หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
30 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
Something sweet บทที่ 11...ดอกไม้ของนายระเด่น



*ใบเซียมซีที่ 11
ที่สิบเอ็ดเสร็จตัวไม่มัวหมอง เหมือนจันทร์ส่องผ่องใสในเวหา
ขี่เมฆลอยถอยพรากจากนภา ดูท้องฟ้าโชติช่วงเพราะดวงจันทร์
ผลสนองต้องตามความประพฤติ ที่คนยึดปางก่อนมาผ่อนผัน
ผลอันงามตามมีพอดีกัน ภายหน้านั้นเห็นดีจริงยิ่งอุดม
ความเดินแท้ไม่ลูกแสนถูกจิต สิ่งที่คิดบำเพ็ญเป็นเสร็จสม
ถามถึงคู่ร่วมใจว่าได้ชม ตามนิยมกาเมประเวณี
ทั้งพวกพ้องน้องที่ลูกหนี้จบ จะต้องพบแท้เที่ยงไม่เลี่ยงหนี
สิ่งที่เป็นลาภดีงามตามที่มี ความคดีสู้ได้ไม่แพ้เอย ฯ


ระเด่นมนตรีพับกระดาษผลเซียมซีไว้ในกระเป๋าสตางค์ ชายหนุ่มยิ้ม ผลออกมาดีเกินคาด
สัญญาณเริ่มต้นที่ดี บางทีคำสาปเรื่องผู้หญิงของเขาอาจจะคลาย
บุษบาขาแพลงจึงต้องอยู่ในบ้าน ชายหนุ่มให้วิทยาการโทรตามหมอในเมืองปากช่องมาดูอาการโดยระบุ
“ หมอคนอื่น เป็นผู้หญิงยิ่งดี แต่อย่าเป็นหมอจัตวา “
ชายหนุ่มแสดงอาการหวงก้างแบบไม่ปิดบังจนคนผมดกลอบยิ้ม พี่ชายมีอาการเยี่ยงนี้แล้วน้องชายเฉกเช่นสังฆานั่นเล่า คนขาหักแสดงอาการมองคุณโรสผู้มาใหม่ไม่วางตา


“ เดี๋ยวให้คนของผมพาคุณโรสไปส่งที่โรงแรมก็ได้นายระเด่น “
สังฆาอาสา ชายหนุ่มจะให้คนของเขาไปตามสืบด้วยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
“ ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอแค่ส่งคนไปดูรถให้หน่อยเท่านั้น น้ำมันหมด เติมน้ำมันก็คงไปได้แล้วล่ะคะ “
โรสยิ้มให้พอเป็นพิธี แม้หล่อนจะไม่นิยมผู้ชาย เรื่องมารยาทที่ดีก็ใช่จะละเลยไปเสียทีเดียว


“ พี่บุษบาคะ ว่างๆช่วยสอนโรสทำขนมหน่อยสิคะ โรสอยากทำเป็นบ้างเอาขนมเล็กๆน้อยๆก็ได้
จะได้เอาไปคุยว่ามีเชฟใหญ่สอนสูตรให้ “
ปากบางๆนั้นฉอเลาะ จนสังฆานึกแปลกใจ เขาแค่ขาหัก ใบหน้าส่วนบนก็ยังหล่ออยู่
แต่สาวเจ้าดูเหมือนจะไม่สนใจเลย อะไรๆก็พี่บุษบา เขาไม่ตรงสเปคหล่อนบ้างหรือไร?


กว่าคุณโรสจะกลับไปได้ก็ประมาณเก้าโมงเช้า หญิงสาวเหมือนเด็กๆช่างพูดช่างอ้อนและน่ารักสดใส
ผู้หญิงอย่างนี้แหละที่บุษบาอยากเป็น ผู้หญิงที่สมเป็นผู้หญิง รูปร่างบอบบาง อ่อนหวานสมเป็นดอกไม้ของโลก
ไม่ใช่สูงโย่งโก๊ะหน้านิ่งเหมือนหล่อน บุษบาคิดว่าตัวเองมีอะไรสักอย่างที่แปลกๆ ความอ่อนหวาน ออดอ้อน
แบบผู้หญิงหล่อนไม่รู้ว่าทำหายตกไปที่ไหน หญิงสาวขาดสิ่งพวกนี้ไป


หล่อนไม่เคยคบกับชายหนุ่มคนใดทั้งไทยและฝรั่ง ด้วยคิดถึงเรื่องผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเป็นหลัก
บุษบาในวัยเป็นเด็กสาวจึงตั้งหน้าตั้งตาเรียน จนผู้มีพระคุณส่งไปเมืองนอกและหล่อนเลือกเรียนการทำขนมแทนที่จะเป็นบริหาร ทุกอย่างจะไม่สำเร็จถ้าลูกชายคนโตของผู้มีพระคุณไม่ช่วยพูดให้
หล่อนจึงปลื้มเขามาก เมื่อรู้ว่าเขาไม่พึงใจในผู้หญิงหล่อนจึงช็อคเล็กๆแต่ก็ยังรักษาหน้าของผู้ มีพระคุณโดยที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครแม้แต่กับพิณสุดา


เพื่อนสาวผิวคล้ำกลับไปเมื่อช่วงประมาณสิบโมง หล่อนและเพื่อนกอดกันกลม ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้เจอกันอีก
“ แล้วฉันจะโทรมานะ “
พิณสุดาน้ำตารื้นหน่อยๆ


ช่วงบ่ายหมอที่มาดูอาการของหล่อนเป็นผู้หญิง แต่ทว่าพ่วงจัตวามาด้วยอีกหนึ่ง
“ ผมเอารูปที่ถ่ายเมื่อคืนนี้มาให้ครับ “
หมอหนุ่มหน้าขาวยิ้มร่า ยื่นอัลบัมรูปให้ รูปถ่ายตอนที่ประกวด ทุกภาพถ่ายออกมาอย่างสวยสด
จนหล่อนไม่คิดว่าคนในรูปภาพเป็นคนเดียวกับตนเอง
“ แล้วคนเจ็บในงานเป็นยังไงบ้างคะ “
ในหล่อนกระหวัดถึงเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้น


“ ไม่เป็นไรมากหรอกครับ ไม่มีคนเจ็บหนักมาก ตอนนี้ทยอยออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ ส่วนเรื่องการสืบสวนน่ะให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แล้วก็นี่ครับ “
จัตวายื่นช่อกุหลาบสีแดงสดให้หล่อน
“ ยินดีด้วยนะครับที่ได้ตำแหน่งนางงามประจำอำเภอ “
หล่อนรับดอกไม้มาอย่างงงๆ ข่าวแพร่ไปจากไหนนี่ สงสัยจากพอลล่าแน่ๆ


ระเด่นมนตรีรับฟังเรื่องทุกอย่างอย่างเงียบๆแต่คิ้วกระตุกเป็นระยะๆ
“ แด๊ดดี้ หมอหน้าขาวชวนพี่บุษบาไปดินเนอร์ด้วยแหละ เขาจะมากินข้าวบ้านเราเหรอฮะ “
เสียงสายลับตัวน้อยรายงานแจ้วๆ ทั้งเรื่องรูปภาพ ทั้งเรื่องดอกไม้ มิเสียแรงที่เขาล่อหลอกให้เดียร์ทำตัวเป็นอัศวินปกป้องผู้หญิงอ่อนแอเช่น บุษบา


“ พี่บุษบายิ้มด้วยแหละ หมอบอกว่าจะมาดูอาการใหม่ “
เด็กชายพูดไปเรื่อยๆโดยที่ชายหนุ่มไม่ต้องเดาก็รู้ว่าหมอที่เอ่ยถึงคือคนไหน คู่แข่งเยอะเสียจริง
แม้ว่าคำอธิษฐานเสี่ยงเซียมซีจะได้หมายเลขสิบเอ็ด แต่ก็เป็นแค่สัญญาณบอก
ที่เหลือก็ต้องลงมือเอง แต่เขาจะทำอย่างไรดีล่ะ บังเอิญไร่ชายหนุ่มไม่ได้ปลูกกุหลาบไว้เสียด้วย
ฝ่ายนั้นให้ดอกไม้ไปแล้ว ชายหนุ่มจะยอมแพ้ได้อย่างไร


“ เฮ้ย! พวกเอ็ง แถวนี้มีดอกไม้อะไรแปลกๆหรือเปล่าวะ เผื่อลูกฉันจะเอาไว้ถ่ายรูปให้พวกเด็กฝรั่งที่เป็นเพื่อนดู “
ระเด่นมนตรีแกล้งถามคนงาน คนงานจึงชี้ไปที่สระใหญ่กลางไร่
“ ถ้าดอกไม้แปลกๆล่ะก็โน่นเลยจ้ะ นายระเด่น แถวโน้นมีเยอะ “
ชายหนุ่มจึงไปตามทางที่บอกและเขาก็พบดอกไม้ที่ว่านั่นพอดี ดอกไม้สีเหลืองเล็ก


“ พี่บุษบา “
เดียร์วิ่งหอบดอกไม้ทั่กๆเข้ามาในห้องนั่งเล่น หล่อนกำลังอ่านหนังสือจิตวิทยาเด็กอยู่
หมอจัตวาและหมอผู้หญิงอีกคนกลับไปแล้ว
“ เดียร์ไปเอาดอกไม้มาจากไหนครับ ช่อใหญ่เลย “
ดอกไม้ที่เด็กชายหอบอยู่เป็นดอกไม้สีเหลืองเล็ก ใบเล็กฝอยคล้ายกับใบมะขาม


“ แด๊ดดี๊ให้เอามาให้ครับ “
เด็กชายตอบตามประสาซื่อ ดวงตานั้นใสแจ๋ว อ้อมแขนเล็กทำเป็นจังหวะขึ้นลงให้หล่อนรับไป
บุษบานิ่วหน้า ระเด่นมนตรีนะหรือให้ดอกไม้หล่อน แล้วดอกสีเหลืองนี่คือดอกอะไรหล่อนไม่รู้จัก
คำตอบมาเฉลยตอนที่เปรมกับลุงทองเห็นเจ้าดอกไม้นั่น…


“ โอ้โห! วันนี้มีน้ำพริกเหรอลุง “
คนงานหนุ่มๆอุทานเมื่อเห็นน้ำพริกและผักเคียงในถาดใหญ่
“ เออ วันนี้บังเอิญได้ดอกโสนกำใหญ่มา นายระเด่นแกไปเก็บมาให้ ข้าเลยอารมณ์ดีตำน้ำพริก
เจียวไข่ แล้วก็ทำแกงจืดวุ้นเส้น “
ลุงทองหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี ขณะที่คนเก็บดอกไม้มานิ่วหน้าอารมณ์เดือดหน่อยๆ


“ ขอบคุณนะคะนายระเด่นที่อุตส่าห์เก็บดอกโสนมาให้เป็นกับข้าวเย็น ถ้าฉันไม่ได้รู้จากเปรมกับลุงทองคงไม่รู้หรอกคะว่ามันกินได้ “
บุษบายิ้มให้เขา ในใจตีความหมายไปว่าเขาคงจะประชดหล่อนจากคราวยำกระถินอ่อน
ชายหนุ่มทำหน้าปั้นยาก เขาผิดเองที่ไปเก็บดอกไม้กินได้มา เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดอกอะไร
แต่พอเห็นหล่อนกินกับน้ำพริกท่าทางมีความสุขก็น่าจะถือว่า…ผ่าน


“ หวานจังเลย น้องเดียร์ลองดูหน่อยสิครับ “
หล่อนชี้ชวนคนตัวเล็กให้ทานด้วย สังฆา วิทยากร และลุงสุข แอบยิ้ม ที่หนุ่มสาวเข้าใจเรื่องดอกโสนไปคนละทาง
เป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันระเด่นมนตรีจะได้ไม่เสียฟอร์มเรื่องดอกไม้


วันต่อมาระเด่นมนตรีแกล้งไปไร่ให้ช้าลง โดยให้วิทยากรกับลุงสุขล่วงหน้าไปก่อน
“ เดียร์ไปขี่ม้ากันไหม “
ชายหนุ่มชวนลูกชาย เดียร์ยิ้มแป้นวิ่งมาเกาะขาประจบ
“ คุณไปด้วยสิ จะได้ไปดูม้าของเรา วิทมันพาคุณไปดูผ่านๆใช่ไหม? คราวนี้คุณจะได้เข้าไปข้างใน “
ชายหนุ่มเปรยลอยๆ หญิงสาวแลดูข้อเท้าที่พันผ้าของตนเอง ยังไม่ทันอ้าปากปฏิเสธ
เขาก็อุ้มหล่อนไปที่รถจี๊ปเสียแล้ว


“ คุณไปด้วยจะได้ช่วยผมดูลูก อีกอย่างเดียร์อยากอวดม้าด้วยจริงไหม? “
ชายหนุ่มพยักเพยิดไปทางร่างเล็ก เด็กชายร้องพยักหน้าแล้วรีบวิ่งนำออกไป
บุษบาหน้าร้อนขึ้นมาเฉยๆ ครั้งที่สองแล้วที่เขาอุ้มหล่อนไว้เช่นนี้ เป็นเหตุจำเป็น…เหตุจำเป็น
หล่อนเฝ้าย้ำกับตัวเอง แต่กระนั้นเสียงตึกตักของหัวใจก็ยังได้ยินอยู่เต็มสองหู


เดียร์ไล่ชื่อม้าแต่ละตัวให้ฟัง เด็กชายจำได้และบรรยายลักษณะนิสัยของพวกมันได้หมด
“ ตัวนี้ชื่อโจอี้ มันขี้ตกใจ วิ่งเร็ว นี่ชื่อ บิ๊ค มันตัวใหญ่กินจุ “
เด็กชายชี้ไปที่ม้าในคอก ม้าตัวโตสีน้ำตาลและม้าสีขาวหายใจดังฟืดฟาด
“ ตัวนี้ชื่อวินดี้ วิ่งเร็ว ม้าของแด๊ดดี๊ “
เด็กชายชี้ไปที่ม้าสีดำสนิทมีสามเหลี่ยมคล้ายรูปกริชอยู่กลางหน้าผาก


“ มันเจ้าอารมณ์ขี้หงุดหงิด ไม่มีใครเอาอยู่นอกจากแด๊ดดี๊ “
ร่างป้อมอธิบายตาใสแจ๋ว ม้ากับเจ้าของช่างนิสัยตรงกันเสียจริง ฝ่ายเจ้าของเดินไปหาม้าคู่บารมีแล้วจูงมันออกมา
“ ไปขี่ม้ากันไหมครับ “
หล่อนเลิกคิ้ว เขาถามผิดหรือเปล่า ถ้าจะชวนเดียร์ไปขี่ม้าก็ไม่ควรมีคำว่า'ครับ'


“ คุณนั่นแหละ “
ไม่พูดเปล่าแต่เขายังยกหล่อนนั่งไพล่บนหลังเจ้าวินดี้ม้าสีดำ
“ นั่งดีๆสิ “
เขาดุเมื่อหล่อนทำหน้าตาตื่นและยุกยิกจะลงจากม้า
“ เดียร์พ่อให้ขี่เจ้าป้อมได้ แต่ต้องมีคนจูง “
ชายหนุ่มหันไปเรียกคนงานคนหนึ่งเข้ามาใกล้ สั่งงานสองสามอย่าง สักพักคนงานก็จูงมาแกลบตัวเล็กตัวหนึ่งมาให้เด็กชาย


“ อย่าดื้อ แล้วก็อย่าเล่นพิเรนทร์นะเดียร์ ไม่งั้นจะโดนทำโทษ “
ชายหนุ่มขู่ เด็กชายตาเป็นประกายยิ้มแก้มแทบปริ ระเด่นมนตรีขึ้นม้า สองแขนโอบรอบตัวหล่อนไว้พร้อมกับกำบังเหียรควบคุม บุษบาเขยิบหนีแต่กลับถูกเขาดุอีกรอบ
“ นั่งดีๆสิคุณ อย่ายุกยิก ม้าน่ะเป็นสัตว์ขี้ตื่น ขืนคุณทำอย่างนี้มันก็ตกใจวิ่งเตลิดไปหรอก “
“ เอาฉันลงเถอะค่ะ ฉันขาเจ็บอยู่จะเกะกะเปล่าๆ “
หญิงสาวขอร้องแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ชายหนุ่มควบม้าวิ่งเร็วไปเรื่อยๆ
“ ไม่เป็นไร ผมจะพาไปดูอะไรดีๆ “


“ คุณสังฆาครับ คุณโรสมาครับ “
ชายหนุ่มหูผึ่งทันทีเมื่อคนของเขารายงาน
“ ตอนนี้พวกยามหน้าไร่กักตัวอยู่ จะให้เข้ามาไหมครับ “
เขามาที่ไร่นี้บ่อยจนคนในไร่คุณเคย และรับรู้ว่าเขาเป็นเจ้านายคนหนึ่งที่มีอำนาจสั่งการเทียบเท่าระเด่นมนตรี
ข่าวสารส์ในไร่ถ้าทุกคนรู้เขาก็ต้องรู้ด้วย


“ ให้เข้ามาได้ เอ๊ย! แต่เดี๋ยวก่อน คุณโรสเขาบอกไหมว่ามาหาใคร “
“ เธอบอกว่าจะมาหาคุณบุษบาครับ “
นั่นประไร! คำตอบของบอดี้การ์ดเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆด้วย
“ งั้นให้เธอเข้ามาได้ ถ้าเธอถามว่าคุณบุษบาอยู่ไหน บอกว่าอยู่สวนมะม่วง “
ชายหนุ่มสั่งการคนของเขา แล้วให้บอดี้การ์ดขับรถพาไปตั้นเต็นท์รอหญิงสาวที่นั่นทันที
สัญชาตญาณเขาบอกว่าโรสจะไปที่นั่นแน่ แล้วก็จริงเสียด้วย


รถมินิคูเปอร์แล่นมาด้วยความเร็วเข้ามาในสวนมะม่วง
โรสในชุดกางเกงขาสั้นและเสื้อเชิ้ตเข้ารูปเปิดประตูรถลงมาหันรีหันขวาง
คนที่หน้าประตูบอกว่าบุษบาอยู่ที่นี่ หล่อนไม่เห็นแม้แต่เงา
เห็นเพียงตาแว่นขาหักใส่เฝือกอันโตนั่งอยู่ในเต็นท์สีขาว กลางสวนมะม่วง
“ ฉันมาหาคุณบุษบาน่ะค่ะ เห็นคนที่หน้าประตูบอกว่าอยู่ที่นี่ “
หล่อนยิ้มให้พอเป็นพิธี สังฆาแกล้งเลิกคิ้วประหลาดใจ


“ อ้อ! ถ้าเป็นคุณบุษบาละก็เดี๋ยวก็คงมานะครับ เพราะว่าเธอบอกว่าจะมาดูสวนมะม่วง “
หนุ่มแว่นโกหกคำโต คนของเขารายงานแล้วว่าพี่ชายเขาพาบุษบาไปขี่ม้าอีกฝั่งหนึ่งของไร่


“ เชิญนั่งก่อนสิครับ เดี๋ยวพวกเขาก็คงมา “
ชายหนุ่มยิ้มให้ ยิ้มหล่อที่กระชากใจสาวๆ แต่คนตรงหน้าไม่ได้มีอาการม้วนต้วนอายอะไรเลย
กลับทำหน้าเฉยๆ หญิงสาวเสไปมองบริเวณรอบกาย สวนมะม่วงกินเนื้อที่หลายสิบไร่
ไร่อสัญแห่งนี้ช่างปลูกอะไรจับฉ่ายเสียจริง หล่อนลองเลียบเคียงถามเรื่องไร่อสัญจากคนในโรงแรม
กิติศัพท์เรื่องไร่ที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้หญิงนี่ช่างฉ่าวโฉ่


ไม่รู้ว่าบุษบาทนอยู่ได้เช่นไร เชฟขนมหวานประวัติดีๆเฉกเช่นบุษบาน่าจะมีอนาคตไกลกว่านี้
บางทีหล่อนอาจจะใช้เส้นของบิดามารดาฝากให้ได้
แม้จะต้องแลกกับการโดนบ่นเรื่องการหมั้นบ้าบอคอแตกนั่นก็ตาม คู่หมั้นตั้งแต่เด็ก
หล่อนนึกขื่นในใจ คู่หมั้นที่ไม่เคยเห็นแม้แต่หน้า นี่เป็นการคลุมถุงชนชัดๆ
สมัยไหนแล้วนะพ่อแม่หล่อน ผู้ชายมีแต่พวกแย่ๆ ชอบทำร้ายผู้หญิง สกปรก แถมเจ้าชู้
อยู่ด้วยกันไปมีแต่ผู้หญิงที่เป็นฝ่ายต้องอดทน ดูอย่างมารดาหล่อนนั่นไง
หน้าชื่นอกตรมเวลาที่บิดาของหล่อนมีข่าวเรื่องผู้หญิง


“ ทานมะม่วงก่อนไหมครับ “
คนของเขายกจานมะม่วงที่ฝานแล้วมาให้ มีทั้งมะม่วงสุกและดิบ ที่ไร่อสัญนี้ใช้วิธีการให้มะม่วงออกผลนอกฤดู เขาเพิ่งใช้ให้คนของเขาไปปอกเฉือนมะม่วงมาเพื่อหล่อนโดยเฉพาะ ผู้หญิงกับของเปรี้ยวๆประเภทหมักดอง
มักไปด้วยกันได้เสมอ โรสส่ายศรีษะปฏิเสธ ในใจนึกหงุดหงิดที่บุษบาไม่มาเสียที


“ ลองหน่อยสิครับ มะม่วงพวกนี้เห็นว่าคุณบุษบาจะลองเอาไปทำมูสมะม่วง
เลยจะลองหาว่ามะม่วงพันธุ์ไหน รสชาติดีที่สุด “
สังฆาล่อหลอก โรสหูผึ่งหันมาสนใจทันที


“ คุณบุษบาให้ผมช่วยชิม แต่บังเอิญผมไม่ถนัดเสียด้วยสิ ถ้าชิมแล้วได้มะม่วงรสชาติดี
เอาไปทำมูสมะม่วงแล้วอร่อยคุณบุษบาคงดีใจ “
ชายหนุ่มแกล้งเปรย อาการของคนตรงหน้าแสดงได้ชัดเลยว่า ตกหลุมพรางของเขาเสียแล้ว
ชายหนุ่มนั่งอมยิ้มมองดูร่างบางใช้ส้อมจิ้มมะม่วงไปมาเพื่อชิมรส


ระเด่นมนตรีพาบุษบามาที่สระใหญ่กลางไร่ หล่อนเคยเห็นสระแห่งนี้ไกลๆตอนที่วิทยากรพาชมไร่ สระแห่งนี้น้ำใสแจ๋ว และมีต้นก้ามปูใหญ่สูงตระหง่านปลูกอยู่ ลมเย็นๆพัดโชยมาเอื่อยๆ ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวลงจากหลังม้า
บรรยากาศดีจนหล่อนเกือบจะเคลิบเคลิ้ม แต่ทว่า


“ คุณพาฉันมาที่นี่ทำไมเหรอคะ “
หล่อนถามออกมาดื้อๆเล่นเอาระเด่นมนตรีคิดหนัก บุษบานี่เป็นผู้หญิงประเภทไหนกันนะ
หล่อนไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งบื้อกันแน่ ผู้ชายเขาพาผู้หญิงมาอยู่ด้วยกันสองต่อสองจะมาทำอะไรกันเล่า…


“ ผมพามาดูสถานที่สำคัญในไร่ “
ไอ้บ้าเอ๊ย!..เขาบริภาษตัวเองในใจ ว่าหล่อนบื้อแล้ว เขานี่บื้อยิ่งกว่า วิชาจีบสาวของเขาสมัยเรียนนี่มันลงหม้อหมดไปแล้วหรืออย่างไร ใจนะใจเต้นตึกตัก แต่ปากกลับพูดไปอีกอย่าง ระหว่างที่ระเด่นมนตรีกำลังคิดอยู่ว่าจะเดินเกมอย่างไรต่อบุษบาก็เห็นสิ่ง หนึ่งหนึ่งจึงทึกทักโมเมเอาเอง



“ อ้าว! นั่นดอกโสนใช่ไหมคะนายระเด่น นายระเด่นพาฉันมาเอาดอกโสนใช่ไหมคะ “
หญิงสาวชี้ไปที่เจ้าดอกไม้กินได้สีเหลืองๆ
“ มีเยอะด้วยค่ะนายระเด่น เอาไปจิ้มน้ำพริกอีกดีไหมคะ อร่อยดี “
“ คุณชอบมันเหรอ “
ชายหนุ่มมองตรงไปที่หล่อน แต่เจ้าตัวกลับสนใจดอกโสนริมสระ



“ ค่ะ มันอร่อยดี สวย กินได้ แล้วก็หวาน “
บุษบาหันมายิ้มหวานให้เขาอย่างจริงใจ
สำเร็จ! ระเด่นมนตรีหัวใจพองโต หล่อนชอบ ยิ้มให้เขาด้วย
ยิ้มหวานน่ารักที่สุด ชายหนุ่มอยากใส่ปุ๋ยดอกโสนให้บานสะพรั่งรอบสระ
แล้วเขาจะเก็บไปให้หล่อนทุกวัน
ถ้าหล่อนชอบ และจะยิ้มหวานให้เขาเช่นนี้อีกล่ะก็…



ชายหนุ่มขับรถจี๊ปอย่างอารมณ์ดีพาบุษบาและเดียร์กลับเรือนใหญ่ หลังรถจี๊ปเต็มไปด้วยดอกโสนและผักบุ้งที่เขาลงทุนยื้อเก็บจนเกือบตกสระ
“ ขอบคุณนะคะ ที่ๆคุณพาไปน่ะวิเศษที่สุดเลย “
บุษบายิ้มอีกแล้ว ในใจคิดว่าสระน้ำนั่นเป็นขุมทรัพย์ทีเดียววันหลังหล่อนจะให้เปรมพาไป
คงมีผักหญ้าที่กินได้อีกเยอะ บริเวณหน้าเรือนมีรถมินิคูเปอร์จอดอยู่
เมื่อเข้าไปก็พบกับโรสที่นั่งหน้าตูมอยู่ในห้องรับแขก


“ พี่บุษบา “
โรสวิ่งมาเกาะแขน หล่อนทำหน้างง โรสมาได้อย่างไรนี่? แล้วทำไมสังฆาถึงได้หน้ายิ้มไม่หุบเช่นนั้น
“ พี่บุษบาไปไหนมาคะ โรสรออยู่ที่สวนมะม่วงตั้งนาน “
สาวร่างเล็กกว่าตัดพ้อ ดวงตาวิบวับปราดไปทางคนขาหัก ที่หลอกล่อให้หล่อนนั่งรอจนเย็น


“ พี่บุษบากับแด๊ดดี๊ไปเก็บดอกไม้กันฮะ “
สายลับตัวจ้อยรายงานพร้อมชูดอกโสนเป็นหลักฐาน โรสนิ่วหน้า ส่งสายตำหนิไปทางสังฆา
“ ก็ไหน…”


“ คุณบุษบาครับ เราเก็บมะม่วงมาให้แล้วนะครับ ที่คุณบอกจะทำมูสมะม่วง “
สังฆาแทรกขึ้นก่อนที่โรสจะพูดจบ
“ คนของผมเอามะม่วงสุกไปไว้ในครัวให้แล้ว เลือกแต่ที่เป็นน้ำดอกไม้เลยนะครับ คุณทำมูสมะม่วงได้เลย “
ชายหนุ่มบอกยิ้มๆบุษบาทำหน้าเหรอหรา หล่อนไม่ได้ขอนี่…
“ มูสมะม่วง คืออะไรเหรอฮะอาสังข์ “
เดียร์ถามแจ้วๆในสมองน้อยๆคิดว่าคงเป็นขนม แต่จะเป็นขนมแบบไหนล่ะ


“ แมงโก้มูสยังไงล่ะเดียร์ อยากกินไหม นายะระเด่นล่ะอยากชิมหรือเปล่า “
สองพ่อลูกมองหน้าแล้วมีความเห็นตรงกัน
“ อยาก “


“ คุณโรสเป็นอะไรหรือเปล่าคะทำไมทำหน้ายุ่งๆ “
บุษบาทักตอนที่โรสช่วยหั่นมะม่วงเป็นชิ้นเล็กๆ
“ เปล่าค่ะ “
หญิงสาวเลี่ยงที่จะไม่บอก ถึงความเจ้าเล่ห์ ของสังฆาที่หล่อนเรียกเขาในใจว่าตาสังคัง
หลอกล่อให้หล่อนกินมะม่วงจนเย็นย่ำ ก่อนที่จะบอกหน้าตาเฉย ว่าบุษบาไปกับระเด่นมนตรี
หลังจากนั้นเขาจึงพาหล่อนกลับมาที่เรือนใหญ่ เจ็บใจ หล่อนเจ็บใจจริงๆ อีตาผู้ชายเจ้าเล่ห์
หล่อนไปทำความแค้นอะไรให้หรือไรถึงมาหลอกกันอยู่ได้


เสียงโรสกับบุษบาคุยกระหนุงกระหนิงกันอยู่ในครัว สังฆาเงี่ยหูฟังโดยตลอด เกิดอะไรขึ้นกับเขาล่ะนี่
วันนี้เขาพยายามโปรยเสน่ห์ใส่โรสเต็มที่ แต่ดูเหมือนคุณเธอจะไม่สนในเอาเสียเลย
อะไรๆก็พี่บุษบาอย่างเดียว เขาว่าเสน่ห์เขาก็ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม
รูปร่างหน้าตาถ้าไม่นับเรื่องขาหักก็ยังหล่อดูดีอยู่เสมอ
แล้วทำไมโรสจึงไม่สนใจเขาล่ะ…สเปคของหล่อนเป็นอย่างไรกันแน่


“ พี่บุษบาเดียร์ช่วยทำแมงโก้มูสด้วยนะครับ “
ร่างป้อมเดินหน้าแฉล้มมาในครัว ระเด่นมนตรีกับสังฆายกหน้าที่สายลับสืบข่าวบทสนทนาของสองสาวให้เดียร์
หน้าที่ใช้ช้อนส้อมยีเนื้อมะม่วงจึงเป็นของเด็กชาย ส่วนผสมของมูสมะม่วงไม่ยาก มีมะม่วงสุก
น้ำตาลทราย วิปปิ้งครีมหรือจะใช้ครีมสดแทนก็ได้ น้ำเปล่า เจลาติน


หล่อนเอามะม่วงน้ำดอกไม้ที่หั่นเป็นชิ้นเล็กแยกไว้สองส่วน ส่วนหนึ่งปั่นในเครื่องปั่น
และอีกส่วนหนึ่งใช้ช้อนส้อมยีเพื่อให้คนทานรับรู้รสสัมผัสของมะม่วง จากนั้นจึงโรยผงเจลาตินลงในน้ำ
ปล่อยไว้ให้อุ้มน้ำสักครู่ เทมะม่วงใส่หม้อตามด้วยน้ำตาลทรา และน้ำที่ใส่เจลาตินไว้
ตั้งไฟอ่อน ๆ คนส่วนผสมให้ละลายหมด ปิดเตาพักให้ส่วนผสมเย็น


บุษบาเอาครีมสดที่เคยทำไว้ออกมาจากตู้เย็นหลังจากนั้นจึงนำมาผสมกับส่วนผสมในหม้อ
เมื่อผสมกันดีแล้วจึงเทใส่พิมพ์ ปรกติมูสตามโรงแรมจะใส่แก้วของหวานเล็กๆเพื่อความสวยงามเวลาเซ็ทตัว
กรณีนี้หล่อนเลือกใช้แก้วใสแบบแก้วน้ำดื่มปรกติ ประเภทเอาสะดวกเข้าว่า
เพราะคุณเจ้านายสั่งกะทันหัน ของหวานมื้อนี้จึงเป็นแบบโฮมเมดตามมีตามเกิดเต็มที่
เมื่อเทใส่พิมพ์แล้วจึงนำไปแช่ในช่องฟรีซตู้เย็นประมาณหนึ่งชั่วโมง


ระหว่างนั้นหล่อนก็ทำเจลลี่ทอปปิ้ง ส่วนผสมเหมือนเดิม มะม่วงสุก น้ำตาลทราย น้ำเปล่า เจลลาติน
หั่นมะม่วงเป็นชิ้นใหญ่กว่าคราวแรกนิดหน่อย แยกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งใช้ส้อมยี
อีกส่วนปั่นรวมกับน้ำเปล่า ใส่น้ำตาลทรายและเจลาตินลงไป จากนั้นเอาไปตั้งไฟคน ๆ
ให้เจลาตินและน้ำตาลทรายละลาย หลังจากนั้นรอส่วนผสมเย็น
แล้วก็เอาไปราดบนมูสที่แช่เย็นไว้ แช่ต่อให้ครบหนึ่งชั่วโมงจนเจลลี่แข็งตัว


“ ว๊าว! “
เดียร์กับโรสอุทานพร้อมกันเมื่อเห็นของหวานตรงหน้า สีเหลืองสวย รสชาติเปรี้ยวหวานมัน
ละมุนลิ้น
“ อร่อยจังเลยครับ พี่บุษบา “
เด็กชายชมเปาะ สังฆาทึ่งกับผู้หญิงตัวสูงคนนี้ ขนาดเขาสั่งแก้เก้อไป หล่อนยังทำใด้ขนาดนี้
เสน่ห์ปลายจวักคำนี้ช่างเหมาะกับหล่อนจริงๆ


“ พี่บุษบาลองทานมูสแก้วนี้ของโรสสิคะ โรสลองหั่นเจลลี่ท็อปปิ้งเป็นรูปดอกไม้ด้วยแหละ “
หญิงสาวตักมูสมะม่วงมาจอปาก บุษบากลัวจะเสียมารยาทจึงต้องอ้าปากรับ
“ อ้าม อย่างนั้นแหละค่ะ เป็นยังไงคะอร่อยไหม “
เสียงนั้นออดอ้อนดวงตาระยิบระยับ จนระเด่นมนตรีกับสังฆา สองพี่น้องนึกแปล๊บอยู่ในใจ
'คุณโรสคนนี้มีอะไรแปลกๆ'


หลังจากอาหารมื้อเย็นผ่านไปแล้ว ช่วงค่ำเดียร์ร้องลั่นบ้านเมื่อเจ้าปีโป้หายไป
หล่อนต้องให้ระเด่นมนตรีโทรถามคนทำความสะอาดจากเรือนคนงานว่า
มีตุ๊กตาตัวโปรดของเด็กชายติดไปหรือไม่
“ ปีโป้หายอ่ะพี่บุษบา ปีโป้หายไป ปีโป้ของมามี๊ “
เด็กชายซบหน้าน้ำตาอยู่กับอกของหล่อน บุษบาลูบหัวด้วยความสงสาร


เด็กชายคงจะเสียใจกับการสูญเสียมารดาไปตั้งแต่ครั้งยังเด็กมากจึงยึดติดกับของๆมารดามาก
สักพักระเด่นมนตรีวิ่งกลับมพร้อมกับเจ้าปีโป้
เด็กชายรับไปกอดอย่างดีใจ หญิงสาวจึงพาร่างป้อมเข้านอนได้
“ เดียร์เป็นยังไงมั่ง “
ระเด่นมนตรียืนรอถามหล่อนที่หน้าห้อง สีหน้าของเขากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แกหลับไปแล้ว แล้วนี่ไปเจอเจ้าปีโป้ที่ไหนเหรอคะ “
หล่อนยิ้มบางๆให้เขา


“ คนที่มาทำความสะอาดเผลอหยิบติดไปกับเสื้อผ้าที่จะส่งซักด้วยน่ะ เขาเห็นว่ามันสกปรกก็เลยจะซักให้ “
ชายหนุ่มมีสีหน้าเหนื่อยหน่ายเมื่อพูดถึงสิ่งใดที่เกี่ยวกับอดีตภรรยา ผู้หญิงในอดีตที่ยากจะลืมเลือน
“ งั้นก็ราตรีสวัสดิ์นะคะ “
“ ครับ ราตรีสวัสดิ์ “
เขากล่าวลาหล่อนเช่นกัน ชายหนุ่มยืนมองจนประตูห้องหล่อนปิดสนิท ถอนหายใจยาว


เขาไม่ยากให้หล่อนมารับรู้เรื่องความซับซ้อนของครอบครัวเขาเลย อดีตที่ยังไม่ได้รับการสะสาง
เรื่องที่เขาเป็นต้นเหตุหลายๆอย่าง
สิ่งที่ดีที่สุด…ที่ใครคนหนึ่งมอบให้อีกคน…มันอาจจะกลายเป็นยาพิษสำหรับคนๆนั้นก็ได้
เขาเคยพลาดเพราะความใจร้อน คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่คิด…แต่ผลของบางอย่าง
อาจจะเป็นตราบาปชั่วชีวิต


“ บุษบาข่าวใหญ่ล่ะเธอ “
พิณสุดากริ๊งกร๊างมาบอกในบ่ายวันหนึ่ง เพื่อนทำเสียงรื่นเริงมีความสุขมาก
“ วงThe cracker มาพักที่โรงแรมเราล่ะ “
เพื่อนผิวคล้ำกล่าวถึงวงดนตรีร็อคจากฝั่งอเมริกาที่มีนักร้องนำรูปหล่อชื่อแบรนดอน
พิณสุดาออกมาการคลั่งไคล้อย่างออกหน้าออกตา
“ แล้วไงล่ะพิณ โรงแรมเราก็มีนักร้องต่างชาติมาพักออกบ่อยนี่ “
หล่อนตอบเพื่อนไปเบาๆ แต่ท่าทางฝั่งปลายสายไม่เบาอารมณ์เลย


“ ไม่ใช่แค่นั้นนะ แบรนดอนน่ะเขาจะไปถ่ายทำมิวสิควีดีโอใหม่ที่ปากช่องด้วย บุษบาเธอต้องช่วยฉันนะ
ตามไปถ่ายรูปแบรนดอนให้หน่อย ฉันลางานไม่ได้ นะนะ “
เพื่อนร้องขอเสียงจะเป็นจะตายมาในสาย หล่อนต้องตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่าต้องขอดูสถานการณ์ก่อนเพราะขาก็ยังแพลงและ ต้องดูว่ามีใครในไร่ที่จะว่างขับรถพาหล่อนออกไปนอกไร่ได้บ้าง


“ พี่บุษบาฝากปีโป้ไว้หน่อย “
เดียร์ยื่นเจ้าปีโป้อันแสนมอซอให้หล่อนก่อนที่จะไปเข้าห้องน้ำ ตั้งแต่เกิดกรณีตุ๊กตาสุดรักหายไป
เด็กชายถือมันไว้ติดตัวตลอด คงเป็นอาการเหมือนเด็กชอบดูดนิ้วหรือไม่ก็ติดผ้าห่ม
บุษบาลูบๆคลำๆเจ้าปีโป้เล่น นิ้วหล่อนรู้สึกเหมือนโดนอะไรแข็งๆเป็นแท่งซ่อนอยู่ในตัวตุ๊กตา


“ ไม่ ไม่ ปฏิเสธไปซะ “
เสียงระเด่นมนตรีตะโกนลั่นๆมาจากหน้าบ้าน
“ วิท แกปฏิเสธ มันไปซะ อย่าให้มันมาเหยียบที่นี่ “
“ แต่ทางอำเภอเขาขอมานะนายระเด่น “
เสียงวิทยากรทุ้มนุ่ม ชายหนุ่มคงต้องใจเย็นมากที่จะรับมือกับอารมณ์แปรปรวนของเขา


“ แกก็หาข้ออ้างปฏิเสธไปซิ อะไรก็ได้ ทำยังไงก็ได้ให้มันอย่ามาใกล้ไร่นี้ ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ฉันจะฆ่ามันซะ “
บุษบาเอามือทาบอก อะไรกันอีกล่ะนี่ ระเด่นมนตรีแค้นเคืองใครถึงขนาดจะฆ่า ผู้คนไร่นี้มันยังไงกันนะ
คราวสังฆากับวิทยากรก็ทีหนึ่งแล้ว นี่ยังมาระเด่นมนตรีอีก ทำไมช่างคิดอะไรป่าเถื่อนกันเสียจริง


++++++จบบทที่11

*ใบเซียมซีที่11เอามาจากที่นี่ค่ะ //www.promdeva.com/HoraItemDetail.asp?ItemID=623


Create Date : 30 เมษายน 2552
Last Update : 30 เมษายน 2552 1:54:10 น. 1 comments
Counter : 1272 Pageviews.

 
วันนี้ติดตามอ่านถึงนี้นะ
และจะติดตามต่อไปคะ


โดย: innam IP: 203.130.132.85 วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:16:23:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.