ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
12 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
ระวังกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ



ระวังกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (คู่หูเดินทาง)

หนุ่มสาวที่นั่งทำงานนาน ๆ จนบางครั้งก็ลืมไปเข้าห้องน้ำ ต้องอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ หรือต้องเดินทางไกล ทำให้ไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้ ระวังให้ดี โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบจะถามหา

สาเหตุของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ส่วนมากจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดเดียวกับที่อยู่ในลำไส้ของเรา โดยเข้าไปทางท่อปัสสาวะ โรคนี้พบมากในผู้หญิง เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงทั้งสั้น และอยู่ใกล้ทวารหนัก ซึ่งเป็นแหล่งซ่องสุมของเชื้อโรค ทำให้เชื้อโรคเข้าทางท่อปัสสาวะของผู้หญิงได้ง่ายกว่าผู้ชาย

ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย

ผู้หญิงแทบทุกคนมีโอกาสเป็นโรคนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุ แต่จะพบมากในผู้หญิงมีครรภ์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์) หรือผู้หญิงที่ชอบอั้นปัสสาวะนาน ๆ เป็นประจำ บางครั้งอาจพบเป็นโรคแทรกซ้อนของผู้ป่วยเบาหวาน นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต

นอกจากนี้ ผู้หญิงที่แต่งงานใหม่ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ เนื่องจากหลังร่วมเพศอาจมีอาการขัดเบาแบบกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งแพทย์เรียกว่า โรคฮันนีมูน (Honeymoon’s Cystitis) สาเหตุเกิดจากการฟกช้ำจากการร่วมเพศ แล้วทำให้มีอาการอักเสบของท่อปัสสาวะ ส่วนผู้ชายนั้นมีโอกาสเป็นโรคนี้น้อยมาก ซึ่งถ้าพบก็มักจะมีความผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ต่อมลูกหมากโต หรือมีก้อนเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ หรือมีความผิดปกติทางโครงสร้างของทางเดินปัสสาวะ

อาการ

ปัสสาวะกะปริบกะปรอยและปัสสาวะบ่อยครั้ง รู้สึกปวดขัดหรือแสบร้อนเวลาถ่ายปัสสาวะ บางครั้งอาจมีอาการปวดที่ท้องน้อยร่วมด้วย หรือสังเกตพบว่าปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น สีมักจะใส แต่บางคนอาจขุ่นหรือมีเลือดปน ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นหลังอั้นปัสสาวะนาน ๆ หรือหลังร่วมเพศ แต่โรคนี้มักจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่บางคนอาจเป็น ๆ หาย ๆ หรือเป็นเรื้อรัง ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษา เชื้อโรคอาจลุกลามทำให้กลายเป็นโรคกรวยไตอักเสบได้

รักษาอย่างไร

เริ่มแรกขณะที่มีอาการแสดง ควรดื่มน้ำมาก ๆ และไม่ควรอั้นปัสสาวะ แต่ถ้าปวดมากให้กินยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะ เช่น โคไตรม็อกซาโซล 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง อะม็อกซีซิลลิน 500 มก. ทุก 8 ชั่วโมง หรือนอร์ฟล็อกซาซิน 400 มก.วันละ 2 ครั้ง นาน 3 วัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรือเป็นซ้ำมากกว่า 2-3 ครั้ง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุโดยการตรวจปัสสาวะ เพื่อนำปัสสาวะไปเพาะหาเชื้อ เอกซเรย์ หรือใช้กล้องส่องตรวจระบบทางเดินปัสสาวะ (Cystoscope) แล้วให้การรักษาตามสาเหตุที่ตรวจพบ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก




Create Date : 12 กรกฎาคม 2554
Last Update : 12 กรกฎาคม 2554 8:10:15 น. 0 comments
Counter : 1109 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.