เที่ยวแสวงบุญกับ มณีกุลทัวร์ (3)

"เขื่อนกิ่วลม" ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดลำปาง เป็นสถานที่น่าเที่ยวและพักผ่อนอีกแห่งหนึ่ง บริเวณที่ตั้งเขื่อนอยู่ในส่วนที่แคบที่สุดของทิวเขากิ่วลม คำว่า "กิ่ว" แปลว่า แคบ

ก่อนที่จะลงไปยังบริเวณเขื่อน ด้านซ้ายมือจะมีร้านอาหารชื่อ "ร้านชาวเขื่อน" ตั้งอยู่ด้านล่างของถนนลงไปมาก เป็นร้านอาหารแบบชาวบ้านไม่มีสิ่งตกแต่งอะไรมาก กลมกลืนไปกับธรรมชาติบริเวณนั้น แต่รสชาดอาหารนี่สิไม่ธรรมดาเลย อาหารส่วนใหญ่จะปรุงจากปลาสดๆ ที่จับขึ้นมาจากพื้นน้ำบริเวณเขื่อน




คณะเรารับประทานอาหารกลางวันที่ร้านนี้ เมื่ออิ่มหนำสำราญดีแล้วก็เดินทางลงไปที่เขื่อน เพื่อที่จะล่องแพไปตามพื้นน้ำหน้าเขื่อน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แพที่ล่องไปนี้เป็นแพแบบง่ายๆ แต่มีความแข็งแรงปลอดภัยดี บนแพมีสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควรเช่น ห้องสุขา ที่เตรียมอาหาร เครื่องเสียงคาราโอเกะ เสื่อสำหรับปูนอนพักผ่อน หรือใครจะบริหารข้อมือด้วยการเล่นไพ่ก็ได้ ไม่ผิดกฏ กติกา แต่ประการใด

ที่สำคัญคือ การควบคุมดูแลแพโดย คุณชัยชาญ สุริยะวงศ์ (เคยใช้นามปากกาว่า มนันยา เขียนเรื่องสั้นชุดชาวเขื่อน) เจ้าของร้านอาหารชาวเขื่อน และเจ้าของแพที่นี่จำนวนหลายสิบแพ และยังมีรีสอร์ทที่พักอีกด้วย


แพที่คณะเราจะล่องกันไป

คุณชัยชาญ สุริยะวงศ์ เล่าประวัติความเป็นมาของการสร้างเขื่อนกิ่วลม จับใจความได้ว่าคุณชัยชาญ เป็นเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน เมื่อมาสร้างเขื่อนที่นี่เสร็จแล้ว ก็ไม่ยอมไปไหนต่อ ลาออกแล้วดำเนินธุรกิจร้านอาหารและแพล่องพร้อมที่พัก อยู่ที่นี่ด้วยใจรักธรรมชาติที่นี่นานมาหลายสิบปีแล้ว


ทัศนียภาพของเขื่อนกิ่วลม

คณะเราเดินทางกลับขึ้นฝั่งเวลาประมาณ 16.00 น. เดินทางกลับเข้าตัวเมืองลำปาง

ลำปาง

ตณะเราเช็คอินเข้าพักที่ รร.ลำปางเวียงทอง




มาลำปางแล้วสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ การนั่งรถม้าชมตัวเมืองลำปาง


รถม้าเตรียมพร้อมที่จะนำคณะเราเที่ยวชมเมืองลำปางยามค่ำ

รูปไก่ดูเหมือนจะเป็นสัญญลักษณ์ของลำปาง เราจะเห็นรูปไก่อยู่ทั่วไปในเมือง เช่นที่เสาไฟฟ้า เกาะกลางถนน เป็นต้น



คณะเรานั่งรถม้าชมเมืองยามค่ำ จนท้องเริ่มหิวแล้ว จึงไปรับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารจีนซีฟูดแห่งหนึ่ง หลังจากนี้ก็แล้วแต่ละคนจะไปที่ไหน ส่วนใหญ่กลับโรงแรมที่พัก ส่วนน้อยก็ไปชอปปิ้งกัต่อที่ตลาดกลางคืน

วันที่สาม (วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม 2553) เป็นวันเดินทางกลับ กรุงเทพมหานคร

เช่นเคยครับกิจกรรมแรกของคณะเราคือรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารโรงแรม หลังจากนี้คณะเราก็เดินทางไปชมวัดศรีชุม วัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างโดยคหบดีชาวพม่า ลวดลายฉลุของวิหารสวยงามมาก






สำหรับผู้ที่นับถือศรัทธาหลวงพ่อเกษม เขมโก แล้ว พลาดไม่ได้ที่จะต้องไปกราบสักการะร่างท่าน ที่สุสานไตรลักษณ์


วิหารที่ตั้งร่าง(ศพ)ของหลวงพ่อเกษม เขมโก ในโลงแก้ว

รูปปั้นขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหน้า



เมื่อคณะเราเที่ยวชมภายในสุสานไตรลักษณ์พอสมควรแก่เวลาแล้ว ก็เดินทางต่อไปที่ ศูนย์จำหน่ายสินค้าอิทราเซรามิค




ด้านหน้าอาคารที่ตั้งสินค้ามีชามยักษ์ตราไก่ตั้งเป็นสัญญลักษณ์และปิรามิดกาน้ำเซรามิค


คณะเราเดินชมสินค้าอันหลากหลายและใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าที่พอใจจนกระเป๋าเบาดีแล้ว ก็เดินทางไปหาอาหารกลางวันรับประทาน มื้อเป็นอาหารพื้นเมืองคือข้าวซอยและก๋วยเตี๋ยวพื้นเมือง
ก่อนจะเดินทางกลับคณะเรายังหาโอกาสไปนมัสการพระธาตุลำปางหลวง ที่เกาะคา ด้วย



บริเวณด้านนอกกำแพงพระธาตุ มีค้นโพธิ์อยู่หลายต้น และตามความเชื่อของชาวบ้านว่า หากใครเอาไม้มาค้ำกิ่งต้นโพธิ์นี้แล้วจะมีอายุยืน อยู่เย็นเป็นสุข มั่นคงตลอดไป

มีวัดเก่าอยู่แห่งหนึ่งที่คณะเราไปกราบนมัสการพระธาตุมาก่อนหน้านี้คือ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม




คณะเรายืนชักรอก(เชือก)นำน้ำขึ้นไปสรงพระธาตุ นับเป็นกุศโลบายที่ดีของวัดนี้

ศาลเจ้าพ่อทิพย์ช้าง ผู้ก่อตั้งเมืองเขลางนคร(ลำปาง)

ศาลเจ้าแม่สุชาดา ทั้งสองศาลนี้ตั้งอยู่ในบริเวณวัดนี้

ณ บัดนี้เป็นเวลาสมควรแล้วที่คณะเราจะเดินทางกลับกรุงเทพ ขอผลบุญกุศลที่คณะเราได้บำเพ็ญมาในการเที่ยวแสวงบุญกับ มณีกุลทัวร์ ครั้งนี้ ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้รับผลบุญครั้งนี้ด้วย เทอญ
พบกันใหม่ทริปหน้า ถวายเทียนเข้าพรรษา 9 วัด ภาคอิสาน ประมาณปลายเดือนกรกฏาคม นี้

ข้อมูลบางส่วนจากคู่มือการเดินทางของ มณีกุลทัวร์ โทร. 081 325 5297รูปประกอบถ่ายด้วยมือถือ LG Arena KM 900

Create Date : 03 มิถุนายน 2553 Last Update : 4 พฤศจิกายน 2559 20:31:36 น. Counter : 1686 Pageviews.		10 comments
Share Tweet