|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สาระ // มาทำความรู้จักกับเจ้า Botulinum Toxin กันค่ะ
หลังจากที่ได้นำเสนอเรื่องราวของแก้ไขปัญหารูปหน้า ด้วยการ เติมความพร่อง และ ลดความเกิน ของรูปหน้า เพื่อให้มีรูปหน้าที่สวยสมบูรณ์แบบไปแล้ว [อ่านได้ที่นี่ค่ะ สาระ // การสร้างมิติให้ใบหน้า ด้วย Botox & สารเติมเต็มทางการแพทย์ (Filler) ] วันนี้มีเรื่องราวของสารสำคัญที่ใช้การปรับรูปหน้า ที่เป็นที่นิยม และรู้จักกันทั่วโลกมาฝากค่ะ นั่นคือ สาร สาร BOTULINUM TOXIN ค่ะ
1. สาร BOTULINUM TOXIN เป็นโปรตีนจากธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ ที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ( ซึ่งสาร BOTULINUM TOXIN ควรเลือกใช้จากบริษัทยาที่น่าเชื่อถือเท่านั้น อย่าเสียดายที่ว่า ราคาถูกกว่ากัน เดี๋ยวจะกลายเป็น เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายค่ะ และเป็นอันตรายได้ อย่าลืมสืบค้น ข้อมูลเกียวกับที่มานะคะ)
ข้อควรทราบเกียวกับ BOTOX 1 : BOTOX คือชื่อทางการค้าจากหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตสาร BOTULINUM TOXIN รายดังรายหนึ่ง แต่คนไทยเราเรียกกันจนติดปาก โดยเรียกชื่อ ยี่ห้อ BOTOX แทนชื่อสารค่ะ
Botox เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ ซึ่งสกัดได้จาก BOTULINUM TOXIN Type A ที่ฮอตฮิตติดอันดับหนึ่ง ของวงการความสวยความงามทั่วโลก
**************************
2. คุณสมบัติของ สาร BOTULINUM TOXIN:
2.1 ช่วยคลายการหดตัวของกล้ามเนื้อ ลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นมาแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดขนาดของกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวอย่างเป็นธรรมชาติ ริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าเกิดจากหลายสาเหตุ
- ทั้งอายุที่เพิ่มขึ้นตามวัย - การถูกแสงแดดบ่อยๆ - ผลข้างเคียงจากการใช้เครื่องสำอางมากเกินไป - ความเครียด ความวิตกกังวล - และการทำงานของใบหน้าในลักษณะต่างๆ เช่น การขมวดคิ้ว การเลิกคิ้ว เลิกหน้าผากเป็นประจำ หรือในบางคนเมื่อยิ้มแล้วจะทำให้เกิดรอยตีนกา
2.2 ช่วยยับยั้งเหงื่อ รักษากลิ่นตัวให้ผล เหงื่อออกมากผิดปกติ เป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นตัว ก่อให้เกิดไม่มั่นใจและผลกระทบต่อจิตใจในการดำเนินชีวิตประจำวัน ถึงแม้ว่ายังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน แต่ปัจจุบันก็มีวิธีรักษาที่ทำง่าย ได้ผลดี มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องผ่าตัด และได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาทั่วโลก นั้นคือ การนำเอา BOTOX ฉีดเข้าบริเวณใต้ผิวหนังบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก BOTOX จะออกฤทธิ์ยับยั้ง การหลั่งของสารเคมี Acetylcholine ที่กระตุ้นการหลั่งของเหงื่อบริเวณต่อมเหงื่อจึงช่วยปริมาณเหงื่อและกลิ่นตัวได้ถึง 83% การรักษาใช้เวลาสั้นมาก ประมาณ 10 นาที ก็สามารถกลับไปทำงานได้หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น และหลังการรักษาครั้งแรกประสิทธิภาพในการรักษาของBOTOX จะคงออกฤทธิ์อยู่ได้นาน 6-10 เดือนขึ้น (อยู่กับแต่ละบุคคล )
* ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย และให้ผลในการรักษา ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้
2.3 ปรับโครงหน้าเหลี่ยมให้เรียวสวย ผู้ที่มีปัญหาโครงหน้าเหลี่ยม จะมีลักษณะกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร ที่ใหญ่กว่าปกติกล้ามเนื้อชนิดนี้มีชื่อว่า Masseter มักพบในคนที่นอนกัดฟัน สบฟันไม่สนิท หรือการเคี้ยวอาหาร ที่มีความเหนียวอย่างปลาหมึก หรือ หมากฝรั่งมากๆ ก็เป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้อบริเวณมุมกราม หรือขากรรไกรมีการพัฒนาให้หนานูนมากกว่าปกติ บางรายเป็นตั้งแต่กำเนิดเมื่อสังเกตบริเวณใบหน้าจะพบว่าคางเป็นเหลี่ยมชัดเจน หากลองกัดฟันจะเห็นบริเวณของกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง ชัดเจนกว่าคนปกติ
การฉีด BOTOX จะทำให้ใบหน้าเหลี่ยมดูเรียวเล็กได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงเหมือนกับการผ่าตัดกราม เพราะ BOTOX จะออกฤทธิ์ โดยการคลายกล้ามเนื้อและช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณของขากรรไกร ความหนานูน ของกล้ามเนื้อบริเวณมุมกรามจึงลดลง ทำให้รูปหน้าดูเรียวเล็กลงได้
BOTOX จะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากฉีดไปแล้ว ประมาณ 2 4 สัปดาห์ และออกฤทธิ์เต็มที่ช่วง2-3 เดือนหลังฉีด ซึ่งผลการรักษาแต่ละครั้งจะอยู่ประมาณ 6-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับแต่ละคน)
2.4 ลดน่องให้เรียวเล็ก ผู้มีปัญหาน่องใหญ่ เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณน่องโตมากผิดปกติ อาจมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ หรือการเดินผิดวิธี
การฉีด BOTOX เพื่อลดน่อง อาศัยหลักการเดียวกับการลดกล้ามเนื้อ ที่มุมกรามการฉีด BOTOX ที่น่อง จะทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวลดการทำงานลง ทำให้ขนาดของน่องค่อยๆลดลงเรื่อยๆ เรียวเล็กตามธรรมชาติ
ข้อควรทราบเกียวกับ BOTOX 2 : BOTOX มีประสิทธิภาพในการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพรรณ โดย BOTOX จะออกฤทธิ์ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อเล็กๆที่ก่อให้เกิดรอยย่นคลายตัว จึงมีการใช้สาร BOTOX ฉีดลบริ้วรอยกันอย่างแพร่หลายกว่า 70ปี ประเทศทั่วโลก
BOTOX ยังสามารถช่วยในการปรับแต่ง แก้ไขข้อบกพร่องของใบหน้าส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ดูดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรอยย่นบริเวณดั้งจมูก ปลายจมูกบาน หรือยกปลายจมูกให้ตั้งขึ้น ร่องแก้มลึก ริ้วรอยบริเวณ รอบรีมฝีปาก รอยหยักรอยบุ๋มบริเวณคาง รอยย่นบริเวณลำคอ การปรับความโค้งของคิ้วในรูปแบบต่างๆการทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น
เทคนิคที่น่าสนใจของการใช้ BOTOX : ในขณะนี้คือ การยก กระชับใบหน้า ให้ตึงขึ้น( (Microbotox for lifting) โดยแพทย์จะผสม BOTOX ที่มีลักษณะเป็นผงร่วมกับน้ำเกลือ ในปริมาณที่สูงกว่าการฉีดแก้ริ้วรอย และแทนที่จะฉีดเข้าในกล้ามเนื้อ ก็จะฉีดให้ตื้นๆ เข้าไปในชั้นหนังแท้แทน เคลมว่า วิธีนี้ให้ผลดีมาก โดยหลังฉีดหนึ่งสัปดาห์ จะรู้สึกใบหน้าตึงกระชับขึ้นผิวที่เคยหย่อนคล้อยดูตึงขึ้น รูขุมขน ดูเล็กลง นอกจากนี้ยังทำให้ใบหน้าไม่มันและดูละเอียดขึ้น
************************** 3. วิธีการรักษาโดยการใช้ สาร BOTULINUM TOXIN : ด้วยการฉีดยาตามพิกัดที่เหมาะสมในการรักษาแต่ละปัญหา โดยแพทย์ส่วนใหญ่จะฉีดสาร ในบริเวณที่จำเป็นเพียงไม่กี่จุด เนื่องจากป้องกันการเกิดรอยฝีเข็ม เห็นผลชัดเจนภายใน 7-14 วัน โดยสารจะสลายไปเองเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 4-6 เดือน ซึ่งอาจจะเร็วกว่า หรือนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่อาจจะเกิดความเสี่ยงในการเสื่อมสลายของสาร
ข้อควรทราบ และ ความปลอดภัยของ BOTOX
- BOTOX ถูกนำมาใช้ในเรื่องของความสวยงาม เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ ให้กับผิวพรรณมายาวนานกว่า 30 ปี โดยได้รับการยอมรับถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากองค์กรอาการและยาของสหรัฐอเมริกา(FDA) มานานกว่า16ปี
- BOTOX ยังเป็น BOTULINUM TOXIN เพียงตัวเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ใน 70 ประเทศทั่วโลก และมีการทดสอบการใช้ BOTOX เป็นเวลานานกว่า 12 ปี เพื่อยืนยันความปลอดภัยและผลการรักษาในคนกว่าล้านคนทั่วโลก
- จากการรักษาทางการแพทย์ต่างๆ BOTOX เป็นชื่อทางการค้า BOTULINUM TOXIN Type A ซึ่งไม่เหมือน และ อย่าสับสนกับผลิตภัณฑ์อื่นที่มีส่วนผสมของ BOTULINUM TOXIN คล้ายกันเพราะ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ตัวอื่นอาจซึมผ่าน หรือกระจายตัวในบริเวณใกล้เคียงได้ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดผลข้างเคียง อันไม่พึงประสงค์ได้มากกว่า เช่น ปากแห้ง กลืนอาหารได้ยากขึ้น และมีผลทำให้เสียงเปลี่ยนไป (ถ้าฉีดที่คอ )
- BOTOX มีส่วนประกอบของโปรตีน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน มาต่อต้านน้อยมากเมื่อเทียบกับ BOTULINUM TOXIN ตัวอื่นซึ่งมีโปรตีนสูงกว่ายี่ห้อ BOTOX ถึง 2-10 เท่า
- การเกิดภูมิคุ้มกันนี้ทำให้การฉีด BOTULINUM TOXIN ในครั้งต่อๆ ไปไม่ได้ผล ดังนั้นควรระวังผลข้างเคียงด้วย และเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยและได้ผลการรักษาที่ถูกต้อง โปรดถามหาขวด BOTULINUM TOXIN ที่แพทย์ฉีดให้ท่านว่า มีเครื่องหมายการค้า BOTIOX ที่แท้จริงหรือเปล่า
**************************
เพิ่มเติม เรื่องความปลอดภัยของ BOTOX
BOTOX ซึ่งนอกจากจะแก้ปัญหาความงาม BOTOX ยังสามารถใช้ในการรักษาโรคกล้ามเนื้อหดเกร็งในเด็กเล็กตั้งแต่ 2 ปี ได้อย่างปลอดภัย แพทย์จึงมั่นใจในความปลอดภัยของ BOTOX มาก
แต่ในปัจจุบันต้องระวังมากขึ้นเพราะมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่ไม่ใช่ BOTOX แต่อ้างว่าเป็น BOTOX แล้วก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อคนไข้ ดังเช่นที่มีให้ได้ยินอยู่เสมอ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ไม่ควรเสี่ยง
ควรสอบถามแพทย์ และขอดูขวดยาให้แน่ใจว่ามีเครื่องหมายการค้าของ BOTOX ของแท้จากสหรัฐอเมริกาจริง เพราะเป็น Brand เดียวที่มีผลงานวิจัยในประสิทธิภาพความปลอดภัย และได้ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ 1,800 ฉบับทั่วโลก จนทำให้แพทย์ผิวหนังทั่วโลกยอมรับ
จบข้อมูลด้านการเสริมความงาม ที่นิยมแพร่หลายในขณะนี้ด้วยการฉีดสาร BOTULINUM TOXIN Type A ในชื่อทางการค้าของบริษัทที่เป็นที่นิยมว่า BOTOX แล้วนะคะ แล้วจะหาข้อมูลที่น่าสนใจเกียวกับ ความงาม และ สุขภาพมาฝากกันอีกค่ะ สวัสดีค่า
อ้างอิง ขอขอบคุณข้อมูลจาก Immagini Clinic & Daisy Diva
Create Date : 11 พฤษภาคม 2554 |
|
1 comments |
Last Update : 28 มกราคม 2560 14:03:17 น. |
Counter : 1946 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
United Kingdom
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]
|
สงวนลิขสิทธิ์ ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าจะเป็นการลอกเลียน หรือ นำส่วนหนึ่งส่วนในของข้อความ รูปภาพ ใน Blog Chadalaem แห่งนี้ไปใช้ โดยเผยแพร่ในทางการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
|
|
|
|
|
|
|