Bloggang.com : ชะเอมหวาน : วันที่4ที่ต้าเหลียน --เจอขโมยมือถือหละ เมืองจีนนี่ไม่น่าไว้ใจเลย

วันที่4ที่ต้าเหลียน --เจอขโมยมือถือหละ เมืองจีนนี่ไม่น่าไว้ใจเลย

สบายดีกันรึเปล่าเนี่ย คิดถึงเมืองไทยแล้วอะนิดๆ เล่นตัวหน่อยๆ

เอมมาถึงวันที่ 4 แล้วนะ วันนี้เริ่มปรับตัวได้กับคนจีน อาหารจีน และ ภาษาจีน (ตอนแรกช็อคๆ มันแปลกเยอะอะ)เราไม่มีเบสิกเท่าไหร่ ปู้จื้อเต้าตลอด เหมือนคนใบ้เหอะ แย่ เมื่อยมือ

คือ เมื่อวาน เพื่อนน้องแอมพาไปเดินดูเสื้อ เอมเตรียมแต่เสื้อแบบหนาว หน้าหนาวบ้านเราไปอะ เพราะอ่านมาเค้าว่าพอๆกะบ้านเราหน้าหนาว

ที่นั่นอากาศเหมือนเมืองไทยเลย แต่ว่ากลางคืนหนาวง่ะ
เป็นไงล่ะ ไม่มีเสื้อใส่เลย
รู้งี้เอาเสื้อผ้าไปดีกว่า เพราะว่าเสื้อที่นี่แพง หรือเพราะพวกเอมยังไม่รู้แหล่งด้วยหละ มันเลยแพง
พวกโซนเกาหลี ราคา 150 หยวนอัพ คือ คูณ ห้า แล้วคิดว่าเมืองไทยถูกกว่า
คือโซนตรงนี้เค้าไม่ให้ต่อ แถมพวกห้างราคาแพงหรือว่าพวก โซนอื่นก็แบบไม่เยอะมาก แบบประมาณตลาดอินโดจีน ไม่ไหว

เลยรอวันอาทิตย์ คนไทยที่มาอยู่ก่อนจะไปซื้อแถวพวกร้านขายส่ง น่าจะถูกกว่าข้าวของที่นี่ก็ไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกเท่าไหร่ มันอยู่ที่เรากินน่ะ
ขนาดข้างถนนยัง 40-50 บาทเลย แต่ก็แล้วแต่นะ
คนที่นี่กินพวกอาหารที่เค้าเรียกว่า หมาล่า มันจะเหมือนน้ำจิ้มราดลงไปเผ็ดๆร้อนๆ หมา=ชา ล่า= พริกหรือพริกไทยนี่หละกินแล้วปากจะชาๆ ก็แปลกๆดี
มันจะเหมือนกินสุกี้ที่เผ็ดน้ำถั่ว งงๆ ต้องมาลองเองอะ
พวกขนมปังปอนด์ แบบร้านยามาซากิ ก็10-12 หยวน ก็ราวๆ หกสิบบาท
แต่ถ้าเป็นเหมือนพวกโลตัสก็ตามเมืองไทยอะ

เมืองที่นี่ที่เราอ่านคนอื่นมา ก็ไม่ได้สวยงามเหมือนที่เราหวังไว้เท่าไหร่(รู้งี้ไม่ตั้งความหวังไว้เยอะดีกว่า)
เช่น การขากถุย(เหมือนที่คนจีนเค้าเป็นกัน) ผู้ชายชอบเปิดพุง แล้วก็สูบบุหรี่กันจัดเหลือเกิน ไม่ชอบเลย
แต่ถ้าเทียบกับคนจีนเมืองอื่นเราว่าก็พอรับได้ เช่น ขึ้นรถเมล์ประตูหน้า ลงประตูหลัง ถ้าที่นั่งข้างหลังสุดว่าง แต่ว่าเข้าไม่ได้แม้ว่าจะคนเยอะ ก็ไม่เบียดแย่งมานั่งเหมือนเมืองอื่น

อากาศดีเลยละ แต่ที่กลัวคือหน้าหนาวละ หนาวสุดติดลบ 35 อยากเห็นเหมือนกัน แต่ไม่อยากอยู่ คงหนาวแย่

โรงเรียนDUFE-Dongbei University of Financial and Economics
เอมอยู่บนเนินเขาด้วย เดินไปกลับก็เหมือนขึ้นเนิน ลงเนิน เหมือนที่นุ่นแซวว่าเป็นเพลงจอมยุทธ์
แต่ไม่ดีตรงคู่รักอะดิ กอดจูบลูบคลำกันทุกป้ายรถเมล์เลย แต่คนที่เคยไปจีนก็จะว่าเป็นเรื่องปกติ คนไทยที่มาอยู่ก่อนบอกว่า ตอนเปิดเทอมตามข้างถนนในมหาลัยก็มี รักกันซะ

เรื่องหอพัก วันนี้ไปคุยกับคนที่เคยติดต่อทางอีเมลล์มา เค้าบอกว่าเราต้องอยู่หอเดิม เกิดอาการเซ็งนิดๆ เพราะหอในโบชัวร์อีกตึกนึงสวยกว่านี้ง่ะ
เป็นอีกตึกนึง แล้วเค้าบอกว่าจะเปลียนให้จนท.พัก เราเลยได้หอเดิม

เรื่องวิชาเรียนที่จะไปเรียนโทเทอมหน้าด้วย วิชาท่องเที่ยวที่เคยคิดจะย้าย เค้าบอกว่า ตอนนี้มันมีคนเรียนแค่ 7 คนถ้าคนเรียนน้อยเค้าอาจจะยุบไปสอนแต่ธุรกิจแทน

กำลังคิดว่าจะอยู่ที่นี่สองเทอม หรือทั้งปี หรือเทอมเดียว เพราะว่าวีซ่าที่เค้าให้จะต่างกัน
ถ้าเป็นหกเดือนจะ 420 ถ้า 1 ปีจะ 810 หยวน
เพราะเอมเรียนเทอมแรกเปิดเทอม 8 กันยาถึง15 ธันวา
แล้วเทอมสอง 9 กพ. คือกลับไปทำวีซ่าได้เลยอะ แล้วกลับมาเรียนอีกเทอม ถึงประมาณ 11 พฤษภา ก็ค่อยไปอังกฤษเทอมสาม
เค้าแนะนำให้ไปอังกฤษ เทอมสุดท้าย เพราะไม่ต้องเข้าเรียน ถ้าทำเสร็จเร็วก็จะได้ไปเที่ยว อันนั้นหละประเด็น หุหุ

ก็คิดๆว่าจะเรียนดีรึเปล่า เหมือนเค้ายังไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ มันเปิดมาปีที่สองเองอะ แต่ว่าบรรยากาศและผู้คนที่เราลองแคมปัสทัวร์ ก็โอเคนะ
ไปดูโรงเรียนอื่นก็ไม่ค่อยชอบ

เรื่องตลกคือคือแบบว่าเอมกลายเป็นของแปลกเลยอะ เค้าเลยมองว่าสวย โฮะๆๆๆ
สีน้ำผึ้งที่นี่ขาดแคลน ตาโตๆก็คงไม่ค่อยมี ละจิ หุหุ หน้าไทยๆนี่ก็ดีเนอะ พรีเซนต์ชาติตัวเองไปเลย
ยิ่งเวลาไปเดินห้าง ตลกดีว่าหุ่นโชว์อะ ตาโตมากๆ โตซะครึ่งหน้า แอมชายบอกว่าเค้ามีปมด้อยไง เลยต้องทำตาใหญ่ๆ

พิมยาวไปมั้ยเนี่ย เน็ตที่นี่พอเพิ่มเงินเอีกร้อยนึง จากร้อยห้าสิบก็เร็วดีนะ
โทรศัพท์ก็โทรมาได้นะ เพราะว่าไม่ต้องเสียเงิน นาทีละห้าบาทโดยประมาณ ถ้า 009 นะ

เวลา ที่นี่เร็วกว่าเมืองไทยประมาณชั่วโมงนึง อากาศก็ไม่หนาว
แบบ ถ้ามาต้าเหลียนตอนนี้ เหมือนไปเที่ยวเชียงใหม่อะไรอย่างนี้เล้ย

ลืมเล่าว่าเพื่อนแอมหญิงโดนขโมยมือถือซึ่งๆหน้าเลย แต่ว่าเธอเสียงดัง แล้วมันขโมยตรงที่คนเยอะๆ พอเพื่อนแอมกรี๊ด คนเลยมองเต็มเลย
แล้วก็รีบดึงเอามือถือกลับ ชี้หน้ามันด้วย แต่นึกคำด่าภาษาจีนไม่ทัน
แต่ละประสบการณ์ เห่อๆๆ
ถ้าจะมาทำธุรกิจที่นี่ คงไม่กล้าเอาอะไรไปขาย เพราะตัวเลือกเค้าเยอะมาก แค่ซื้อนมกล่อง ยังมีเป็นสิบยี่ห้ออะ
สงสัยถ้าจะทำธุรกิจอะไรที่นี่ต้องนำเข้าละมั้ง จะเสียดุลอะป่าวเนี่ย

จิงๆมีอีกหลายเรื่อง แล้วจะทยอยเล่า แต่จากการเรียนมาสี่วัน คนไทยออกเสียง q ชีไม่ได้เลย ไม่รู้ทำไมแล้วก็ การมาก่อนทำให้เรามีแรงฮึดพอสมควร

คนที่เราเจอนะคิดเลยว่า คนไทยมัวทำอะไรกันอยู่อะ

สาวแคนาดา สวยน่ารักเรียนภาษาจีนมาสิบสามปี พ่อแม่พูดไม่ได้นะ แล้วก็เคยมาเมืองไทยสองอาทิตย์ แต่ว่าพูดไทยชัดแจ่มเลย แถมร้องเพลงตูนบอดี้แสลมได้อีก เค้าพูดจีน ญี่ป่น ฝรั่งเศส(เค้าอยู่ควิเบก) อังกฤษ ไทยเล็กน้อย ได้นี่คือแบบคล่องด้วยนะ

ริกะก็น่ารัก เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นไต้หวัน ที่พูดจีนสำเนียงเหมือนคนจีน ได้ญี่ป่น อังกฤษก็คล่อง ได้ภาษากวางตุ้งด้วย เอาเข้าไป

วาเลนติน่า เป็นคนอิตาลีที่เก่งขนาดสอบได้ทุน เค้าก็ได้อิตาลี จีน อังกฤษ ภาษาสเปนแล้วก็เยอรมันอีกนิดหน่อย

แฟนเค้าได้ hsk ระดับ8 อะ เราก็ไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าระดับ 4 ก้ถือว่าโอเคแล้ว

คนโรมาเนียนก็จ้อจีนกันคล่องแคล่ว แล้วก็ได้ภาษาแถวๆประเทศเค้าอีก 2 4ภาษาจำไม่ได้ ไม่นับภาษาอังกฤษนะ รู้แต่ว่าคล่องอะ

ได้รู้จักกับ ชัยมา เป็นนางแบบที่ตูนีเซียอะ เพิ่งรู่ว่าอยู่ตรงไหนของโลก เค้าพูดฝรั่งเศสได้ อาหรับ(เป็นอิสลาม) จีนได้ อังกฤษ สเปน โอย จะเก่งกันไปไหนเนี่ยย

พวกคนที่ว่าอยู่ห้องระดับสูงแล้วนักเรียนก็มีแต่พวกระดับสูง ห้องเราเบสิกสุด มีคนน้อยสุดเลย

เอาเป็นว่าเล่าเท่าที่นึกไดก่อนนะ

แค่นี้หละ ไม่ได้เม้านาน เอาให้หายคิดถึง สงสัยอะไรก็หลังไมค์ได้นะ
เพราะชอบตรงมันกระพริบๆกล่องข้อความ แต่ถ้าจะทิ้งคอมเม้นไว้จะขอบคุณที่สุด

ไปก่อนนะ

จุ๊บๆ

ฝากรูปนิดๆหน่อยๆ

Create Date : 24 กรกฎาคม 2551

Last Update : 29 กรกฎาคม 2551 16:07:20 น.

2 comments

Counter : 139 Pageviews.

เข้ามาอ่านเรื่องราวของคนไทยที่ไปเรียนที่จีน

เสียใจด้วยนะครับเรื่องมือถือ ที่จีนพวกโจรมันจ้องจะขโมยของจากผู้หญิงเป็นหลัก เรื่องนี้ต้องระวังเพื่อนเกาหลีที่ผมรู้จักโดนกระเป๋าตังค์ไป 1 ครั้ง มือถือ 2 ครั้ง

ส่วนผมที่ทำหายมี กุญแจล็อคจักรยาน กับร่มด้ามยาว หายเพราะความประมาณเอง

โดย: toor36

วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:40:20 น.

โหห ขโมยกันเยอะงี้เลยหรอคะ

นี่เป็นพี่เมืองไทยเลยนะเนี่ย
ขอบคุณนะคะที่เตือน ต่อไปจะระวังตัวมากขึ้นอีกค่ะ

จะบอกน้องเค้าด้วย

โดย: ชะเอมหวาน

วันที่: 29 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:56:08 น.