|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
กาแฟรสรัก.....ม็อคค่า(แก้วที่สาม)......series
ม็อคค่า
หญิงสาวสองสองสไตล์เปิดประตูเข้าในร้านกาแฟในเวลาบ่าย สาวคนหนึ่งผมหยิกเป็นลอนแต่งตัวเปรี้ยว ส่วนอีกคนหนึ่งอายุมากกว่าใส่เสื้อเชิตขาวกระโปรงทรงเอ รวบผมเป็นมวยและใส่แว่นสายตา “ ม็อคค่าค่ะ “ สาวใส่แว่นสั่งเสียงฟังชัด คนที่อยู่ในเคาน์เตอร์ค้อมศีรษะแสดงอาการรับรู้
“ ชาเย็นค่ะ “ อีกคนหนึ่งสั่งตาม เสียงเนือยๆทั้งสองไปนั่งหลบมุมอยู่ที่หน้าต่างบานกระจก “ พี่ไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆว่าทำไมถึงได้เลือกคนนี้ “ พี่สาวเปิดฉากใส่น้องสาว “ แฟนเธอน่ะเป็นอาร์ติส ดูไม่มั่นคงเลย “ น้องสาวหัวเราะเบาๆ การนัดเจอกันของสองพี่น้องมักจะเกิดเรื่องขัดแย้งกันเสมอ
“ พี่นี่ก็ยังตัดสินอะไรจากมุมมองของตัวเองเหมือนเคย “ น้องสาวแขวะ เป็นเหตุให้พี่สาวคอแข็งขึ้นทันใด น้องสาวคนสวยของหล่อนยังหุนหันพลันแล่นเหมือนเดิม ทำอะไรตามอารมณ์ ครั้งนี้หนักมาก น้องสาวบอกว่าจะแต่งงานกับผู้ชายที่เป็นศิลปินผมยาว “ พี่มองจากมุมมองของความเป็นจริงต่างหาก เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ต้องตัดสินใจให้ดี “ คนฟังเหยียดยิ้ม พวกหล่อนมีกันแค่สองคนพี่น้อง การตัดสินใจอะไรมักทำร่วมกันเสมอ แต่ครั้งนี้น้องสาวกลับตัดสินใจไปก่อน
“ ไม่โรแมนติคเลยนะพี่ หนูจะแต่งก็เพราะรักเขา “ “ แต่เราควรเลือกให้ดีกว่านี้สิ อย่าใช้คำว่ารักตัดสินทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นเราอาจจะติดกับดักของชีวิตนะ “ น้องสาวกลอกตาไปมา อ่อนใจกับสำนวนอาจารย์สอนวิชาภาษาไทยของพี่สาว “ หนูยอมติดกับดักนะพี่ เพราะหนูก้าวลงไปเอง ดีกว่าค้างเติ่งอยู่บนคาน “ พี่สาวเม้มปากไม่พอใจผู้เป็นน้องสาว ถ้าไม่ติดว่าโตๆเป็นผู้ใหญ่กันแล้วหล่อนจะตีก้นเสียให้เข็ดกับวาจาร้ายกาจเช่นนี้
“ เครื่องดื่มที่สั่งได้แล้วครับ “ เครื่องดื่มในแก้วร้อนและเย็นวางลงตรงหน้าโดยคนเสริฟตัวสูงผมเรียบแปล้ในเชิตขาว พี่น้องทั้งสองหยุดการสนทนาหันไปสนใจกับเครื่องดื่ม “ ไหนว่าพี่ไม่ชอบกาแฟไง แล้วทำไมสั่งม็อคค่า “ น้องสาวปรายตาดูพี่สาวแว่นผู้ทรงภูมิ
“ เพราะมันมีกลิ่นหอมแล้วก็ส่วนผสมของช็อคโกแลตไง มันเลยแตกต่าง…” “ ดับเบิ้ลสแตนดาร์ด “ น้องสาวเปรยลอยๆ พี่สาวนิ่วหน้ารอดูท่าทีว่าน้องสาวจะแขวะอะไรอีก
“ กาแฟมันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ ไม่ว่าจะผสมอะไร ขอแค่เราชอบ เหมือนกับที่หนูรักแฟนหนูนั่นแหละ วันนี้เขาอาจจะเป็นศิลปินวาดภาพธรรมดาๆ แต่วันข้างหน้าเขาอาจจะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงแบบอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์หรือไม่ก็ เนาวรัตน์ พงไพบูลย์ที่พี่ชอบนักชอบหนาก็ได้ “ “เนาวรัตน์ พงไพบูลย์ เป็นกวี “ พี่สาวสวนเบาๆ น้องสาวยักไหล่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ ก็เครือๆกันนั่นแหละศิลปินเหมือนๆกัน “
หล่อนนิ่งมองคนตรงหน้า น้องสาวไม่ใช่เด็กอีกต่อแล้ว…เป็นหญิงสาวมีการงานทำ มีความคิดเป็นของตัวเอง บางที…คงจะถึงเวลาที่หล่อนต้องวางมือจากคนตรงหน้าแล้ว “ ก็แล้วแต่แกก็แล้วกัน ยังไงก็ควรจะจัดงานให้มันถูกต้อง เห็นแก่หน้าพ่อแม่บนสวรรค์บ้าง “ พี่สาวถอนหายใจ น้องสาวยิ้มร่าเข้ามากอดประจบเมื่อพี่สาวยอมใจอ่อน “ หนูนึกอยู่แล้วว่าพี่ต้องเข้าใจ “
คนอ่อนวัยกว่าซบหน้าลงกับไหล่หล่อนพูดเสียงอู้อี้ “ เราสองคนรักกันค่ะพี่ หนูคิดว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านั้น ถ้าเป็นเขา หนูคิดว่าจะอยู่ได้ชั่วชีวิต ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมาหนูก็ยินดีรับผลของมันค่ะ เพราะหนูเลือกเอง “ หล่อนโอบกอดน้องสาวอย่างแผ่วเบา สายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องนั้นเหนียวแน่นเสมอ อาจจะทะเลาะกันบ้าง ความเห็นไปคนละทาง แต่พวกหล่อนก็คือคนสองคนที่มีสายเลือดเดียวกัน
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น น้องสาวหยิบมาดูแล้วก็อมยิ้ม คนรักคงโทรมา น้องสาวแยกไปคุยโทรศัพท์ปล่อยหล่อนนั่งบนเก้าอี้อย่างเดียวดาย ความเงียบเหงาในวันที่ไม่มีน้องสาวสักวันหนึ่งหล่อนคงจะชิน “ เขาจะมารับหนูน่ะพี่ พี่จะไปด้วยไหมเดี๋ยวพวกหนูไปส่งที่มหาวิทยาลัย “ พี่สาวเพียงยิ้มๆ หล่อนมีสอนนักศึกษาปริญญาโทช่วงหัวค่ำ
“ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่ดื่มกาแฟอีกสักหน่อยค่อยกลับ เราไปเถอะเดี๋ยวแฟนจะคอย “ น้องสาวมากอดเอวหล่อนเหมือนสมัยยามเด็ก ใบหน้านั้นยิ้มอย่างมีความสุข “ หนูรักพี่ที่สุดเลยค่ะ สัญญานะคะว่าถ้าพี่มีแฟนแล้วต้องพามาแนะนำให้หนูรู้จักด้วย คราวนี้ล่ะก็หนูจะหวงพี่ให้สุดๆเลย “ หล่อนได้แต่หัวเราะเบาๆเพราะรู้ว่าวันนั้นคงไม่มาถึง ว่าที่น้องเขยศิลปินมาดเซอร์เข้ามารับน้องสาวถึงในร้าน คนนี้คงจะมีดีกว่าที่เห็นเพราะเขาเข้ามาไหว้หล่อนและจูงมือน้องสาวไว้ตลอดเวลา
เสียงเพลงสากลแว่วหวานมา ม็อคค่าเหลืออยู่นิดหน่อย ถึงเวลาที่หล่อนต้องไปแล้ว “ ตามหาแทบแย่แน่ะ โทรศัพท์ก็ไม่รับ “ ผู้พูดเป็นหนุ่มแว่นหน้าใสในชุดนักศึกษา ตัวสูงโปร่ง เขาเดินมานั่งข้างหล่อน “ โชคดีนะที่ผมเห็นรถคุณก่อน ไม่งั้นเย็นนี้ผมจะกลับไปรอที่มหาลัย “ หล่อนขยับตัวเบี่ยงหนี แต่ดูเหมือนคนอ่อนวัยกว่าจะกระแซะเข้ามาใกล้เรื่อยๆ “ ไหนว่ามีนัดกับน้องสาวคุณไง เธอกลับไปแล้วเหรอ “ เขาพึมพำเบาๆ
“ คำว่าเธอ ควรจะใช้กับคนที่อายุน้อยกว่านะ น้องสาวฉันเขาอายุมากกว่าเธอ “ คนฟังอมยิ้มกับการทำตัวเป็นแม่แก่ของคนตรงหน้า “ ครับ…ครับ แต่ถ้าคุณแต่งงานกับผมแล้วล่ะก็เขาก็จะกลายเป็นน้องผมด้วยสิ “ หล่อนหันขวับไปทางเขา ขณะที่เจ้าตัวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ เลิกพูดจากำกวมสักที เธอเป็นนักศึกษาของฉันนะ ให้เกียรติฉันที่เป็นอาจารย์เสียบ้าง “ เขาหัวเราะหึๆกับท่าทีขู่ฟอดๆของคนตรงหน้า
“ คร้าบ…คร้าบ คุณเป็นอาจารย์แล้วก็เป็นแฟนผม “ หล่อนอ้าปากค้างกับคำตู่ของคนตรงหน้า คนในชุดนักศึกษาหันไปสั่งเครื่องดื่มกับคนผมเรียบแปล้ในเชิตขาว “ หิว ตามหาคุณเสียเหนื่อย คิดว่าหายไปไหน “ หล่อนสะบัดหน้าหนีเขาอย่างอึดอัด เขามาตามเกาะหล่อนเป็นปลิงตั้งแต่คราวที่หล่อนเมามายไม่ได้สติที่พัทยา
งานเลี้ยงสละโสดของเพื่อนสาว มีเพียงหล่อนเท่านั้นที่ยังอยู่บนคาน หล่อนดื่มมากไป หัวหมุน รู้ตัวอีกทีก็นอนอยู่ที่ริมทะเลกับเขาคนนี้ ริมทะเลจริงๆ…เขาไม่ได้ล่วงเกินอะไรหล่อนเลย หล่อนคิดว่าอย่างนั้น… แต่หลังจากนั้นจึงได้รู้ว่าเขาเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสองในมหาวิทยาลัยหล่อนเอง นักศึกษาหนุ่มมาวนมาเวียนใกล้หล่อนอยู่เรื่อยๆ คำพูดกำกวมแสดงความเป็นเจ้าข้าวของมันทำให้หล่อนใจเต้นแปลกๆ
“ แล้วคุยกับน้องสาวเป็นยังไงบ้างครับ “ “ ก็ดี เขาสบายดี “ คนฟังหัวเราะหึๆ “ ดูรักกันดีนะน้องสาวคุณกับแฟนเขาน่ะ “ หล่อนนิ่วหน้าเขารู้ได้ยังไง
“ ผมขับรถสวนทางกับพวกเขา น้องสาวคุณหน้าเหมือนกับคุณเลย “ ตั้งแต่เด็กไม่มีใครชมเลยว่าหล่อนสองพี่น้องเหมือนกัน น้องสาวได้ส่วนที่ดีๆของแม่ ส่วนหล่อนได้ความสุขุมแบบพ่อ น้องสาวสวยร่าเริง ส่วนหล่อนเป็นคนนิ่งๆ “ แต่ผมชอบแบบคุณมากกว่า “ นั่นประไร! เขามักจะตบท้ายด้วยประโยคที่ทำให้หล่อนใจเต้น
หล่อนไม่อยากถูกมองว่าเป็นสมภารกินไก่วัด แถมไก่ยังหนุ่มเสียด้วย มันไม่ถูกไม่ควร…
“ เลิกมายุ่งกับฉันเสียทีเถอะ ไปจีบเด็กนักศึกษาสาวๆไป๊ อย่างเธอมีอนาคตอีกไกล “ หล่อนไล่เขาประจำ คนในชุดนักศึกษามองหล่อนยิ้มๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนหล่อนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆของบุรุษเพศ “ บอกแล้วยังไงละครับ ผมชอบคนสวยและคุณก็เป็นแบบที่ผมชอบ “ ใบหน้าหล่อนกับเขาอยู่ใกล้กันไม่ถึงคืบ ตายล่ะ! สถานการณ์อันตราย ตอนที่นางเอกในนิยายจะถูกจุมพิตคงจะรู้สึกเช่นนี้กระมัง
“ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำ “ หล่อนลุกพรวดพราดขึ้นเสียงสั่นนิดๆ ไม่! หล่อนเป็นครูบาอาจารย์นะ จะไปหวั่นไหวกับอาการหมาหยอกไก่เช่นนี้ได้อย่างไร “ นี่ครับกระเป๋า “ เขายืนกระเป๋าถือให้ หล่อนกระชากกระเป๋าเดินลิ่วๆเข้าไปหลังร้าน คนหนุ่มหัวเราะเบาๆกับอาการเขินอายของคนอายุมากกว่า
“ เครื่องดื่มที่สั่งได้แล้วครับ “ ชายผมเรียบแปล้ในเชิตขาวยกเครื่องดื่มและของว่างมาเสริฟ “ เขาสั่งอะไรดื่มครับ คุณเอามาเติมให้หน่อย ช็อคโกแลตหรือเปล่าหอมดี “ เขาบุ้ยปากไปที่กาแฟที่หล่อนเหลือทิ้งไว้ “ คุณผู้หญิงดื่มม็อคค่าครับ กาแฟที่มีรสชอคแลต หอมน่ารัก ดูไม่มีพิษไม่มีภัย แต่รสหนัก “ หนุ่มในชุดนักศึกษาหัวเราะเบาๆ ร้านเล็กๆและเวลาบ่ายอันเงียบสงบอย่างนี้ พูดอะไรคงได้ยินกันหมด
“ นั่นสินะครับ ผมทายว่าคุณคงไม่ได้บอกเธอว่ารสของม็อคค่ามันหนัก “ คนผมเรียบแปล้ยิ้มบางๆ “ กาแฟก็คือกาแฟครับ มีจะผสมอะไรเข้าไปคุณสมบัติก็ไม่เปลี่ยน แม้ผู้คนจะชอบชอคโกแลตเพราะว่ามันเป็นมิตร นุ่มนวล แต่สำหรับม็อคค่าแล้วมันคือกาแฟครับ ยังไงก็ติด…” หนุ่มนักศึกษานึกชมในใจที่คนชงกาแฟช่างเปรียบเปรย
“ นั่นสินะครับ ผมก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่คุณก็ช่างเก่ง ที่ปรุงกาแฟรสหนักๆให้เธอดื่มได้ “ คนผมเรียบแปล้ยิ้มเหมือนเดิม ค้อมศีรษะลงเล็กน้อย “ ทุกอย่างต้องอาศัยเวลาครับ สูตรกาแฟของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความลับในการชงคืออย่าบอกส่วนผสมทั้งหมด ให้คนดื่มค้นหา และสนุกกับการคาดเดา “ เขาหรี่ตามองคนในเชิตขาวตัวสูง แสงจากแหวนไหววูบบนนิ้วมือ
คนตรงหน้านี่ช่างร้ายกาจจริงๆเขายังเทียบไม่ติด นี่ขนาดแต่งงานแล้ว สมัยหนุ่มๆสาวๆคงเยอะน่าดู ผิดกับเขาที่รักเดียวใจเดียวกับอาจารย์สาวแว่นปากไม่ตรงกับใจ อายุห่างกันเกือบรอบ นั่นไม่ใช่ปัญหา…แต่ปัญหาอยู่ที่เสน่ห์ของการเป็นผู้ใหญ่ของหล่อนต่างหาก “ ทุกคนมีสูตรที่ชอบต่างกันนะ คุณว่าอย่างนั้นไหม “ เขาเปรยลอยๆ คนผมเรียบแปล้ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ยิ้มและเดินกลับไปยังเคาน์เตอร์
เธอของเขาเดินกลับมาแล้วพร้อมกับตีสีหน้าเคร่งขรึม เขาแอบยิ้ม เดี๋ยวเถอะ! เขาจะทำให้หล่อนหน้าแดง อึกอัก แสดงสีหน้าที่เขามีสิทธิ์ได้เห็นเพียงคนเดียว ใช้ความอ่อนเยาว์ของเขามัดหัวใจที่เป็นผู้ใหญ่ของหล่อนไว้ จนกว่าจะถึงเวลาแล้วค่อยรวบมาเป็นของตัวเอง
เอาน่า…อีกสี่ปีกว่าเขาจะเรียนจบ อย่างไรหล่อนก็หนีเขาไปไหนไม่รอด… วนเวียนใกล้ชิดหลอกล่อว่าเป็นชอคโกแลตหวานอร่อย เชิญชวนให้ลิ้มลองกว่าหล่อนจะรู้ตัวหล่อนก็คง…ติดเขาเหมือนกับที่ติดเจ้าม็อคค่ารสหนักถ้วยนี้
“ ของที่สั่งได้แล้วครับ “ คนผมเรียบแปล้วางจานเค้กโรยอบเชยบ่นลงบนเคาน์เตอร์ หญิงสาวจิบกาแฟแล้วหันมาจัดการอาหารบนจานอย่างหิวโหย “ โชคดีจังที่ร้านคุณยังพอมีอะไรเหลือบ้าง ไม่งั้นคงต้องหิ้วท้องกลับหอ “ หล่อนพึมพำงานในบริษัทวันนี้เยอะจนหล่อนแทบไม่ได้ทานข้าว ชายหนุ่มยิ้มนิดๆหันกลับไปเช็ดแก้วกาแฟสีขาวสะอาด
“ ครั้งที่แล้วเป็นยังไงบ้างครับกาแฟที่ผมให้ไป “ เขาหมายถึงกาแฟปลอมที่เอามาหลอกหล่อน “ ค่ะ ดีมากเลย ขอบคุณนะคะ ลูกค้าชอบมากเลย ท่านคุยกับฉันตั้งหลายอย่าง ท่านถามถึงคนที่เอากาแฟมาให้อย่างคุณด้วย ฉันเลยโม้เรื่องคุณไปเยอะเลย “ หล่อนเล่าเสียงใส ใบหน้ายิ้มร่า
“ ท่าน เอ๊ย! ลูกค้าของฉันน่ะค่ะบอกว่าให้ระวังตัวไว้ให้ดี เพราะกาแฟเป็นของสูงค่า มีความต้องการตลอด ระวังจะตกไปอยู่ในมือพวกที่ไม่เห็นคุณค่าของของดี “ เขาอมยิ้มนึกชอบใจที่หล่อนช่างจดช่างจำดีเหลือเกิน “ ลูกค้าชวนฉันไปดื่มกาแฟด้วยนะคะ ฉันเลยคิดว่าจะมาชวนคุณที่รู้เรื่องกาแฟไปด้วยดีกว่า “ หล่อนอยากให้เขาไปเป็นที่พึ่งเพราะลูกค้าคนสำคัญเป็นคอกาแฟตัวจริง หล่อนไม่อยากไปเผลอพูดอะไรให้หน้าแตกจนลูกค้าไม่พอใจ
“ ได้สิครับ “ เขาโคลงศีรษะไปมา “ ถ้าผมว่างนะครับ คุณนัดเวลามาก็ดี “ หล่อนค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย เมื่อทานเค้กเสร็จแล้วเขากลับไม่คิดเงิน “ เค้กนั่นผมทำเองครับ ฝีมือไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ปรกติผมจะรับมาจากที่อื่นเสียมากกว่า “ เขาสารภาพแบบยิ้มๆ หล่อนชมเขาว่าเค้กอร่อยมาก คนผมเรียบแปล้ได้แต่ยิ้มแล้วค้อมศีรษะ
“ ผมดีใจที่คุณชอบครับ “ “ แต่ฉันว่าเค้กของคุณมีกลิ่นหอมแปลกๆ คุ้นจมูกยังไงพิกล “ หล่อนเอานิ้วชี้แตะริมฝีปากในท่าคิด เขายื่นหน้ามาใกล้ “ ผมโรยอบเชยหรือว่าชินนาม่อนด้วยครับ กลิ่นของมันทำให้ผ่อนคลาย แต่ผมว่าจะไม่โรยมันอีกแล้วล่ะ “ หล่อนนิ่วหน้าแปลกใจ ทำไมเขาจึงจะไม่ทำอีกแล้วทั้งๆที่หล่อนออกจะชอบ
“ อบเชย หอมเย็น ทำให้ลุ่มหลง มันเป็นส่วนผสมของเครื่องหอมและยาเสน่ห์ครับ “ คำเฉลยของเขาเล่นเอาหล่อนหน้าเหวอ นี่เขาใส่อะไรลงไปกันแน่ “ ผมล้อเล่นน่ะครับ “ ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นปฏิกิริยาของลูกค้าสาว “ คนไทยคุ้นกับกับอบเชยในรูปของเครื่องพะโล้ ผมเลยไม่ค่อยอยากจะโรยเพราะกลัวหนักมือไป คุณคงไม่อยากทานเค้กกลิ่นพะโล้หรอกนะครับ อีกอย่างฤทธิ์ของอบเชยทำให้สดชื่นคลายความเหนื่อยล้าจึงไปได้ดีกับกาแฟ “ หล่อนพยักหน้าเห็นด้วยกับเขาช้าๆ อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน
ชายหนุ่มมองหญิงสาวเดินตัวปลิวออกจากร้านไป ที่เขาบอกหล่อนเมื่อกี้นี้ล้วนโกหก โดยเฉพาะคำว่า “ ล้อเล่น “ ที่เหลือเป็นเรื่องจริงทั้งหมด พ่อเขานี่ร้ายจริงๆฝากคำแขวะผ่านกลีบบางๆมาถึงเขาเสียได้ แต่ก็ดีเหมือนกันที่เขาได้เห็นหล่อนยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก หล่อนคงไม่รู้หรอกว่ายิ้มของหล่อนหวาน ชวนให้หลงมากกว่าน้ำตาลชนิดไหนในโลก ของชั้นดี…ที่ต้องใช้เวลาในการบ่มอีกนิด ก่อนที่จะมาเป็นของเขาคนเดียว…
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2551 |
|
10 comments |
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2551 3:00:51 น. |
Counter : 870 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: dena IP: 203.155.149.89 24 พฤศจิกายน 2551 10:17:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bangkokian IP: 202.171.164.19 25 พฤศจิกายน 2551 6:30:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: หรึ่มเสมอ IP: 125.25.93.241 25 พฤศจิกายน 2551 12:59:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: เล็ก IP: 125.27.197.31 11 ธันวาคม 2551 0:29:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอิง IP: 81.8.153.60 8 สิงหาคม 2552 4:33:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ม็อคค่า IP: 125.24.69.14 15 ตุลาคม 2552 18:18:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: ม็อคค่า IP: 125.24.69.14 15 ตุลาคม 2552 18:21:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: Maple IP: 203.144.144.164 26 มีนาคม 2553 1:55:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: หญ้าอ่อน IP: 58.8.78.90 20 พฤษภาคม 2553 23:13:55 น. |
|
|
|
|
|
|
|