนกับจินนี่ “
เสียงเขาแผ่วเบาเหมือนมาจากที่ไกลๆ
“ ตอนเล็กๆเดียร์น่ะเป็นโคลิค ชอบตื่นขึ้นมาร้องลั่นตอนตีสอง ไม่พอใจอะไรก็กรีดร้องลั่น เล่นเอาวุ่นไปหมด “
สายตาของเขามองเหม่อบนเพดานราวกับมันเป็นภาพอดีตที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน


“ ผมยังจำได้เลยว่าคืนไหนที่แกร้องไห้หนักๆ วันต่อมาแกจะไม่สบาย ช่วงนั้นผมแทบจะจำเบอร์หมอในอำเภอได้ทุกคนเลย เดียร์เคยไปรักษากับหมอทุกคนของที่นั่นทั้งนั้น “
“ คุณเลี้ยงคุณเดียร์อยู่ที่นี่ตลอดเลยเหรอคะ “


“ ใช่ “
เสียงเขาทุ้มลึกแต่ยังเบาหวิว
“ ผมให้แกอยู่ที่นี่ตลอด รวมถึงจินนี่ด้วย ที่นี่สภาพแวดล้อมดีกว่า “
ระเด่นมนตรีเสียงขาดเป็นห้วงๆ เรื่องในอดีตที่ตามมาหลอกหลอน
“ ผมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้สำหรับพวกเขา “


บุษบาฟังแล้วนิ่งไปสักครู่ก่อนที่จะถามคำถามที่ค้างคาใจ
“ ทำไมคุณไม่ให้คุณจินนี่พบกับแบรนดอนล่ะคะ “
ทั่วทั้งห้องเงียบกริบ หล่อนได้ยินเสียงหายใจหอบแรงเหมือนวัวกระทิงตั้งท่าจะสู้
“ ฉันขอโทษค่ะที่ถามอะไรเสียมารยาทไป “
แต่กระนั้นสถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น หญิงสาวรู้สึกว่าตนเองเป็นผ้าแดงสะบัดพลิ้วที่กำลังจะโดนชน


“ คุณเคยมีใครสักคนที่สำคัญกับคุณมากหรือเปล่า ใครบางคนที่โตมาด้วยกันเหมือนพี่น้อง ใครบางคนที่คุณร้องไห้ เขาก็จะร้องไห้ด้วย ผมกับจินนี่ก็เหมือนแบบนั้นแหละ “
เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ตกค้างหรือความอ่อนแอในจิตใจที่บาปกำลังตามมาเอาคืนกันแน่? ทำให้ระเด่นมนตรีเปิดปากพูดสิ่งที่อยู่ในใจ


“ เวลาผมอ่อนแอ จินนี่ก็ช่วยปลอบช่วยเป็นกำลังใจ “
บุษบาฟังแล้วใจเจ็บจี๊ดแปลกๆ แต่ก็ยังยืนนิ่งอยู่
“ แล้วเวลาจินนี่อ่อนแอล่ะ ผมก็ต้องช่วย ผมจะปล่อยให้จินนี่ท้องไม่มีพ่อไม่ได้ “


“ แต่แบรนดอนเขาก็จะรับผิดชอบนี่คะ “
หญิงสาวค้าน ความจริงของเหรียญอีกด้านกำลังจะปรากฏแล้ว...
เขาหัวเราะหึๆราวกับเย้ยหยัน
“ ตอนนี้มันมีชื่อเสียงมันก็พูดได้น่ะสิ ตอนที่จินนี่คบกับมันอยู่ แบรนดอนมันทำให้จินนี่ทุกข์ใจขนาดไหนคุณรู้บ้างไหม “
ระเด่นมนตรีหันกลับมามองหล่อนดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นร้าวลึก


“ ยิ่งตอนที่ท้อง ข่าวของมันเรื่องผู้หญิงคนอื่นมีหนาหู ช่วงนั้นสภาพจิตใจของจินนี่แย่มาก ที่สำคัญตอนนั้นยังติดต่อมันไม่ได้อีก “
ชายหนุ่มนึกถึงจินตะหราในวันที่ตั้งท้องอ่อนๆ ผอมเศร้า กินไม่ได้นอนไม่หลับ มีแต่น้ำตารื้นทุกคราว


“ จินนี่เคยสดใสมาตลอด ต้องมาอมทุกข์เพราะมัน “
“ แล้วคุณทำไมไม่ให้เขาสองคนเจอกันละคะ “
“ ถ้าเป็นคุณ คุณยอมได้หรือเปล่าล่ะ ที่จะให้น้องสาวของคุณแต่งงานกับฝรั่งขี้นก ร้องเพลง หลักลอย
เป็นใครก็ไม่รู้ ไหนจะหน้าตา ชื่อเสียง ความไว้เนื้อเชื่อใจของพ่อแม่ โดยเฉพาะตอนนั้นเดียร์อยู่ในท้องของจินนี่ได้สองเดือนแล้ว “
เขาจ้องหน้าหล่อน ตั้งท่าพร้อมจะกระโจนใส่ได้ทุกเมื่อ
“ คุณก็เลยต้องรับเป็นพ่อของเดียร์ “


“ ใช่ มันไม่มีทางอื่น ถ้าเป็นคุณจะทำยังไงกับสถานการณ์อย่างนั้น “
ระเด่นมนตรีคิดว่านั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่จะรักษาเกียรติของจินตะ หรา สภาพของหญิงสาวที่เขาเห็นมาตั้งแต่เล็ก ผอมบางพร้อมจะปริร้าวได้ทุกเมื่อ
“ แต่ว่าแบรนดอนเขาบอกว่าว่าเขามาเจรจาเรื่องคุณจินนี่กับเดียร์ดีๆแล้วนะคะ “
บุษบาพยายามอธิบายให้เขาฟังตามเหตุผลที่ได้ยินมาจากเจ้าตัว แต่นั่นกลับยิ่งเพิ่มเชื้อไฟในดวงตาเขามากขึ้น


“ เจรจาเหรอ... ผมว่ามันมาฟาดหัวฟาดหางจะเอาเสียให้ได้มากกว่า หมอนั่นมันไม่เป็นผู้ใหญ่พอที่จะดูแลใครได้หรอก เอาแต่อารมณ์ไม่ฟังเหตุผล “
ระเด่นมนตรีนึกถึงใบหน้าของจินตะหราวันที่น้ำตาปริ่ม เมื่อรู้ว่าเขาไม่ให้หล่อนไปพบแบรนดอน ถ้อยคำต่อว่าต่อขาน การอาละวาดทะเลาะกันเสียใหญ่โต เขาบอกตัวเองว่าเขากำลังปกป้องคนสำคัญอยู่


“ คุณคิดเหรอว่าเรื่องรักระหว่างเจ้านักร้องกับจินนี่จะจบลงด้วยดี ทุกอย่างมันไม่ลงเอยสวยหรูเหมือนในนิยายหรอก ถ้าผมให้จินนี่ไป ผมจะตอบคำถามคนอื่นว่ายังไง คำถามที่จะย้อนกับมาสู่จุดเริ่มต้น แล้วก็จะไม่มีใครมีความสุขเลย “
เสียงเขาเงียบไปแล้วพร้อมกับอาการนิ่งอึ้งของบุษบา


“ ผมชินเสียแล้วกับความโชคร้ายในเรื่องความรัก แต่จินนี่เขาเปราะบางแล้วก็สำคัญกับผมมาก ผมแค่อยากรักษาคนสำคัญของเอาไว้ ผมผิดด้วยเหรอคุณบุษบา “
คำถามนั้นทุ้มลึกสายตาของเขาทอดมองมายังหล่อน สายตาแบบเดียวกับเมื่อคืนนี้ เว้าวอนและเศร้าสร้อย


“ ฉันไม่รู้สิคะ “
บุษบาวาบอยู่ในใจ ความจริงของเหรียญอีกด้าน ทุกคนมีเหตุผลในใจกับการกระทำของตนเองทั้งนั้น
“ ผมแค่อยากให้ทุกคนมีความสุข จินนี่ เดียร์ ทุกคนในไร่ ถ้าทุกคนมีความสุข ผมก็พลอยมีความสุขไปด้วย “
เขาคราง ดวงตานั้นไหวระริก


“ ชีวิตผมคงจะโดนคำสาปจริงๆนั่นแหละ ทุกคนถึงทิ้งผมไป ทั้งจินนี่ เดียร์ ทั้งๆที่ผมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพวกเขาแล้วนะ คุณบุษบา แล้วคุณจะทิ้งผมไปหรือเปล่า “
ระเด่นมนตรีไม่พูดเปล่าแต่คราวนี้รั้งแขนหล่อนเข้ามาใกล้ สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ


“ ผมจะมีโอกาสมีความสุขไหม? “
แม้จะเมาอยู่แต่ระเด่นมนตรีก็ยังเป็นผู้ชาย แรงเยอะ บุษบาพยายามดึงแขนหนีสถานการณ์หมิ่นเหม่
แต่ก็ไม่เป็นผล อีกมือหนึ่งของเขาคว้าตัวหล่อนเข้ามาไว้ในอ้อมกอด หญิงสาวตาเหลือกอ้าปากเหวอ
...หล่อนกำลังจะโดนลวนลาม ทำอย่างไรดี นี่ก็ห้องเขาเอง!


“ คุณบุษบาอยู่เป็นเพื่อนผมก่อน ในฝันก็ยังดี ผมไม่อยากอยู่คนเดียว “
เขารวบตัวหล่อนมาไว้บนเตียง ดันให้นอนลงท่ามกลางอาการขัดขืนของร่างโปร่งบาง
“ นายระเด่นคะปล่อย “
แม้หล่อนจะพลักไสเขาเพียงใดที่คนตรงหน้าดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สา กลับซบใบหน้าลงบนกลุ่มผมดำยาวของคนในอ้อมกอด


“ ขอร้องเถอะครับคุณบุษบา แม้แต่ในฝันคุณก็ยังรังเกียจผมหรือนี่ ผมอุตส่าห์เล่าความจริงให้คุณฟังแล้วนะ
คุณเข้ามาในฝันของผมเอง “


หญิงสาวชะงักกับคำพูดงึมงำปริศนาของเขา ระเด่นมนตรีกอดหล่อนเอาไว้แน่น ลมหายใจอุ่นร้อนปนกลิ่นแอลกอฮอล์ที่หล่อนสัมผัสได้จากกลางกระหม่อม
สักพักหนึ่งเสียงกรนเบาๆก็ดังขึ้น
ระเด่นมนตรีพูดถึงฝัน แล้วตอนนี้เขาก็นอนหลับ หรือว่าเขาละเมอ?


บุษบาตัวแข็งทื่อก่อนที่จะค่อยๆดันมือเขาออก ชายหนุ่มครางอะไรอือออก่อนที่จะพลิกตัวไปอีกทาง
หญิงสาวใจยังเต้นระส่ำไม่หาย คนตรงหน้าหลับสิ้นฤทธิ์ไปแล้ว แสดงว่าทั้งหมดที่หล่อนเห็น
ทั้งหมดที่เขาพูดเป็นแค่การละเมอ เผลอตัวไปทั้งหมด บุษบารีบออกไปจากห้องเขาทันที
คำพูดของคนเมา ละเมอ สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จะเชื่อได้สักแค่ไหน...


“ นายระเด่นเป็นยังไงบ้างครับคุณบุษบา “
หญิงสาวสะดุ้งเฮือก เสียงทุ้มมีอายุ เมื่อหันไปก็พบกับลุงสุข คนอายุมากกว่ามายืนอยู่หน้าห้องระเด่นมนตรีตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้


“ เป็นยังไงบ้างครับ วันนี้นายระเด่นจะไปไร่ไหวไหม? “
ชายสูงวัยถามน้ำเสียงราบเรียบ สายตาที่มองมานั้นอบอุ่นอ่อนโยน แต่บุษบากลับรู้สึกเหมือนสายตาของผู้ใหญ่ที่มองเด็กกำลังทำความผิด


“ แกเล่นดื่มเหล้าโต้รุ่งอย่างนี้ ถึงยังหนุ่มยังแน่นก็ไม่ไหว จะพาลน็อคเอา “
ลุงสุขบอกยิ้มๆ
“ ลุงสุขรู้เหรอคะ”
หล่อนกำลังภาวนาให้ลุงสุขไม่ได้ยินการละเมอลวนลามอันแสนทำให้ใจเต้นของระเด่นมนตรี


“ ครับ ปรกติทุกคนจะไม่เข้าไปยุ่งกับนายระเด่น แกกินเหล้าเองก็ลุกขึ้นไปนอนเองได้ แต่คราวนี้หนักหน่อย “
เสียงของชายสูงวัยกดลึกในประโยคท้าย กินความนัยที่บุษบานิ่วหน้า ระเด่นมนตรีให้ความเคารพลุงสุขอยู่ในฐานะคนเก่าแก่ บางทีชายสูงวัยอาจจะรู้เรื่องทุกอย่างระหว่าง ระเด่นมนตรี จินตะหรา และแบรนดอนมาตลอดก็ได้


“ ความสุขของแต่ละคนมันต่างกันนะครับ บางทีความสุขที่เราเห็นว่าสุข ถ้าเอาไปให้คนอื่นอาจจะเป็นทุกข์ก็ได้ “
เสียงลุงสุขเป็นปริศนา แต่หล่อนพอจะเดาออก ...นั่นคงเป็นเรื่องของระเด่นมนตรี เรื่องที่ทำเขากำกับชีวิตคนอื่นทั้งหมด


“ ทุกคนแค่อยากให้คนที่ตัวเองรักมีความสุข แล้วตัวเองก็จะได้สุขด้วย...ก็เท่านั้นแหละครับคุณบุษบา ถ้าคุณรู้เรื่องอะไรดีแล้ว ก็อย่าไปโกรธนายระเด่นเลย “


ต๊ะอาหารเช้าวันนี้ว่างเปล่า ไร้เงาเจ้านายผู้ชายของบ้านทั้งระเด่นมนตรี สังฆาและวิทยากร
“ นายระเด่นเป็นไข้ครับคุณบุษบา “
เปรมมาบอกหล่อนเมื่อยามสาย
“ ลุงสุขโทรตามหมอมาดูอาการแล้ว “
เด็กหนุ่มยังรายงานต่อ หล่อนสอนเดียร์วาดรูปผลไม้อยู่ในห้องนั่งเล่น
“ แล้วคุณสังฆากับคุณวิทยากรล่ะ “


“ คุณสังข์ทำงานอยู่ในห้องครับ ส่วนคุณวิทเข้าไร่ไปแล้ว “
เปรมรายงานพร้อมกับหลบสายตาแปลกๆก่อนที่จะออกไปช่วยลุงทองทำงาน
สักพักเสียงเอะอะพร้อมกับเสียงรถยนต์ก็ดังขึ้นหน้าบ้าน


เสียงคนทุ่มเถียงกันเป็นภาษาอังกฤษ ใจของหญิงสาวหล่นวูบเมื่อคิดได้ว่า
ในสถานการณ์เช่นนี้ชาวต่างชาติคนเดียวที่จะเข้ามาในไร่อสัญคือแบรนดอน
หล่อนจึงสั่งให้เดียร์อยู่ในห้องนี้อย่าออกไปไหน บุษบาปดว่าจะไปหาของกินเล่นมาให้
ร่างสูงโปร่งรีบแล่นตามเสียงไปทันที สังฆาและแบรนดอนยืนหน้าหงิกกันอยู่
ใบหน้าของน้องชายระเด่นมนตรีมีรอยช้ำเหมือนโดนต่อย


“ คุณพี่เลี้ยงเด็ก “
เสียงหนุ่มผมทองยินดีมากที่พบหล่อน ชายหนุ่มคิดว่าทั้งไร่นี้มีหล่อนคนเดียวที่คุยรู้เรื่อง เป็นมิตรกับเขาที่สุด
“ ผมมาหาเดียร์ วันนี้ผมเอาเกมเพล์ยมาให้แก เห็นแกบอกว่าไม่เคยเล่นเลย นายระเด่นไม่ยอมให้เล่น “
ปลายเสียงนั้นจงใจแขวะนิดๆ สังฆายิ่งหน้าตึง


“ อย่ามาทำให้เด็กเสียนิสัยน่า หล่อนเกมมากๆเดี๋ยวจะกลายเป็นพวกเพ้อเจ้อ งี่เง่า “
สังฆาว่าต่อหน้า เป็นผลให้แบรนดอนเม้มปากเตรียมจะยึกเข้าหา บุษบาต้องรีบเข้ามาห้ามในทันใด


“ ค่ะ งั้นมาทางนี้ค่ะแบรนดอน เดียร์อยู่ทางนี้ “
หล่อนรีบบอกเพื่อจะดึงเขาออกจากสถานการณ์ที่ตึงเครียด


“ นายระเด่นไม่เคยบอกกฎของไร่ที่นี่เลยหรือไงคุณบุษบา ห้ามพาคนนอกที่นายระเด่นไม่อนุญาตเข้ามาในไร่ “
หนุ่มแว่นขาหักแทรกขึ้น เขาจงใจพูดเป็นภาษาอังกฤษสมนาคุณให้คนผมทองรับรู้ด้วย ทำเอาหล่อนชะงัก
“ นายระเด่นไม่ชอบคนแหกกฎ คุณก็รู้นี่ “


“ แต่เราควรมีมารยาทนะคะ ไหนๆเขาอุตส่าห์มาแล้ว อีกอย่างนายระเด่นคงอนุญาตให้เขาเข้ามาในไร่ ไม่อย่างนั้นยามหน้าประตูคงไม่เปิดให้หรอกจริงไหมคะ? “
บุษบาโต้ตอบเป็นภาษาไทยเพื่อไม่ให้แบรนดอนรู้ความ หล่อนนึกเคืองอยู่หน่อยๆกับผู้ชายไร่นี้
ที่ช่างกีดกันดีเหลือเกิน เป็นแพทเทรินเดียวกันหมด


“ นั่นเพราะมีคนของเรามันเป็นหนอนบ่อนไส้น่ะสิ “
สังฆาปรายไปทาง “ หนอน “ ที่ขับรถเข้ามา วิทยากรลงจากรถเดินตรงมาที่ทั้งสาม ใบหน้าของเขามีรอยฟกช้ำเช่นกัน


“ นายก่อเรื่องอีกแล้วนะ “
ดวงตาของหนุ่มแว่นวาววับ ขณะที่ผู้มาใหม่เพียงแต่หัวเราะหึๆในลำคอ
“ ไปหาเดียร์กันเถอะ คุณพี่เลี้ยง “
แบรนดอนพุ่งขึ้นมาในบ้านและลากหล่อนลิ่วๆไป


“ เดี๋ยวก่อน “
สังฆาร้องลั่นเขยกไม้ค้ำจะตามไปแต่ทว่าวิทยากรรีบมาห้ามไว้เสียก่อน
“ คนที่จะตัดสินเรื่องทั้งหมดคือนายระเด่นนะครับ คุณสังข์ “


“ แก ไอ้คนทรยศ รู้ทั้งรู้ว่ามันจะมาเอาเดียร์ไปแกยังทำอย่างนี้อีก นายระเด่นแกมีบุญคุณกับแก
ตั้งขนาดนี้แล้วแกยังทำได้ลงคออีกเหรอ แกอยากเห็นนายระเด่นเสียใจอีกหรือไง “
ชายหนุ่มบริภาษคนผมดก ช่วงที่ระเด่นมนตรีไม่ให้จินตะหราพบกับแบรนดอน วิทยากรเป็นคนแอบส่งข่าวให้หนุ่มผมทองตลอด จนสังฆาจับได้ แต่ระเด่นมนตรีก็กลับไม่ลงโทษอะไรวิทยากรเลย


เช่นเดียวกับที่วันนี้ การเข้ามาในไร่ของแบรนดอนได้อย่างง่ายดาย คงเป็นฝีมือของหนุ่มผมดกรูปหล่อตามเคย ทำให้สังฆาหงุดหงิดเป็นที่สุด ตั้งแต่เด็กสังฆารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอกตระกูลมาตลอด


พ่อแท้ๆของเขาเป็นเพื่อนสนิทของพ่อเลี้ยงระเด่นมนตรี พ่อแท้ๆของเขาเสียชีวิต พ่อเลี้ยงของระเด่นมนตรีจึงรับเขาเป็นลูกบุญธรรม
ก่อนที่จะแต่งงานกับมาดามแม่ของระเด่นมนตรี สถานะของเขายิ่งง่อนแง่นเมื่อมาดามตั้งท้องลูกอีกคน
พื้นฐานครอบครัวระเด่นมนตรีนั้นก็มีฐานะอยู่แล้ว สังฆาจึงกลายเป็นหมาหัวเน่าที่ทุกคนคิดว่าจะถูกดีดออกจากตระกูลไม่ช้าก็เร็ว


แต่ทว่าระเด่นมนตรีกลับทำให้เขามีที่ยืนอยู่ในตระกูล ชายหนุ่มดูแลเขาเท่าเทียมกับน้องชายจริงๆ ให้เกียรติ และยกงานให้ดูแล ระเด่นมนตรีเป็นคนยุติธรรมเสมอ
“ นายลองทำงานในบริษัทดูก่อนสิ พิสูจน์ฝีมือหน่อย คนเราชาติกำเนิดมันไม่สำคัญ มันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมแล้วก็ความสามารถมากกว่า “


เพราะการช่วยเหลือและหนุนหลังอย่างเต็มที่
สังฆาจึงกลายเป็นทายาทคนหนึ่งในตระกูลอย่างสมศักดิ์ศรี
ทุกคนให้การยอมรับ สำหรับสังฆาแล้วระเด่นมนตรีคือพี่ชายสุดที่รักของเขาอย่างแท้จริง
ไม่ว่าอะไรเขาก็ทำให้พี่ชายคนนี้ได้


การเข้ามาของวิทยากรนั้นทำให้เขาไม่ชอบใจ
คนผมดก หน้าหล่อ ไว้ใจไม่ได้ ทำอะไรพี่ชายเขาก็ไม่เคยว่า
แม้แต่เรื่องของจินตะหราก็ตาม นั่นยิ่งทำให้เขานึกเคืองและคอยจับตาดูลูกน้องคนนี้ของพี่ชายอยู่เสมอ
พี่ชายเคยปกป้องเขาเมื่อยามเล็ก ตอนนี้ถึงคราวเขาจะปกป้องพี่ชายบ้างแล้ว...


“ พี่บุษบาตามให้ทันสิ “
เสียงเดียร์ตะโกนมาจากท้ายหลังรถจักรยานที่นั่งไปกับแบรนดอน เด็กชายหัวเราะเอิ๊กอ๊ากที่หนุ่มผมทองพาขี่จักรยานฉวัดเฉวียน บุษบาขี่จักรยานไล่ตามหลังอยู่ห่างๆ ผู้ชายแรงดีกันอยางนี้ทุกคนหรือเปล่า?
แบรนดอนแม้ว่าจะผอมท่าทางสำอางแต่กลับขี่จักรยานปาดซ้ายปาดขวาเป็นที่ ถูกใจนักซิ่งตัวจิ๋วเช่นเดียร์ยิ่งนัก


หล่อนเห็นอย่างนี้แล้วก็ดีใจที่เสนอความคิดให้ทั้งสองมาขี่จักรยานกัน เพราะแรกทีเดียวแบรนดอนจะพาเดียร์ออกไปข้างนอกไปซื้อเกมเพล์ยอีกเครื่อง หญิงสาวรู้โดยทันทีว่าผู้ชายในไร่นี้ไม่ยอมแน่


แบรนดอนบ่นแสดงอาการไม่พอใจทันที ชายหนุ่มแสดงท่าทางเอาอกเอาใจและพูดจาแสดงความสัมพันธ์แบบพ่อลูกกับเดีย ร์เต็มที่ สักวันหนึ่งความลับต้องแตก แต่หล่อนคิดว่ามันยังไม่ใช่เวลานี้ อย่างน้อยก็ในสถานการณ์ไร่อสัญที่กำลังมาคุ


“ แล้วผมจะบอกคุณวิทกับคุณสังข์เองครับ “
ลุงสุขอาสาตอนที่หล่อนเดินตามหาหนุ่มแว่น เพื่อจะขอพาเดียร์ออกไปขี่จักรยาน นายระเด่นป่วยอยู่คนที่ใหญ่สุดในไร่ตอนนี้ก็น่าจะเป็นเขา


“ พี่บุษบาทางนี้ “
เด็กชายโบกมือหยอยๆจากใต้ร่มไม้ใหญ่ริมทาง แบรนดอนหยุดรถจักรยานเพื่อคุยโทรศัพท์
“ เดียร์พาแบรนดอนไปดูโรงเลี้ยงวัวได้หรือเปล่าครับ “
คนตัวป้อมบอกตาใสแจ๋ว บุษบาไม่ขัด หนุ่มผมทองตัดสายโทรศัพท์มือถือแล้ว พร้อมกับกดปิดเครื่อง
แวบหนึ่งหล่อนเห็นรอยกังวลปรากฏก่อนที่จะปรับสีหน้าเป็นร่างเริงปรกติ


“ ไปไหนกันต่อล่ะ จะพาฉันไปเที่ยวส่วนไหนของฟาร์ม “
เดียร์จึงรีบชวนเขาไปที่โรงเลี้ยงวัว เด็กชายอธิบายอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับไร่และสัตว์ทั้งหมด



“ แด๊ดดี้ของเดียร์เก่งที่สุดเลย ลุงสุขเล่าว่าตอนที่แด๊ดดี้ซื้อที่นี่ใหม่ๆที่นี่แห้งแล้งอย่างกับทะเลทราย แต่แด๊ดดี้ก็ทำให้มันเป็นฟาร์มเขียวๆขึ้นมาได้ “
ท่าทางภูมิใจนั้นทำให้แบรนดอนหมั่นไส้ เขาเสียจินตะหราให้ระเด่นมนตรีแล้ว คราวนี้เขาไม่ยอมเสียเดียร์ให้คนหัวโล้นนั่นอีกครั้งหรอก


“ รู้หรือเปล่าว่าต้นกำเนิดฟาร์มมาจากตะวันตก ฉันก็มีโครงการจะซื้อฟาร์มใหญ่ๆแบบที่เธอเคยเห็นในหนังคาวน์บอยไง “
เด็กชายตาโตกับคำอวดนั้น แบรนดอนจะซื้อแน่ถ้าเดียร์ต้องการ ตอนนี้เขามีทุกอย่างและพร้อมจะดูแล หาสิ่งที่ดีที่สุดมาปรนเปรอเลือดเนื้อเชื้อไขของเขากับหญิงอันเป็นที่รัก


“ จริงเหรอฮะ คุณจะให้ซื้อจริงเหรอ ถ้าซื้อแล้วส่งรูปมาให้ผมดูหน่อยนะฮะ “
ดวงตานั้นเป็นประกาย เวลาเดียร์ยิ้มช่างเหมือนกับจินตะหราผู้ล่วงลับเสียเหลือเกิน


“ แค่รูปมันไม่พอหรอก มันต้องได้เห็นเอง ได้สัมผัส “
แบรนดอนล่อหลอก เด็กชายแสดงอาการว่ากำลังตกหลุมพรางจนหญิงสาวแกล้งกระแอม แบรนดอนฉวยโอกาสตอนที่ระเด่นมนตรีไม่สบายทำคะแนนให้เดียร์ชอบใจเสียแล้ว หล่อนว่ามันไม่ยุติธรรมเสียเลย
เอ...แล้วหล่อนไปห่วงเขาทำไมกันล่ะ!

“ เธออยากจะเห็นฟาร์มของฉันที่จะซื้อไหมล่ะ “
ชายหนุ่มผมทองถามยิ้มๆไม่สนใจการขัดคอของหล่อน
“ ไปฮะ แต่ขอพาแด๊ดดี้กับพี่บุษบาไปด้วยนะฮะ ไปกันหลายๆคนสนุกดี “
เด็กชายตอบตามประสาซื่อ แบรนดอนทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอไม่พอใจ
พูดมาพูดไปเด็กชายก็ยังคิดถึงแต่พ่อกำมะลออยู่ดี


ไม่เป็นไร...เขาให้ทีมทนายเตรียมฟ้องเอาเดียร์มาอยู่ในความดูแลอยู่แล้ว
เด็กๆลืมง่าย ถ้าเจอสภาพแวดล้อมใหม่ๆเจอสิ่งแปลกตาสักพักก็จะลืมเรื่องไร่นี้ไป ทุกอย่างควรกลับคืนเป็นของเขา สิทธิ์ของเขาที่ควรจะได้รับ ระเด่นมนตรีนั่นแหละเป็นคนผิด ที่แย่งทุกอย่างของเขาไป


บ้านช่วงกลางวันช่างเหงียบเหงา เมื่อบุษบา เดียร์และแบรนดอนขี่จักรยานกลับมา รถญี่ปุ่นคันหนึ่งจอดข้างๆ
รถของแบรนดอน


“ ใครมาเหรอเปรม “
หญิงสาวถามเด็กหนุ่มที่นั่งปอกฟักทองเดียวดายอยู่ในครัว
“ รถหมอที่มาดูอาการนายระเด่นครับ “
ร่างสูงโปร่งเหลียวซ้ายแลขวา บ้านเงียบผิดปรกติ ไม่เห็นลุงทองหรือบรรดาบอดี้การ์ดของสังฆาเลย


“ ลุงทองไปซื้อของในตลาดครับ ส่วนคนอื่นก็ไปไร่กันหมด “
เด็กหนุ่มตอบเมื่อเห็นอาการหล่อน
“ คุณสังข์ก็ไปไร่ด้วยเหรอ “


“ ครับ “
เปรมตอบเบาๆ เด็กหนุ่มไม่บอกคุณบุษบาหรอก ว่าอาการของสังฆากับวิทยากรเหมือนกับไก่ชนจะลงสนาม
กางแผงคอเตรียมจะตีกันอีกรอบ เปรมรู้อยู่ว่าสองคนนี่ไม่ถูกกัน


“ เด็กสองคนตีกันแย่งพี่ชาย “
ลุงสุขกับลุงทองบ่นกันสองคนบ่อยๆ ลุงสุขเคยเผลอหลุดปากว่าสังฆาติดพี่อย่างนายระเด่นมาก
ขณะเดียวกันวิทยากรก็นับถือนายระเด่นเหมือนพี่ชาย
สองคนนี่ก็เลยแย่งกันเป็นน้องคนโปรดของเจ้าของไร่หัวโล้น
เปรมไม่เข้าใจ ไม่รู้จะแย่งกันทำไม ยังไงนายระเด่นก็รักและดีกับทุกคนอยู่แล้ว


“ พี่บุษบาฮะเดียร์หิวแล้ว กินข้าวกลางวันเลยได้ไหมฮะ “
เด็กชายวิ่งเข้ามาคลอเคลียร์ แบรนดอนเดินยิ้มมาตามหลัง หญิงสาวเดาได้ว่าเขาคงยังไม่ยอมกลับง่ายๆแน่
กับข้าวเมื่อเช้านี้เป็นผัดผักบุ้ง ไข่เจียว กับแกงเลียงหยวกกล้วยที่ยางกล้วยออกมาเสียจนหม้อเป็นสีม่วงดำ
เดียร์บ่นเรื่องสีแกงนี้ตั้งแต่เช้าถึงแม้ว่ารสชาติจะอร่อยก็ตาม


“ ไปนั่งดูทีวีก่อนไป เดี๋ยวพี่ทำข้าวกลางวันให้นะครับ “
คนตัวป้อมยิ้มร่าเมื่อจะได้ลิ้มรสอาหารจากฝีมือบุษบาอีกคราว รีบกลับไปนั่งดูทีวีตามที่หญิงสาวบอกในทันใด


สาเหตุที่หล่อนทำอาหารกลางวันให้เป็นพิเศษ ก็เพราะว่าไม่อยากให้แบรนดอนค่อนแคะได้ว่าระเด่นมนตรีเลี้ยงเดียร์ไม่ดี ให้กินอะไรประหลาดๆ ในสายตาชาวต่างชาติแล้วการกินแกงเลียงหยวกกล้วยนี่คงเป็นอาหารที่อนาถน่าดู


คนเรามักจะตัดสินคนจากประสบการณ์ของตนเอง อย่ากระนั้นเลย ทำอาหารที่ปลอดภัยไว้ก่อน
ดูดีและไม่ยากจนเกินไป บุษบาจึงทำผัดหมี่ผักรวมจากส่วนประกอบที่มีในครัว ขณะที่กำลังเจียวกระเทียมอยู่นั้นเอง ร่างหนึ่งก็มาด้อมๆมองๆ


“ อ้าว คุณหมอ ตรวจนายระเด่นเสร็จแล้วเหรอครับ “
เปรมทักผู้เข้ามาในครัว หมอจัตวาหน้าขาวยืนยิ้มแป้นอยู่
“ ครับ เสร็จแล้ว ผมจัดยาไว้ให้นายระเด่นบางส่วนแล้ว ถ้ามีอาการอีกก็ให้ใครโทรหาผมก็ได้ “
โชคดีจริงๆที่เขาได้เรื่องคุยถ่วงเวลากับระเด่นมนตรี รอให้บุษบากลับมาจากไร่ ถ้ามาไม่เจอสาวที่พึงใจ
ก็เสียเที่ยวกันพอดี


หมอจัตวาอุตส่าห์ติดสินบนหมอที่รู้จักกันในอำเภอ และเป็นหมอที่เข้ามาดูแลอาการเจ็บป่วยของคนในไร่อสัญประจำ ให้ส่งข่าวมาบอกหากคนในไร่ไม่สบาย แล้วเขาจึงรีบอาสามารักษาให้


“ เดี๋ยวให้นายระเด่นทานอาหารกลางวัน ทานยาแล้วก็พักผ่อนได้เลยครับ ว่าแต่คุณบุษบาทำอะไรครับเนี่ย
หอมไปทั่วบ้านเลย “


“ ทำผัดหมี่ค่ะ อาหารกลางวัน ทำให้เดียร์ “
บุษบายิ้มตอบตามมารยาทพลางหันไปเจียวกระเทียมต่อ
“ โอ้โห นอกจากจะทำขนมหวานเก่งแล้ว ยังชำนาญอาหารด้วยเหรอนี่ แหม งั้นดีเลยนะครับ ผมขออนุญาตฝากท้องหน่อยได้ไหมครับ “
หมอจัตวารุกต่อ วันนี้ช่างโชคดีเหลือเกิน นอกจากเจอหล่อนให้ใจชุ่มฉ่ำ แล้วยังได้ชิมรสอาหารจากหญิงสาวให้อิ่มท้องอีกด้วย


“ เอาสิคะ “
หญิงสาวหัวเราะคิกคักกับกระทะกระเทียมเจียว
“ ถ้าคุณหมอไม่รังเกียจ แต่ฝีมืออาหารคาวของฉันอาจจะไม่อร่อยเท่าของหวานนะคะ “
หญิงสาวออกตัวไว้ก่อน สามหนุ่มต่างจัดการอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย


บุษบาทำรสชาติกลางๆไม่เผ็ด
ใส่ผัก ใส่เนื้อเยอะหน่อย ส่วนน้ำซุปก็กรองเอาน้ำซุปจากแกงเลียงเปลือกกล้วยมาให้
สองหนุ่มทำหน้าประหลาดใจตอนที่เห็นน้ำซุปสีแปลก


“ ขอโทษค่ะ บังเอิญรีบไปหน่อยก็เลยไม่ได้เตรียมน้ำซุปแบบจีน นั่นน่ะเป็นน้ำซุปของแกงกล้วยค่ะ “
หล่อนอธิบายเป็นภาษาอังกฤษใช้ถ้อยคำที่รื่นหู หลีกเลี่ยงการบอกส่วนประกอบที่สำคัญ
ขืนบอกว่าหยวกกล้วยล่ะก็ คงอธิบายหนุ่มผมทองอีกยาว
ระหว่างมื้ออาหารกลางวันบุษบาเดินกลับมาที่ครัวอีกครั้งเพื่อหาของหวานมาให้ทุกคนล้างปาก
ที่นั่นเปรมกำลังตักข้าวต้มใส่ชามอยู่
สักพักเด็กหนุ่มก็มาพยักเพยิดให้หล่อนออกมาจากโต๊ะอาหาร



“ นายระเด่นอยากพบคุณบุษบาครับ “
“ เรื่องอะไรล่ะเปรมรู้ไหม? “
หล่อนนิ่วหน้า เขามีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับหล่อนอีกหรือ
“ ผมไม่ทราบครับ นายระเด่นให้มาบอกแค่นี้ นายแกฝากบอกด้วยว่าด่วนด้วยครับ “
บุษบาจึงจำต้องขึ้นไปหาเขาที่ด้านบนทันที


ระหว่างทาง แต่ละก้าวใจก็เต้นตึกตักแปลกๆ เมื่อเช้าเขาละเมอแบบถึงเนื้อถึงตัวกับหล่อน
เขาแค่ละเมอ...เขาแค่ละเมอ บุษบาท่องไว้ในใจ หล่อนไม่ควรใจเต้น หวั่นไหวเอากับเหตุเช่นนี้
ระเด่นมนตรีไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไป
มันเป็นเหตุสุดวิสัย ความประจวบเหมาะของเหตุการณ์เท่านั้น...จริงๆ
แม้สมองจะบอกเช่นนั้น แต่ใจเจ้ากรรมก็ยังเต้นระรัวไม่หาย


“ ทุกคนเป็นหัวเผือกหัวมัน “
คำสอนของพอลล่าดังขึ้นมาในหัว ตอนที่หล่อนใจเต้นจะเป็นจะตายกับการประกวดนางงาม ท่ามกลางสายตาคนตั้งมากมาย แค่ใจเต้นกับเหตุสุดวิสัยกับเจ้านายหัวโล้นทำไมจะผ่านไปไม่ได้


“ นายระเด่นเป็นราชาหัวเผือก “
บุษบาเผลอท่องออกมาอย่างลืมตัว ก่อนที่จะผลักประตูห้องนอนเขาเข้าไป


ระเด่นมนตรีนอนหลับอยู่บนเตียง ผ้าห่มคลุมแค่เพียงอก หญิงสาวโล่งใจเพราะมีเหตุที่จะต้องไม่พบหน้าเขาแล้ว จึงหันหลังกลับแต่ทว่า...


“ คุณบุษบา “
เสียงทุ้มของเขาเรียกหล่อนไว้ เขาลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว ดวงตามีรอยยาวแดงๆของเส้นเลือดเหมือนคนอดนอนหรือไม่ก็...กำลังโกรธใคร


“ นายระเด่นให้คนไปตามฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ “
บุษบาบังคับเสียงให้นิ่งที่สุด เลี่ยงที่จะไม่มองหน้าเขา จึงเห็นเพียงหน้าอก นั่นยิ่งทำให้ใจประหวัดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าไปใหญ่ ระเด่นมนตรีใส่เสื้อป่านแขนสั้นนอน กระดุมสามเม็ดบนเสื้อเปิดทั้งหมด เผยให้เห็นอกขาวแข็งแรงตัดกับผิวนอกร่มผ้าที่คล้ำแดด


“ ทำข้าวต้มให้ผมใหม่หน่อย เอาให้มีรสชาติ ไม่ใช่เป็นช้าวต้มกับน้ำ ใส่เกลืออย่างของลุงทอง “
เขาบุ้ยปากไปทางชามข้าวต้มในถาดข้างโต๊ะหัวเตียง บุษบาเห็นข้าวต้มที่อยู่ในหม้อตั้งแต่ในครัวแล้ว
หล่อนว่ามันก็เหมาะสมกับคนป่วยดี


“ ผมไม่ชอบ มันไม่มีรสชาติ คุณไปทำมาใหม่หน่อย เร็วด้วย ผมหิว “
เขาสั่งหน้าตาเฉย คำสั่งที่ดึงบุษบากลับมาจากอาการใจเต้น คำสั่งที่ย้ำเตือนถึงฐานะของหล่อน
...ลูกจ้างกับเจ้านาย


“ ค่ะ รอสักครู่นะคะนายระเด่น “
หญิงสาวยกถาดใส่ชามข้าวต้มเดินออกไปข้างนอกทันที รู้สึกจุกในอก หน้าชา
ยืนนิ่งอยู่หน้าห้องเขาหลายวินาที


หล่อนหวังอะไรอยู่หรือ...
หวังว่าเขาจะจำเรื่องเมื่อเช้าได้
หวังว่าจะได้รับการปฏิบัติอย่างอ่อนโยนจากเจ้าของไร่หัวโล้น
หรือหวังว่าเขาจะเปลี่ยนท่าทีมาสนใจหล่อน


คำพูดยามเมา อ้อมกอดยามละเมอ
แม้ใครจะเคยบอกว่าเวลาเหล่านั้นคือเวลาปลดปล่อยของจิตใต้สำนึก
คำพูด กริยา ที่ไม่อาจจะแสดงได้ในยามปรกติ
บางทีสำหรับระเด่นมนตรีแล้วมันอาจไม่มีความหมายเลยก็ได้
จิตใต้สำนึกของเขาคงจะทำเช่นนั้นได้อย่างหน้าตาเฉยกับใครก็ได้ ที่เดินผ่านมา
คิดได้ดังนั้นบุษบาก็สูดลมหายใจเดินลงไปเข้าครัว ทำหน้าที่ลูกจ้างของตนเองต่อไป


ถ้าหล่อนจะเหลียวหลังสักนิดก่อนออกมาจากห้อง หญิงสาวคงจะได้เห็นแววตาเจ็บปวดจากระเด่นมนตรี


เมื่อเช้านี้เขาตื่นมาพร้อมอาการหัวหนักอึ้ง ดื่มหนักจนสติเลอะเลือน
กลับมานอนที่เตียงของตัวเองตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
รู้แต่เพียงเขาฝันดี ฝันว่าได้สารภาพความผิดกับบุษบา หล่อนรับฟังเขา ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
ในฝันเขาได้กอดร่างโปร่งบาง ผิวหล่อนนุ่ม กลิ่นของแชมพูหอมอ่อนๆยังติดอยู่ที่จมูก


ระเด่นมนตรีถอนหายใจเบาๆ นึกค่อนแคะตัวเองว่าคงจะเครียดเรื่องต่างๆมากไป
จึงฝันได้อย่างวาบหวามเช่นนี้ บุษบายังคงระยะห่างกับเขาเหมือนเดิม
ยิ่งมาเกิดเรื่องเดียร์กับแบรนดอนคะแนนของเขาคงตกกราวรูด


“ ผมโทรตามหมอมาให้แล้วครับนายระเด่น นอนพักให้สบายเถอะครับ “
ลุงสุขเข้ามาบอกพร้อมกับยิ้มแปลกๆเขาตีความหมายว่าลุงสุขคงยิ้มล้อเลียนเขา
เรื่องที่ทำตัวเป็นวัยรุ่นอารมณ์ร้อนฉะฝีปากกับเจ้านักร้องหัวทองนั่นแน่ๆ


เขากับหนุ่มต่างชาติเคยถึงขนาดจะวางมวยกันอยู่บ่อยๆ สมัยที่จินตะหรายังมีชีวิตอยู่
หมอนั่นดึงดันจะพบกับจินตะหราให้ได้ทั้งๆที่เพิ่งมีข่าวคาวกับนักร้องสาวสุดเซ็กซี่
จินตะหราอ่านข่าวแล้วก็ซึมไปหลายวัน


“ พวกคุณเป็นคนประเภทเดียวกันอย่างไรเล่าครับ เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ “
ลุงสุขเคยให้ความเห็นพร้อมกับหัวเราะหึๆ เขาได้แต่หน้านิ่วคิ้วขมวด ถ้าไม่เห็นแก่ว่าลุงสุขเป็นคนเก่าแก่ที่อยู่กับพ่อแท้ๆผู้ล่วงลับของเขามา นาน คนที่พูดอย่างนี้กับเขาคงโดนตอกหน้าหงายไปแล้วแน่ๆ


“ คุณแบรนดอนมาน่ะครับ ตอนนี้ออกไปถีบจักรยานเล่น กับคุณบุษบา คุณเดียร์ “
ชายสูงวัยคนสนิทของบิดา รายงานข่าวที่เขาไม่อยากรู้เท่าไหร่


เดาได้ทันทีว่าคนเปิดประตูไร่ให้คงเป็นวิทยากรอีกนั่นแหละ หนุ่มผมดกใจอ่อนกับเรื่องพวกนี้
เพราะเรื่องรักๆใคร่ๆมิใช่หรือ ที่พัดพาให้วิทยากรออกจากบ้านทางใต้มาอยู่กับเขา
สังฆาคงเต้นเป็นเจ้าเข้าแล้วก็คงแอบไปฟัดกันอีกตามเคย


ในชีวิตของผู้ชายสักคน การมีศัตรูไว้ฟาดฝีปาก แลกหมัดกัน เป็นบางคราวก็ตื่นเต้นดีเหมือนกัน
เขาก็รู้ดีว่าทั้งสองไม่ได้เกลียดกันจนถึงขนาดจะฆ่ากันให้ตายเสียหน่อย


เสียงหัวเราะคิกคักของเดียร์จากหน้าบ้านทำให้เขายิ่งโมโหฉิว ดันมาป่วยเอาตอนนี้เสียได้
เจ้านักร้องตัวดีเลยมาเพ่นพ่านในไร่ นอกจากจะเอาใจลูกชายเขาแล้ว ยังทำท่าจะพ่วงเอาใจพี่เลี้ยงเด็กไปด้วย เมื่อหมอมาถึงเขาก็อยากจะลุกขึ้นอาละวาดนัก
วันนี้มันเป็นวันอะไรกัน คนที่เขาไม่ชอบหน้า ตบเท้าพาเหรดกันเข้ามาหมด


“ เดี๋ยวผมจัดยาให้นะครับนายระเด่น “
หมอจัตวาหน้าขาวบอกเสียงสั่นนิดๆ คนป่วยแผ่รังสีดำมิดหมีอย่างกับสัตว์บาดเจ็บ


“ พักสักสองสามวันก็หายครับ “
หนุ่มหน้าขาวปลอบและเตรียมจะลงไปข้างล่างเพื่อถามหาบุษบา ระเด่นมนตรีรู้ความคิดของคนตรงหน้าดีจึงได้แต่ยิ่งหงุดหงิด ก่อนที่จะคิดแผนบางอย่างได้


“ หมอมาก็ดีเลย ผมจะให้ดูฟันของลูกชายผมหน่อย เห็นแกบ่นว่าปวดอีกแล้ว แต่แกออกไปขี่จักรยานเล่นกับพี่เลี้ยง หมอจะรอหน่อยไหม “
เขาลองเชิง ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง หมอจัตวานั่งคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กับเขาอยู่นานสองนาน ระเด่นมนตรีจึงเกทับเรื่องขนมฝีมือบุษบาไปเล็กน้อย ยังไงก็ยังต้องใช้หมอจัตวาเป็นไม้กันหมาระหว่างบุษบาและแบรนดอน


เมื่อเปรมยกอาหารกลางวันมาให้พร้อมกับรายงานสถานการณ์ข้างล่าง ชายหนุ่มจึงเรียกพบบุษบามาพบ
ในฝันหล่อนอ่อนโยนกับเขา ยิ้มให้ เขากอดหล่อนแนบชิด
แต่นอกความฝันบุษบากลับไม่มองแม้แต่หน้าเขาเลย อาการเหมือนคนทำความผิด
หรือว่าหล่อนไปฟังอะไรจากเจ้าแบรนดอนมาอีกแล้ว...


ความหมายของคำพูด
“ ผมไม่ชอบ มันไม่มีรสชาติ คุณไปทำมาใหม่หน่อย เร็วด้วย ผมหิว “
ก็คือ ...เขาอยากทานอาหารฝีมือหล่อน อยากอยู่ใกล้ๆสักครู่
วันนี้เป็นวันที่กายและใจอ่อนล้า ขอเห็นหน้าหล่อนเป็นกำลังใจหน่อย
ใจน่ะคิดได้ ลอยเบาหวิวไปตามติดร่างโปร่งแล้ว
แต่ปากหนอปากทำไมมันถึงหนัก ...ผิดกับหัวใจเสียเหลือเกิน


++++++จบบทที่14




Create Date : 11 พฤษภาคม 2552
Last Update : 11 พฤษภาคม 2552 19:56:49 น. 0 comments
Counter : 266 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.