เนื้อเนื้อโคขุนย่าง ที่ร้านบ้านสวนโค
สร้างชื่อเสียงได้เกรียวกราวสำหรับโคขุนที่โพนยางคำ จนไปไหนก็พบเห็นได้ทั่ว แต่วันนี้ตะลอนชิมไม่ได้จะพูดถึงโพนยางคำ (อ้าว)
แต่เป็นเนื้อโคขุนคุณภาพอีกที่หนึ่ง ที่ผ่านการศึกษาวิจัยและพัฒนาของนักศึกษาที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังกับสหกรณ์โคนมบ้านบึงที่ จ.ชลบุรี ที่ลองขุนโคนม (ปกติโคขุนจะเป็นโคเนื้อ) แล้วลองเปิดตลาดมาพักหนึ่งด้วยการที่สหกรณ์โคนมทำร้านเองที่ จ.ชลบุรี
แล้วเมื่อก๊วนเพื่อนจากต่างอาชีพ นิติกร นักบัญชี และเจ้าของห้องเย็น ไปพบเจอเนื้อจากร้านตัวอย่างที่เมืองชล ลองชิมแล้วถูกใจ เลยตกลงที่จะทำร้านอาหารด้วยกัน ร้านบ้านสวนโค โคนมขุน จึงเกิดขึ้นเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมานี่เอง ร้านอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศร์ลงจากสะพานพระนั่งเกล้าใหม่ (แบบมุ่งหน้าไปบางใหญ่) ก็ชิดซ้ายไปอีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว โดยชูจุดเด่นด้วยเนื้อโคนมขุนส่วนต่างๆ ที่ส่งตรงมาจากสหกรณ์โคนมบ้านบึง
เมย์หนึ่งในตัวแทนหุ้นส่วน เล่าให้ฟังว่า ตอนแรกที่เปิดร้านแล้วนำเนื้อของสหกรณ์มาเป็นตัวชูโรงนั้น นอกจากจะนำเนื้อทุกส่วนมาจำหน่ายแล้ว น้ำจิ้มก็ยังขอสูตรมาด้วย แต่เมื่อได้เปิดร้านไปสักพักหนึ่ง น้ำจิ้มสูตรดั้งเดิมกลับไม่ถูกใจคอนักชิมแถวนั้น เลยคิดสูตรใหม่เป็นน้ำจิ้มแจ่ว ปรับปรุงสูตรอยู่หลายครั้ง แล้วมาลงตัวว่าต้องใช้น้ำมะนาวสดๆ เท่านั้นถึงจะถูกใจ มะนาวจะถูกจะแพงกระทบต้นทุนอย่างไร ที่ร้านเลยยังมุ่งมั่นว่าต้องใช้แต่มะนาวสด
ส่วนน้ำจิ้มสูตรอื่นๆ ก็มีซอสโซยุ และน้ำจิ้มที่คล้ายกับน้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มทั้งสามสูตรนี้มีความโดดเด่นแตกต่างกันไปแล้วแต่คนชอบ ส่วนเพนฟิ่นนั้นชอบน้ำจิ้มแจ่วที่เผ็ดจี๊ดจ๊าด และน้ำจิ้มโซยุที่ออกรสเปรี้ยวหวาน เติมกระเทียมและพริกขี้หนูสดไปอีกนิด ยิ่งถูกใจ
มาถึงพระเอกของร้าน เนื้อโคนมขุนที่มีให้เลือกหลายส่วน นอกจากสันใน สันนอก ลูกมะพร้าว น่อง ที่พอคุ้นๆ กันอยู่บ้างแล้ว ก็มีพวกชื่อแปลกๆ อย่าง รักบี้ หางตะเข้ ปลาบู่ รวมๆ แล้ว ส่วนต่างๆ ของเนื้อมีอยู่ 20 เมนู คงต้องแวะเวียนไปหลายครั้งหน่อยกว่าจะทำความรู้จักได้ทั้งหมด ความนุ่มสุดๆ นั้นยกให้สันใน
ซึ่งราคาแพงที่สุดในร้าน (จานละ 150 บาท) หั่นมาเป็นสี่เหลี่ยม ที่ดูตอนแรกยังเกรงว่าจะเหนียวเมื่อหั่นเป็นชิ้นเช่นนี้ แต่แล้วก็คิดผิดไปถนัด เมื่อได้ลองย่างลงบนกระทะเหล็กที่ได้ความร้อนจากเตาถ่าน ลงเนยสดไปพอประมาณ ดูว่าเนื้อสุกไม่ต้องมาก แค่เหลืองเป็นจุดชมพูเล็กๆ เนื้อสันในก็แทบจะละลายอยู่ในปาก
ส่วนถ้าใครชอบเนื้อติดมันแนะนำริบอายกับเสือร้องไห้ ที่สไลซ์มาพอโดนไฟสะดุ้ง ก็จิ้มน้ำจิ้มเข้าปากได้เลย ซึ่งเมนูจานอื่นๆ นั้น ถือว่าอยู่ในราคาไม่แพงมากนัก อย่างเสือร้องไห้เนื้อจานนี้ก็เพียง 45 บาท หรือริบอายก็ 120 บาท เมื่อเทียบคุณภาพกับราคาแล้วเกินคุ้ม
อ้อ...อย่าลืมสั่งพวกผักสดมาด้วย หรือจะให้คล่องคอที่ร้านบ้านสวนโค เขามีน้ำซุปจิ้มจุ่มให้เลือกด้วย ส่วนคนที่ไม่รับประทานเนื้อ ก็มีจานหมู ไก่ กุ้งขาวตัวโตๆ มาเป็นทางเลือก ของคุณภาพราคาไม่แพงอีกเช่นกัน
ร้านบ้านสวนโค เปิดให้บริการวันจันทร์อาทิตย์ เวลา 16.0022.00 น. จะจองโต๊ะก่อน หรือโทร.สอบทางเส้นทางให้ชัดก็ได้ที่เบอร์0898951563 0843872479
ข้อมูล //www.posttoday.com/
| Create Date : 05 ตุลาคม 2554 |
| Last Update : 5 ตุลาคม 2554 8:28:58 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 2159 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [
