ธันวาคม 2553

 
 
 
1
2
3
5
6
8
16
17
18
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ข้างหลังชีวิต ภาคมัชฌิมวัย ตอน"หนอนกลายเป็นผีเสื้อ"(2)


ตามที่ผมได้เขียนเกริ่นไปตอนที่แล้วว่า ฝ่ายจัดรายการซึ่งครูแก้วฟ้าเป็นผู้จัดการฝ่ายนั้น มีปัญหาเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ได้ และปัญหาการจ้างคนล้นงาน เรื่องนี้ที่ปรึกษาของนายห้างวิชัย มาลีนนท์ให้ความสำคัญมาก เพราะมันหมายถึงความอยู่รอดของบริษัทด้วย ที่สุดที่ปรึกษาเสนอแผนอันหนึ่งให้นายห้างวิชัยพิจารณา ซึ่งนายห้างก็เห็นชอบด้วย

พี่วรุณฯตอนนี้สวมบทบาทเป็นผู้กำกับกองถ่ายภาพยนตร์ ค่อนข้างจะร้อนใจกับแผนนี้ ด้วยท่านเป็นผู้รักลูกน้องมาก จึงเรียกประชุมพนักงานกองถ่ายของท่าน ซึ่งมีพนักงานน้อยที่สุดในบรรดากองถ่ายทั้งหมดคือมีไม่ถึง 20 คน ท่านจัดงานเลี่ยงสังสรรค์ที่บ้านของท่านแถวถนนลาดพร้าว (ผมจำไม่ได้แล้ว่าอยู่ซอยไหน)

พี่วรุณฯแจ้งให้พวกเราทราบว่า คงอีกไม่นานอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในฝ่ายจัดรายการ ขอให้ทุกคนทำใจรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ท่านจะพยายามช่วยพวกเราอย่างเต็มที่ หลังจากนี้พี่วรุณฯก็พูดกับผมเป็นการส่วนตัวว่า จะให้ผมย้ายไปอยู่ฝ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศกับครูสงบ ผมก็ตอบตกลง

จากนั้นอีกไม่กี่วันผมก็ย้ายไปอยู่ฝ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ ครูสงบให้ผมอยู่แผนกแปลบทภาพยนตร์ มันเป็นงานที่แปลกใหม่สำหรับผมมาก แต่ผมก็พยายามทำงานนี้อย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นความรู้และประสบการณ์ที่ดีสำหรับผม

หลังจากผมย้ายมาอยู่กับครูสงบแล้วประมาณหนึ่งเดือน ก็มีประกาศของบริษัทฯแจ้งว่าจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ เพื่อมารับงานจัดทำรายการแทนที่ฝ่ายจัดรายการเดิม ขอให้ทุกคนในฝ่ายจัดรายการมาเขียนใบสมัครใหม่เข้าบริษัทนี้ หากใครไม่เขียนใบสมัครใหม่เมื่อยุบฝ่ายจัดรายการแล้ว พนักงานผู้นั้นจะถูกเลิกจ้างไปโดยปริยาย เมื่อเจอแผนนี้เข้าทุกคนก็ไม่มีทางเลือก แต่ก็ยังอุ่นใจที่เห็นชื่อครูแก้วฟ้าเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทใหม่นี้ เพราะทุกคนมีความเชื่อใจครูแก้วฟ้ามาก

เวลาผ่านไปอีกประมาณสามเดือน บริษัทฯก็ประกาศว่าขอยกเลิกสัญญาว่าจ้างบริษัทใหม่จัดทำรายการ (ความจริงจะมีสัญญาดังกล่าวหรือไม่ ก็ไม่มีใครทราบ) เหตุผลเพราะผลงานของบริษัทใหม่ไม่มีประสิทธิภาพ (ก็แน่ละมันเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ดีๆๆนี่เอง) เมื่อเจอไม้นี่เข้าพนังานก็เริ่มสับสนวุ่นวาย แต่ก็ไม่กล้าจะทำอะไรรุนแรงเพราะเกรงใจครูแก้วฟ้า ขอใช้คำศัพท์ใหม่ว่า ฟันธงแล้ว ครูแก้วฟ้าขอลาออกจากบริษัทใหม่ และขอยุบบริษัทใหม่เพราะไม่มีงานและไม่มีเงินจะมาจ้างพนักงาน 200 กว่าคน เอวัง...ก็มีด้วยประการฉะนี้

สรุปแล้วพนักงาน 200 กว่าคนก็ถูกลอยแพ ตัวใครตัว(มัน) สมัยนั้นไม่มีใครนึกถึงกรมแรงงานสักคน และนึกไม่ออกว่ากรมแรงงานจะมาช่วยอะไรได้ (กรมแรงงานตอนนั้นสังกัดอยู่กับกระทรวงมหาดไทย) ผมก็รอดไปจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ผมทำงานอยู่แผนกแปลบทภาพยนตร์กับครูสงบด้วยจิตใจที่ไม่ค่อยสงบนัก มันสับสน นึกสองจิตสองใจว่าจะกลับไปอยู่หอสมุดฯอีกดีใหม? แต่ด้วยเป็นคนเกิดปีเสือจึงไม่ยอมกลับรังเก่า ไหนๆก็ออกมาอยู่ป่าใหญ่แล้ว ก็ต้องต่อสู้หากินแบบเสือ ไม่ยอมกลับไปอยู่ในกรงเก่าอีก

งานที่แผนกแปลบทภาพยนตร์ไม่ค่อยมีทำ วันๆจึงไม่ค่อยอยู่ติดห้องมากนัก ครูสงบก็เห็นใจบอกว่าจะไปเที่ยวไหนก็ไปเถอะ แต่ขอให้มาลงชื่อเข้าทำงานทุกวันก็แล้วกัน สถานที่ที่ผมมักมาประจำคือ ตลาดบางแค ตอนนั้นผู้คนยังไม่มากมายอย่างวันนี้ ผมมานั่งประจำที่ร้านข้าวมันไก่ ปากซอยโรงงานถ่านไฟฉายตราห้าแพะ (เลิกกิจการไปหลายสิบปีแล้ว) ปัจจุบันนี้คือตลาดใหม่บางแค วันหนึ่งผมมองไปฝั่งตรงข้ามถนน เห็นร้านค้าห้องหนึ่งหน้าร้านมีกระสอบตั้งกองอยู่หลายสิบกระสอบ ผมเข้าใจว่าเป็นกระะสอบข้าวสาร แต่แปลกใจว่าทำไมมีคนเข้าออกร้านนี้มากมายนัก จึงถามเจ้าของร้ายขายข้าวมันไก่ว่า ร้านนั้นเขาขายอะไร

เจ้าของร้านข้าวมันไก่ตอบว่า เขาเป็นเจ้าของโครงการศูนย์การค้าบางแค ไงล่ะ

เท่านั้นแหละสมองผมวาดฝันใหม่ขึ้นมาทันที ผมเดินย้อนกลับมาทางถนนท่าเกษตร ห่างจากร้านข้าวมันไก่ประมาณ 500เมตร ก็ถึงบริเวณจัดสร้างศูนย์การค้าบางแค เท่าที่มองด้วยสายตาเห็นเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้าติดถนนสร้างเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น จำนวนประมาณ 30 คูหาตามแนวถนนเพชรเกษม ลึกเข้าไปด้านใน มีตลาดสด เลยตลาดสดด้านหลังสุด ติดกับซอยเข้าวัดนิมมานนรดี กำลังก่อสร้างโรงภาพยนตร์ ล้อมรอบด้วยอาคารพาณิชย์ทั้งสองด้านประมาณ 200คูหา

ผมกลับบ้านมานั่งนึกในใจว่างานโรงภาพยนตร์นี้ก็น่าสนใจนะ จำได้ใหมตอนที่แล้วๆมาผมเขียนว่ารู้จักกับน้องชายเสี่ยศุภชัย อัมพุช เผอิญผมจำชื่อเขาไม่ได้ เขาคนนี้แหละพาผมไปพบพี่ชายเขาที่ตลาดพระโขนง ซึ่งเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์เล็กๆขนาด 600 ที่นั่ง ชื่อโรงภาพยนต์เฉลิมรัตน์ และมีโต๊ะสนุกเอร์อยู่ใกล้ๆด้วย แต่อาชีพหลักของเสี่ยศุภชัยตอนนั้นคือ เป็นเอเยนต์ขายสุราย่านพระโขนง

ตอนนั้นผมยังทำงานที่หอสมุดฯเก่าที่สนามหลวง เลิกงานตอนเย็นผมก็ขึ้นรถเมล์สาย 25 ท่าช้าง-ปากน้ำ มาตลาดพระโขนง เสี่ยศุภชัยให้ผมเป็นช่างเขียนโปสเตอร์โปรแกรมหนังที่จะฉาย ขนาดป้ายกว้างยาวประมาณ 2เมตร คูณ 1 เมตร เสร็จแล้วก็นำไปติดบนกันสาดร้านค้าตามย่านต่างๆจำนวน 25 แห่ง โดยติดตั้งกรอบป้ายไว้ก่อนแล้ว เพียงแต่เปลี่ยนแผ่นป้ายใหม่เท่านั้น โรงหนังตอบแทนเจ้าของร้านค้าเพียงให้ตั๋วดูหนังฟรีเดือนละ 10 ใบเท่านั้น

สำหรับป้ายติดข้างรถแห่ก็มีขนาดใหญ่หน่อย นอกจากนี้ยังมีหน้าที่เปลี่ยนตัวหนังสือพลาสติกชื่อหนังหน้าโรงด้วย เสร็จากงานเขียนป้ายก็มาช่วยเก็บบัตรผ่านประตู ต่อมาเสี่ยศุภชัยมาสร้างโรงหนังอีกโรงหนึ่งหัวมุมถนนพระโขนง-คลองตัน (สุขุมวิท 71?)ชื่อว่า โรงภาพยนตร์เจ้าพระยา โรงนี้ใหญ่และทันสมัยขึ้นกว่าโรงแรก มีที่นั่งจำนวน 1200 ที่นั่ง ผมก็เปลี่ยนมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ อีกประมาณหนึ่งปีก็มาสร้างโรงใหม่ที่ถนนราชปรารภ ใกล้กับซอยรางน้ำ เป็นโรงภาพยนตร์ชั้นหนึ่งชื่อว่า โรงภาพยนตร์บางกอกเธียเตอร์ มีที่นั่ง 1500 ที่นั่ง ฉายเฉพาะภาพยนตร์ต่างประเทศ ตอนนี้ผมย้ายที่ทำงานมาอยู่ที่ท่าวาสุกรีแล้ว ที่โรงนี้ผมเป็นผู้ช่วยฝ่ายโฆษณา ซึ่งมีคุณสุธี มีศีลสัตย์ เป็นหัวหน้าฝ่าย ตอนนั้นคุณสุธีทำงานอยู่ที่ นสพ.เดลิไทม์ รายวัน อยู่ที่กล้วยน้ำไท คุณสนิท เอกชัย (เรือใบ) เป็นเจ้าของ

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้แหละผมนำไปขาย(ตัวเอง)ให้กับเจ้าของศูนย์การค้าบางแค ตกลงจ้างผมเป็นผู้จัดการโรงภาพยนตร์บางแครามา



Create Date : 25 ธันวาคม 2553
Last Update : 10 มกราคม 2560 10:43:07 น.
Counter : 601 Pageviews.

7 comments
  
สวัสดีจร้าชื่อหนิงน่ะจ๊ะ
โดย: ning.ple วันที่: 25 ธันวาคม 2553 เวลา:13:44:39 น.
  
โดย: deeplove วันที่: 25 ธันวาคม 2553 เวลา:22:17:36 น.
  


ขอให้มีแต่ความสุข สมหวัง ตลอดปีนะคะ
โดย: addsiripun วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:0:04:35 น.
  
ขอบคุณ คุณหนิง,คุณdeeplove และคุณ addsiripun ที่กรุณาเข้ามาคอนเมนต์ให้ครับ ขอให้ทุกท่านจงมีความสุข สดชื่น สมหวัง ในปีใหม่ 2554 ตลอดไปครับ
โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:8:21:25 น.
  


ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง และร่ำรวยเงินทองตลอดปีค่ะ
โดย: addsiripun วันที่: 31 ธันวาคม 2553 เวลา:21:24:59 น.
  
Photobucket

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆนะค้า
โดย: culcita วันที่: 1 มกราคม 2554 เวลา:17:16:23 น.
  
ขอให้คุณ adsiripun และคุณ culcita จงมีความสุขสดชื่น สมหวัง ในปีใหม่ 2554 เช่นกันครับ
โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:9:30:35 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนุ่มร้อยปี
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



บล็อกนี้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 โดย ชายไทยวัยสูงอายุ มีวัตถุประสงค์ในการบันทึกและนำเสนอเรื่องราวต่างๆแบบครอบจักรวาล อาทิ ภาพยนตร์ ดนตรี รายการทีวี หนังสือน่าอ่าน อาหารน่ากิน ท่องเที่ยว สะสมสิ่งของ ตำนานชีวิตบุคคลน่าสนใจ รู้ไว้ใช่ว่า จิปาถะ
ฯลฯ เป็นต้น คำขวัญประจำบล็อก ประสบการณ์ชีวิตที่ดีในอดีต คือทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในปัจจุบัน คำขวัญประจำตัวเจ้าของบล็อก "อายุเป็นเพียงตัวเลข" บรรณาธิการบริหารบล็อกคือ หนุ่มร้อยปี บล็อกนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ท่านใดเห็นว่าข้อเขียนหรือภาพประกอบในบล็อกนี้มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้ แต่โปรดอ้างอิงชื่อบล็อกนี้ด้วย จักขอบคุณยิ่ง