มองเขมร ฯ ตอน2 (บันทายสรี ตาพรหม)
เก็บข้าวของที่โรงแรมเตรียมชมเมือง ก่อนจะเข้าโรงแรม...กะจะโรแมนติกแวะปิคนิค...กินอาหารริมทะเลสาบ พร้อมชมความงามไปด้วยค่ะ...คนขับรถยืนยันว่า... กินริมโตนเลสาบไม่ได้...ต้องซื้อตั๋วนั่งเรือและค่อยกินในเรือ... จะขับรถผ่าน ๆ ก่อนสักรอบก็ไม่ได้อีก...ต้องซื้อตั๋ว...??? เมื่อคนขับยืนกราน...คณะทัวร์เลยเปลี่ยนใจค่ะ... มุ่งหน้าสู่โรงแรมที่เพื่อนรุ่นพี่ชาวเขมรของสามี... ประสานเตรียมจองไว้ให้แล้วค่ะ.... ส่วนเหตุผลจะเล่าอีกครั้งนะคะ...ตอนไปเที่ยวโตนเลสาบจริง ๆ...555 หลังจาก check in เก็บข้าวของเข้าโรงแรมที่พัก... ลองเปิดทีวีดู...ว้าว...สามารถดูทีวีทุกช่องของบ้านเราได้เลยค่ะ ทั้งช่อง 3 5 7 9 11 TPBS และรายการปกติของเขมร พักผ่อนเปลี่ยนอริยาบทได้สักประเดี๋ยว...หัวหน้าทัวร์เกิด....ปิ๊งไอเดียค่ะ ให้คนขับรถไปพักผ่อนและนัดเจอกันอีกครั้งตอน 2 ทุ่ม... เพื่อชมความงาม...เขมรยามค่ำคืนค่ะ ส่วนพวกเราเดินไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ... Angkor National Museum ณ เมืองเสียมเรียบ ที่อยู่ใกล้ ๆนั่นเองค่ะ ....................................................................................... สุดยอดพิพิธภัณฑ์โบราณสถาน...ที่ต้องไปชมก่อนเที่ยวนครวัด นครธม แวบแรก...พอรู้ว่าจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์...ก็เฉย ๆ และคิดว่าคงน่าเบื่อนะคะ... แต่พอเข้าไปจริง ๆ แล้วต้องขอบอกว่า...น่าประทับใจมาก ๆค่ะ และขอแนะนำใครที่จะได้ไปเที่ยวนครวัด นครธมจริง ๆ ต้องไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์นี้ก่อนนะคะ... พิพิธภัณฑ์ Angkor นี้เพิ่งเปิดทำการได้ไม่ถึง 2 เดือน (พ.ย. 2007) ไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนไทยที่ได้รับสัมปทานในการก่อสร้าง และดำเนินการ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่...และสมบูรณ์แบบจริง ๆค่ะ รู้สึกอลังการกับอารยะธรรมขอมโบราณ...ขนลุกเลยค่ะ เพลิดเพลินไม่น่าเบื่อ...จัดระบบให้เข้าใจได้เป็นอย่างดี แสง สี เสียง ยอดเยี่ยม สามารถฟังคำบรรยายเป็นภาษาไทย...ได้ด้วยค่ะ เพราะมีให้เลือกถึง 7 ภาษา เที่ยวชมเพลินจนลืมเวลาเลยค่ะ...รู้ตัวอีกที คนขับรถโทรตาม...เพราะเลยเวลานัดมานานโข ลืมบอกไปว่า...ค่าเข้าชมคนละ 8 ดอลลาร์ สุดคุ้มจริง ๆ ค่ะ ....................................................................................... วันนี้ฤกษ์ดีจริง ๆ เลย เช้านี้หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว เราก็เริ่ม trip ทัวร์เขมร... ของเราอย่างเป็นทางการกันเสียทีค่ะ แวะซื้อบัตรเข้านครวัด...นครธม....กันก่อนนะคะ มีทั้งบัตรวันเดียว...และเหมาจ่ายหลาย ๆ วันค่ะ... คือซื้อบัตรครั้งเดียวก็ชมได้ทั่วนะคะ...ถ้าสามารถ... ชาวเขมรเข้าฟรีค่ะ...ไม่เสียตังค์
วันนี้เป็นวันดีค่ะ ระหว่างเดินทาง... เราเจอขบวนขันหมากในวันนี้ 4 งานค่ะ... ดู ๆ ไป ประเพณีเขมร...ก็คล้ายกับบ้านเรานะคะ... เจ้าบ่าวยกขันหมากไปทำพิธีที่บ้านเจ้าสาว มีชาวบ้านมาร่วมงาน...เรียกว่าทั้งช่วยงาน...กิน..อยู่...เสร็จค่ะ แถมยังมีงานเลี้ยงฉลองด้วยนะคะ... รวม trip นี้เจองานแต่ง ทั้งในและนอกเมืองเสียมเรียบ รวม 6 งาน ค่ะ ฤกษ์ดีจริง ๆ...เห็นด้วยไหมคะ ....................................................................................... ปราสาทหินทรายสีชมพู บันทายสรี ถึงแล้วค่ะ บันทายสรี (Banteay Srei)...หลังจากขับรถออกมาไกลพอควร สามี...เอ๊ย...ไกด์ค่ะ...ไกด์จำเป็นของเรา บรรยายว่า(อ้างจากหนังสือคู่ใจ)...ปราสาทหินทรายสีชมพูแห่งนี้... สวยที่สุด สมบูรณ์ อ่อนช้อย มีชีวิตชีวา...ที่สุด ลูกทัวร์ทุกคน...เห็นจริงตามนั้นค่ะ
สวยจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะผ่านมานับเป็นร้อย ๆ ปี... ลวดลายแกะสลักหินยังคงความคมชัด...ไว้ได้มาก อากาศก็กำลังเย็นสบายค่ะ...ไม่ร้อนเลย...ฝนก็ไม่มี ช่างเป็นช่วงเวลาเหมาะจริง ๆที่เลือกมาเขมรปลายหนาวนี้... ต้องยกความดี...ให้หัวหน้าทัวร์...อีกแล้วค่ะ
ปราสาทนี้ตั้งอยู่บนพื้นราบนะคะ....กษัตริย์ไม่ได้สร้างเอง..เป็นพราหมณ์ค่ะ ปราสาทที่กษัตริย์สร้างจะสร้างบนเขา...หรือจำลองว่าอยู่บนเขานะคะ หลังจากชื่นชมความงดงามศิลปะขอมแห่งนี้....อย่างอิ่มเอม ลูกทัวร์ทุกคนปลื้ม...และลงความเห็นว่าสุด ๆ แล้ว... แต่หัวหน้าทัวร์...บอกว่านี่ยังไม่ใช่...ไฮไลท์ค่ะ...เพิ่งแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ....................................................................................... ห้องน้ำที่เขมรเขาจัดระบบไว้ดี สะอาด น่าใช้ เป็นสัดส่วน และแล้ว...ก็ถึงเวลา...ปลดปล่อยทุกข์ค่ะ หลังจากมองหาป้าย...toilet...ได้สักพัก ก็เดินตามลายแทง...ตามป้ายที่ชี้มาค่ะ
เป็นทางทอดยาว...นั่น...ต้องผ่านบึงบัวก่อนด้วย หลังข้ามสะพาน...เราก็เจอกระท่อมน้อย...แยกห้องชายหญิงเป็น 2 ฝั่งค่ะ ห้องน้ำเขาสะอาดค่ะ...ไม่ส่งกลิ่นเลย...แถมมีที่นั่งรอชมธรรมชาติด้านหน้าอีก ถ้ามีตั๋วแล้วเข้าได้ฟรีเลยค่ะ...เครื่องดื่มก็ยังมีขายอีกด้วย มีที่ขายโปสการด์ หนังสือ และ DVD ค่ะ ราคาไม่แพงเท่ากับทั่ว ๆ ไป...แถมต่อรองได้อีก ซื้อกันมาได้กันคนละชุด...สองชุดล่ะค่ะ... แต่ระวังนะคะ Toilet...นี่บางที่ก็ไม่มีนะคะ... คุยกับน้องที่คุณแม่เคยเดินทางไปเที่ยวกับคณะทัวร์...เล่าว่า หาห้องน้ำไม่ได้...ต้องจ้างมอเตอร์ไซด์... 2 ดอลลาร์เพื่อไปห้องน้ำค่ะ แต่เราโชคดีค่ะเหมาจ้างเหมือนรถส่วนตัว... .....จะไปไหนมี Land cruiser ส่งคุณถึงนั่นค่ะ.... ....................................................................................... สนุกสนานกับการต่อราคาของที่ระลึก ในที่สุดก็ถึงเวลาหรรษา...ของพวกเราค่ะ ที่บันทายสรี...จะมีเพิงขายของอยู่สองฝั่งถนนเล็ก ๆ ค่ะ แรก ๆ ต่างคนต่างแยกย้าย...ดูร้านโน้นร้านนี้... ยังไม่มีใครได้ซื้ออะไร...เป็นกอบเป็นกำ พอมาเจอกันอีกครั้ง...อุ๊ย...คนนั้นซื้อเสื้อได้ถูก อ้าว...อีกคนซื้อผ้าพันคออีกร้านได้ถูกกว่าอีก ทีนี้สามัคคีซื้อกันเลยค่ะ...เสียดายที่แต่ละคนยังอั้นการซื้อไว้ค่ะ... เพราะนึกว่า...เป็นที่แรก...ยังมีเวลา Shop ได้อีกหลายวัน ...ที่นี่ของถูกที่สุด...กว่าในทุก ๆ ที่ ๆ จะไปแล้วค่ะ ...แม่ค้าเขมรที่นี่แย่งกันขายค่ะ...แถมต่อราคาได้มากด้วย
ยิ่งตลาดเก่า...ที่เราไป servey กันเมื่อคืนและทุกคืนถัดไป แพงที่สุดเลยค่ะ....ของเหมือนเปี๊ยบแต่แพงกว่า บางอย่างถึง 3 เท่า เลย นะคะ แพงกว่าเป็นร้อย ๆ แต่เราก็ไม่ได้กลับมาซื้อที่นี่อีกค่ะ...เพราะไกลเกินไป ไม่มีเวลาพอค่ะ...ยังเสียดายกันอยู่จนถึงทุกวันนี้... เพราะ....ต้องไปซื้อจากที่อื่นที่แพงกว่าในวันหลัง ๆ.... เพื่อแจกเป็นของที่ระลึกเพื่อน ๆ และตัวเอง..... อ้อ...ลืมไปค่ะ...มาเขมรไม่จำเป็นต้องแลกดอลลาร์.. มาเยอะค่ะ...ยิ่ง รีลเขมร ยิ่งไม่จำเป็นเลย... คำนวณกลับก็งง...ไม่คุ้นเคยกับค่าเงินด้วย ซื้อของทีนับจนมือหงิก.....หรือจ่ายทีเป็นหมื่น ๆ รีล...ใจหายค่ะ เกะกะกระเป๋าเปล่า ๆ....เขมรที่นี่รับเงินไทยค่ะ เกือบทุกที่เลยค่ะ...ขนาด supermarket ยังมีเครื่องคิดเลข คูณหารไปมา ระหว่างไทย และ ดอลลาร์ค่ะ แต่ด้านนอก ๆ เมืองไม่ค่อยชอบรับเหรียญไทยทุกราคานะคะ... .....บอกมาว่าใช้ยาก....ชอบแต่แบงค์เท่านั้นค่ะ ....................................................................................... นั่งรถย้อนชมปราสาทระหว่างทาง และแล้วคณะทัวร์ของเรา...ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจนได้ ลูกทัวร์ค่ะ...หลังจาก shopping กันอิ่มหนำ... กำลังจะออกรถกลับ...นับสมาชิก หนึ่ง สอง สาม ...สี่...ห้า.. อ้าว...ลูกทัวร์หายไปหนึ่งค่ะ...คุณน้าผู้ชายนั่นเอง... หายไปเมื่อไร...ไม่มีใครนึกออก... คุณน้าผู้หญิงก็ได้แต่เพลิดเพลิน...กับการเลือกดูข้าวของ ทบทวนกันไปมา...น่าจะยังอยู่ในปราสาทบันทายสรี...เป็นแน่แท้.. มือถือก็ใช้ไม่ได้...เดินตามกันไปมา...สักพัก.. เจอว่า...กำลัง in อยู่ในตัวปราสาทสวยสีชมพู..นั่นเองค่ะ คุณน้าบอกว่า...ได้เดินเก็บภาพทุกซอกมุม... และที่สำคัญ...เป็นห่วงคุณน้าผู้หญิง..เกรงว่ายังอยู่ในปราสาท.. เลยรออยู่ไม่ยอมออกมา....แหมน่าอิจฉาจริง ๆนะคะ ทีนี้เลยต้องวางกลยุทธ์ใหม่...นัดเวลา..นัดสถานที่ กันก่อนน่าจะดีกว่า...
หัวหน้าทัวร์ของเราได้...วางแผนไว้แต่แรกแล้วค่ะว่า...จะขับรถ ออกไปชมปราสาทที่ไกลที่สุดคือ...บันทายสรีก่อน ขากลับค่อยย้อนกลับมาเที่ยวใกล้ ๆ ทั้งสองข้างทางที่ขับผ่านเป็นต้นไม้...มีบ้านเรือนห่าง ๆ เราผ่านปราสาทหลายแห่ง...หน้าตาคล้าย ๆ กันค่ะ แต่ตัดสินใจ...แวะที่ปราสาทแปรรูป (Pre Rup) ตัวปราสาทอยู่ด้านบนสุดค่ะ...ต้องปีนป่ายขึ้นไปตามบันไดแคบชัน ทีแรก...บรรดาแม่ ๆ ของเราไม่ยอมขึ้นนะคะ...บ่นว่าขาสั่น ๆ... หัวหน้าทัวร์ต้อง...ออกแรงทั้งกล่อม...ทั้งจูงทั้งดัน... แต่พอถึงชั้นบนสุด...ก็ดีใจคุยกันยกใหญ่เชียวค่ะ ชั้นบนนี้....สูงพอใช้ค่ะ...มองลงมา..เห็นคนตัวเล็กนิดเดียวเอง... ตัวปราสาทที่นี่...แทบไม่เหลือรายละเอียด... ของความงดงามของหินแกะสลักเลยค่ะ ค่อนข้างผุพังชำรุด...ตามกาลเวลา แถมมีหญ้าแห้ง ๆ ขึ้นหรอมแหรมบนตัวปราสาทอีกด้วย... แต่ก็ได้บรรยากาศ...ไปอีกแบบค่ะ ....................................................................................... เสียงดนตรีย้อนอารยะธรรมขอมพันปี รถทัวร์ รถตู้ และสามล้อ..จอดหน้าปราสาทตาพรหมเต็มไปหมดค่ะเมื่อไปถึง คนขับเลยจอดให้ลงหน้าทางเข้า...และขับไปจอดไกลอีกเกือบกิโลค่ะ ทางเดินกว้างขนาบด้วย...แนวป่าทึบสองข้างทาง ไม่แน่ใจในระยะทางนะคะ....รู้แต่ว่าเดินไกลมากค่ะ...เดินเข้าไปในป่าลึก ท่ามกลางป่าเงียบ...เสียงดนตรีเขมรดังแว่วมากับสายลม และดังชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเดินมาถึงหน้าวงดนตรีเขมรวงหนึ่งค่ะ
ป้ายบอกไว้ว่า...เป็นกลุ่มคนพิการค่ะ มารวมกลุ่มขับกล่อมดนตรีให้นักท่องเที่ยวฟัง นัยว่า...เล่นดนตรีให้ฟัง...ถ้าประทับใจก็บริจาคสมทบทุนได้ค่ะ... วงดนตรี...ไม่ได้มีที่นี่ที่เดียวนะคะ... ที่บันทายสรี...ก็มีอีกวงค่ะ...ตรงทางเข้าส่วนในค่ะ
เดินมาอีกไกล...เห็นตัวปราสาทอยู่ลิบ ๆค่ะ เวลานี้ราวป่าที่เคยเงียบ...พลันกลับมีเสียงดนตรีธรรมชาติ เสียง...หรีดหริ่งเรไรร้องระงม... ดังปกคลุมไปทั่วทั้งป่า....เกินหาคำพรรณนาใด ๆค่ะ... เสียงกรีดก้องแส้ซ้องตลอดเวลา...ไม่มีจังหวะจะพักหยุด แอบคิดไปนะคะว่า... ดนตรีธรรมชาตินี้...คงดังคู่กับป่าและอาณาจักรขอมโบราณมาช้านานแล้วค่ะ ....................................................................................... ปราสาทตาพรหมและรากไม้ยักษ์ เมื่อเดินเข้ามาถึงตัวปราสาทตาพรหม (Ta Prohm).... มีกลุ่ม...นักท่องเที่ยว...ต่างชาติต่างภาษา ต่างที่มาและต่างวัฒนธรรม...แต่ เมื่อทุกคนได้สัมผัสถึง...ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ... ที่อยู่เคียงคู่กับ...ความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรขอมโบราณ... ก็คงไม่มีใครเลยนะคะที่อยากจะพลาดการถ่ายรูปของ... ความมหัศจรรย์...อันยิ่งใหญ่นี้ค่ะ...
ปราสาทปกคลุมด้วยรากต้นสะปงยักษ์...ที่มีชีวิต... เสมือนว่าต้นไม้มหึมานี้...ได้เติมเต็มชีวิตของปราสาทที่รกร้าง ได้ปลุกอารยะธรรมขอมที่เลือนลาง....ให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งค่ะ
ความหลากหลายรูปทรงของรากไม้...ที่ยึดเหนี่ยวตัวปราสาทไว้ นับเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง...ของปราสาทตาพรหมแห่งนี้ค่ะ
แม้แต่หนัง Hollywood อย่าง Tomb Rider ก็ยังเคยเลือกให้เป็นหนึ่งในฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยค่ะ .......................................................................................
Create Date : 20 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 14 สิงหาคม 2551 10:42:33 น. |
|
2 comments
|
Counter : 374 Pageviews. |
|
|