หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
16 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
เล่ห์รัก...พรางหัวใจ...05


ราเมศพยายามทำตัวให้วุ่นวายโดยการอ่านหัวข้อการประชุมอาทิตย์นี้ของธนาคารทั้งหมด แต่ก็ยังไม่สามารถลบภาพสร้อยฟ้าลดาวัลย์ที่เขาเห็นเมื่อตอนมื้อค่ำได้
หล่อนใส่ชุดแซกสีตองอ่อน ผมมัดเป็นหางม้า อุ้มลูกชายไว้แนบอก กริยามารยาทดูเรียบร้อย เอาอกเอาใจลูกชายอ่อนหวานสมเป็นแม่คน ผิดกับสร้อยฟ้าลดาวัลย์ที่เขาเจอที่เกาะช้าง หล่อนทั้งเกรี้ยวกราด เจ้าอารมณ์ ดื่มเหล้าต่างน้ำ สูบบุหรี่ราวกับกับโรงสีไฟ

ชายหนุ่มไขกุญแจลิ้นชักหยิบของบางอย่างออกมาดู ภาพถ่ายที่เขาซื้อมาจากช่างภาพตามสถานที่ท่องเที่ยว สร้อยฟ้าลดาวัลย์ในภาพนั้นผมยาวรุ่ยร่ายใส่กางเกงเลและเสื้อกล้าม ...สายตาที่มองตรงมายังกล้องเฉยเมย นอกจากนั้นยังมีรูปถ่ายอีกใบ ซึ่งถ่ายติดเขาและหล่อนตอนที่ขึ้นมาจากเรือไปดูหมู่ปะการังด้วย

‘จะซื้อไปทำไมรูปถ่ายไร้สาระพวกนี้’
สร้อยฟ้าลดาวัลย์เคยบ่นทั้งๆ ที่ปากคาบบุหรี่อยู่

‘คุณไม่คิดเหรอว่าการที่เราพบกับใครสักคนน่ะ อาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้’
เขาบอกหล่อนยิ้มๆ

‘ฉันว่าบางทีการพบคนบางคนอาจจะเป็นชะตากรรมมากกว่า’
บุหรี่หล่อนหยิบออกจากปาก แล้วเปลี่ยนเป็นกระดกเบียร์ทั้งขวดเข้าไปแทน

ราเมศยักไหล่และคอยปรามตอนที่หญิงสาวทำท่าจะดื่มมากไป คืนนั้นบนเตียงเขาจึงไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะสร้อยฟ้าลดาวัลย์ในสภาพที่เมาเป็นคนนำทั้งหมด กว่าเพลิงพิศวาสจะจบลง ราเมศกับหล่อนก็ตื่นเอาจนเที่ยง

ชายหนุ่มนึกสนุกจึงเอาโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิปสร้อยฟ้าลดาวัลย์ตอนหลับไว้ ตอนที่กลับมาจากเกาะช้างอย่างเดียวดายเขาก๊อปปี้คลิปนี้ลงคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ราเมศกรอคลิปดูเป็นร้อยๆ รอบ ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามาในห้วงคำนึงทุกครั้งเมื่อดูคลิปนี้ ทั้งความใคร่...เสน่หา...มึนงง และสับสนที่หล่อนทิ้งเขาไปโดยไม่ล่ำลา

ราเมศในตอนนี้ได้แต่ก่นด่าตัวเอง หากตอนนั้นยอมละศักดิ์ศรีลูกผู้ชายบ้าๆ ลดความหยิ่งตามหาหล่อน ยอมตามจีบอย่างชายหญิงปรกติ บอกความจริงว่าอยากกอดหล่อนไว้ตลอดเวลา เขาก็คงไม่ต้องมานั่งเสียใจอยู่อย่างนี้
นายธนาคารหนุ่มถอนหายใจยาว ...อย่างไรก็ตามอดีตมันผ่านมาแล้ว เรื่องที่ต้องทำในปัจจุบันสำคัญกว่า


“เออ ภัทรนี่ฉันเองนะเว้ย”
ราเมศต่อสายถึงนายแพทย์ภัทรนันต์
“พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่าวะ มีเรื่องจะปรึกษา”
เขาตั้งใจจะคุยกับเพื่อนเรื่องตรวจดีเอ็นเอระหว่างเขากับแทนไท

“เออ...ช่วงบ่ายๆ ฉันถึงจะเข้าโรงพยาบาลว่ะ วันนี้เพิ่งผ่าตัดคนไข้เสร็จ ง่วงชะมัดเลย”
เพื่อนบ่นมาในสาย
“งั้นช่วงบ่าย เดี๋ยวฉันไปหานายนะ”

“ได้สิ ว่าแต่นายมีเรื่องอะไรวะหลง บอกหัวข้อเรื่องมาก่อนสิ ถ้าเป็นเรื่องอาการเจ็บไข้ได้ป่วยฉันจะได้เตรียมข้อมูลไว้ให้”
นายแพทย์หนุ่มกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“เดี๋ยวฉันไปหานายก็รู้เองแหละ”

แล้วปลายสายก็ตัดไปท่ามกลางอาการงงๆ ของภัทรนันต์ วันนี้เพื่อนมีอาการครุ่นคิดทำหน้าแปลกๆ ตั้งแต่เจอกันในบาร์ของวิสูตรแล้ว ปรกติราเมศจะเป็นคนใจเย็นและสุขุม บุคลิกน่าเชื่อถือสมกับเป็นนายธนาคาร
แล้วจู่ๆ ก็เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเขากันแน่หนอ...


“อีกนิดนะคะเสี่ยขา น้านแหละค่ะ ดีจังค่ะ เก่งๆ”
สาวสวยยิ้มหวานพลางตบมือแปะๆ ให้เสี่ยอ้วนพุงพลุ้ยที่กำลังกระดกเหล้าเข้าปาก

“แล้วรางวัลในความเก่งของพี่ละจ้ะน้อง”
เสี่ยเมาหน้าแดงถามเสียงอ้อแอ้ลิ้นคับปาก

“แหม...เสี่ยล่ะก็ ดื่มไม่ทันถึงครึ่งขวดเลย จะมาขอรางวัลเสียแล้ว”
หล่อนหัวเราะอย่างมีจริตพลางยกมืออวบอูบที่ลูบไล้แขนและขาตนเองออก

“อยากได้รางวัลดีๆ ก็ต้องพยายามอีกนิดค่ะ”
นิ้วเรียวบางหยิบถั่วทอดใส่ปากเสี่ย

“น้องชอบผู้ชายเอาจริงเอาจังค่ะ ทั้งเรื่องทำงานแล้วก็เรื่องเที่ยว ถ้าจะดื่ม ต้องดื่มให้หมดขวดค่ะ”
เหล้าแก้วต่อมาหล่อนยื่นให้เสี่ยพุงพลุ้ย โดยแกล้งทำตาหวานเชื่อมใส่ไปนิด เสี่ยก็ยิ้มร่าหลงกลดื่มเพราะหวังของรางวัลเป็นเนื้อสาวขาวๆ

“น้อง...พี่ฝากโต๊ะนี้หน่อยนะ มีโทรศัพท์เข้าน่ะ”
หญิงสาวแอบกระซิบกับอีกคนที่นั่งข้างๆ ก่อนที่แอบหลบไปรับโทรศัพท์ที่นอกห้อง
อาบอบนวดแห่งนี้เป็นร้านราคาแพงที่รับเฉพาะสมาชิกกระเป๋าหนัก มีบริการครบวงจร ทั้งนวดและนาบ
รวมถึงมีห้องคาราโอเกะให้เสี่ย ทั้งหลายมาร้องเพลงกับสาวๆ ดังเช่นห้องที่หล่อนเพิ่งออกมาเมื่อสักครู่

คำหวานยิ้มร่าเมื่อเห็นหมายเลขที่โทร.เข้า เพราะเป็นบริษัทออร์กาไนซ์เซอร์รับจัดงานชื่อดัง
“ค่ะๆ ว่างค่ะ”
หล่อนกรอกเสียงร่าเริง เมื่อปลายสายเรียกให้หล่อนไปเทสท์งานเป็นพริตตี้ในงานเปิดตัวคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง ...ค่าใช้จ่ายเดือนนี้จะได้หมดกังวลไปเสียที หล่อนไม่อยากจะไปเบิกเงินจากบัญชีของป๋าเลย

งานไซด์ไลน์ในสถานที่ประเภทนี้คำหวานรับเป็นบางครั้งกับมาม่าซังที่รู้จักกันจริงๆ แม้จะเป็นอาหารตาให้บรรดาเสี่ยหัวงู ลูบไล้ แตะต้องได้ แต่หล่อนก็ไม่ยอมขายตัว หญิงสาวจำต้องรับงานที่ขายเนื้อหนังมังสาเช่นนี้เพราะต้องเอาเวลาไปดูแลป๋าที่ป่วยเป็นอัมพาต

คำหวานไม่อาจจะทำงานช่วงกลางวันตามปรกติได้ หล่อนจึงรับทำงานเป็นครั้งๆ ไป สาวสวยชินเสียแล้วกับสายตาโลมเลีย การต่อรองราคาซื้อตัวไปนอนด้วย ผู้ชายหลายคนทำดีด้วยเพื่อหวังร่างกาย

ในเมื่ออยากได้ตัวหล่อนกันนัก คำหวานก็จะใช้กิเลสความอยากของผู้ชายนี่แหละเป็นตัวหาเงิน ใครจะมองว่าหล่อนเป็นผู้หญิงไม่ดีก็ช่างเขาประไร ขอแค่หาเงินมารักษาป๋าได้ ตัดดอกเบี้ยบ้านที่จำนองกับธนาคารไว้
หากจะผิดศีลข้อ...สาม...สี่...ห้า หล่อนก็ยอม


ภัทรนันต์รู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียน เขาไม่น่าบ้ายอมาดื่มเหล้ากับกลุ่มหมอเพื่อนร่วมงานเลย ทั้งๆ ที่ควรจะได้นอนหลับให้สบายพักเหนื่อยจากการผ่าตัดอยู่ที่บ้าน ชายหนุ่มตั้งใจอยู่แล้วเชียวว่าจะไม่ดื่ม แต่สุดท้ายก็หมดไปหลายแก้ว

ฤทธิ์สุราบวกกับอาการเหนื่อยจากงานเขาจึงเลี่ยงหลบจะไปล้างหน้าในห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันถึงที่หมายก็เกิดอาการเซจนต้องเอาไหล่พิงผนังเพื่อพยุงตัวไว้

“คุณ...คุณ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
เสียงหวานดังอยู่ข้างตัว ภัทรนันต์ปรือตามอง ผู้หญิง ผิวขาว เสื้อสายเดี่ยว กระโปรงสั้น

“เมาหนักล่ะสิ น้องๆ”
คำหวานหันไปเรียกบริกรแถวๆ นั้น แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะชายหนุ่มเล่นคายของเก่าพรวดพราด

“ตายแล้วคุณ! อย่ามาอ้วกลงพื้นนะ มันสกปรก ถ้าจะอ้วกน่ะมานี่เลย”
ว่าแล้วหล่อนก็จับดึงตัวเขาไป มือหนึ่งลูบหลัง ส่วนอีกมือกดคอให้อาเจียนลงถังขยะ

“อ้วกออกให้หมดนะ อย่าไปกลั้นเอาไว้”
ปากหล่อนบอก มือก็ลูบหลังแผ่วเบา ชายหนุ่มรู้สึกว่าตนเองกลับเป็นเด็กชาย ที่มีแม่ลูบหลังให้เวลาอาเจียน

“เป็นยังไงบ้างดีขึ้นไหมคะ”
คำหวานหยิบผ้าเช็ดหน้าตนเองมาซับน้ำลายให้เขา ภัทรนันต์อาการดีขึ้นจนเริ่มสังเกตผู้หญิงที่ช่วยลูบหลังให้
เขารู้สึกว่าในสมองได้ยินเสียงดัง...ปิ๊ง ใจก็เต้นรัวเร็วผิดจังหวะ ด้วยประสบการณ์ที่เป็นหมอมาหลายปี ชายหนุ่มรู้ว่าอาการนี้ไม่ได้เกิดจากการอาเจียนเมื่อครู่แน่

เพื่อนออกมาพร้อมกับบริกรและช่วยพยุงตัวเขาขึ้น
“โธ่! หมอภัทร ถ้าดื่มไม่ไหวก็น่าจะบอกสิ ไม่ใช่มาอ้วกอย่างนี้ เสียฟอร์มหมอหมด”
เพื่อนเขาบ่นขำๆ แล้วพาเข้าห้องคาราโอเกะห้องเดิมไป ปรายสายตาภัทรนันต์เห็นหล่อนเดินไปอีกทางเสียแล้ว


คุณหมอหนุ่มนอนหมดสภาพอยู่ท่ามกลางเสียงร้องคาราโอเกะของเพื่อน เขาเหยียดขายาวไปตามโซฟา ใบหน้ามีผ้าเย็นโป๊ะไว้เสียครึ่งหนึ่ง อาการผะอืดผะอมอยากจะอาเจียนค่อยทุเลาลงแล้ว
เหลือแต่อาการเสียดาย ...เมื่อกี้น่าจะขอบคุณหล่อนสักนิดหรือไม่ก็เอาผ้าเช็ดหน้าหล่อนมา จะได้เป็นข้ออ้างสานสัมพันธ์กับหล่อน
ทำไมนะทำไม ชายหนุ่มคร่ำครวญในใจ คืนนี้เขาถึงเจอหล่อนในสภาพที่ไม่พร้อม อาเจียน เมาเละ
น้ำลายไหลยืด หมดกันภาพนายแพทย์หนุ่มผู้ทรงภูมิ สาวที่ไหนเขาจะสนใจคนเมา

“อ้าว! อาการยังไม่ดีขึ้นเหรอหมอภัทร งั้นเดี๋ยวจะหายาดีมาให้”
เสียงเพื่อนทักแว่วๆ แค่เขาคร้านจะสนใจ กระทั่งศีรษะถูกช้อนขึ้น สัมผัสนุ่มนิ่มที่ต้นคอ กลิ่นน้ำหอมลอยมาจางๆ

“เพื่อนผมเป็นหมอ แต่ตอนนี้กลายเป็นคนป่วยเสียเอง ฝากน้องช่วยดูแลด้วยนะจ๊ะ”
ตอนนี้ศีรษะเขากำลังพาดอยู่กับต้นขาอ่อนของสาวนางหนึ่ง ภัทรนันต์ขี้เกียจจะลุกขึ้นขัดอะไรเพื่อนแล้ว
เพราะสภาพอย่างนี้คงต้องอาศัยให้เพื่อนไปส่ง จะว่าไปการนอนหนุนตักใครสักคนก็ไม่เลว
...แต่จะดีมากหากเป็นสาวสวยคนเมื่อครู่

“อาการดีขึ้นหรือยัง ดื่มน้ำอุ่นหน่อยไหมคะ”
คนที่อุทิศขาอ่อนเป็นหมอนให้กระซิบถาม

“หรือจะเปลี่ยนผ้าเย็นดี”
ภัทรนันต์ลุกพรวดขึ้นทันที ผู้หญิงคนเมื่อครู่มานั่งอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว!

“มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่าอยากได้อะไรเพิ่ม”
คำหวานยิ้มเอาใจ หล่อนขอมาม่าซังหนีมาบริการแขกห้องนี้ เพราะเสี่ยพุงพลุ้ยห้องเดิมชักเริ่มมือไม้เป็นปลาหมึก ลูบคลำเกินควร

“เปล่าครับ ผม...”
คุณหมอหนุ่มพูดไม่ออกเสียอย่างนั้น หญิงสาวจึงรินน้ำเย็นใส่แก้วให้เขา

“งั้นดื่มน้ำเย็นก็ได้ค่ะ จะได้สดชื่น”
ท่ามกลางแสงสีแพรวพราวในห้องคาราโอเกะ ภัทรนันต์รู้สึกว่าหล่อนสวยมาก ผมยาว ใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาหวานซึ้ง ผิวที่เขาสัมผัสได้ตอนนอนหนุนก็นุ่มเนียนมือ

“ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมเมื่อสักครู่”
ในที่สุดชายหนุ่มก็หาคำพูดที่เหมาะสมมาชวนหล่อนคุยได้

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรื่องเล็กน้อย คราวหน้าก็ดื่มเพลาๆ บ้างนะคะคุณหมอ”
คำหวานแซวพร้อมหัวเราะสดใส

“อ้าว! หมอภัทร อาการดีขึ้นแล้วเหรอ มาๆ มาร้องคาราโอเกะกัน”
เพื่อนเขาที่กำลังเมาได้ที่เดินมาดึงแขน

“ไม่เอาหรอกครับ ผมร้องเพลงไม่เป็น”
ภัทรนันต์ปฏิเสธ

“น่า...มันไม่ยากเหมือนผ่าตัดคนไข้หรอก มีตัวอย่างให้ดูที่หน้าจอด้วย”
คนดึงแขนพยักหน้าไปทางจอมอนิเตอร์ซึ่งกำลังขึ้นเนื้อร้องเพลงอยู่

“อย่าดีกว่าครับ”
เขาปฏิเสธแต่ดูเหมือนเพื่อนจะไม่ฟัง ซ้ำยังร้องบอกให้คนที่อยู่หน้าจอมอนิเตอร์เลือกเพลงให้เขาเลย

“ก็บอกว่าไม่เอาไง”
ชายหนุ่มเริ่มมีอารมณ์นิดๆ เพราะไม่อยากเสียฟอร์มต่อหน้าหล่อน ...ก็เขาร้องคาราโอเกะได้แย่มากเลยนี่นา

“งั้นขอเป็นเพลง...ฉันอยู่ตรงนี้ของแบล็คเฮดนะคะ ไปค่ะคุณหมอ ไปร้องคาราโอเกะกัน”
คำหวานเข้ามาแก้สถานการณ์ ควงแขนเขาไปที่หน้าจอมอนิเตอร์ เรื่องทำให้คนสนุกสนานหล่อนถนัดอยู่แล้ว


“ฉันอยู่ตรงนี้ถ้าเธอต้องการ ถ้าเผื่อทางนั้นทำเธอหมองหม่น เห็นเธอเสียความรู้สึก
ฉันที่รักเธอกว่าทุกคนก็เสียใจ
หากคำว่ารักมันร้ายกับเธอมากไป บอกมาได้ไหมให้ฉันช่วยซับน้ำตา
ส่งใจช้ำๆของเธอมา ฉันจะรักษามันด้วยรักจริง ...ด้วยหัวใจที่เหมือนเดิม”

หญิงสาวร้องเพลงเพราะจนภัทรนันต์ฟังเพลิน แทบจะลืมท่อนที่ตัวเองต้องร้อง จนหล่อนต้องพยักหน้ายิ้มๆ ให้เขาถึงได้ไปมองที่เนื้อเพลง

“ไม่ได้เคยคิดจะแทนที่ใคร ... แต่ถ้าคนไหนทำเธอทุกข์ทน”
แค่ท่อนแรกที่เขาร้องหลายคนในห้องก็หัวเราะคิกคัก เพราะเสียงหลงแถมยังคร่อมคีย์
...นี่ละนะคนเรา บางครั้งก็มีเรื่องที่ไม่ถนัดบ้าง สำหรับนายแพทย์หนุ่มการร้องคาราโอเกะถือว่าเป็นยาขม
หากไม่เมาจริงหรือร้องเอาฮาเขาจะไม่ยอมร้องเลย

แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับไม่หัวเราะ เจ้าหล่อนกลับทำนิ้วขึ้นลงเป็นจังหวะสูงต่ำเป็นสัญญาณช่วยเขาควบคุมเสียง
“ฉันคนนี้ก็มีสิทธิ์ ฉันก็รักเธออยู่ทั้งคนหมดทั้งใจ
หากคำว่ารักมันร้ายกับเธอมากไป บอกมาได้ไหมให้ฉันช่วยซับน้ำตา
ส่งใจช้ำๆของเธอมา ฉันจะรักษามันด้วยรักจริง ...ด้วยหัวใจที่เหมือนเดิม”
ชายหนุ่มร้องตามสัญญาณมือหล่อน เพลงจึงเข้ารูปเข้ารอยขึ้นนิด

คำหวานปรบมือชม พลอยทำให้ทุกคนในห้องปรบมือตามไปด้วย เขาจึงยิ้มออกและเริ่มสนุกกับการร้องเพลงครั้งนี้

“ถ้าเธอมีน้ำตา ถ้าเธอต้องช้ำใจ ฉันอยู่ตรงนี้...”
ท่อนประสานเสียงสุดท้ายระหว่างเขาและหล่อนจบลง ท่ามกลางการเป่าปากแซวและปรบมือของเพื่อน

“ร้องเพลงเก่งจังเลยนะครับ”
หมอหนุ่มชมเมื่อทั้งสองกลับมานั่งที่โซฟา

“ก็พอกล้อมแกล้มไปได้น่ะค่ะ”
หล่อนรินน้ำเย็นให้เขาอีกแก้ว

“ผมว่าเสียงคุณดีออก ผมเสียอีกที่ร้องเพลงไม่ได้เรื่องเลย”
เขาหัวเราะเจื่อน

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อาชีพหมออย่างคุณน่ะไม่ได้ร้องเพลงให้คนไข้ฟังนี่คะ”
คำหวานยิ้มเห็นฟันขาวเป็นระเบียบ หล่อนรู้สึกว่าเขาเป็นลูกค้าที่คุยง่ายและดูท่าทางสุภาพ

“แต่ผมก็อยากร้องเพลงเก่งอย่างคุณบ้างจังครับ”
ภัทรนันต์พยายามจะหาเรื่องสานสัมพันธ์ต่อ แววตาของคนนั่งข้างวาววับขึ้นมาแว่บหนึ่งก่อนจะทอดหวานซึ้งดังเดิม

“ที่ร้องเก่งเพราะมันเป็นอาชีพของพวกฉันค่ะ”
หล่อนพูดอ้อมๆ ให้เขารู้ว่าหล่อนเป็นใครและเขาเป็นใคร

“ถ้าอยากร้องเพลงเก่งๆ ก็ไปหาครูสอนร้องเพลงดีๆ ดีกว่าค่ะ”
คำหวานรู้ความเจ็บปวดของอาชีพที่ต้องขายเนื้อหนังมังสาล่อกิเลสผู้ชายดี ไม่มีผู้ชายดีๆ คนไหนจะมาจีบหล่อนจริงจังในสถานที่แบบนี้หรอก เพื่อนเขาอีกคนเดินมาขอให้หญิงสาวร้องเพลงคู่ด้วย คำหวานยิ้มรับแล้วก็เดินไปร้องเพลงแต่โดยดี

“มองตาปรอยเลย อยากได้เหรอหมอภัทร”
เพื่อนหมอด้วยกันแซว

“ก็ถามราคาแล้วก็อ็อฟเลยสิ แต่อย่าลืมใส่ถุงยางด้วยล่ะหมอ”
เพื่อนหัวเราะร่วน ชายหนุ่มหน้าตึง ความไม่พอใจแล่นมาเป็นริ้วๆ ที่คนอื่นพูดเหมือนหล่อนเป็นผู้หญิงขายตัว
แล้วมันก็จริงไม่ใช่หรือ... เสียงในใจบอก หล่อนอยู่ในสถานที่แบบนี้ คงมองเป็นแบบอื่นไปไม่ได้ ภัทรนันต์กำลังติดใจผู้หญิงอย่างว่า

“อ้าว! คุณหมอดื่มเหล้าอีกแล้วเหรอคะ เมื่อกี้เพิ่งอ้วกไปนะ”
คำหวานอุทานเมื่อเห็นเขายกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นกระดก

“ผมไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้อยากดื่มนิดหน่อย”
ภัทรนันต์กำลังดื่มย้อมใจให้กล้าถามราคาค่าตัวกับหล่อน ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเที่ยวผู้หญิงประเภทนี้ ไม่เคยซื้อแต่มีคนมาเสนอให้เองแบบฟรีๆ ชายหนุ่มค่อนข้างให้เกียรติผู้หญิง แต่วันนี้เขาอยากจะให้คนตรงหน้านี้ไปกับเขา

“เอ่อ...คุยกันมาตั้งนานแล้ว ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”
หล่อนนิ่งไปสักครู่ก่อนจะตอบ

“ชื่อบัวค่ะ”
คำหวานเอาชื่อเล่นของบัวบูชามาหลอก ในสถานที่อโคจรเช่นไร้ความจริงใจเช่นนี้ หล่อนไม่เสี่ยงที่จะบอกชื่อจริงหรอก

“ผมชื่อภัทรนันต์”
เขาเสียงเข้ม

“นายแพทย์ภัทรนันต์เหรอคะ ชื่อเพราะจัง”
หญิงสาวแกล้งกระซิบใกล้หูเขา ใจนึกดูถูก ...คิดว่าเขาน่าจะสุภาพ สุดท้ายก็มองหล่อนแบบโลมเลียจนได้

“แล้วถ้าบัวป่วย บัวต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลอะไรเหรอคะ”
คำหวานกระแซะเข้าไปใกล้เพื่อยั่ว

“ไม่ต้องโรงพยาบาลหรอกครับ” ภาพผู้หญิงแสนสวยซึ่งเขาเจอในตอนแรกจางหายไป เหลือแต่ผู้หญิงกลางคืนท่าทางเจนโลกที่มาเบียดใกล้

“ผมตรวจได้ทุกที่ คืนนี้เลยก็ได้”
ภัทรนันต์โอบมือข้างหนึ่งรอบเอวคอด

“เท่าไหร่ล่ะบัว”
ดวงตาเขาแฝงแววปรารถนาเต็มที่

“โทษทีนะคะคุณหมอคืนนี้ฉันมีคนจองแล้วค่ะ”
หล่อนแกะมือเขาออก แต่ก็ยากเย็นราวกับง้างท่อนเหล็ก

“เท่าไหร่ ผมจะซื้อเหมาคุณเลย ยอมจ่ายเงินค่าเสียเวลาให้คนที่จองคุณเลยก็ได้”
เขายอมทุ่ม บอกตัวเองว่ายังไงก็อยากจะได้หล่อนเหลือเกินคืนนี้

“เสียใจด้วยนะคะคุณหมอ ถึงฉันจะขาย ฉันก็เลือกผู้บริโภคค่ะ”
หล่อนเทน้ำเย็นไปที่กลางเท้าเขาทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งตกใจจนเผลอคลายอ้อมแขน

“ตายจริง! บัวนี่ล่ะก็ซุ่มซ่ามเหลือเกิน เดี๋ยวต้องตามเด็กมาเช็ดน้ำที่หกเสียแล้ว”
คำหวานกรีดร้อง เรียกความสนใจจากคนในห้อง

“กู๊ดไนท์นะคะคุณหมอ”
หญิงสาวกระซิบก่อนที่จะเดินตัวปลิวออกไปท่ามกลางความตกตะลึงของภัทรนันต์

*****************************



Create Date : 16 มกราคม 2553
Last Update : 16 มกราคม 2553 13:54:12 น. 1 comments
Counter : 392 Pageviews.

 
แสบจริงนะ น้องหวาน


โดย: kid IP: 58.8.196.210 วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:23:07:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.