"โทษทีที่หล่อตั้งแต่เกิด" อันนี้ไม่ได้ยอตัวเองนะ ผมหมายถึง Proton NEO CPS ต่างหาก หรือจะมีใครว่ามันขี้เหร่คงต้องกลับไปเช็กต่อมรสนิยมดูว่าผิดปรกติหรือเปล่า เพราะเท่าที่ขับรถมาก็ยังไม่เห็นตัวแต่งจากโรงงานคันไหนมันจะหล่อได้ครบเครื่องขนาดนี้ แต่หล่ออย่างเดียวจะพอมั้ย มีอะไรดีขึ้นหรือดีลงบ้างไปดูกันสำหรับ Neo Limited Edition สีขาวซิ่งคันนี้

==============================

เต็มตากับชุดบอดี้พาร์ทสไตล์ตัวแข่ง R3

==============================

เห็นแววกันมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน กับรถแฮทช์แบ็ก CBU ซึ่งนำเข้าจากสุดปลายด้ามขวาน "มาเลเซีย" ที่ใจดีแบ่งรถประจำชาติมาให้ใช้ตั้งหลายรุ่น แต่ที่โดนใจวัยโจ๋สุดคือชายกลางอย่าง Neo ที่มีภาพลักษณ์ดูสปอร์ตเกินตัว แถมด้วยช่วงล่างขั้นเทพที่เป็นจุดเด่นของรถค่ายนี้ไปแล้ว ดีไซน์ที่เพิ่มเติมเข้ามาก็มีกันชนหน้าซึ่งถอดของเก่าหน้าตากลมเกลี้ยงแล้วแทนที่ด้วยชุดใหม่เซตใหญ่ดีไซน์ดุด้วยช่องดักลมขนาดใหญ่เล่นระดับกับชายล่างที่ยื่นออกมาเพิ่มมิติให้กับหน้าตาให้หล่อขึ้นเห็น ๆ ช่องสำหรับไฟตัดหมอกทรงกลมเล่นระดับแบบไม่ธรรมดา

ด้านข้างโมดิฟายชุดโป่งล้อทั้ง 4 ให้เป็นสไตล์ตัวแข่งที่ยิ่งนอตหลอกไว้ดูเท่ไม่เบา เข้ากับแม็กลายใหม่สีกราไฟท์ไซซ์ 16 นิ้ว ด้านล่างยังเสริมสเกิร์ตข้างแบบแยกชิ้นให้ตัวรถที่ดูต่ำอยู่แล้วดูต่ำเข้าไปอีก คิ้วข้างประตูใหม่ใหญ่ขึ้นรับกับชายล่าง ส่วนด้านหลังนั้นอลังการสุด ไม่ว่าจะเป็นกันชนใหม่ดีไซน์เรซิ่งท่อไอเสียปล่อยออกกลางชุด Diffuser เอาไว้ควบคุมทิศทางการไหลของอากาศ แถมยังเพิ่มความดุขึ้นไปอีกด้วยสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่สไตล์ตัวแข่ง ซึ่งชุดแต่งสำหรับ NEO CPS คันนี้ต้องยอมรับว่ามันเพียบจริง ๆ

=============================

ภายในดีไซน์สวย...ซิ่ง...ด้วยวัสดุเกรด B

=============================

ไม่ผิดหวังจริง ๆ สำหรับห้องโดยสารของ Neo CPS ซึ่งปรับลุคให้ดูสปอร์ตขึ้นด้วยเบาะใหม่ทรงกึ่งบัคเกตซีตสีแดงดำ นั่งแล้วรู้สึกกระชับโอบรับตัวผมได้แบบฟิตพอดีตัว เวลาโยนโค้งแรง ๆ ตัวจะไม่หลุดออกจากตำแหน่งที่เหมาะสมในการควบคุมทิศทาง แต่มันจะลุกยากไปหน่อยเท่านั้นเอง พวงมาลัย 3 ก้านและหัวเกียร์ทรงสปอร์ตเดินเส้นด้วยด้ายแดงสลับกับวัสดุสังเคราะห์สีดำเพิ่มอารมณ์สปอร์ตให้กับภายในของ Neo CPS ได้ดีและลงตัวกับดีไซน์สวยซิ่งของลายเส้นรวม ๆ เสียอย่างเดียวคือวัสดุที่เลือกใช้มันดูเหมือนโดนจำกัดคุณภาพด้วยครอสค่าตัวที่ต้องดัมพ์ให้ต่ำยั่วใจขาซิ่งแบบเบ็ดเสร็จ แถมยังต้องมาประเคนอุปกรณ์ไฮ ๆ ที่หาไม่ได้ในรถราคาไม่ถึง 7 แสนมาให้เป็นของชำร่วยอีกเพียบ ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control system) ระบบมัลติฟังก์ชันบนพวงมาลัย หรือจะเป็น Park sensor ก็ดี ของเล่นเพียบ ๆ แบบนี้แล้วจะเอาวัสดุระดับพรีเมียมอีก 7 แสนคงจะขายไม่ได้แน่ เอาเป็นว่าเลือกที่ความคุ้มค่าก็น่าจะโอแล้ว

====================================

กำลัง 125 แรงม้า คันเร่งไวตอบสนองดีช่วงตีนต้น

แต่ต้องเค้นรอบสูงเพื่อเรียกพลังให้ได้สะท้านทั้งตัว

====================================

ถามว่าขับมันมั้ย ตอบได้เลยว่าใช่ มันขับสนุกด้วยฟีลลิ่งที่สัมผัสได้จากเสียงเครื่องตอนกวาดรอบสูงตั้งแต่เกียร์ 1 จนถึงเกียร์สุดท้ายเหมือนกับว่าผมจะซิ่งมันตลอดเวลาทั้งที่ขับแบบธรรมดาแท้ ๆ ตัวนี้เป็นขุมพลัง 1.6 Campro CPS ซึ่งเป็นเครื่องตัวท็อปสุดของโปรตอน ซึ่งใช้ร่วมกันกับทั้งตัวซีดานอย่าง Gen 2 และ Mini MPV คันล่าสุด Exora ที่ต่างจากบล็อกเดิมตรงที่มีวาล์วแปรผัน (Cam Profile Switching) กับท่อไอดีแบบ VIM (Valiable intake Manifold) เข้ามาเป็นตัวช่วยเพิ่มพลังแรงม้าจาก 110 เป็น 125 ตัว พอเห็นตัวผมคิดทันทีว่าอัตราเร่งเจ้าตัวสีขาวหล่อคันนี้มันต้องวิ่งกระฉูดแน่นอน แต่พอลองเข้าจริงมันกลับให้ความสะใจได้ในช่วงแรกที่กดคันเร่ง ตัวรถมันพุ่งออกไปพร้อมกับรอบเครื่องที่รากสูงต่อเนื่องไปจนสั่นถึงคันเกียร์ ซึ่งตอนนี้เองที่มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังขับรถในสนามที่ผู้ขับรับรู้ได้ถึงฟีลลิ่งทุกอย่างได้ชัดเจน

ก่อนที่จะสนุกกันต่อเนื่องผมเหลือบไปมองที่มาตรวัดความเร็วที่มันกลับไม่วิ่งปรู๊ดเหมือนกับเข็มวัดรอบที่ดีดดิ้นแต่กลับค่อย ๆ ไต่ความเร็วอย่างใจเย็นจนผมต้อง Kick-down เพื่อเรียกความมันกลับคืนมา ถึงตรงนี้ผมจึงขอกลับไปงัดสเปกกลับมาดูอย่างละเอียดจึงรู้ว่าพละกำลังทั้งหมด ทั้งแรงม้าและแรงบิดของ Neo นั้นถูกกำหนดไว้ให้แสดงศักยภาพได้สมบูรณ์สุดที่รอบสูงถึง 6,500 และ 4,500 รอบ ตามลำดับแถมยังต้องแบกน้ำหนักตัวกับพาร์ทสวย ๆ ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 50 กก. เฉลี่ยกับม้าในคอกที่เพิ่มขึ้น 15 ตัวก็คงพอถูไถ ทำให้กินน้ำมันไม่เพิ่มจากเดิมมากนัก

============================

แฮนด์ลิ่งเจ๋ง ขับมัน มั่นใจสุด ๆ

แต่พวงมาลัยหนักไปหน่อยที่ความเร็วต่ำ

============================

สติ๊กเกอร์ที่ฝากระโปรงท้ายบอกไว้ว่า Handling by Lotus ไม่ใช่แค่ราคาคุยเพราะเจ้า Neo CPS คันนี้ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของช่วงล่างแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ ซึ่งให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากรถในคลาสเดียวกันที่ส่วนใหญ่จะใช้ช่วงล่างแบบคานบิด (Torsion Beam) ทั้งความแน่นหนึบของล้อทั้ง 4 กับพื้นถนนตอนเข้าโค้งและพวงมาลัยที่น้ำหนักดีขึ้นเมื่อเทียบกับตอนขับในซอยหรือถอยจอดแถมด้วยฟีลลิ่งกระเด้งนิดหน่อยสไตล์รถแต่งที่ใช้ยางซีรี่ส์ต่ำเพื่อแลกกับการยึดเกาะถนนที่เพิ่มมากขึ้น

============================

หน้าตาสวยสะเด็ด... ลีลาอันเผ็ดร้อน

ใครชอบสนุกผมว่าคุ้มนะ! กับรถคันหนึ่งไม่ถึง 7 แสน

======================================

ผมว่ามันดูดีที่สุดแล้วสำหรับรถที่มีการตกแต่งเพิ่มเติมจากโรงงาน และใช่แค่เพียงหน้าตาที่ดูดีเท่านั้นลีลาอันเผ็ดร้อนที่สัมผัสได้จากสมรรถนะของช่วงล่างที่โดดเด่น แถมตบท้ายด้วยออพชั่นจิปาถะที่ไม่ต้องไปถกกับเซลส์เพื่อขอเป็นของแถม Proton Neo CPS คันนี้ต้องย้ำว่าราคาค่าตัวที่ไม่ถึง 7 แสน ให้คุณได้มากขนาดนี้อย่างอื่นคงไม่ต้องพูดกันให้เมื่อยปากเปล่า ๆ

================================

Specification : Proton Neo CPS High-line

================================

รุ่นปี 2009

ผู้ผลิต Malaysia

ประเภทรถยนต์ Hatch back

ราคา (แสนบาท) 6.98

รายละเอียดมิติ น้ำหนัก และล้อ

ความยาวตัวรถ (มม.) 3,898

ความกว้างตัวรถ (มม.) 1,745

ความสูงตัวรถ (มม.) 1,434

ระยะฐานล้อ (มม.) 2,440

ความกว้างฐานล้อหน้า/หลัง 1,467/1,483

น้ำหนักรถ (กก.) 1,227

วงล้อ อัลลอย ขนาด 16 นิ้ว

ยาง (หน้า&หลัง) 195/50R16

เครื่องยนต์

แบบ เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว Campro CPS

ปริมาตรกระบอกสูบ 1597 ซี.ซี.

อัตราส่วนการอัด 10.0:1

กำลังสูงสุด 125 hp @ 6,500 rpm

แรงบิดสูงสุด 150 N-m @ 4,500 rpm

เกียร์ เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

รายละเอียดระบบช่วงล่าง

ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า

ระบบกันสะเทือน

หน้า อิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง

หลัง อิสระ มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง

ระบบบังคับเลี้ยว

ชนิด แร็คแอนด์พีเนียไฮดรอลิกพาวเวอร์

ระบบเบรก

หน้า ดิสก์เบรก

หลัง ดิสก์เบรก

======================================

ขอบคุณ....

บริษัท พระนครโอโตเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ขอบคุณเนื้อจาก Ecareasy.com

Sanook! Auto Comment

มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยได้ขับ Jazz ตัวปัจจุบันก่อนไมเนอร์เชนจ์ เทสกับ Proton Neo ธรรมดา ต้องยอมรับว่าของเขาแรงจริง เราออกเกียร์ 1 พร้อมกัน หัวเสมอ แต่พอขึ้น 2 ปุ๊ป พวกแซงหน้า (รถเดิมทั้งคู่) ก็เลยต้องยอมรับกันไป ส่วหนึ่ง ก็มาจากช่วงล่างที่ดีกว่าจากโลตัส (ไม่ใช่ห้าง) และเครื่องที่มี ซีซีมากกว่า อีกหน่อยตามฉบับยุโรปชอบ 1600 แต่ที่ทราบเรื่องอัตราซดน้ำมันที่เอาเรื่อง ที่เรื่องหนึ่งก็มาจากเฟืองท้ายที่ใหญ่กว่าชาวบ้าน แต่ขอยอมรับว่าขับมันส์ พะย่ะค่ะ .!!! ส่วนตัว CPS นี้ทำออกมาเพื่อเอาใจในฉบับรถซิ่งพร้อมลุยตั้งแต่ออกจากโรงงาน